จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 274
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ผู้จัดการคนนั้นหัวเราะหึๆ กวักมือพลางพูดว่า“ลุย!”
ชายร่างกำยำหลายคนก้าวออกไปหนึ่งก้าว ใบหน้าของผู้จัดการมองไปทางหลงซิ่วซิ่วกับชายผมทองคนนั้นอย่างยิ้มประจบ แล้วเอ่ยถาม“คุณหนูหลง คุณปีเตอร์ครับ ผมจัดการด้วยวิธีนี้ไม่ทราบว่าสมเหตุสมผลไหมครับ?”
“โน ไม่สมเหตุสมผล!”ชายผมทองที่ชื่อปีเตอร์ถลึงตาจ้องมองไปที่เทียนขุยด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยวพลางพูดขึ้นมาว่า“เขาหักนิ้วฉันหักขนาดนี้ มันหักไปแล้ว เอาแค่สองมือของเขา มันง่ายเกินไป ต้องฆ่าเขาซะ ฆ่าเขา”
พูดจบ ปีเตอร์ก็เอามีดหั่นเนื้อสเต๊กมาหนึ่งด้าม แล้ววาดมีดไปมาด้วยความโกรธแค้นทางเทียนขุย
ผู้จัดการคนนั้นพูดอย่างลำบากใจ“คุณปีเตอร์ครับ นี่คือโทษฆ่าคนตายเลยนะครับ!เราไม่กล้าทำเรื่องแบบนี้หรอกครับ”
“งั้นเหรอ?งั้นคุณรอกลับบ้านเถอะ!”หลงซิ่วซิ่วเสียสติไปโดยสิ้นเชิง เดินตามความคิดของชายผมทอง
เธอใช้สายตามองไปที่ผู้จัดการอย่างเย็นชา“ร้านของพวกคุณอย่าคิดจะเปิดมันต่อไปอีกเลย ฉันจะโทรหาพ่อฉัน ฉันจะให้เขามาจัดการเรื่องนี้”
“อย่านะครับๆๆ!”ผู้จัดการไม่กล้าให้หลงซิ่วซิ่วเรียกพ่อของเธอมา ถ้าพ่อของเธอมา งั้นชีวิตของเขาจะต้องไม่สงบแน่ เขาจึงรีบพูดขึ้นมาว่า“คุณหนูหลงครับ เราทำเขาพิการได้นะครับ แต่จะฆ่าไม่ได้เด็ดขาด ทำให้เขาพิการไม่ได้แพ้การฆ่าเลยใช่ไหมครับ?ในบางครั้งฆ่าคนคนหนึ่ง มันง่ายสำหรับเขาเกินไป”
“ได้!”ปีเตอร์ยืดหลังตรง จิ้มไปที่จมูกของผู้จัดการ แล้วพูดกับเขาโดยใช้สายตามองลงมา“ผมยังจะให้เขามุดจากที่นี่ของผมไปด้วย หลังจากนั้นก็ถ่ายคลิป โพสต์ไปในโลกออนไลน์ ผมจะให้คนอื่นรับรู้ถึงการผิดใจกับผม”
ยโส โอหัง นี่ถือสถานที่ของคนประเทศหวา ทำไมถึงมีคนแบบนี้ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ยังมีคนจำนวนมากที่ไปสรรเสริญเยินยอคนอย่างหมอนี่ เป็นเพราะคำสรรเสริญเยินยอของพวกเขา ถึงทำให้หมอนี่หยิ่งผยองพองขนได้ขนาดนี้?
“ได้ยินไหม?”หลงซิ่วซิ่วใช้ถามผู้จัดการคนนั้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ผู้จัดการรีบพยักหน้าแล้วพูด“ได้ยินครับ ผมจะจัดการเดี๋ยวนี้แหละครับ ทำเดี๋ยวนี้แหละ”
“ไอ้หนุ่ม นายจะจัดการเอง หรือจะให้ฉันช่วย?”ต่อหน้าคนสองคนนี้เขาเชื่องเหมือนสุนัขตัวหนึ่ง พอหันกลับมาทางเทียนขุย กลับตาลปัตรเป็นคนที่มองคนอื่นอย่างดูถูก คนที่เหนือกว่าคนอื่น
เขาเชิดหน้าขึ้นแล้วมองไปที่เทียนขุย พลางพูดขึ้นมาว่า“อย่าคิดว่านายจะสวมเสื้อผ้าแบบนี้ นายจะเป็นคนมีตำแหน่งสูงนะ ดูน้ำหน้าของนาย อย่างมากก็แค่คนใช้แรงงาน!ฉันขอเตือนนายอย่าหาเรื่องใส่ตัวดีกว่า เดี๋ยวถึงเวลา……”
“หึๆ!หุบปากเน่าๆของแกซะ!”เทียนขุยไม่อาจทนกับคำพูดของเขาได้อีกต่อไป จึงพูดตัดบทเขาออกไป
หลังจากนั้นสายตาของเขาก็ไปอยู่บนตัวของชายผมทอง เขาพูดว่า“ได้ ในเมื่อแกชอบโพสต์ในโซเชียล งั้นฉันจะถ่ายคลิปไว้อันหนึ่งแล้วโพสต์ลงไป”
ผู้จัดคนนั้นอ้าปากตาค้าง นี่หมายความว่าไง?นี่คือการยอมแพ้เหรอ?ฉันก็คิดว่านายจะเก๋าแค่ไหนเชียว?แค่คนใช้แรงงานเท่านั้น อาศัยใช้กำลังของตัวเอง ถึงกล้าจองหองขนาดนี้?
ตอนนี้เขายอมแพ้ ต้องเห็นว่าตัวเองมีอำนาจเป็นคนที่แตะต้องไปได้ เพราะฉะนั้นถึงได้โอนอ่อน!พอคิดมาถึงตรงนี้ เขาหัวเราะหึๆ พลางพูดว่า“ผู้รู้สถานการณ์ คือผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ!คุกเข่าเองเถอะ ฉันจะถ่ายคลิปให้”
พูดจบ ผู้จัดการก็ล้วงมือถือของตัวเองออกมา แล้วเปิดกล้องถ่ายรูป
ทันทีที่เปิดกล้อง เขาก็เห็นหมัดพิฆาตพุ่งตรงไปยังหนึ่งในชายรอยสักคนหนึ่งอย่างจัง เยสเข้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?ผู้จัดการถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก เขาคิดว่าหมอนี่จะคุกเข่าลงกับพื้น ใครจะไปรู้ว่าเขาจะลงมือทำร้ายคน
หนึ่งหมัดนั้น ทำให้ชายร่างกำยำล้มลงกับพื้นทันที ไม่ขยับเขยื้อน สลบเหมือดไปในทันที
ชายร่างกำยำพวกนั้นค่อยๆได้สติกลับมา แต่ละคนโจมตีไปยังเทียนขุยอย่างโหดเหี้ยม แต่พวกเขาล้วนเป็นคนไร้ความสามารถ ไม่มีเทคนิคแม้แต่น้อย ท่าทางเหมือนหมีโง่“ปั๊กๆๆ”ผ่านไปไม่นานชายรอยสักสวมเสื้อกล้ามก็ล้มลงกองกับพื้นทั้งหมด ไม่ขยับเขยื้อน มือถือของผู้จัดการยังไม่ได้ถ่ายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ พวกเขาก็ล้มลงกองกับพื้นแล้ว
นี่เป็นกลุ่มคนที่มีความสุขถึงเมตรแปดสิบเชียวนะ ชายร่างกำยำที่น้ำหนักร้อยกว่ากิโล ทำไมถึงเปราะบางแบบนี้?
ผู้จัดการอ้าปากค้าง มองไปที่ชายฉกรรจ์ตรงหน้าที่นอนระเนระนาดอย่างเหลือเชื่อ คำพูดที่หมอนี่พูดเมื่อกี้ไม่ใช่ว่าตัวเองจะคุกเข่า แต่เป็นการบอกให้ปีเตอร์คุกเข่า!ไม่ผิดแน่ เขาบอกให้ปีเตอร์คุกเข่า!
บอดิการ์ดของเขากลุ่มนี้เป็นคนที่สามารถโจมตีคนพร้อมกันได้ถึงสิบคน ถึงจะสู้คนใช้แรงงานคนนี้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับล้มลงกองกับพื้นแบบนี้?นะ นี่คือการพบเจอกับคนเป็นวรยุทธ์แล้ว!
ถึงว่าตั้งแต่ต้นจนจบเขาถึงมีท่าทีไม่หวั่นไหว ที่แท้เขาก็เป็นคนบ้าพลังนี่เอง
เทียนขุยชักหมัดของเขากลับ แล้วพูดอย่างเย็นชา“สวะพวกนี้ใช้พื้นที่เยอะเกินไป พวกเขาไม่ควรมายืนขวางอยู่ที่นี่!ล้มลงค่อยสบายตาหน่อย”
คนอื่นๆไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ แต่หลงซิ่วซิ่วกับปีเตอร์เห็นอย่างชัดเจน คนคนนั้นจัดการทุกคนเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น พอมองลงไปที่พื้น พวกเขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะตะเกียกตะกายขึ้นมาด้วยซ้ำ ล้มสลบเหมือดทันที นี่ต้องใช้แรงมากขนาดไหนถึงทำให้คนสลบเหมือดได้ นี่มันคนอะไรกันเนี่ย?จอมยุทธ์ต้องเป็นจอมยุทธ์แน่ๆ
ผู้จัดการสั่นไปทั้งตัว เขาชี้ไปที่เทียนขุยแล้วพูดขึ้นมาว่า“นะนะนาย นะนาย!ฉันจะบอกนายนะ นี่คือคุณปีเตอร์กับคุณหนูหลง ลูกสาวของหัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย ถ้านายทำอะไรกับพวกเธอ หัวหน้าหลงไม่ปล่อยนายไว้แน่”
พอพูดมาถึงตรงนี้ เทียนขุยก็มายืนต่อหน้าของเขา เขายกมือขึ้นจับไปที่แขนของผู้จัดการ แล้วพูดขึ้นมาว่า“ช่างเถอะ ดูท่าแกจะไม่ได้ถ่ายคลิปอะไรไว้ ในเมื่อแกชอบทำลายสองมือของคนอื่นดีนัก งั้นฉันก็จะทำให้แกพิการซะ”
ผู้จัดการที่ได้ประโยคนี้ เหมือนทั่วทั้งร่างกายของเขาถูกไฟช็อต รีบชักมือกลับมาทันที แต่เขาพบว่าตัวเองชักกลับมาไม่ได้ด้วยซ้ำ เพราะว่าเรี่ยวแรงมือของหมอนนี่แข็งแกร่งมาก เหมือนตัวเองจับลูกเจี๊ยบไว้ตัวหนึ่ง ถึงลูกเจี๊ยบตัวนี้จะดิ้นรนยังไง คนที่สามารถใช้หมัดจัดการชายร่างกำยำได้ ใช่คนที่ไหนกัน!
“ไม่เอา!”ผู้จัดการร้องโหยหวนดังลั่น เพราะเห็นได้ชัดว่าเขารับรู้ได้ถึงว่าหมอนี่ใช้แรง ได้ยินเพียงเสียงดังกร๊อบขึ้นหนึ่งเสียง กระดูกของเขาหักทันที มันง่ายราวกับหักกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง
เขาอุ้มแขนที่ถูกทำจนหัก เป็นเก้าสิบองศา เขาร้องโหยหวนอย่างทรมาน ความเย่อหยิ่งเมื่อครู่ไม่มีอยู่แล้ว แทนที่ด้วยใบหน้าเจ็บปวดแสนสาหัส พวกดูถูกคนอื่นไม่สมควรได้รับการปฏิบัติเหมือนคน
ในตอนที่เขาจะล้มลงไปนั้น เทียนขุยคว้าตัวเขาหมับ แล้วพูดอย่างเย็นชา“อย่ารีบสิ ยังมีมืออีกข้างนะ”
พูดจบ เขาถกแขนเสื้อของเขาขึ้นมา เผยให้เห็นแขนของเขา หลังจากนั้นก็มีเสียงจึๆๆพลางพูดขึ้นมาว่า“ดูมือบอบบางของแกสิ เหมือนผู้หญิงเลยว่ะ ถ้าไม่หักแขนของแกทิ้ง จะทำให้แกผิดหวังเอานะ”