จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 201
เหมือนเขาจินตนาการถึงฉากที่มีดทั้งสองปักเข้าที่หน้าอกของฟางเหยียนไปแล้ว ใบหน้าจึงได้เปลี่ยนเป็นสะใจขึ้นอีกครั้ง
ใครจะรู้ ว่าตอนที่มีดของทั้งสองคนใกล้จะปักเข้าที่อกของฟางเหยียน แล้วจู่ๆมันจะหยุดลง รูม่านตาของทั้งคู่ขยาย นี่มันเกิดอะไรขึ้น นึกไม่ถึงว่าจะถูกสองนิ้วหนีบมีดไว้ แล้วมีดก็ไม่สามารถพุ่งไปได้อีกแล้ว
เหตุการณ์นี้ปรากฏขึ้นต่อหน้าสายตาของทุกคน ใช่ เขาใช้สองนิ้วของสองมือหนีบมีดเอาไว้ แล้วมีดนั้นก็ไม่สามารถไปข้างหน้าได้ ฉากนี้เหมือนกำลังดูภาพยนตร์อยู่ ใช่ นี่เป็นฉากที่อยู่ในภาพยนตร์ มีเพียงยอดฝีมือถึงจะทำได้
จากนั้น เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงได้ปรากฏขึ้นอีก ได้ยินแค่เสียงปัง มีดสองด้ามนั้นหล่นลงกับพื้น แตกกระจายออก แล้วหล่นลงบนพื้นโดนตรง ถูกนิ้วโป้งของเขาหนีบจนแตกกระจาย
นี่มันเว่อร์เกินไปแล้วมั้ย จะมีคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน ที่ใช้นิ้วก็หนีบมีดจนแตกได้
“เพียะ!”“เพียะ!” สองฉาดตบลงไปที่หน้าของทั้งคู่ หัวของทั้งสองชนเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ล้มลงกับพื้นโดยตรง เดิมทียังดิ้นอยู่บ้าง ดิ้นไปดิ้นมาจนไม่ขยับ แล้วสลบไป
การกระทำนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ประหลาดใจที่สุด
ทุกคนอ้าปากค้าง นัยน์ตาเต็มไปด้วยตกใจ สงสัย และช็อก
นี่มันคือความจริงใช่มั้ย? บนโลกนี้จะมีการต่อสู้แบบนี้ได้อย่างไรกัน แค่ใช้มือก็ทำลายมีดได้แล้ว
ฟางเหยียนเปลี่ยนความคิด ท่าทีไร้ความรู้สึก ดวงตาทั้งสองของเขาจับจ้องมองไปที่เหลียงจง เหลียงจงในขณะนี้ตกใจจนเหงื่อท่วมทั้งตัว นึกไม่ถึงว่าการ์ดทั้งสองของเขาจะล้มลงไปเสียอย่างนั้น โอกาสที่จะดิ้นยังไม่มี
หม่าเจียปานแล้วไง? แม้แต่หม่าจงหัวผู้นำตระกูลของตระกูลหม่าอยู่ต่อหน้าตนยังไม่กล้าพูดเสียงดัง หม่าซวี่ซงหลานชายของตระกูลหม่า อยู่ในอานัดของฟางเหยียน ถูกหม่าจงหัวคุณปู่ของเขาตบตายแล้ว
ตระกูลหม่า ในสายตาของฟางเหยียนนั้นไร้ซึ่งศักยภาพ!
“แก แกคิดจะทำอะไร?” เห็นสายตาของหางเหยียน เขาอดไม่ได้ที่จะถามอย่างตัวสั่น
ฟางเหยียนได้พูดอะไร ยังคงใช้สายตาที่โกรธแค้นจ้องมองไปที่เหลียงจง
เหลียงจงเริ่มรับกับความกดดันที่มาพร้อมกับสายตานั้นไม่ค่อยไหวแล้ว จึงได้มองไปที่เย่ชิงหยู่ กล่าวด้วยความโมโห เย่ชิงหยู่ คุณรู้มั้ยว่าผมเป็นใคร? มันไม่รู้ คุณน่าจะรู้ดีถึงจุดจบถ้าทำผิดต่อผม จะบอกให้นะ ผมเป็นเพื่อนเก่ากับหวงหยวนฉาว ที่บริษัทของคุณมีวันนี้ได้ ก็เพราะได้รับความช่วยเหลือจากหวงหยวนฉาวทั้งนั้น ถ้าไม่มีเขา คุณก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ตอนนี้ ผมจะโทรหาเขาให้ยกเลิกสัญญากับคุณ
เมื่อเย่ชิงหยู่ได้ยินประโยคนี้ จึงคิดได้ทันที เธอรู้ว่าฟางเหยียนชกต่อยเป็น แต่ไม่รู้ว่าจะเก่งขนาดนั้น ที่ใช้แค่นิ้วก็ทำลายมีดได้ ในภาพยนตร์ใช้มุมกล้องหลายมุมถึงจะถ่ายออกมาได้
ไม่ว่าจะยังไง การชกต่อยเป็นเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็เป็นเรื่องเลวร้ายเช่นเดียวกัน ยังไงนี่ก็ไม่ใช่การฆ่าฟันกัน คนในยุทธภพเหมือนอย่างในยุคโบราณแล้ว ตอนนี้เป็นศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด เป็นระบบเศรษฐกิจสังคม ทุกคนดูกันที่เงินและความรุ่งเรือง
คำพูดของเหลียงจงทำให้ทุกคนกลับไปอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ใช่ ที่ตงข่ายกรุ๊ปมีวันนี้ได้ เพราะได้รับการร่วมมือทางการค้าของซีหนานกรุ๊ป หวงหยวนฉาวและเหลียงจงรู้จักกันแน่แท้ เพียงแค่เขาโทรหา ไม่นานเค้าอาจจะยกเลิกเงินทุนจริงๆก็ได้
ฟางเหยียนวู่วามเกินไป ต่อไปใช้แค่กำลังของตัวเอง ก็จะต่อสู้กับเหลียงจงได้!แต่นี่ไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง จริงอยู่ที่ฟางเหยียนทำให้คนในบริษัทจำนวนไม่น้อยเซอร์ไพรส์ แต่เขาทำผิดเรื่องนี้ นี่เป็นเรื่องที่ทำลายบริษัทเรื่องหนึ่ง
“ฟางเหยียน!รีบขอโทษประธานเหลียง” เย่ชิงหยู่จับแขนของฟางเหยียน กล่าวด้วยความระวังและหวาดกลัว “ขอโทษค่ะประธานเหลียง สามีของฉันวู่วามเกินไป ไม่เคารพคุณ เราจะชดเชยให้คุณนะคะ ขอคุณได้โปรดเข้าใจ ปล่อยพวกเราไปเถอะค่ะ”
ที่นี่มีคนในบริษัททั้งหมดอยู่ เย่ชิงหยู่ได้ก้มหน้าขอโทษ ถือว่าทำเพื่อบริษัท ถ้าซีหนานกรุ๊ปยกเลิกสัญญากับตนจริงๆ งั้นความเสียหายอันมหาศาลก็ยังเป็นของตงข่ายกรุ๊ปอยู่ดี
เหลียงจงได้ยินคำขอโทษของเย่ชิงหยู่ จึงได้กล่าวอย่างผยองขึ้นว่า “เหอะ คุณคิดว่าคำขอโทษของคุณจะมีประโยชน์? ถ้าคำขอโทษมีประโยชน์ งั้นโลกนี้ก็ไม่ต้องการกฎหมายแล้ว รอให้ผมให้ท่านหวงยกเลิกสัญญากับคุณก่อน แล้วค่อยจัดการมันทีหลัง! ใช้กำลังกับผม ชาตินี้ก็อยู่ข้างในตลอดชาติไปเลยก็แล้วกัน ถึงตอนนั้นผมจะให้คนดูแลคุณอย่างดี”
เหลียงจงพลางพูด พลางกดหน้าจอมือถือ ราวกับกำลังโทรออก
ทุกคนเหงื่อตกกับฟางเหยียนและตงข่ายกรุ๊ป เย่ชิงหยู่อดไม่ไหวที่จะพูดกับฟางเหยียนว่า “ฟางเหยียน คุณวู่วามเกินไป คุณก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว คิดถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาหน่อยไม่ได้เลยหรือไง? ยังไม่ขอโทษประธานเหลียงอีก”
“คนที่ควรจะขอโทษคือมัน!” ฟางเหยียนกล่าวอย่างสบายอารมณ์
บ้าไปแล้ว ฟางเหยียนต้องอยู่ในโลกส่วนตัวไปแล้วแน่เลย เขาคิดว่าโลกนี้เป็นอย่างที่เขาจินตนาการไว้ทั้งหมด อยู่ในการควบคุมของตัวเองทุกอย่าง คนที่เล่นไอทีส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในโลกส่วนตัว ไม่คิดว่าฟางเหยียนจะเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น
ถึงตอนนี้แล้ว เขายังไม่ยอมรับความเป็นจริงอีก!
เขาคิดว่าตัวเองต่อกรกับแฮ็กเกอร์ระดับสูงของต่างประเทศได้ สามารถชนะหลิวเสวเหว่ยได้ ต่อสู้ชนะการ์ดทั้งสองคนนั้นได้ แล้วเขาจะเป็นศัตรูกับเหลียงจงได้แล้ว? เขาไร้เดียงสาเกินไป เด็กเกินไป ไม่มีทางที่จะเข้าใจความจริงของสังคมนี้ได้อย่างแท้จริงเลยแม้แต่น้อย
สุดท้ายแล้ว เขาเป็นเพียงคนจนคนหนึ่ง ไม่มีทางจินตนาการออกถึงจุดจบที่จะเกิดขึ้นเมื่อทำผิดต่อเหลียงจงคนรวยแบบนี้ได้เลย
เมื่อเหลียงจงได้ยินคำพูดของฟางเหยียน แก้มกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง กล่าวอย่างโมโหว่า “คุณเห็นหรือยัง? เย่ชิงหยู่ ท่าทางของสามีคุณ รอดูล่ะกัน ซีหนานกรุ๊ปจะยกเลิกสัญญากับพวกคุณแล้ว”
เพิ่งพูดจบ เหลียงจงได้โทรออกไปแล้ว เขามองฟางเหยียนอย่างรังเกียจแล้วกล่าว “รอก่อนละกัน!”
ฟางเหยียนยกมืออย่างไม่สนใจ กล่าวอย่างสบายใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ว่า “ไม่เป็นไร ฉันจะรอตรงนี้ แกโทรไปถามหวงหยวนฉาว ว่าเขาให้เคารพแกมากกว่า หรือเคารพฉันมากกว่ากัน”
“ฟางเหยียน!” หย่ชิงหยู่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เดิมทีคิดว่าจะเป็นคู่ค้ากับเหลียงจงได้ ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ จะร่วมหรือไม่ร่วมทำการค้านะเรื่องเล็ก ตอนนี้ยังลากฟางเหยียนและตงข่ายกรุ๊ปเข้าไปด้วยอีก
เธอโทษตัวเองว่าทำไมเมื่อกี้ต้องร้องตะโกนออกมา สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฟางเหยียนก็ไม่มีทางลงมืออย่างไร้สติแบบนั้น เธอพูดอย่างโทษตัวเองอย่างที่สุดว่า “คุณขอโทษเขาเถอะ คุณลงมือกับคนที่ไม่ควรลงมือ”
ฟางเหยียนมองเย่ชิงหยู่อย่างเสน่หา กดมือนั้นที่เธอจับไว้บนไหล่ของตน กล่าวอย่างจริงใจว่า “คุณมั่นใจได้ ที่ผมเคยพูดไว้ว่าบนโลกนี้ใครก็รังแกคุณไม่ได้ จำไว้นะ ใครก็ทำไม่ได้!”
ประโยคนี้ พูดถึงความในใจของหญิงสาวทุกคน ในสถานการณ์ที่ร้อนรนมากขนาดนี้ ฟางเหยียนยังปฏิบัติต่อเย่ชิงหยู่ได้อย่างสงบแบบนี้ อย่างนี้ผู้หญิงทุกคนล้วนอิจฉาไปตามๆกัน