จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 31
บทที่ 31 จางเจียวเจียวถูกรังแก
“คิดดูสิเราไม่ได้เดินเล่นด้วยกันมานานมากแล้ว ครั้งก่อนที่เราเดินเล่นด้วยกัน ก็ผ่านมาครึ่งปีกว่าแล้ว ทีแรกคิดว่าเราจะไม่ได้รวมตัวกันแล้วซะอีก ใครจะไปคิดว่าจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง”
“นั่นสิ นั่นสิ หลังจากที่ครอบครัวคุณนายเย่เกิดเรื่องขึ้น เราก็ไม่ค่อยได้ออกมาเดินเล่นเลย นึกถึงเมื่อก่อน เราจะนัดกันออกมาเดินเล่นทุกวันพุธ ศุกร์ อาทิตย์เลย ชั่วพริบตาเราไม่ได้ออกมาเดินเล่นด้วยกันเป็นเวลาครึ่งปีแล้ว เฮ้อ!”
คนที่กล่าวประโยคคือหญิงที่แต่งงานแล้วแต่ยังคงความงดงามอยู่ แม้ว่าจะอายุ40กว่าเข้าไปแล้ว แต่เพราะบำรุงอย่างดี ดูภายนอกราวกับวัยสามสิบ พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทของจางเจียวเจียว หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับครอบครัวของจางเจียวเจียว พวกเธอก็ไม่ได้เจอจางเจียวเจียวอีกเลย
ข้อแรกคือเกรงว่าจะยืมเงิน ข้อสองคือเกรงว่าจะดึงให้พวกเธอต่ำลง
ในอดีตจางเจียวเจียวเป็นคนที่พวกเธอต้องเยินยอไม่หยุดปาก แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว
“คุณนายเย่ ลูกสาวของท่านเก่งจังเลย ถึงขั้นทำให้เศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งตะวันตกเฉียงใต้ยอมร่วมงานด้วย น่าอิจฉาที่สุด”
“เค้าเรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น”
ทั้งคู่กล่าวชมจางเจียวเจียวไม่หยุดปาก จางเจียวเจียวกล่าวอย่างถ่อมตัว “คุณนายหวง คุณนายหยางพูดเกินไปแล้ว”
“เฮ้อ ใช้สิ คุณนายเย่ มรกตที่คอของพี่สวยจังเลย คงจะหลายล้านเลยสินะ” คุณนายหวงจ้องมองมรกตที่อยู่บนลำคอของจางเจียวเจียว
จางเจียวเจียวตอบรับสั้น ก่อนกล่าวเสริม “ลูกเขยฉันให้มาน่ะ”
“ลูกเขยของพี่ น่ารักจริงๆ เลย ทีแรกคนในจินโจวบอกว่าเขาเป็นเขยแต่งเข้าด้วย”
พวกเธอคุยเล่นกันไปมา ก็เดินมาถึงหน้าร้านวี่ผิ่นเซวียน ร้านวี่ผิ่นเซวียนเป็นร้านเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงของจินโจว ไม่ว่าจะสู้ร้านหยกตี้เซิ่งหยวนของหลิวเหอฉางไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงของจินโจว ชิ้นหนึ่งอย่างน้อยก็หลายแสนขึ้น
“เราเข้าไปดูหน่อยเถอะ กำไลข้อมือนี่ล้าสมัยแล้ว”
ทั้งสามเดินเข้าไปที่ร้านวี่ผิ่นเซวียน คุณนายหยางและคุณนายหวงดูไปเรื่อย ด้วยทีท่าไม่ยินดี
แต่จางเจียวเจียวเพียงแค่จ้องมองเท่านั้น ต่อให้ชอบก็ไม่กล้าพูดออกมา
ยังไงซะตอนนี้ในตัวเธอก็ไม่มีเงินอยู่เลย!
ในเวลานี้เอง ผู้จัดการของวี่ผิ่นเซวียนมุ่งเข้าไปที่จางเจียวเจียว กล่าวถาม “คุณนายคะ ไม่ทราบว่ามรกตที่คุณสวมอยู่จะถอดออกมาให้เราดูหน่อยได้หรือไม่?”
จางเจียวเจียวฉงน กล่าวถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะดูของฉันไปทำไมกัน?”
ผู้จัดการส่งยิ้ม “จะถอดออกมาให้เราดูหน่อยได้หรือไม่? ดิฉันรู้สึกว่าหยกชิ้นดีเป็นหยกชั้นดี ฉันอยากจะดูความบริสุทธิ์ของมันสักหน่อย”
คุณนายหวงและคุณนายหยางเดินเข้ามา จางเจียวเจียวถอดมรกตที่สวมอยู่บนลำคอออกมาด้วยรอยยิ้ม
ผู้จัดการนำไปส่องสักครู่ ก่อนที่จะกล่าวถาม “คุณนายขอสอบถามหน่อยได้ไหมว่าหยกขึ้นนี้ท่านซื้อมาจากที่ไหน?” ผู้จัดการร้านเริ่มใช้น้ำเสียงที่แข็งกระด้าง ทำทีท่าสอบสวน
จางเจียวเจียวตอบรับสั้นๆ “ลูกเขยฉันให้มา”
“ถ้างั้นไม่ทราบว่าลูกเขยของคุณซื้อมาจากที่ไหน?” ผู้จัดการบีบบังคับ
จางเจียวเจียวส่ายหน้า “ฉัน ฉันไม่รู้”
“โอเค คุณรอสักครู่ ฉันจะเรียกเถ้าแก่ของเราออกมา” ผู้จัดการถือมรกตเอาไว้ในมือ ติดต่อหาเจ้านายของเธอ
“เอ่อ คุณนายเย่ นี่มันเรื่องอะไรกัน?” คุณนายหวงกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ
จางเจียวเจียวส่ายหน้า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ไม่นาย เจ้าของร้านวี่ผิ่นเซวียนหวงยู่หัวเดินเข้ามา หวงยู่หัวมีทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้าน มีรูปร่างอ้วนฉุหูกาง ถือว่าเป็นบุคคลที่มีฐานะของจินโจว
เขาหยิบมรกตขึ้นพิจารณา ก่อนที่จะวางมันลง “ไม่ผิดแน่ ต้องเป็นชิ้นนี้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความบริสุทธิ์หรือคุณภาพก็เป็นแบบเดียวกันเลย ชิ้นนี้แน่ ไม่ผิดหรอก”
“นี่เป็นของคุณงั้นเหรอ?” หวงยู่หัวหยิบมรกตขึ้นกล่าวถามจางเจียวเจียว
จางเจียวเจียวพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว ลูกเขยของฉันให้มา มีปัญหาอะไรหรือคะ? เถ้าแก่หวง”
“เหอะ!” หวงยู่หัวเอ่ยอย่างเย็นชา “คุณรู้ไหมว่ามรกตชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่?”
จางเจียวเจียวลังเลไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าว “น่าจะหลายแสน!”
“หลายแสน!” หวงยู่หัวพึมพำ
“คุณนายเย่ สถานการณ์ของคุณในตอนนี้ ผมคิดว่าพวกคุณไม่น่าจะมีเงินซื้อมรกตชิ้นนี้ได้” หวงยู่หัวกล่าวอย่างเย็นชา เขารู้จักจางเจียวเจียวอยู่แล้ว แต่ก่อนจางเจียวเจียวเป็นลูกค้าประจำของที่นี่
“เถ้าแก่หวง คุณหมายความว่ายังไง?” จางเจียวเจียวกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ
หวงยู่หัวกล่าว “มรกตชิ้นนี้ ในร้านของผมมูลค่า100ล้าน คุณว่า อย่างลูกเขยของคุณ จะมีสิบล้านมาเพื่อซื้อมรกตชิ้นนี้ไหม?”
ประโยคของหวงยู่หัว ทำให้จางเจียวเจียวตื่นตระหนกอย่างมาก 100ล้าน! น่าเหลือเชื่อ
หากมรกตนี้มีราคาร้อยล้าน ถ้าอย่างนั้นฟางเหยียนก็ไม่มีปัญญาซื้อจริงๆ
ไม่ต้องให้ใครพูด ตัวเขาเองรู้ดี
ฟางเหยียนไปเกณฑ์ทหารห้าปี จะไปเอาตั้งร้อยล้านมาจากไหน หากมีเป็นร้อยล้านจริงๆ เขายังจะมุดอยู่ในที่คับแคบกับลูกสาวของเธอได้ยังไง แถมยังตอนโซฟาทุกคน?
“เอ๋ คุณนายเย่ เถ้าแก่หวงพูดถูก ลูกเขยของพี่ก็แค่ทหาร เขาจะไปเองเงินมากมายมาจากที่ไหนกัน?” คุณนายหวงจับจ้องจางเจียวเจียวอย่างเค้นเอาคำตอบ
คุณนายหยางส่ายหน้า “ไม่คิดเลยว่าลูกเขยของพี่จะเป็นคนแบบนี้!”
จางเจียวเจียวใบหน้าร้อนผ่านขึ้นมาในทันที แม้ว่าเธอจะจน แต่ไม่คิดเลยว่าฟางเหยียนจะขโมยของแบบนี้ได้
ถูกจับได้ต่อหน้าต่อหน้า แถมยังอยู่กับเพื่อนของเธออีกด้วย ทำให้เธอขายขี้หน้ามากเกินไปแล้ว
“จางเจียวเจียว ไป ผมจะจับคุณไปสถานีตำรวจ บังอาจกล้าขโมยของในร้านวี่ผิ่นเซวียน” หวงยู่หัวจับแขนของจางเจียวเจียวเอาไว้ ทำให้ดึงดูดสายตาของคนรอบข้างในทันที
อีกด้าน การประชุมบริษัท
จางฉี่เหา จางซื่อตง จางซื่อข่าย และผู้บริหารระดับสูงต่างก็มาถึงห้องประชุมเป็นที่เรียบร้อย
แน่นอน ว่าเย่ชิงหยู่ก็อยู่ในนั้นด้วย แถมยังนั่งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับจางฉี่เหามากที่สุด
ผู้บริหารระดับสูงต่างสังเกตเห็นเย่ชิงหยู่ เย่ชิงหยู่เห็นว่าเป็นหลานสาวของจางฉี่เหา แต่กลับทำงานที่หนักที่สุดและเหนื่อยที่สุดในบริษัท บัดนี้เธอได้นั่งอยู่ที่ห้องประชุม หลายๆ คนต่างคาดเดาไปต่างๆ นานา
จางฉี่เหาสูดหายใจเข้า “วันนี้ ที่เราเปิดการประชุมในครั้งนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญจะประกาศให้ทุกคนได้ทราบ”
“รอเดี๋ยว!” ไม่ทันไร จางไห่เฟิงก็พุ่งเข้ามาจากด้านนอก
เมื่อจางฉี่เหาเห็นจางไห่เฟิง ชายชราขมวดคิ้วแน่น “แกจะทำอะไร? ไสหัวออกไปซะ”
การประชุมในครั้งนี้จางไห่เฟิงไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม การประชุมในครั้งก่อนๆ เขาจะได้รับสิทธิ์เข้ามานั่งฟังด้วย
“ไห่เฟิง! ออกไปซะ” จางซื่อตงทำตาขวางใส่จางไห่เฟิง
จางไห่เฟิงแสยะยิ้มออกมา “คุณปู่ ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย เรื่องนี้ต้องประกาศต่อหน้าผู้บริหารระดับสูงทุกท่าน”
“เลิกก่อเรื่องได้แล้ว ไสหัวออกไป!” จางฉี่เหาตะคอกเสียงดัง
แต่จางไห่เฟิงไม่แยแส พลันชี้ไปที่เย่ชิงหยู่ “ผมขอฟ้องร้อง เย่ชิงหยู่ยักยอกทรัพย์สินของบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต”
บทที่ 31 จางเจียวเจียวถูกรังแก