จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 241
ฟางเหยียนยิ้มอย่างไม่รู้สึกรู้สาใดๆ ส่ายหน้าแล้วกล่าว “แกไม่ใช่คู่ต่อกรของฉัน ขยะอย่างแกไม่คู่ควรที่ฉันจะต่อสู้ด้วย ให้โอกาสแกหนึ่งครั้ง ตัดสินเจ้าเอาเองแล้วกัน”
“อืม?” รอยยิ้มของเซียวติ่งชะงักลง แววตาทั้งสองเปลี่ยนไป นี่แม่งหมายความว่าไงกันวะ?กล้าโอหังได้ถึงเพียงนี้?ชายผู้นี้เปลี่ยนมุมมองความคิดของเขาใหม่อีกครั้งได้อย่างสำเร็จ!
จากนั้นได้ตะคอกเสียงดังออกมาว่า “บังอาจ!”
เซียงติ่งเขย่งเท้า ท่าทีกระเหี้ยนกระหือรือ ใบหน้าใจเย็นของฟางเหยียนค่อยๆเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นลง
ทั้งสองสบตากัน การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้!
“เด็กน้อย มา ไปอยู่ในหลุมของคนของตระกูลเซียวของฉันซะ!”
เมื่อตะโกนจบ เขามองไปที่เซียวเจิ้นเที่ยนแล้วกล่าว “พ่อครับ รอผมนะ ผมจัดการมันเสร็จแล้ว ค่อยมาคุยกันนะครับ ”
เมื่อพูดจบ เขากระโดดขึ้นเหมือนสายลม กระโดดขึ้นอย่างสูงๆ ความสูงอย่างน้อยก็อยู่ที่สามเมตร ทำให้มนุษย์เปลี่ยนแปลงมุมมองให้ทันที เขาชูสามนิ้วของตัวเองในอากาศ เหมือนกับกรงเล็บอินทรีย์ก็มิปานมาตะครุบฟางเหยียน
เหมือนฟางเหยียนกำลังเจอเข้ากับกระสุนอย่างไรอย่างนั้น ไม่ขยับใดๆ มองไปที่เซียวติ่งด้วยสีหน้านิ่ง แล้วกล่าวอย่างสงบ “เกรงว่าแกจะไม่มีโอกาสได้รำลึกความหลังกับพ่อแกแล้วล่ะ!”
เซียวติ่งเห็นท่าทางของฟางเหยียน ก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ชายผู้นี้ อวดดี และหลงตัวเองเกินไปแล้ว!
กรงเล็บอันตรายของเขาพุ่งไปที่ฟางเหยียน เซียวติ่งเห็นกรงเล็บกำลังจะเจาะไปที่คอหอยของฟางเหยียนอยู่แล้ว แต่มือของเขากลับเคลื่อนที่ไปด้านหน้าไม่ได้อีกต่อไป นี่มันอะไรกัน?ทำไมถึงเคลื่อนไปข้างหน้าไม่ได้นะ
เซียวติ่งมองฟางเหยียนด้วยสีหน้าตื่นตกใจ บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเลศนัย เมื่อกี๊เขาคิดว่าตัวเองจะสามารถโจมตีได้อย่างหนักหน่วง แต่ยังไงก็ไม่คาดคิดว่าจะเจอเข้ากับชายที่ใช้กำลังภายใน
นี่เป็นผลของชี่ มีเพียงนินจาระดับต้าชี่เท่านั้นที่จะทำแบบนี้ได้
ความรู้เหล่านี้อาจารย์ของเขาเป็นผู้ถ่ายทอดมา นานแล้วที่เขาไม่ได้ออกจากภูเขา นานแล้วที่เขาไม่ได้เจอผู้คน เพื่อลองสิ่งที่ได้เรียนมาทั้งหมดของในร่างกาย เขายังจงใจฆ่ายอดฝีมือที่ว่านั่นหลายคน ทั้งหมดล้วนทนไม่ไหว จึงถูกเขาจัดการไป คิดว่าชายที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนกับคนเหล่านั้น ที่เป็นแค่พวกขี้เมาหยำเปเท่านั้น แต่ไม่คิด ว่าเขาจะมีฝีมือแบบนี้
ระดับต้าชี่แล้วไง?ใบหน้าซียวติ่งดุดัน ยกมืออีกข้างขึ้นมาพยายามโจมตีฟางเหยียน
ทันใดนั้น ฟางเหยียนได้ถอยหลังหลบไป และเซียวติ่งได้ลงมาจากอากาศด้วยการโจมตีนี้ เขาโค้งหลังยืนขึ้นบนพื้น เงยหน้าขึ้นมองฟางเหยียนแล้วกล่าว “น่าสนใจ ไม่เหมือนกับไอ้พวกสำมะเลเทเมาที่ฉันเจอมาก่อนหน้านี้เลยแหะ”
ฟางเหยียนยังคงกล่าวด้วยหน้าตาสงบ “แกมันก็เท่านี้แหละ!”
ในสายตาของเขา มนุษย์โลกก็แค่ขยะ เซียวติ่งนี่ก็ไม่ต่างกัน ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขามีพลังเพียง50% ใช้เพียงพลัง50%นี้ เขาก็สามารถจับเซียวติ่งสวะนี่มัดเฆี่ยนตีเป็นหมาได้แล้ว ถ้าพลังของเขาฟื้นตัวได้ถึง100% ไม่มีใครสู้ได้แน่นอน
เซียวติ่งแสยะยิ้มออกมา แล้วกล่าว “ฝีมือไม่ดี แต่อวดดีที่สุด”
เมื่อพูดจบ เซียวติ่งได้กระโดดขึ้นอีกครั้ง ฟางเหยียนถอยหลังไปอย่างก้าวโดยไม่รู้ตัว มองไปที่หวังชิงชิงแล้วกล่าว “หลบให้ดีนะ!”
หวังชิงชิงหน้าตาเคร่งเครียด อืมแล้วพยักหน้า ถอยหลังไปหลายก้าว เธอรู้สึกอบอุ่นในใจ ที่ตอนนี้ ฟางเหยียนยังนึกถึงความปลอดภัยของเธอ
แต่ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ เธอไม่มีเวลามันคิดมาก เซียวติ่งได้มาถึงด้านหน้าของฟางเหยียน เขายื่นมือไปจิกคอหายของฟางเหยียน แต่ฟางเหยียนหลบได้ เซียวติ่งจิกเข้าไปอีก แต่ฟางเหยียนก็ยังคงหลบได้
เซียวติ่งรู้ดีว่าความเร็วของตัวเองนั้นไม่มีใครเทียบได้ แต่เมื่อเผชิญหน้ากับฟางเหยียนความเร็วนี้กลับเหมือนช้าลงอย่างไรอย่างนั้น ยังไงก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ทุกครั้งจะจิกพลาดตลอด แล้วในขณะที่ต่อสู้กัน หน้าตาของฟางเหยียนล้วนนิ่งสงบ
ทั้งสองต่อสู้กันอยู่หนึ่งนาที เซียวติ่งต้องหยุดการโจมตีด้วยมือในทันที ถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าที่น่าเกลียดของเขามีเหงื่อเป็นเม็ดไหลออกมาเต็มไปหมด ดวงตาทั้งสองก็เริ่มโฟกัสมากขึ้น
“แกมีปัญญาแค่นี้เหรอ?” ฟางเหยียนยังคงถามด้วยบนหน้านิ่งสงบเช่นเคย
เซียวติ่งหายใจหอบ ก้าวไปข้างหน้า ตั้งกระบวนท่าอยู่กับที่ จากนั้นแยกขาทั้งสองข้างออกเป็นกระบวนท่าหนึ่ง แล้วมือทั้งสองข้างของเขาเริ่มแดงขึ้นมา โดยเฉพาะกรงเล็บสามนิ้วนั้น เหมือนกับถูกไฟไหม้มาอย่างไรอย่างนั้น
“ท่าตีนมังกรสามท่าท่าที่หนึ่ง มังกรร้ายควักหัวใจ” เซียวติ่งก้าวไปหาฟางเหยียนอย่างรวดเร็ว
ท่าแรกควักไปที่หัวใจคนโดยตรง ด้วยกลิ่นอายแห่งความเกรี้ยวกราด กลิ่นอายนี้เหมือนกับเมื่อกี๊ พายุพัดผ่านไปยังทิศทางที่ฟางเหยียนอยู่ ไม่ใช่แค่ฟางเหยียนเท่านั้นที่ดูไม่ชัดเจน ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนถูกแรงลมกระหน่ำเข้าจนลืมตาไม่ขึ้น
การที่สามารถใช้พลังชี่โจมตี ราวกับสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรในยุคโบราณ แล้วใช้พลังที่ไม่ได้มาจากคนไปถึงระดับต้าชี่ เพียงแค่ใช้ท่านี้ได้ ก็สามารถใช้ชี่ที่อยู่ในร่างกายได้แล้ว นี่คือศักยภาพ ไม่ใช่ชี่ที่ผ่านการฝึกฝนมาแต่อย่างใด
ท่าตีนมังกรสามท่านี้เก่งกาจพอควร คิดไม่ถึงว่าจะทำให้ปล่อยชี่ออกมาได้
แต่นี่ไม่ได้กระทบการตัดสินใจของฟางเหยียนแต่อย่างใด การต่อสู้อันรุนแรง อันมีทรายครุกเคล้าทั่วฟ้า ในสถานการณ์แบบนั้นยังไม่มีใครทำอะไรเขาได้แม้แต่น้อย แล้วกับแค่ชี่ที่อ่อนหัดแบบนี้ละ?
ในพายุที่โหมกระหน่ำ กรงเล็บของเซียวติ่งเต็มไปด้วยพลังอันมหาศาลพุ่งไปที่ฟางเหยียน ทุกๆการโจมตีของเซียวติ่งสามารถทำให้ถึงตายได้ เพียงแค่ถูกจับ ก็จะเผาไหม้ไปทั้งตัว เพราะนี่คือชี่ที่กำลังมอดไหม้!
ไม่เพียงแค่เซียวติ่งจู่โจมอย่างเร็ว ความเร็วของฟางเหยียนก็เร็วอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เช่นกัน ไม่ว่าเซียวติ่งจะโจมตีอย่างไรก็ไปไม่ถึงตัวเขาอยู่ดี
เซียวเจิ้นเที่ยนและคนอื่นๆค่อยๆมองเห็น นอกจากเห็นลำแสงสองดวงที่ปรากฏในการต่อสู้แล้ว พวกเขามองไม่เห็นผู้คนแต่อย่างใด การต่อสู้แบบนี้มันช่างน่าประหลาดใจเสียจริงๆ เหมือนกับกำลังถ่ายหนัง ไม่สิ รุนแรงกว่าการต่อสู้ที่ในหนังเสียอีก
หวังชิงชิงมองไปที่แสงสองดวงอย่างเคร่งเครียด ด้วยความว้าวุ่น และไม่รู้ว่าคุณชายจะต้านทานการโจมตีของคนนั้นไหวมั้ย ตอนนี้ ทำได้เพียงแอบภาวนาให้คุณชายป้องกันตัวเองได้
“ท่าตีนมังกรสามท่าท่าที่สอง มังกรเขียวยกหาง”
“ท่าตีนมังกรสามท่าท่าที่สาม มังกรปีนเสือกระโดด”
นี่คือเสียงที่ดังขึ้นในการต่อสู้ แล้วเป็นเสียงพูดเดียวที่ได้ยินในเหตุการณ์
ผ่านไปประมาณสามนาที ทั้งสองคนที่กำลังต่อสู้กันได้หยุดประลองลง ทุกๆอย่างรอบกายราวกับเริ่มกลับมาเงียบสงัดทุกๆคนต่างหยุดหายใจ กำลังรอที่จะดูเหตุการณ์เบื้องหน้า รอบๆเต็มไปด้วยหมอกควันปกคลุมไปทั่วทุกแห่ง
ภายในใจของเซียวเจิ้นเที่ยนเริ่มสั่นคลอน ถ้าเซียวติ่งแพ้ละก็ เขารู้ว่านี่หมายถึงอะไร!
สิบวินาที สามสิบวินาที หนึ่งนาที สองนาที สามนาทีผ่านไป หมอกเริ่มสลาย ในตอนที่หมอกสลายหายไป ชายร่างผอม ผิวขาวกำลังยืนอยู่ ในมือของชายคนนั้นกำลังชูคนที่ผมเล็กกว่าเขาอีกขึ้นมา
คนนั้นกำลังดิ้นรน ดิ้นรนอย่างไร้พลัง ร่างกายเขาเต็มไปด้วยเลือด ทั้งตัวกลายเป็นมนุษย์เลือด
เซียวเจิ้นเที่ยนชะงัก เขาอ้าปากค้าง ตัวสั่นไปหมด
ฟางเหยียนไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่กลับเป็นเซียวติ่งที่โจมตีอย่างหนักหน่วงถูกเขาชูสูงขึ้นบนหัว