จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 18
บทที่ 18 การปรากฏตัว ของเซียวเจิ้นเที่ยน
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฟางเหยียนยังคงมาที่ตึกว่านฉงเช่นเคย เพื่อขับเลือดคั่งที่ตกค้างภายในร่างกายออก
ชายร่างกำยำคนหนึ่งยืนอยู่ที่ด้านหลังของเขา เทียนขุย!
“จอมพลโผ้จวิน ทุกอย่างเตรียมการเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รอเพียงแค่ถึงวันเกิดของคุณนายเท่านั้นครับ”
“โอเค” ฟางเหยียนตอบกลับทั้งๆ ที่หลับตาอยู่
เทียนขุยจ้องมองฟางเหยียน ด้วยทีท่าอ้ำอึ้ง
“ยังมีเรื่องอะไรอีก?”
เมื่อถูกฟางเหยียนชี้จุดประสงค์ เทียนขุยจึงเอ่ยขึ้น “จอมพลโผ้จวิน คุณนายมีความสำคัญกับท่านขนาดนั้นจริงๆ หรือครับ? ฐานะอย่างท่าน จะเป็นการลำบากเกินไปรึเปล่า? ยังไงซะจินโจวก็เป็นเพียงเมืองเล็กๆ เท่านั้น”
ฟางเหยียนเปิดตาโพลง แววตาเย็นชาราวกับเหยี่ยวที่ออกล่าเหยื่อ
เทียนขุยหวาดหวั่น ก้มหน้างุด ก่อนกล่าว “ขอโทษครับจอมพลโผ้จวิน ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะล่วงเกินคุณนาย”
“เทียนขุย จำเอาไว้ บนโลกที่คนที่ดีต่อฉัน เหลือเพียงแค่เธอเท่านั้น สิ่งที่ฉันมีทั้งหมดในตอนนี้ ฉันจะใช้มันเพื่อชดใช้ให้กับเธอ!”
จบคำเขาสูดหายใจเข้า ก่อนเอ่ยถาม “ใช่สิ สถานการณ์ของตระกูลเซียวเป็นยังไงบ้าง?”
——
ตระกูลเซียว
เซียวเจิ้นเที่ยนนั่งอยู่ในห้องโถง ข้างๆ เขาเป็นชายวัยกลางคนที่อยู่ในแบบฟอร์มทหาร
ชายวัยกลางคนทีท่าเคร่งขรึม สายตาเลือดเย็น รู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงศักดิ์
เซียวเจิ้นเที่ยนกล่าวกับชายในเครื่องแบบทหารที่นั่งข้างๆ ด้วยความเคร่งครัด “เหวินห่าว ตระกูลเซียวของเราตั้งอยู่ที่เมืองจินโจวมากว่าร้อยปี ไม่เคยพบเจอกับอุปสรรคที่ใหญ่ขนาดนี้มาก่อน แกต้องช่วยพี่ชายของแกให้ได้นะ”
ช่วงนี้ เกิดเรื่องกับตระกูลเซียวต่อเนื่อง ตั้งแต่ที่ขาของเซียวฮั่วถูกตัด ธุรกิจหลายอย่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก แค่ไม่กี่วันมานี้ ก็สูญเสียไปกว่า5ร้อยล้านแล้ว
บัดนี้เขาจึงต้องเรียกน้องชายแท้ๆ ของเขาเซียวเหวินห่าวกลับมา เพื่อช่วยเหลือตระกูลเซียว เซียวเหวินห่าวเป็นทหาร เป็นรองผู้นำกองทหารสาขาภาคตะวันตก ระดับสามดาว และเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลเซียว
เหวินห่าววางสมุดเล่มหนึ่งลงบนโต๊ะ ก่อนกล่าวถาม “ท่านสงสัยว่าทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของนายฟางเหยียนงั้นเหรอ?”
“ใช่ หลังจากที่เขาปรากฏตัวขึ้น ก็เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้กับตระกูลเซียวของเรา แกก็รู้ ว่าเราเป็นคนทำให้ตระกูลเย่ล้มละลาย เขาโตมาในตระกูลเย่ ตอนนี้เขามาเพื่อแก้แค้นเรา”
เหวินห่าวส่ายหน้า “ไม่น่าจะใช่ ประวัติของเขาธรรมดามาก ห้าปีที่แล้วเข้ารับใช้ชาติเป็นทหาร ผมเคยดูประวัติของเขา ก็แค่ทหารธรรมดาทั่วไป เลิกเป็นทหารตามปกติ เขาไม่มีความสามารถมากพอ ที่จะต่อกรกับตระกูลเซียว”
“ถ้างั้นแกหมายความว่า? มีคนอื่นอยู่เบื้องหลัง?”
เหวินห่าวพยักหน้ารับ “ก็อาจจะ แต่ฟางเหยียนยังไงก็ต้องกำจัดทิ้ง คนที่ทำร้ายคนของตระกูลเซียว จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้”
“ท่านผู้นำตระกูล ตระกูลจางมาส่งการ์ดเชิญครับ เห็นบอกว่าจะเชิญท่านไปงานวันเกิดของคุณเย่ครับ” คนใช้คนหนึ่งถือการ์ดเชิญเข้ามา
เซียวเจิ้นเที่ยนรับการ์ดนั้นมาไว้ในมือ สบสายตากับเหวินห่าว ก่อนที่ทั้งคู่จะแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย
——
ห้าวันให้หลัง ในที่สุดก็ถึงงานวันเกิดของเย่ชิงหยู่จงได้ ตระกูลจางทำตามคำสัญญาในการเชื้อเชิญผู้ตระกูลเศรษฐีของจินโจวมาในงานวันเกิด และก็มาไม่น้อยจริงๆ
ก่อนหน้านี้เรื่องที่เย่ชิงหยู่ได้ร่วมลงทุนกับเศรษฐีอันดับหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างหวงหยวนฉาวที่โรงแรมนานาชาติฟู่คัง ถูกแพร่สะพัดไปทั่วเมืองจินโจว
เพราะงั้นเมื่อได้เห็นการ์ดเชิญจากตระกูลจาง เหล่าประธานที่มีชื่อเสียงต่างก็มาร่วมงานด้วย
การที่ตระกูลจางได้ร่วมงานกับหวงหยวนฉาว อีกหน่อยต้องรุ่งโรจน์อย่างแน่นอน ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็จะได้เป็นตระกูลที่อยู่ในอันดับต้นๆ เพราะงั้นไม่มีใครที่กล้าไม่ให้เกียรติแก่ตระกูลจาง
“ประธานของอสังหาริมทรัพย์เถิงต๋า หม่าเถิงเฟยเดินทางมาร่วมอวยพร”
“ประธานของหลิวซื่อกรุ๊ป หลิวเจียงไห่เดินทางมาร่วมอวยพร”
“…”
พิธีกรคนตะโกนขานชื่ออยู่ด้านนอก
แม้ว่าจะไม่ดีใจ แม่ผู้คนมากมายเดินทางมาที่ตระกูลจาง พวกเขาก็ต้องต้อนรับแขกอย่างเต็มที่
ด้านนอกนั้นยุ่งตัวเป็นเกลียว เย่ชิงหยู่กลับต่อสายหาใครบางคนในห้องอยู่ในห้องคนเดียว วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ อันที่จริงเธอไม่สนใจว่าจะมีผู้มีอำนาจในเมืองจินโจวมาร่วมงานวันเกิดของเธอมากเท่าไหร่ เธอสนใจแค่ว่าทำไมฟางเหยียนยังไม่มาอีก
“ขอโทษค่ะ เลขหมายที่คุณเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…..” นี่เป็นเสียงที่แล่นออกมาจากเบอร์โทรศัพท์ของฟางเหยียน
จนจะเที่ยงอยู่แล้ว แต่ยังไม่พบฟางเหยียนเลยแม้เงา ไม่รู้ว่าเขาทำอะไรอยู่กันแน่!
“ชิงหยู่ แกทำอะไรอยู่? แขกข้างนอกมากันเยอะมาก ออกมาต้อนรับแขกเร็วเข้า” จางเจียวเจียวผลักประตูห้องออก
เย่ชิงหยู่โยนโทรศัพท์ไปอีกทาง ก่อนเอ่ยถาม “แม่คะ เห็นฟางเหยียนบ้างไหม?”
“เปล่านี่ ใช่สิ ทำไมวันนี้ไม่เห็นฟางเหยียนบ้างเลยล่ะ?”
ในขณะที่ทั้งสองต่อบทสนทนา เสียงประกาศดังขึ้นจากข้างนอก “ผู้นำของตระกูลชั้นนำในเมืองจินโจว เซียวเจิ้นเที่ยนมาเยือน!”
สองแม่ลูกนิ่งแข็ง เซียวเจิ้นเที่ยนก็มาด้วยอย่างนั้นเหรอ?
พวกเธอไม่รู้ว่าที่ตระกูลเย่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเซียว ทั้งคู่แค่ตกใจเท่านั้น ผู้นำของตระกูลเซียวไม่ค่อยพบปะใครนอกเสียจากธุระสำคัญเท่านั้น อย่างการประชุมการลงทุนของหวงหยวนฉาวเมื่อครั้งก่อน
ตอนนี้เขามาเข้าร่วมงานวันเกิดของเย่ชิงหยู่ บานวันเกิดครั้งนี้เล่นใหญ่ไปหน่อยหรือเปล่า
ไม่เพียงแค่เย่ชิงหยู่สองแม่ลูกเท่านั้นที่ตกตะลึง ตระกูลจางทุกคนเองต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน ทีแรกก็ยิ่งใหญ่มากพออยู่แล้ว เพราะการปรากฏตัวของเซียวเจิ้นเที่ยน ทำให้งานวันเกิดยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก แถมผู้นำของตระกูลเซียวยังมาด้วยตัวเองซะด้วยสิ
เพียงแค่ได้ยินชื่อ ก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนให้เมืองจินโจวต้องสั่นเทาไปตามๆ กัน
ต่อให้ช่วงนี้ตระกูลเซียวจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่ก็ไม่กระทบสถานะของตระกูลเซียวที่อยู่ในใจของผู้คนเลยแม้แต่น้อย
จางฉี่เหาจ้องมองเซียวเจิ้นเที่ยนด้วยความตะลึง ดวงตาแทบถลน เขาแจกการ์ดเชิญให้กับตระกูลเซียว แต่เขาไม่คิดเลยว่าเซียวเจิ้นเที่ยนจะให้เกียรติแก่เขา
ตระกูลจางจะผงาดแล้วจริงหรือ แม้แต่ตระกูลเซียวยังมาร่วมงานด้วย
หลายคนในงานต่างก็รู้สึกแบบเดียวกันนี้ ตระกูลเซียวยอมมาร่วมงานด้วย ก็แสดงว่ายอมรับในตระกูลจาง
จางฉี่เหาพุ่งไปที่เซียวเจิ้นเที่ยนด้วยความตื่นเต้น “ท่านเซียว ท่านให้เกียรติมาร่วมงานด้วย เป็นความภาคภูมิใจของกระผมอย่างมาก”
จางฉี่เหาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แต่เซียวเจิ้นเที่ยนกลับไม่แยแสเขา พลางผลักจางฉี่เหาออกอย่างไม่พอใจ กล่าวอย่างโอหัง “ที่ฉันมาในวันนี้ไม่ได้มาอวยพรให้กับใคร ฉันไม่มีอารมณ์นี้หรอก แล้วอีกอย่าง แกคิดว่าตระกูลจางของแกคู่ควรอย่างนั้นหรือ?”
คำพูดของเซี่ยวเจิ้นเที่ยนทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของจางฉี่เหาแข็งทื่อ
ทุกคนในงานเองก็อ้าปากค้างไปตามๆ กัน
เซียวเจิ้นเที่ยนไม่ได้มาเพื่ออวยพร ถ้างั้นมาเพื่อทำลายงานอย่างนั้นหรือ
ต่อให้ตระกูลจางได้โอกาสในการร่วมการกับหวงหยวนฉาว แต่นั่นก็แย่งมาจากเงื้อมมือของตระกูลเซียว ตอนนี้จัดการเลี้ยงใหญ่โตแบบนี้ แถมยังแค่เพียงเพื่อจัดงานวันเกิดให้กับหลานสาวเท่านั้น การกระทำของเขาทำให้เซียวเจิ้นเที่ยนโกรธเป็นธรรมดา
เหล่าคนที่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ต่างหลบหนีออกจากงานไปก่อน
“ทะ ท่านเซียว ท่านหมายความว่ายังไง?” จางฉี่เหาโน้มตัวลง กล่าวถามอย่างเคารพยำเกรง
ตระกูลของเขาเมื่อเทียบกับตระกูลเซียวแล้ว เปรียบเสมือนกับช้างและมด หากตระกูลเซียวต้องการให้ตระกูลจางในตอนนี้หายไป ก็ไม่ต่างอะไรกับเล่นสนุก
“ไอ้ไร้ประโยชน์ ก็ต้องมีธุระอยู่แล้ว ถ้าไม่มีอะไรฉันจะมาบ้านของแกทำไม?” เซียวเจิ้นเที่ยนมองต่ำจางฉี่เหา
คำพูดของเขา ทำให้จางฉี่เหาตัวสั่นเครือ ตัวเย็นวาบ
“ไห่เฟิง แกไปก่อเรื่องอะไรเอาไว้ใช่ไหม?” จางฉี่เหาเอ่ยถามจางไห่เฟิง
จางไห่เฟิงส่ายหน้า “เปล่า เปล่านี่ ผมจะกล้าล่วงเกินคนของตระกูลเซียวได้ยังไง”
ไม่ใช่จางฉี่เหา ถ้าอย่างนั้นใครกันในตระกูลจางที่กล้าแส่หาเรื่องตระกูลเซียว?
จางฉี่เหาโล่งอก “ท่านเซียว เป็นเพราะเรื่องเซ็นสัญญากับท่านหวงหยวนฉาวใช่ไหม?”
เซียวเจิ้นเที่ยนถลึงตาใส่จางฉี่เหาอย่างดุกร้าว เอ่ยด้วยความโมโห “แกกำลังดูหมิ่นฉันงั้นเหรอ? ก็แค่สัญญาฉบับเดียว ทำไมผมจะต้องใส่ใจด้วย” ต่อให้เขาต้องการสัญญาฉบับนั้นมาก แต่จะขายขี้หน้าของตระกูลเซียวไม่ได้
เซียวเจิ้ยนเที่ยนไม่พอใจ พลันเดินวนในบ้านอยู่หลายรอบ กวาดสายตามองเหล่าคนที่มาร่วมงาน
ก่อนที่จะกล่าวอย่างไม่แยแส “ผมได้ยินว่าตระกูลจางมีคนคนหนึ่ง ชื่อว่าฟางเหยียน ใช่ไหม?”