จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 184
ฟางเหยียนเพิ่งเดินเข้ามาในคอนโดก็บังเอิญเจอเย่ชิงหยู่กับเฉิงฉู่
ดูเหมือนว่าเฉิงฉู่จะมาส่งเย่ชิงหยู่และกำลังจะกลับ
เมื่อเห็นฟางเหยียน สีหน้าของทั้งสองคนก็เปลี่ยนไป เย่ชิงหยู่พูดขึ้นมาว่า “ฟางเหยียน นายไปไหนมา”
ฟางเหยียนมองเฉิงฉู่ที่ยืนอยู่ข้างเย่ชิงหยู่ แค่ใช้สายตามองก็ทำให้เฉิงฉู่ตกใจ เขารีบพูดขึ้นมาว่า “พี่ฟางเหยียน ไม่ใช่อย่างที่พี่เห็นนะ ชิงหยู่นัดผมไปคุยธุระนิดหน่อย”
ร้อนตัวหรือไง จริงๆ ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อยก็ร้อนตัวขึ้นมาแล้ว
ฟางเหยียนไม่พูดอะไร เฉิงฉู่หน้าเครียดแล้วพูดว่า “พี่ฟางเหยียน ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะ”
พูดจบเขาก็เดินเอี้ยวตัวผ่านฟางเหยียนไป สีหน้าของเขาดูตื่นตระหนกมาก
เย่ชิงหยู่เห็นเฉิงฉู่ที่เดินออกไป เธอจึงพูดออกมาอย่างกระอักกระอ่วนว่า “เอ่อ คือฉัน..”
“กระโปรงของเธอสวยดีนะ” ฟางเหยียนพูดขึ้นมาอย่างมีเลศนัย
เย่ชิงหยู่ก้มมองกระโปรงของตัวเองโดยอัตโนมัติ เธอรีบพูดขึ้นมาว่า “ทำไมนายพูดอย่างนี้ล่ะ กระโปรงตัวนี้เป็นกระโปรงที่เราใส่ไปโรงแรมนานาชาติเทียนเยว่ไง ใช่ว่านายจะไม่รู้”
“ผมถึงบอกว่าสวยไง” พูดพลางฟางเหยียนก็เดินมาหาเย่ชิงหยู่ เขายกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าของเธอ จากนั้นจึงพูดขึ้นว่า “กลับบ้านกันเถอะ”
พูดจบฟางเหยียนก็เดินขึ้นไปข้างบน สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมกว่าก่อน เย่ชิงหยู่เห็นฟางเหยียนสีหน้าเคร่งขรึม เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน อย่าบอกนะว่าเขากำลังหึงแล้วโกรธอย่างนั้นเหรอ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ใจของเธอก็เย็นวาบ
เมื่อกลับเข้ามาในบ้าน มีเพียงฟางเหยียนกับเย่ชิงหยู่เท่านั้น จางเจียวเจียวไม่รู้ออกไปไหนตั้งแต่ตอนบ่าย
เย่ชิงหยู่มองฟางเหยียนที่นั่งอยู่บนโซฟา เธอเข้าไปนั่งข้างเขาแล้วถามว่า “นายหึงเหรอ”
ฟางเหยียนหันมามองเธอแล้วส่ายหน้า “ไม่นิ ผมจะหึงอะไร”
“เห็นฉันอยู่กับเฉิงฉู่อย่าบอกนะว่านายไม่หึง” เย่ชิงหยู่เบิกตาโตถาม
ฟางเหยียนมองเธอแล้วพูดว่า “ผมเชื่อว่าคุณไม่ทำเรื่องแบบนั้น”
นี่คือความคิดของฟางเหยียนจริงๆ เขาเชื่อว่าเย่ชิงหยู่จะไม่ทำเรื่องแบบนั้น
เย่ชิงหยู่อบอุ่นหัวใจ เธอเอียงหัวซบไหล่ฟางเหยียนแล้วพูดว่า “ขอบคุณนะฟางเหยียน”
ในคืนนี้ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงด้วยความสงบ ไม่มีคำพูดไม่มีการกระทำใด
ในหัวฟางเหยียนมีแต่เรื่องของเทียนขุย ไอ้หมอนั่นมันกล้าทำร้ายเทียนขุย การตายของเทียนหม่าในตอนนั้น ทำให้ฟางเหยียนเจ็บปวดใจมาก เขาสาบานว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายลูกน้องของเขาอีก
แต่ตอนนี้เทียนขุยบาดเจ็บอีก ไอ้หมอนั่นต้องตาย!
ในหัวของเย่ชิงหยู่กลับมีแต่ตัวตนของฟางเหยียน เธอไม่รู้จริงๆ ว่าฟางเหยียนเป็นใคร เธอหวังว่าเฉิงฉู่จะมีเรื่องให้เธอเซอร์ไพรส์ ใช่ เฉิงฉู่จะมีเรื่องให้เธอเซอร์ไพรส์แน่นอน
เช้าวันต่อมาสองสามีภรรยาจางซื่อข่ายและสองสามีภรรยาจางซื่อตงแวะมาหาที่บ้านด้วยตัวเอง
เมื่อเข้ามาถึงก็มาพร้อมสิ่งของมากมายมีทั้งของกินและของใช้
“เจียวเจียวดูสิเป็นลิปสติกที่ฉันซื้อมาให้ นำเข้าจากยุโรปเลยนะ ในประเทศเราไม่มีแบบนี้หรอก ถ้าซื้อตอนนี้แท่งละหลายหมื่น เธอดูสิ สีนี้เหมาะกับเธอมากเลย” ภรรยาของจางซื่อข่ายพูดแล้วยิ้มตาหยี
จางซื่อข่ายรีบพูดเสริมว่า “ใช่ นี่คือความจริงใจเล็กน้อยที่เรามีให้เธอ หวังว่าเธอจะไม่รังเกียจ”
จางเจียวเจียวงงเล็กน้อย เมื่อวานคนพวกนี้ยังด่าทอเธออยู่เลยไม่ใช่เหรอ ทำไมวันนี้ถึงมาทำกับเธอแบบนี้ แถมยังเอาของมาให้และพูดดีกับเธอด้วย อย่าบอกนะว่าโดนคุณท่านด่ามา
“นี่คือ ของมีชื่อที่อวิ๋นกุ้ย พี่ใหญ่ของเธอซื้อมาให้เลยนะ เธอลองดูสิ” ภรรยาของจางซื่อตงเอากล่องมาวางไว้บนโต๊ะในห้องรับแขก
จางซื่อตงยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ นี่พี่ตั้งใจเตรียมให้น้องเลยนะ”
เห็นคนบ้านนี้ทำดีกับเธอ นี่มันต่อหน้าทำเป็นรักใคร่ห่วงใย แต่ใจจริงมุ่งร้ายไม่หวังดี ไม่ไว้ใจเลย
เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ทำให้จางเจียวเจียวเกิดความพะวงในใจอยู่ตลอด
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอจึงพูดกับทุกคนว่า “พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้รอง มีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ”
ภรรยาของจางซื่อตงยิ้มหวานแล้วพูดว่า “ดูพูดเข้าสิ อย่าบอกนะว่าถ้าไม่มีธุระอะไรเราจะมาที่นี่ไม่ได้ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน มานั่งพูดคุยกันไง เป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว”
ถ้าคำพูดนี้มาจากปากของคนอื่นยังพอเชื่อได้ แต่เมื่อคำพูดนี้มาจากปากภรรยาของจางซื่อตงมันจึงน่าแปลกมาก เธอเป็นผู้หญิงที่มีเล่ห์เหลี่ยม เรื่องนี้ไม่มีใครไม่รู้
ขณะนั้นเย่ชิงหยู่กับฟางเหยียนลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกมา
เมื่อเห็นคนมากมายนั่งอยู่ในห้องรับแขก ทั้งสองก็อึ้งไป
เมื่อสามีภรรยาจางซื่อข่ายและสองสามีภรรยาจางซื่อตงเห็นฟางเหยียนกับเย่ชิงหยู่ก็ลุกลี้ลุกลนขึ้นมา เขายิ้มออกมาแหยๆ “ตื่นแล้วเหรอชิงหยู่ ฟางเหยียน”
เย่ชิงหยู่อึ้งไป เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าภาพตรงหน้าไม่ชัดเจน เธอคงคิดว่าตัวเองฝันไป นี่เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ คนพวกนี้รู้จักยิ้มต้อนรับคนอื่นด้วยเหรอ
“พวกคุณมีเรื่องอะไร” เย่ชิงหยู่ถามอย่างแปลกใจ
ฟางเหยียนสีหน้าไม่เป็นเดือดเป็นร้อน เขาเดินเข้าไปอาบน้ำ ที่จริงเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เขาคิดไว้แล้ว
จางซื่อข่ายยิ้มแล้วพูดว่า “ชิงหยู่ ดูพูดเข้าสิ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน แวะมาคุยกันก็เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”
เย่ชิงหยู่มองจางซื่อตง เมื่อวานสองสามีภรรยามาก่อความวุ่นวายในบ้านของเธอ
ลุงรองอย่างจางซื่อข่ายก็อยู่ข้างเดียวกับจางซื่อตง เอาแต่พูดว่าตัวเองรู้จักจางไห่เฟิงดี
“พวกคุณไม่อยากไปทำงานที่บริษัทแล้วใช่ไหมถึงมาหาฉันที่นี่” เย่ชิงหยู่ผิดหวังในตัวพวกเขามากและไม่อยากพูดอะไรมาก จึงถามออกไปตรงๆ
จางซื่อตงรีบพูดออกมาว่า “ชิงหยู่ ดูพูดเข้าสิ หมายความว่าอะไรที่บอกว่าไม่อยากทำงานที่บริษัทแล้ว พวกเราก็เป็นของบริษัท การทำงานให้บริษัทเป็นหน้าที่ของพวกเรา ก่อนหน้านี้ลุงไม่รู้ความจริงๆ เลยทำเรื่องบ้าบอคอแตกลงไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปลุงจะไปทำงานที่บริษัททุกวัน และจะทำให้ดีด้วย”
“ลุงรองด้วยๆ ลุงจะไปทำงานที่บริษัท และตั้งใจทำงาน” จางซื่อข่ายพูดเสริม
เย่ชิงหยู่ถามขึ้นว่า “ในเมื่อยอมไปทำงานที่บริษัท แล้วยังมีเรื่องอะไรอีกไหม”
จางซื่อข่ายพูดว่า “คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ คุณตารู้สึกผิดกับเธอมาก ดังนั้นเขาก็เลยให้พวกเรามาขอโทษเธอ สุดท้ายมันก็เป็นความผิดของพวกเรา ชิงหยู่ เธอให้อภัยลุงกับลุงรองเถอะนะ”
สองสามีภรรยาจางซื่อข่ายกับสองสามีภรรยาจางซื่อตงโค้งให้เย่ชิงหยู่ พวกเขาสำนึกผิดด้วยความหวาดระแวง