จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 263
เหลียงเจิ้งที่อยู่อีกด้านหนึ่ง หลังจากเขาเดินออกมาจากร้านอาหารของเถ้าแก่หนิว เขาก็วางโทรศัพท์ลงทันที เปิดประตูรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ที่ผ่านการดัดแปลงด้วยความโกรธ เผยให้เห็นนาฬิกามูลค่าหนึ่งล้านห้าแสนหยวนที่อยู่ในข้อมือ เสื้อผ้าที่มีราคาแพง ทำให้ทุกคนที่มองเห็นรู้ว่าเขาเป็นคนมีเงิน
“คุณชายเหลียง!เกิดอะไรขึ้น?”ชายผมบัซคัตที่ยืนอยู่ข้างๆรถปอร์เช่ 911 ถาม
เหลียงเจิ้งถุยน้ำลายตัวเองออกมาและพูด:“ แม่งเอ๊ย เธอถูกรถเบนซ์คันหนึ่งพาออกไป!”
ชายผมบัซคัตขมวดคิ้ว และถามด้วยความเหลือเชื่อว่า:“คุณชายเหลียง คุณแน่ใจว่ามันคือรถเบนซ์ใช่ไหม?”
ชายผมบัซคัตชื่ออานเยว่ หน้าตาธรรมดา แต่ร่างกายแข็งแรงและมีความเย่อหยิ่งในตัว สมัยก่อนเขาเคยแทงคน เขาคนเดียวแทงคนไปสิบกว่าคน แต่ครอบครัวของเขาเปิดกิจการโรงแรม ครอบครัวมีเงินเขาจึงจัดการเรื่องนั้นได้
เขามักจะชอบแข่งรถสปอร์ตกับแก๊งท่านชายหนานหลิง แก๊งท่านชายหนานหลิงคือการรวมตัวกันของลูกคนรวย โดยมีเหลียงเจิ้งเป็นหัวหน้าแก๊ง เหลียงเจิ้งเป็นลูกชายของเหลียงจงที่เป็นคนร่ำรวยอันดับที่สองของภาคตะวันออกเฉียงใต้ ครอบครัวของเขามีทั้งเงินและอำนาจ ดังนั้นเขาจึงเป็นหัวหน้าแก๊งของคนเหล่านั้น
คนกลุ่มนี้ที่ชอบรวมตัวกันเพื่อแข่งรถสปอร์ต ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน ก็มีกำลังพลและจำนวนที่มากกว่าคนอื่น ถึงแม้คนอื่นจะไม่เกรงกลัวพวกเขา แต่ก็ต้องเกรงกลัวอำนาจของตระกูลพวกเขา!
ถนนเส้นนี้ในเขตหนานซาโจวตั้งแต่แก๊งท่านชายเข้ามาใช้งาน ตอนนี้มันกลายเป็นถนนต้องห้ามแล้ว ในตอนแรกทุกคนไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจากเกิดเรื่อง ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ที่นี่อีก พวกเขายอมที่จะใช้ถนนเส้นอื่น ก็ไม่ใช้ถนนเส้นนี้ เพราะแก๊งท่านชายชอบมาแข่งรถสปอร์ตในถนนเส้นนี้บ่อยๆ ถ้าโดนพวกเขาชน ถ้าไม่ได้รับอันตรายก็แล้วไป แต่ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น พวกเขาคงโดนเล่นงานจนตายแน่นอน
เมื่อก่อนก็เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งๆที่โดนพวกเขาชน แต่กลายเป็นว่าพวกเขาไม่ผิด เพราะคนอื่นขวางทางของพวกเขา ถ้าเรื่องเล็กก็ต้องชดใช้เงินจำนวนหนึ่ง แต่ถ้าเรื่องใหญ่ก็ทำให้คนอื่นบ้านแตกสาแหรกขาด
เหลียงเจิ้งพูดด้วยความโกรธ:“แม่งเอ๊ย ฉันแน่ใจว่ามันเป็นรถเบนซ์แน่นอน รีบแจ้งเตือนทุกคน ให้ปิดถนนเข้าออก รีบหยุดรถคันนั้นไว้ ฉันจะไปชนมันให้ตาย เพราะมันกล้ามายุ่งกับผู้หญิงของฉัน!”
เหลียงเจิ้งชอบถังยู่ มันไม่ได้เป็นความลับ ทุกคนในแก๊งท่านชายรู้ดี แต่ถังยู่มีแฟนหนุ่มแล้ว ผู้ชายคนนั้นชื่อเย่เฟย ตอนนี้ไปฝึกอบรมพิเศษ ปีๆหนึ่งถังยู่เจอหน้าเขาไม่ถึงหนึ่งครั้งเลย
เรื่องที่เหลียงเจิ้งตามจีบถังยู่นั้น เธอไม่ปฏิเสธหรือรังเกียจเรื่องที่เหลียงเจิ้งตามจีบตัวเอง เธอยังชวนเขาออกมาเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ ถังยู่ชอบแข่งรถและชอบเที่ยว ดังนั้นเธอก็ออกไปเล่นเหลียงเจิ้งเสมอ
เหลียงเจิ้งนึกว่าถังยู่เป็นผู้หญิงของตัวเอง เรื่องนี้ก็ไม่มีใครกล้าคัดค้าน ทุกคนของแก๊งท่านชายต่างก็ยอมรับ
ทั้งสองคนขึ้นรถ หลังจากสตาร์ทรถเสร็จ พวกเขาก็ขับรถบนถนนอย่างเมามัน ทักษะการขับรถของเหลียงเจิ้งดีมากๆ เขาดริฟท์รถตลอดทาง มันดูสง่างามและเท่มากๆ
รถยนต์ของพวกเขาเป็นรถสปอร์ต และคนขับตอนนี้ยังเต็มไปด้วยความโกรธ ทำให้พวกเขาขับรถด้วยความรวดเร็ว และรถยนต์ของฟางเหยียนเป็นแค่รถเบนซ์ พวกเขาวิ่งช้ากว่ารถสปอร์ตอยู่แล้ว
ผ่านไปสักพัก พวกเขาก็เห็นรถเบนซ์สีดำคันนั้น เหลียงเจิ้งหยิบวิทยุสื่อสารแล้วพูด:“อานเยว่ หาโอกาสชนพวกมันให้ตายไปเลย ไม่ต้องออมมือ คุณต้องชนมันให้ตาย!”
อานเยว่ที่อยู่ด้านข้างรีบตอบกลับมาทันที:“รับทราบ!”
ทั้งสองคนตามประกบรถยนต์ของฟางเหยียนทั้งซ้ายและขวาทันที ตอนนี้เหลียงเจิ้งกำลังโกรธมากๆ เมื่อเห็นรถเบนซ์สีดำคันนี้ เขาก็ขับรถพุ่งเข้าไปชนทันที
ขณะที่รถสปอร์ตของเขากำลังจะชนเข้ากับรถเบนซ์ จู่ๆรถเบนซ์ก็เพิ่มความเร็วขึ้น และหลบการชนของเขาไปได้
ด้านในของรถเบนซ์ เทียนขุยขมวดคิ้วและพูด:“จอมพลโผ้จวิน มีรถสปอร์ตสองคันอยากจะชนรถเบนซ์ของเรา!”
ตอนที่สู้รบกัน เทียนขุยเป็นคนที่ขับรถหลบระเบิดของศัตรูได้ เมื่อเผชิญหน้ากับการชนของรถสปอร์ต ถ้าเขาอยากจะหลบหลีกมันก็เป็นเรื่องสบายๆอยู่แล้ว ดังนั้นเขาหลบหลีกได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก
ใบหน้าของฟางเหยียนมีรอยยิ้มที่เย็นชาปรากฏขึ้น เขาก็มองเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แต่เขาไม่อยากสนใจและพูด:“ขับรถเร็วหน่อย ทิ้งห่างจากพวกมัน”
หลังจากพูดจบ ก็ดึงดูสายตาและความสนใจของถังยู่ทันที เธอได้ยินผิดหรือเปล่า?ผู้ชายคนนี้บอกให้เขาทิ้งห่างจากคนพวกนั้น แต่พวกเขาขับรถปอร์เช่และเฟอร์รารี่นะ และมันก็ยังเป็นรถสปอร์ตที่ถูกดัดแปลงมาแล้วด้วย
และรถยนต์คันนี้เป็นรถอะไร มันเป็นแค่รถเบนซ์ และรถเบนซ์สามารถแซงรถสปอร์ตได้เหรอ?
“ฮ่าๆ!”ถังยู่อดหัวเราะออกมาไม่ได้ จากนั้นก็พูดว่า:“พวกคุณสองคนกำลังพูดเรื่องตลกใช่ไหม?นั่นมันเป็นรถสปอร์ต พวกคุณใช้รถคันนี้ แน่ใจเหรอว่าจะสามารถขับเร็วและทิ้งห่างจากรถสปอร์ตพวกนั้นได้
ฟางเหยียนไม่ได้พูดอะไร เทียนขุยที่กำลังขับรถอยู่ก็ยิ้มออกมาและพูด:“งั้นคุณก็ดูให้ดีๆ พวกเขาโดนผมทิ้งห่างได้ยังไง”
หลังจากพูดจบ เทียนขุยก็เร่งความเร็วขึ้นมาทันที และรถสองคนนั้นก็เร่งความเร็วเช่นกัน และพวกเขาสองคนก็พยายามจะชนรถเบนซ์ตลอด ถึงแม้เขาจะหลบหลีกการชนได้ แต่รถเบนซ์ก็เกิดการโครงเครงและโยกเยก ทำให้ร่างกายถังยู่พุ่งเข้าหาฟางเหยียน
มีอยู่ครั้งหนึ่ง หน้าอกของเธอไปอยู่บนมือของฟางเหยียนเลย
เมื่อเหลียงเจิ้งเห็นว่าไม่สามารถชนรถเบนซ์คันนั้นได้ เขาก็โกรธมากๆจนตบไปที่พวงมาลัยรถ รีบหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาและพูด:“อานเยว่ ยิงล้อรถยนต์ของมันเลย แม่งเอ๊ย ฉันไม่เชื่อว่าจะฆ่ามันไม่ได้”
อานเยว่ที่อยู่อีกด้านของวิทยุสื่อสารพูดว่า:“คุณชายเหลียง ทำอย่างนี้ไม่ดีแน่ๆ!คุณลืมไปแล้วเหรอว่า คุณหนูถังยังอยู่บนรถคันนั้น?”
เมื่อได้ยินคำพูดของอานเยว่ เหลียงเจิ้งจึงสงบสติอารมณ์ของตัวเอง แต่เขาก็ยังโกรธมากๆและพูด:“งั้นหาวิธีแจ้งทุกคนในแก๊งท่านชาย ต้องหยุดรถเบนซ์คันนั้นให้ได้”
ในขณะที่เขาเตรียมจะเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขารีบกดรับทันที เสียงของถังยู่ดังมาจากโทรศัพท์:“เหลียงเจิ้ง ผู้ชายคนนี้ลวนลามฉัน เขายังบอกว่าคุณตามเขาไม่ทัน ถึงแม้คุณจะขับรถสปอร์ต คุณก็ตามไม่ทันแน่นอน”
“แม่งเอ๊ย!”เหลียงเจิ้งต่อยมือถือจนพัง จากนั้นเขาก็เหยียบคันเร่งทันที
ถังยู่วางมือถือลง เธอถึงสังเกตเห็นว่ามีดวงตาสองคู่กำลังจ้องเธออยู่ ดูตาคู่หนึ่งจองเธอตรงๆ ส่วนอีกคู่จ้องเธอผ่านกระจกมองหลัง เธอยักไหล่อย่างไม่พอใจและพูด:“ตอนนี้พวกคุณจะเกลียดฉันก็ไม่มีประโยชน์ ตอนนี้เหลียงเจิ้งโกรธมากๆ เขาไม่ยอมปล่อยพวกคุณไปง่ายๆแน่นอน พวกคุณรู้ไหมว่าเหลียงเจิ้งเป็นใคร?”
“เห้อๆ!”ฟางเหยียนหัวเราะอย่างเย็นชา สีหน้าของเขาสงบและปกติ
เมื่อเห็นรอยยิ้มของฟางเหยียน ถังยู่รู้สึกว่าตัวเองถูกละเลย โดยปกติพวกเขาสองคนควรโกรธมากๆ ทำไมพวกเขาถึงได้สงบขนาดนี้?ตอนนี้ยังหัวเราะด้วย!พวกเขาหัวเราะฉันอยู่ใช่ไหม?เมื่อคิดว่าตัวเองโดนดูถูกหัวเราะเยาะ เธอก็ถอนหายใจและพูด:“พวกคุณหมายความว่าไง?พวกคุณไม่กลัวเขาเหรอ?”