จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 199
ทั้งสองพูดพลางนั่งลงบนโซฟา ไม่นานจึงมีคนยกชาเข้ามาเสิร์ฟ ฟางเหยียนยืนมองทั้งสองคนอยู่อีกด้าน เขามองเย่ชิงหยู่ที่โตขึ้นเรื่อยๆ เธอเริ่มมีเงาของตระกูลเย่เทียน เขาจึงเริ่มเบาใจ
ในสายตาของเหลียงจงมีแต่เย่ชิงหยู่ เขาไม่ได้มองฟางเหยียนและทำเหมือนฟางเหยียนไม่ได้อยู่ที่นี่
หลังจากที่คุยเรื่องความร่วมมือมาพักใหญ่ เย่ชิงหยู่เอาเอกสารที่เพิ่งเตรียมส่งให้เหลียงจงดู
เหลียงจงทำเหมือนอ่านเอกสาร เขาดื่มชาแล้วส่ายหน้า “ประธานเย่ ผมไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้ คุณบอกว่าโครงสร้างของบริษัทคุณเป็นแบบนี้ ผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยชัดเจน”
พูดพลางเขาก็เดินมาข้างเย่ชิงหยู่และเอาเอกสารวางไว้ตรงหน้าเธอ
เย่ชิงหยู่ดูตรงจุดที่เขาบอกและตั้งใจอธิบาย แต่เขากลับค่อยๆ นั่งลงข้างเธอ
ขณะนั้น ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจเอามือไปวางบนขาของเย่ชิงหยู่ อีกทั้งยังเขยิบตัวเข้าไปหาเย่ชิงหยู่อีกด้วย แน่นอนว่าเย่ชิงหยู่รู้สึกได้ แต่เธอไม่รู้ว่าเหลียงจงตั้งใจ เธอเข้าใจว่าเขาไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้น
ตอนนี้เธอจะผิดใจกับเหลียงจงไม่ได้ ถ้าขืนผิดใจกับเขาขึ้นมา ความร่วมมือนี้ต้องพังแน่
เธอทำได้เพียงขยับตัวออกห่างและไม่ได้พูดอะไร แต่เหลียงจงกลับไม่ได้คิดเหมือนเย่ชิงหยู่ ทำถึงขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่เย่ชิงหยู่จะไม่รู้ รู้แต่ไม่พูดแสดงว่ายอมให้เขาทำแบบนั้นสินะ
เมื่อคิดได้ดังนั้น ในหัวของเขาก็มีแต่ภาพที่นัวเนียผู้หญิงคนนี้
จริงๆ เหลียงจงทำเรื่องแบบนี้มาไม่น้อย เขาชอบคุยธุรกิจกับสาวๆ เพราะตอนที่กำลังคุยธุรกิจ เขามักจะได้ผลประโยชน์โดยบังเอิญ ตอนนี้เหลียงจงกำลังทำเช่นนั้น
เย่ชิงหยู่หน้าตาสะสวย ได้ยินว่าเธอแต่งงานแล้ว เธอยังสาวแต่มีความสามารถขนาดนี้ แถมยังสามารถทำความร่วมมือกับซีหนานกรุ๊ป เธอต้องมีข้อดีแน่ๆ แน่นอนว่าในสายตาของเหลียงจง ข้อดีที่ว่าหมายถึงเรื่องแบบนั้น
เย่ชิงหยู่อายุน้อยขนาดนี้ แต่สามารถดึงดูดให้หวงหยวนฉาวแห่งซีหนานกรุ๊ปมาลงทุนได้ คงจะใช้ ‘ความสามารถ’ ไม่น้อย เขารู้ว่าทั้งสองคนร่วมมือทางด้านธุรกิจ แต่ไม่รู้ว่าร่วมมือกันด้วยวิธีไหน
เมื่อเห็นว่าเย่ชิงหยู่ไม่พูดอะไร การกระทำของเขาก็ยิ่งตรงขึ้นเรื่อยๆ
จู่ๆ เย่ชิงหยู่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา เธอคิดว่าการกระทำของเหลียงจงจะเกินไปแล้ว การที่เอาตัวเข้ามาใกล้เธอน่ะไม่เท่าไร แต่นี่เขายังยื่นหน้าเข้ามาติดกับหน้าเธออีก ดังนั้นเธอจึงลุกขึ้นทันที “ประธานเหลียง คุณจะทำอะไร”
ใบหน้าชราของเหลียงจงเปลี่ยนไปทันที เขาหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “อะไรกันประธานเย่ ผมกำลังคุยเรื่องข้อมูลกับคุณไง เราต้องศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนถึงจะเซ็นสัญญากันได้”
“ประธานเย่ เรื่องขั้นตอนการเซ็นสัญญา ผมว่าผมคงไม่ต้องพูดอะไรเยอะ คุณน่าจะเข้าใจดีนิ” เหลียงจงยืนขึ้น และหัวเราะออกมา ท่าทางของเขาน่าขยะแขยงมาก
เย่ชิงหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ประธานเหลียง การกระทำเมื่อครู่ของคุณ ฉันรับไม่ได้จริงๆ คุณควรรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ”
ประธานเหลียงหันไปมองคนซ่อมคอมพิวเตอร์ สีหน้าของเขาเคร่งขรึม เขาแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ประธานเย่ คุณเป็นอะไร รีบนั่งสิ เรามาคุยเรื่องเอกสารกันต่อ เมื่อคุยเรื่องนี้กันเสร็จ ก็ถือว่าเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ”
เย่ชิงหยู่กระอักกระอ่วนเล็กน้อย เธอหันไปมองฟางเหยียน แต่ใบหน้าของเขาเมินเฉย เหมือนไม่เห็นอะไร
“ประธานเหลียง ได้โปรดให้เกียรติฉันด้วย!” เย่ชิงหยู่พูดพลางเดินเข้าไปหาเหลียงจง เมื่อเห็นท่าทีของเย่ชิงหยู่ เหลียงจงทำเป็นถือตัวมาก เขาหัวเราะคิกคักแล้วเงยหน้าขึ้นมาจับแขนเย่ชิงหยู่ “ประธานเย่ เรามาคุยกันต่อเถอะ คุยอย่าเข้าใจผิดสิ”
ขณะที่กำลังพูด มือของเขาก็ทำสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายได้ ก็คือการจับแขนของเย่ชิงหยู่ นี่เป็นวิธีที่เขาทำประจำ ไม่รู้ผู้หญิงกี่คนต่อกี่คนที่โดนเขาทำแบบนี้ใส่
เรียกได้ว่าพวกผู้หญิงที่ต้องการประสบความสำเร็จ ก็ยิ่งหนีไม่พ้นพวกคนรวยที่หยาบช้าแบบนี้
เย่ชิงหยู่ผลักเขาออกทันที “ประธานเหลียง นี่หมายความว่าอะไร ช่วยให้เกียรติฉันด้วย!”
เย่ชิงหยู่พูดเตือนเขาเป็นครั้งที่สามแล้ว เขาไม่เกรงกลัวอะไรเลย ถึงเย่ชิงหยู่อยากเซ็นสัญญา แต่เธอไม่มีทางเอาร่างกายของเธอเป็นเครื่องต่อรองแน่นอน
เหลียงจงโดนผลักจนเซถอยหลัง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที เขาส่งเสียงไม่พอใจออกมาแล้วพูดว่า “เย่ชิงหยู่ ฉันให้โอกาสแล้วอย่าปล่อยมันไปสิ เธอรู้ไหมว่าการที่พูดแบบนี้จะเกิดผลอะไรตามา เมื่อเขามาอยู่ในวงการนี้ เธอยังจะทำเป็นถือตัวอีกเหรอ เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าการที่เธอทำธุรกิจกับหวงหยวนฉาวสำเร็จเพราะอะไร เรื่องบางเรื่องไม่ต้องพูดจะดีกว่า รีบนั่งลงสิ!”
เย่ชิงหยู่มองเหลียงจงอย่างตกใจ เธอส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ประธานเหลียง ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไร”
เหลียงจงพูดว่า “ไม่เข้าใจที่ฉันพูดเหรอ ประธานเย่ เธอน่าจะรู้ดีที่สุดนะ! เธอสวยและอายุน้อยขนาดนี้ การที่ได้ทำธุรกิจร่วมกับหวงหยวนฉาว คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเธอแอบไปทำอะไรลับหลัง จริงๆ จะเป็นฉันหรือตระกูลหวงก็เหมือนกัน ยังไงก็เป็นคนในวงการนี้เหมือนกัน ทุกคนรู้ดี”
“ฉันรับรองว่าเรื่องวันนี้จะไม่มีใครรู้ อีกอย่างฉันจะเซ็นสัญญากับเธอด้วย ฉันลงทุนกับเธอร้อยล้าน ครั้งนี้เรามาทำเงินด้วยกัน เป็นไง” เหลียงจงพูดออกมาตรงๆ
เขาใช้เงินร้อยล้านเพื่อจะนอนกับเย่ชิงหยู่หนึ่งครั้ง!
เขามองไปที่คนซ่อมคอมพิวเตอร์แล้วตวาดออกมาว่า “ออกไป!”
เขาพูดสั่งออกมาเหมือนฟางเหยียนไม่ใช่คน
แต่ทว่าฟางเหยียนกลับนั่งอยู่บนโซฟาหนังไม่ขยับไปไหน สีหน้าของเขาเฉยชา
เหลียงจงขมวดคิ้วขึ้นมาเป็นปม เขาส่งเสียงไม่พอใจออกมาว่า “รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ฉันคือเหลียงจง ถ้าแกอยากมีชีวิตอยู่ต่อ แกห้ามพูดเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ไม่งั้นฉันฆ่าแกแน่ ไสหัวออกไปซะ!”
จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่าเหลียงจงน่าเกรงขามมาก แววตาของเขาแทบจะฆ่าคนได้ เขาต้องการข่มขู่ฟางเหยียน
ฟางเหยียนมองซ้ายมองขวาแล้วถามว่า “พูดกับผมเหรอ”
เหลียงจงอึ้งไป จากนั้นจึงถามว่า “แกคิดว่าที่นี่มีคนอื่นหรือไง”
พูดพลางเหลียงจงควักเงินออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนลงพื้น เขาพูดด้วยสีหน้าเย้ยหยันว่า “เอาเงินนี่ไป แล้วไสหัวไปซะ เงินนี่พอให้แกใช้ชีวิตได้สองสามเดือน”
เขากำลังดูถูกฟางเหยียนชัดๆ
ฟางเหยียนลุกขึ้นยืน การกระทำของเขาเชื่องช้าและสุขุม ความสุขุมแฝงไปด้วยพลังอำนาจ เมื่อเย่ชิงหยู่เห็นก็รู้ทันทีว่าฟางเหยียนจะทำอะไร เธอเลยรั้งฟางเหยียนเอาไว้ “นายอย่าบุ่มบ่ามนะ”