จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 24
บทที่24 คุกเข่าลง
ทั้งคู่เดินเข้าไปในโถง โจวซื่อเฉียงจัดแจงให้เวินหลานนั่งลงกับที่ ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นหลังเสิร์ฟน้ำเทชาให้กับเธอเรียบร้อย “คุณเวินรอสักครู่ อีกประเดี๋ยวผู้ร่วมทุนของเราจะมาถึงแล้ว”
เขาเอ่ยพลันจ้องมองนาฬิกา ตามเวลาที่นัดหมาย พวกเขาน่าจะถึงกันแล้ว
“ใช่สิ ผู้ร่วมทุนได้ข่าวว่าเป็นผู้หญิงหรือ?” เวินหลานไขว่ห้าง
โจวซื่อเฉียงพยักหน้า “ใช่ครับ เป็นผู้หญิง นามว่าคุณเย่ ได้ข่าวว่าเธอยังสาวมาก วัยเดียวกันกับคุณเวินนั่นแหละ”
“ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอถึงก้าวมาถึงจุดนี้ได้ล่ะ?” เวินหลานเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อายุเท่ากับเธอ แต่ยังได้ร่วมงานกับผู้ที่มั่งคั่งที่สุดแห่งตะวันตกเฉียงใต้ หากไม่ใช่เพราะมีความสามารถมากก็ต้องมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
โจวซื่อเฉียงกล่าว “อันนี้ผมก็ไม่ชัดเจนนัก คุณเย่เป็นบุคคลที่ท่านหวงให้ความเคารพมากคนหนึ่ง”
แม้แต่ท่านหวงเองยังให้ความเคารพ เบื้องหลังเธอไม่ธรรมดาแน่ เวินหลานผ่านอะไรมามาก เธอเข้าใจถึงกฎเกณฑ์ในนี้ดี
นั่งรออยู่สักพัก เสียงฝีเท้าของคนสองคนก็ได้ดังขึ้นที่นอกห้อง เป็นคนสองคนที่ขี่จักรยานไฟฟ้าเมื่อสักครู่นั่นเอง
เมื่อโจวซื่อเฉียงได้เห็นทั้งคู่ เขาขมวดคิ้วอย่างสงสัย “พวกคุณมาหาใคร?”
เย่ชิงหยู่กล่าว “เรามาเพื่อ…..”
ไม่ทันจบประโยค โจวซื่อเฉียงพลันออกตัวไล่เสียก่อน “ไปไปไป พวกคุณมาผิดที่แล้ว รู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน? ที่นี่คือองค์กรตะวันตกเฉียงใต้ เป็นพื้นที่ ของคุณหวงหยวนฉาวเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งตะวันตกเฉียงใต้ เข้าใจ?”
เขาเอ่ยพลันตะโกนไปยังด้านนอก “รปภ. รปภ. เข้ามาลากคอไอ้สองคนนี้ออกไปซะ”
ฟางเหยียนจ้องโจวซื่อเฉียงเขม็ง “แกแน่ใจเหรอว่าจะให้เราสองคนออกไปจริงๆ”
โจวซื่อเฉียงพิจารณาการแต่งกายของฟางเหยียน ดูยังไงก็ไม่เหมือนกับคนมีฐานะเลยสักนิด ก่อนที่จะหันไปทางเย่ชิงหยู่ เธอหน้าตาดีใช้ได้ แต่ก็ดูค่อนข้างจนตรอก
เขากอดอกหัวเราะออกมา “ฉันต้องมั่นใจอะไรกัน รีบไสหัวออกไปซะ!”
ฟางเหยียนพยักหน้ารับ “ได้ อีกประเดี๋ยวก็อย่ามาขอร้องเราแล้วกัน”
จบคำฟางเหยียนก็จูงแขนของเย่ชิงหยู่เดินออกไปทันที
เมื่อเห็นทั้งคู่เดินออกไปแล้ว โจวซื่อเฉียงจึงเหยียดหยาม “ขอร้องมัน สมัยนี้มีคนทุกรูปแบบสินะ”
“คุณเวินรอสักครู่นะครับ คุณเย่ของเราจะมาเดี๋ยวนี้แหละ”
เมื่อเวินหลานได้รับรู้ผู้อยู่เบื้องหลังของเย่ชิงหยู่ เธอก็ยอมที่จะรออยู่แล้ว “ไม่เป็นไร เธออาจจะยุ่งมาก”
เวินหลานรู้ดีว่าโอกาสในครั้งนี้สำคัญกับเธอมาก การได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับซีหนานกรุ๊ป นั่นก็หมายความว่าเธอเข้าใกล้เส้นชัยที่จะยกระดับขึ้นเป็นดาราชั้นนำได้
จางไห่เฟิงเห็นเย่ชิงหยู่และฟางเหยียนเดินเข้าไปด้านในแล้ว แต่ไม่นานทั้งคู่ก็เดินออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
จางไห่เฟิงมีน้ำโหเมื่อเห็นภาพตรงหน้า เขาสบถอย่างอดไม่ไหว “บัดซบ ไม่ทันไรก็ถูกไล่ออกมาแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
เขาติดว่ามีเพียงตัวเขาเสียอีกที่ถูกไล่ออกมา ไม่คิดเลยว่าเย่ชินเข้าไปก็ถูกไล่ออกมาเช่นเดียวกัน
การที่เย่ชิงหยู่ถูกไล่ออกมา นั่นก็หมายความว่าซีหนานกรุ๊ปยกเลิกสัญญาที่จะร่วมทุนกับตระกูลจาง
จบกัน เย่ชิงหยู่จบเห่แน่
เขาไม่คิดเลยว่าตระกูลจางจะจบเห่ เพียงแค่คิดว่าเย่ชิงหยู่ไม่สามารถทำสำเร็จ
เขาต้องการเพียงแค่เย่ชิงหยู่ทำไม่สำเร็จ เขาไม่สนใจความเป็นความตายของตระกูลจางหรอก
“ฉันจะไปบอกคุณปู่ คอยดูแล้วกันว่าเย่ชิงหยู่จะตายยังไง ฮ่าฮ่า”
เมื่อนึกขึ้นได้ จางไห่เฟิงขับรถกลับไปที่บ้านทันที
หลังจากที่ออกมาจากซีหนานกรุ๊ป เย่ชิงหยู่กล่าวด้วยความโกรธ “พวกเขาจะทำแบบนี้ได้ยังไง ซีหนานกรุ๊ปนี่จะดูถูกกันเกินไปแล้ว เรานัดกันเรียบร้อยแล้วว่าจะมาเซ็นสัญญาวันนี้แท้ๆ”
“ถ้างั้นเธอจะจัดการกับพวกเขายังไงล่ะ?” ฟางเหยียนกล่าวเสียงเรียบ
เย่ชิงหยู่ตอบกลับ “ฉันอยากจะสั่งสอนพวกเขาจริงๆ ทำให้พวกเขาได้รู้ถึงจุดจบที่ชอบดูหมิ่นคนอื่น”
ฟางเหยียนกระตุกมุมปาก แสยะยิ้มออกมา
ในเวลานี้เอง เสียงโทรศัพท์ของเย่ชิงหยู่ดังขึ้น
“คุณเย่ สวัสดีครับ ผมหยางฮ่าวนะครับ ผู้ดูแลซีหนานกรุ๊ป ไม่ทราบว่าคุณมาถึงหรือยังครับ? ผมสั่งให้คนคอยต้อนรับคุณที่หน้าโถง เขาบอกว่ายังไม่เห็นคุณเลย ผมก็เลยจะโทรมาถามสักหน่อย”
หยางฮ่าวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ เพราะเขารู้ดีว่าเย่ชิงหยู่มีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งมีอำนาจมาก
ตามประโยคของหวงหยวนฉาว ไม่ใช่พวกเขามาเพื่อเยินยอตระกูลหวง แต่ตระกูลหวงต่างหากที่ต้องการเอาอกเอาใจผู้สนับสนุนคุณเย่
เพราะงั้นไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องดูแลคุณเย่ให้ดีที่สุด ทำตามคำเรียกร้องทุกอย่างของคุณเย่
นี่เป็นสิ่งที่หวงหยวนฉาวได้กำชับหยางฮ่าวในที่ประชุม
เพราะงั้นในตอนประชุมเล็ก เขาเองก็กำชับโจวซื่อเฉียงอยู่หลายหน
“ฉันมาถึงแล้ว ประธานหยาง แต่คนของคุณไม่ให้ฉันเข้าไป” เย่ชิงหยู่เอ่ยอย่างน่าสงสาร
“อะไรนะ! มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ คุณเย่ขับรถอะไรมาครับ? ผมไม่เห็นมีรถของคุณเลย!” หยางฮ่าวลุกขึ้นจากเก้ามองลงไปยังชั้นล่าง รถที่จอดอยู่ที่เพียงแค่รถของเวินหลานและรถของบริษัท ไม่มีรถคันอื่นอยู่เลย
เย่ชิงหยู่กล่าว “ฉันไม่ได้ขับรถมา ฉันขี่จักรยานไฟฟ้ามา”
จักรยานไฟฟ้า หยางฮ่าวเห็นร่างของคนสองคน เขาตกใจจนแทบผละตกลงไป
เขารีบตอบรับ “ครับ คุณเย่อย่าเพิ่งไปนะครับ ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้ จะลงไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”
หยางฮ่าววางสายทันที ก่อนที่จะลงไปชั้นล่างโดยไม่คิดชีวิต
จบแน่ จบแน่ จบแน่!
ในหัวของหยางฮ่าวเต็มไปด้วยความพ่ายแพ้ ฝ่ามือชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เมื่อโจวซื่อเฉียงเห็นว่าหยางฮ่าวลงมา จึงรีบเอ่ยถาม “ประธานหยาง ทำไมคุณเย่ยังไม่มาอีกครับ?”
หยางฮ่าวสีหน้าขาวซีด จี้ด่าด่ากราดโจวซื่อเฉียง “ยังมีหน้ามาพูดอีก? คุณเย่มาแล้ว แล้วก็ถูกพวกแกไล่ออกไปแล้ว”
โจวซื่อเฉียงตกใจจนหน้าถอดสี ก่อนเอ่ยอย่างร้อนรน “จะเป็นไปได้ยังไง ผมอยู่ที่นี่ตลอด”
“หรือว่า…..” โจวซื่อเฉียงนึกถึงเงาร่างของคนสองคนที่เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่
พวกเขาพูดเอาไว้แล้ว อย่ามาขอร้องก็แล้วกัน
“ประธานหยาง หรือว่าพวกเขาขี่จักรยานไฟฟ้ามางั้นหรือ?” โจวซื่อเฉียงตกตะลึง
“ใช่! หากสัญญาฉบับนี้เกิดข้อผิดพลาดแล้วละก็ ฉันไม่ปล่อยแกไปง่ายๆ แน่”
หยางฮ่าวดึงประตูออก วิ่งออกไปด้านนอก
เขาเสียใจอย่างมาก คิดผิดมหันต์ที่ให้โจวซื่อเฉียงรับผิดชอบเรื่องนี้
หากมีข้อผิดพลาดละก็ ชีวิตนี้ของเขาจบเห่แน่
โจวซื่อเฉียงตบกบาลตัวเองอย่างแรง “ผมก็ไม่รู้นี่นาว่าพวกเขาจะถ่อมตัวขนาดนี้ ประธานหยาง รอผมด้วยครับ”
เวินหลานลุกขึ้นด้วยความตกใจ สีหน้าลนลาน
ไม่นาน หยางฮ่าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่ชิงหยู่และฟางเหยียน หอบหายใจถี่รัว ฝีเท้าไม่ทันได้ยืดกับพื้นมั่นคงดี จึงกล่าวกับเย่ชิงหยู่ “ต้องขอโทษด้วยครับ คุณเย่ เป็นความผิดของเราเอง เป็นความผิดของเรา เราสมควรตาย เราสมควรตาย!”
เขาก้มโค้งลำตัว90องศาต่อหน้าเย่ชิงหยู่ ด้วยสีหน้าจริงใจ
เย่ชิงหยู่จ้องมองฟางเหยียนอย่างตกอกตกใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ในตอนนี้โจวซื่อเฉียงเองก็ตามออกมาด้วย
เมื่อเห็นทีท่าของประธานหยาง เขาเองก็กล่าวด้วยความอนาถ “ต้องขอโทษด้วยครับ คุณเย่ ผมมีตาหามีแววไม่ เป็นความผิดของผมเองครับ”
เขากล่าว พลางตบหน้าของตัวเองไปด้วย ทีท่าของเขา ไม่ต่างอะไรกับสุนัขข้างถนน
“โจวซื่อเฉียง!” ฟางเหยียนขานชื่อของเขา
“ครับ!” โจวซื่อเฉียงแหงนหน้าขึ้นมองฟางเหยียน เม็ดเหงื่อบนใบหน้าไหลพราก
ฟางเหยียนกล่าวอย่างราบเรียบ “คุกเข่าลง!”