จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 185
ถ้านายท่านไม่บอกให้ยอมรับผิดด้วยความจริงใจเขาจะไล่ออกจากบ้าน พวกเขาก็ไม่มายอมรับผิดกับเย่ชิงหยู่ ในสายตาของพวกเขาเย่ชิงหยู่เป็นเด็กในตระกูล ถึงจะโดดเด่นเพียงใดก็เป็นเด็กอยู่ดี
แต่นายท่านพูดออกมาอย่างเด็ดขาดแล้ว ใครจะกล้าไม่สำนึกผิดในสถานการณ์คับขันแบบนี้เหรอ
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เย่ชิงหยู่รู้สึกคาดไม่ถึงมาก
ขณะนั้น จางเจียวเจียวเดินเข้ามาหาเย่ชิงหยู่แล้วพูดว่า “ชิงหยู่ งั้นเรื่องนี้ก็ช่างมันเถอะ ยังไงทุกคนก็เป็นครอบครัวเดียวกัน ให้อภัยพวกเขาเถอะ”
เย่ชิงหยู่มองฟางเหยียนที่เดินออกมาจากห้องน้ำ และส่งสัญญาณถามเขาว่าจะทำยังไง
ฟางเหยียนไม่พูดอะไรแต่ยิ้มออกมาแปลกๆ
เย่ชิงหยู่กวาดตามองพวกเขาแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร พวกคุณเป็นผู้อาวุโส ที่จริงฉันก็ไม่ได้โกรธอะไร ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมาใส่ร้ายโดยไม่มีเหตุผล”
“เฮ้อ!” จางซื่อข่ายรีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ขอบใจนะชิงหยู่ คืนนี้คุณตาของเธอจองห้องอาหารที่โรงแรมนานาชาติเทียนเยว่ เขาอยากให้พวกเราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา คุณตาเขาหยิ่งในศักดิ์ศรี จริงๆ แล้วเขารู้สึกที่ต่อว่าเธอ”
“ฉันรู้แล้ว!” เย่ชิงหยู่พูดขึ้นมา “พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ เมื่อถึงเวลาฉันจะไปเอง”
“โอเคชิงหยู่!” จางซื่อข่ายตอบกลับ แต่พวกเขายังไม่กลับไป เหมือนกับยังมีเรื่องอะไร
เย่ชิงหยู่มองพวกเขาแล้วถามว่า “ยังมีธุระอะไรอีกเหรอ”
จางซื่อตงพูดอย่างลำบากใจว่า “ชิงหยู่ ลูกพี่ลูกน้องของเธออยู่ในสภาพแบบนั้นแล้ว เธอพอที่จะพูดขอกับคุณตาได้ไหม ให้เขากลับมา เรื่องที่เขาเคยทำผิดก็ได้รับโทษแล้ว ถ้าเธอให้อภัยเขาและพูดขอร้องคุณตา จะต้องช่วยเขากลับมาได้แน่นอน ฉันกับพี่ภรรยามีแค่ไห่เฟิงคนเดียว ชิงหยู่ เธอช่วยพวกเราได้ไหม”
ภรรยาของจางซื่อตงใกล้จะร้องออกมา “ชิงหยู่ ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ของชิ้นนี้ฉันซื้อมาตอนไปเที่ยวอวิ๋นกุ้ย ราคาห้าแสนกว่าเลยนะ ฉันให้เธอ เธอช่วยฉันด้วยเถอะนะ”
เธอหยิบจี้สีแดงขึ้นมาส่งให้เย่ชิงหยู่
เย่ชิงหยู่โบกมือปฏิเสธแล้วพูดว่า “ฉันไม่ต้องการของของคุณ แต่ฉันจะพูดกับคุณตาให้”
เป็นไปตามคาด ถ้าไม่มีเรื่องให้ช่วย ครอบครัวของเขาคงไม่มีท่าทีแบบนี้หรอก ดูเหมือนว่าคุณตาจะเอาจริงแล้ว ไม่งั้นพวกเขาคงไม่นอบน้อมขนาดนี้หรอก
“เอาไปสิ!” ภรรยาของจางซื่อตงยังดื้อดึงแล้วพูดว่า “รับไปเถอะชิงหยู่ ถ้าเธอไม่รับของของฉัน ฉันจะรู้สึกไม่ดีนะ ฉันรู้สึกเหมือนเอาเปรียบเธอ”
“ไม่ต้อง!” เย่ชิงหยู่จับแขนภรรยาของจางซื่อตงแล้วเอาของกลับไปวางไว้ในมือของเธอ
เมื่อเห็นสีหน้าของเย่ชิงหยู่ไม่ค่อยดี เธอก็รีบพูดขึ้นมาว่า “งั้นก็ขอบใจนะชิงหยู่”
“อืม” เย่ชิงหยู่ตอบด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
จางซื่อตงดีใจเป็นอย่างมาก “ชิงหยู่ นี่เธอรับปากแล้วใช่ไหม”
“พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ!” เย่ชิงหยู่ยังไม่ได้ทันได้ตอบ ฟางเหยียนก็พูดขึ้นมา
คนพวกนั้นมองฟางเหยียน และจะพูดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา แต่เมื่อนึกถึงฟางเหยียนเมื่อวาน เขาเป็นคนที่ไม่ควรไปยั่วโมโห ดังนั้นจึงรีบขึ้นมาว่า “ได้ๆ งั้นเจอกันคืนนี้นะ”
หลังจากที่ออกมาจากบ้านของเย่ชิงหยู่ จางซื่อข่ายถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขาพูดออกมาอย่างเบื่อหน่อยว่า “คิดไม่ถึงว่าคนของตระกูลจางจะมาอยู่ในจุดนี้ ตอนนี้ฉันเจ็บปวดใจมาก ต่อไปพวกเราจะต้องฟังเย่ชิงหยู่ แค่คิดว่าผู้อาวุโสอย่างเราจะต้องไปฟังคนอายุน้อย ฉันก็รู้สึกสิ้นหวังแล้ว”
จางซื่อตงแสยะยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “น้องรองจะยอมง่ายๆ แบบนี้เหรอ”
“พูดอะไรไร้สาระ!” จางซื่อข่ายเอ่ยขึ้นว่า “พี่มีวิธีอะไร ตอนนี้เย่ชิงหยู่ได้ใจมาก แถมยังมีฟางเหยียนด้วย อย่าบอกนะว่าพี่ดูไม่ออกว่าฟางเหยียนมีอำนาจมากแค่ไหน”
จางซื่อตงพูดขึ้นว่า “ฉันจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเขามีอำนาจแค่ไหน การที่เย่ชิงหยูแข็งแกร่งขนาดนี้ก็เพราะฟางเหยียนทั้งนั้น แต่ไม่เป็นไร อีกไม่นานมันก็จะไม่เหลืออะไรแล้ว ฉันมีเพื่อนที่จะทำลายเขาได้”
“หา?” จางซื่อข่ายถามขึ้นด้วยความตกใจ “พี่ใหญ่จะฆ่าคนเหรอ”
จางซื่อตงส่งเสียงหึออกมา เขาพูดออกมาอย่างมั่นใจว่า “ถ้าไม่กำจัดฟางเหยียนออกไป เราจะจัดการกับเย่ชิงหยู่ได้ยาก ขอแค่กำจัดฟางเหยียนออกไป ตระกูลจางของเราจะกลับมามีตัวตนอีกครั้ง เมื่อถึงตอนนั้นเย่ชิงหยู่จะทำอะไรได้ ดูท่าทีหยิ่งผยองของเธอ เมื่อกี้พวกเราแทบจะหมอบให้มันอยู่แล้ว มันยังทำอย่างนั้นกับเรา นี่มันเรียกว่าได้คืบจะเอาศอกชัดๆ”
“พี่ใหญ่ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ” จางซื่อข่ายพูดเตือนอย่างจริงจัง “แต่มันก็ไม่ถึงกับต้องฆ่าคนนะครับ”
จางซื่อตงยังพูดอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน “ไห่เฟิงต้องกลายเป็นแบบนี้ ก็เพราะฟางเหยียน ฉันเลี้ยงลูกชายมาโตขนาดนี้ จู่ๆ เขาก็กลายเป็นคนพิการ นายคิดว่าฉันจะปล่อยความแค้นครั้งนี้ไปได้เหรอ”
“แต่นี่ก็ไม่แน่ว่าฟางเหยียนจะเป็นคนทำนะครับ” จางซื่อข่ายพูดอย่างหวาดระแวง
จางซื่อตงกัดฟันกรอด จากนั้นจึงพูดออกมาอย่างเคียดแค้นว่า “ถึงไม่ใช่มันก็ต้องตาย ฉันเตรียมการไว้พร้อมแล้ว เพื่อนของฉันเป็นนักฆ่ามืออาชีพ นายวางใจเถอะ เขาทำอะไรละเอียดและรวดเร็ว คืนนี้ฟางเหยียนไม่รอดแน่”
ตอนกลางคืนที่โรงแรมนานาชาติเทียนเยว่
ฟางเหยียนมาที่นี่เป็นครั้งที่สามหลังจากกลับมา ครั้งแรกเป็นงานปาร์ตี้ของเพื่อนเย่ชิงหยู่ เจอกับตู้หมิงล่างที่จะจัดการกับเย่ชิงหยู่ ครั้งที่สองเป็นงานแต่งงานเพื่อนของเย่ชิงหยู่ ได้เจอกับต่งยู่ที่นี่
ครั้งที่สามคืองานเลี้ยงของตระกูลจาง
อาหารสุดหรูวางเต็มโต๊ะ ถึงแม้ใบหน้าของคนในตระกูลจางจะมีรอยยิ้ม แต่ภายในกลับคิดร้าย
จางฉี่เหานั่งตรงตำแหน่งสูงสุด เมื่อเห็นว่าครอบครัวของเย่ชิงหยู่มาถึง เขาจึงอดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ชิงหยู่ เป็นความผิดของตาเอง ตาจะดื่มให้หลาน หวังว่าหลานจะไม่ว่าอะไรตา”
การที่พูดออกมาแบบนี้ ถือว่าจางฉี่เหายอมอ่อนข้อให้เยอะมาก เย่ชิงหยู่รีบยกแก้วเหล้าขึ้นมา “หนูกล้าว่าคุณตาที่ไหนกันล่ะ ยังไงคุณตาก็เป็นคุณตาของหนู เรื่องเมื่อวานพวกเราก็ผิดเหมือนกัน”
ฟางเหยียนมองจางฉี่เหา สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ ดูเหมือนว่าเขาจะตระหนักถึงความหน้ามืดตามัวของตัวเองแล้ว ไม่ต้องพูดถึงคนพวกนี้หรอก ขอแค่ทำให้ตาแก่นี้เข้าใจก็ง่ายขึ้นแล้ว
ดังนั้นฟางเหยียนจึงทำเหมือนอ่อนข้อให้ เขาลุกขึ้นและยกแก้วเหล้าขึ้นมา “ใช่ครับคุณตา เมื่อวานผมทำผิดไป เพราะผมพูดแรงไป จริงๆ ไม่ควรจะโทษชิงหยู่ด้วย”
เทพแห่งสงครามยอมอ่อนข้อให้ นี่เป็นเรื่องที่พบเจอได้น้อยมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ชิงหยู่ มีหรือฟางเหยียนจะยอมอ่อนข้อให้จางฉี่เหา ขอแค่ให้เธอสบายใจและมีความสุข ถึงจะให้เขามอบชีวิต เขาก็ยอมทำ เพราะเธอคือผู้หญิงที่เขาต้องปกป้อง