จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 296
เขาพลางมอง พลางสั่งทั้งสองคนว่า “พวกแกก็ดูหน่อยละกัน ดูว่ามีชายกำยำ สวมชุดทหาร ดำๆ ตาโตขนาดนั้น ตัวสูงขนาดนั้น กล้ามเป็นมัดๆ ผมสั้น”
ทั้งสองไม่กล้าสงสัยคำพูดของเหลียงเจิ้ง เพราะเหล่าพี่น้องของพวกเขานอนโรงพยาบาลกันหมดแล้ว ไม่มีทางล้อเล่นแน่นอน!ก็มีเพียงคนที่มีลักษณะเฉพาะแบบนี้เท่านั้นที่ทำให้เหล่าพี่น้องของตนบาดเจ็บได้!
คนพวกนี้หารอบๆห้องโถงตระกูลถังโดยรอบแล้ว เมื่อมั่นใจว่าการ์ดของเขาไม่อยู่แน่แล้ว จึงได้โล่งอก
“คุณชายเหลียง การ์ดคนนั้นของมันไม่อยู่ที่นี่!พวกเราหาหลายรอบแล้ว” จ้าวก่วงกล่าว
หยางซิงก็กล่าว “ผมก็ดูรอบๆแล้ว ไม่เห็นคนตามลักษณะที่คุณว่า คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นคนชั้นสูง สวมใส่ชุดสูททั้งนั้น ไม่มีใครสวมชุดทหารมาเลยสักคน”
เหลียงเจิ้งก็ไม่เห็นคนนั้น ด้วยเหตุนี้เขาจึงถอนหายใจยาวๆ ตอนนี้ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเลศนัย เขาจ้องไปที่ฟางเหยียนอย่างไม่ละสายตา โบกมือ แล้วกล่าว “ฉันก็หารอบๆแล้ว ไม่อยู่จริงๆ ไป!พวกเราไปจัดการมันกัน แม่ง”
คนเหล่านี้คุ้นเคยกับเรื่องการรังแกคนอื่นจนเป็นนิจแล้ว ดูท่าทางของคนนั้นไม่เหมือนคนโหดเหี้ยม จึงได้ตามไป
ไม่นาน สามคนล้อมไว้คนหนึ่งซ้ายคนหนึ่งขวา อีกคนอยู่ด้านหลังของฟางเหยียน เหลียงเจิ้งนั่งทางด้านขวาของฟางเหยียน จ้าวก่วงนั่งทางด้านซ้าย หยางซิงที่ตัวค่อนข้างเตี้ยยืนอยู่ด้านหลังของเขา ทั้งสามล้อมฟางเหยียนไว้แบบนี้
เหลียงเจิ้งนั่งไขว่ห้าง แล้วกล่าวอย่างดูแคลนว่า “ไอ้เปรต พวกเราเจอกันอีกแล้วนะ!”
ฟางเหยียนหันหน้าไปมองเขาอย่างเย็นชา ไม่พูดอะไร เพียงแค่หันกลับมาอย่างสบายๆ
นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์ที่เหลียงเจิ้งคิดไว้จะไม่เกิดขึ้น เขาคิดว่าคนนี้จะตกใจ ถึงขั้นอาจจะตกใจจนลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างไร้สติ ใครจะรู้ว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาใดๆเลย ยังคงหน้านิ่งสงบไม่เปลี่ยน
นี่ นี่มันไม่ใช่อะ เขาอยู่ที่นี่คนเดียว แล้วทำไมยังสงบได้ขนาดนี้อีกนะ?
หรือการ์ดของเขาซ่อนตัวอยู่ใกล้นี่กันนะ?
เมื่อเหลียงเจิ้งนึกถึงจุดนี้ จึงรีบมองไปรอบๆ เมื่อหันหัว เขาก็มั่นใจแล้ว
เป็นไปไม่ได้ พวกเขาสามคนทุกคนหามองไปรอบๆ ทั้งหมดสามรอบ มั่นใจแล้วว่าการ์ดของเขาไม่อยู่ จึงได้เดินมา
ดังนั้น เขาเพียงแค่กำลังเสแสร้งใจเย็น ถูก ใช่ ต้องแสร้งใจเย็นแน่นอน!
“เหอะเหอะ!” เหลียงเจิ้งแสดงท่าทางได้เปรียบ แล้วกล่าว “ไอ้เปรต ฉันบอกแล้ว ว่าเรื่องเมื่อวาน ไม่จบง่ายๆแบบนั้นหรอกนะ วันนี้พวกเรามาทำความรู้จักกันหน่อยมั้ย!”
ความจริงเมื่อวานเหลียงเจิ้งไม่ได้พูดอะไร เขาตกใจเทียนขุยจนไม่กล้าพูดตั้งนานแล้ว!ฟางเหยียนขำไม่ได้จริงๆว่าเขาได้พูดว่าเรื่องไม่มีทางจบง่ายๆแบบนั้นแน่
“ไง?วันนี้การ์ดของแกไม่อยู่ ตอนนี้แกคงจะเสียใจมากที่ไม่พามันมาสินะ?
เหลียงเจิ้งพูดพลาง ก็ยกมือขึ้นไปวางไว้ที่ไหล่ของฟางเหยียนอย่างสะใจ แสดงท่าทางข่มขู่ออกมา
เพิ่งจะวางที่ไหล่ เขาก็คิดที่จะออกแรงขยับตัวของฟางเหยียน และจะจับหัวของเขาไว้ จากนั้นทั้งสองที่อยู่ด้านหลังก็ทุบลงไปหนักๆ แต่ ไม่ว่าเขาจะทำยังไงก็ขยับไม่ได้!
เขารีบส่งสายตาให้จ้าวก่วง กล้ามเนื้อของจ้าวก่วงมีมากกว่านิดหน่อย จึงได้ยกมือขึ้นมาไปจับที่แขนของฟางเหยียน แต่เขากลับขยับแขนนั้นไม่ได้ แขนนั้นเหมือนกับหนักหนึ่งพันกรัมก็มิปราณ
เมื่อเหลียงจงเห็นว่าขยับไม่ได้ จึงได้เอามือกลับไป เขาหัวเราะ “น่าสนใจนะมึง พวกเราไปเล่นกันหน่อยไป!”
ฟางเหยียนหันไปมองเหลียงจง แล้วถาม “เล่นอะไร?เล่นยังไง?”
คำพูดของฟางเหยียนเลือดเย็น เย็นชามา จนเหลียงเจิ้งรู้สึกว่าตัวเองตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่เข้าใจ ความจริงแล้วนี่คือแรงอาฆาต ฟางเหยียนได้เตือนเหลียงเจิ้งแล้ว เหลียงเจิ้งยิ้ม “ออกไปก่อน แกจะเล่นอะไรก็ได้ตามใจแก ได้ทั้งนั้น!”
“ไม่อยาก!” ฟางเหยียนตอบอย่างนิ่งสงบ
เหลียงเจิ้งดูแคลน “แกไม่กล้าล่ะซิ!สบายใจได้ ฉันมีวิธีให้แกออกไป”
“นี่!” ขณะนี้ มีรปภ.ผ่านมาทางนี้พอดี เหลียงเจิ้งยืนขึ้น แล้วพูดกับรปภ.คนนั้น “รปภ. ไอ้นี่มันฉวยโอกาสเข้ามา รีบลากมันไปซะ!”
เพียงแค่ลากฟางเหยียนออกไปได้ เขาก็มีวิธีจัดการเขามากมาย!
รปภ.เป็นชายที่ดูไปแล้วประมาณสามสิบปี ท่าทางไม่มีพิษมีภัย เขารู้จักเหลียงเจิ้ง คุณชายของเหลียงซื่อกรุ๊ป มีเงินมีอำนาจ ใครไม่รู้จักบ้าง มองไปตามที่เหลียงเจิ้งชี้ไป คนที่สวมเสื้อเชิ้ตกางเกงยีน ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าคนนี้ต้องทำผิดต่อคุณชายเหลียงแน่นอน ดังนั้นเขาจึงเดินเข้ามา พยักหน้าด้วยความเคารพแล้วกล่าว “คุณชายเหลียง สวัสดีครับ!”
เหลียงเจิ้งมองรปภ.จากหัวจรดเท้า มองไปที่ฟางเหยียนอย่างมั่นใจ แล้วกล่าว “เอาไง?บอกแกตั้งแต่แรกแล้วว่าอย่ามายุ่งกับฉัน ออกมา!กูจะรอมึงข้างนอก การ์ดคนนั้นของมึงไม่อยู่ มึงเตรียมตัวตายได้เลย!”
เมื่อพูดจบเหลียงเจิ้งจึงพูดกับรปภ.คนนั้นว่า “ลากมันออกไป!อยู่นี่แล้ว ขวางหูขวางตาฉัน”
รปภ.คนนั้นรีบกล่าวอย่างน้อมรับคำสั่ง “ครับๆๆ!ผมรู้แล้วว่าต้องทำยังไง คุณชายเหลียง”
เมื่อพูดจบ รปภ.ก็ยืดอก จัดชุดของตัวเอง ไม่ว่าคนนี้จะถูกเชิญเข้ามา หรือฉวยโอกาสเข้ามา เพียงแค่ทำผิดต่อคุณชายเหลียง ก็ต้องถูกลากออกไปแน่นอน ด้วยเหตุนี้เขาจึงเบ่งอำนาจ แล้วถาม “แกจะไสหัวไปเอง?หรือจะให้ฉันเรียกคนมาลากแกไป?”
ฟางเหยียนไม่พูดอะไร ถึงขั้นขี้เกียจจะมองรปภ.
รปภ.ขมวดคิ้ว ชี้ไปที่ฟางเหยียน แล้วพูดอย่างดุดันว่า ”นี่ กูพูดกับมึงอยู่นะเว่ย มึงหูหนวกหรือไง?รีบไสหัวไปซะ นี่ไม่ใช่ที่ของมึง“
ฟางเหยียนยังไม่พูดอะไร กลิ่นอายแห่งความหอมตะหลบอมอวนมาที่เขา ไม่ต้องมองก็รู้ว่าหลินถงมาแล้ว นี่เป็นกลิ่นหอมเฉพาะของหลินถง ทุกคนมองไปตามกลิ่นหอม ก็ได้เห็นหลินถงสาวงามอันดับหนึ่งของเขตซีหนาน
หลินถงเป็นพวกที่ดึงดูดเด็กสิบปีจนกระทั่งถึงผู้เฒ่าวัยเจ็ดสิบปีให้หลงใหลได้ ดังนั้นเมื่อเธอปรากฏกาย ทุกคนที่อยู่รอบๆล้วนจับจ้องไปที่เธอ
“แกพูดว่าอะไรนะ?” หลังจากที่หลินถงเดินมาแล้ว จึงได้ถามรปภ.นั้นด้วยสายตาเลือดเย็น
รปภ.ชะงักไป จากนั้นก็ส่งเสียงอ้าออกมา แล้วพยักหน้ารัวๆกล่าวว่า “คืออย่างนี้ครับ คุณนาย ไอ้นี่มันฉวยโอกาสเข้ามา คิดตีเนียนกินฟรี แล้วยังหาเรื่องคุณชายเหลียงอีก ผมเห็นเข้าพอดี จึงเตรียมจะไล่มันออกไปครับ”
“ใช่ คุณหลิน!ไอ้นี่มันมาเพื่อตีเนียนกินฟรีในงาน เมื่อวานยังต่อยสหายของพวกผมบาดเจ็บไปตั้งหลายคน ไม่คิดว่าวันนี้จะได้เจอมันที่คฤหาสน์ของพวกคุณ คุณสบายใจได้ ผมเข้าใจดี ผมจะไปจัดการปัญหาด้านนอก ไม่มีทางกระทบตระกูลถังแน่นอนครับ” หลังจากที่หลินถงเดินเข้ามาแล้ว เหลียงเจิ้งยังไม่ละสายตาไปไหนเลย จ้องมองที่หลินถงอย่างไม่ละสายตา แม้แต่ตอนพูดก็ยังไม่ยอมมองไปทางอื่น