จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 321
ฟางเหยียนเอ่ยขึ้นอย่างสงบเยือกเย็น “ได้ เห็นแก่ที่แกสองคนมีความจริงใจขนาดนั้น ฉันก็จะปล่อยพวกแก!แต่มีเรื่องหนึ่งฉันต้องเตือนพวกแกสองคนสักหน่อย”
ได้ยินฟางเหยียนพูดว่าจะปล่อยทั้งสองคนแล้ว บนใบหน้าของทั้งสองคนก็ปรากฏรอยยิ้มของการรอดชีวิตจากภัยพิบัติออกมาในทันที
“คุณว่ามาเลยครับ คุณว่ามาเลย!” ทั้งสองคนรีบพยักหน้า
ฟางเหยียนเอ่ย “ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่เมืองจินโจว มีคนหนึ่งที่ชอบกระทำการลับหลังเพื่อก่อกวนแบบนี้ก็เคยสาบานอย่างพวกแกเช่นเดียวกัน บอกว่าตัวเองไม่อาจจะทำเรื่องนั้นได้ หากเรื่องนั้นเป็นเขาที่ทำ ก็จะออกจากบ้านโดนรถชน ต่อมา เขาถูกรถชนขาขาดทั้งสองข้างจริงๆ เพราะว่าเรื่องนั้นก็คือเขาที่ทำ ฉันหวังว่าพวกแกจะสามารถจำคำสาบานนี้ บอกว่าจะไม่ทำเรื่องที่รังแกคนอ่อนแอแบบนี้อีก ก็อย่าทำอีกเลย หากให้ฉันรู้ว่าพวกแกทำ คำสาบานที่ว่าออกจากบ้านจะถูกรถชน จะกลายเป็นจริง!ถึงเวลาจะชนเพียงแค่ขาทั้งสองข้างขาดหรือไม่ ฉันก็ไม่กล้ารับประกันแล้ว!”
ที่ฟางเหยียนพูดก็คือเรื่องนั้นของจางไห่เฟิง ใช่แล้ว ขาทั้งสองข้างของเขาถูกชนขาดก็คือการจัดการของฟางเหยียน
“ครับๆๆ!” ทั้งสองคนพยักหน้าติดต่อกันพร้อมกับเอ่ย “พวกเราพูดเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำ ต่อไปจะต้องทำตัวเป็นคนดีอย่างแน่นอน”
ฟางเหยียนพยักหน้าเล็กน้อย เดินขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว เอ่ยว่า “ฉันเชื่อพวกแก แต่พวกแกต้องทำให้ฉันเชื่อใจ”
“แมวป่า เอามีดสองเล่มให้ฉัน!” ฟางเหยียนสั่งออกไปหนึ่งประโยค
แมวป่าพยักหน้าอย่างหนักหน่วงพร้อมกับเอ่ย “ครับ!”
จากนั้นหยิบมีดสองเล่มออกมาจากตัวลูกน้องลุกขึ้นเดินมาทางฟางเหยียน ยังไม่ทันเดินมาถึงด้านหน้าของฟางเหยียน ฟางเหยียนก็เอ่ยขึ้นว่า “วางไว้ตรงหน้าพวกมันสองคนเถอะ!ฉันจะให้พวกมันทำคำสาบานของตัวเองให้เป็นจริง”
แมวป่านำมีดสองเล่มแยกวางไว้ที่ด้านหน้าของจ้าวก่วงและหยางซิง จากนั้นถอยลงไปอย่างเงียบๆ คุกเข่าลงบนพื้นต่อ
ทั้งสองคนสบตากันแวบหนึ่ง ไม่รู้เลยว่าเตานี้มีเจตนาอะไร
หรือว่าจะให้ทั้งสองคนผ่าท้องฆ่าตัวตายงั้นหรอ? หรือว่าให้ทั้งสองคนหยิบมาปาดคอตัวเอง?
ไม่ว่าเป็นอย่างไหน นั่นก็ตายหมดนี่นา!
นี่ให้โอกาสที่ไหนกัน?
คิดมาถึงตรงนี้ ทั้งสองคนร้องขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “ไม่เอาครับ คุณฟาง พวกเรามีความเสียใจและคิดจะแก้ตัวใหม่จริงๆ ขอร้องคุณอย่าฆ่าพวกเราเลยนะครับ!พวกเราอายุยังน้อยอยู่เลย ยังไม่อยากตาย!”
ฟางเหยียนหัวเราะเหอะๆอย่างประชดประชันพร้อมกับเอ่ย “ฉันไม่เคยบอกให้พวกแกตายสักหน่อย!ฉันก็แค่กลัวว่าความจำของพวกแกจะไม่ดี ผ่านไปสองวันก็จะลืมคำสาบานในวันนี้แล้ว ดังนั้นก็เลยตั้งใจเพิ่มความทรงจำที่ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นให้กับพวกแกโดยเฉพาะ ตัดนิ้วของตัวเองสิ ต่อไป พวกแกมองเห็นนิ้วที่ไม่มีอยู่นั่นก็สามารถนึกถึงคำสาบานที่ให้ไว้ในวันนี้ได้แล้ว แบบนี้ ฉันคิดว่าพวกแกคงจะไม่มีทางลืม”
สองคนนี้ก็ทำเรื่องที่รังแกคนแบบนั้นมาไม่น้อย คนธรรมดาที่ไม่มีกำลังไม่มีอำนาจ ก็มักจะถูกพวกเขารังแกอยู่บ่อยๆ การกระทำของลูกคนรวยเหล่านี้ ยืนยันความเป็นจริงของประโยคนั้นได้เป็นอย่างมาก มีเงินสามารถทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้จริงๆหรอ?
ใช่แล้ว มีเงินสามารถทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้จริงๆ!
“หา!” บนใบหน้าของทั้งสองคนต่างก็เหงื่อตกออกมา พวกเขาสบตากันแวบหนึ่ง สายตาทั้งจนปัญญาทั้งหวาดกลัว
“คุณ คุณฟาง ความจำของผมดีมาก!ตอนเรียนประถม ท่องกลอนหนึ่งบท ผมห้านาทีก็สามารถท่องจำได้แล้ว วันนี้เรื่องที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจขนาดนั้น ผมคิดว่า ชีวิตนี้ผมไม่มีทางลืมหรอกครับ” หยางซิงเอ่ยขึ้นอย่างกลับกลอก
“งั้นหรอ?” สีหน้าของฟางเหยียนอึมครึมลงมา เขายกมือขึ้นชูนิ้วหนึ่งขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยว่า “ฉันไม่มีเวลามากมายขนาดนั้นที่จะเสียไปกับพวกแกแล้ว ฉันนับเพียงแค่สาม หากพวกแกยังไม่ลงมือล่ะก็ งั้นฉันก็จะมาช่วยพวกแกเอง ถึงเวลาก็ไม่ใช่นิ้วมือง่ายๆแบบนั้นแล้ว ฉันจะเอาทั้งมือของพวกแก!”
“หนึ่ง!”
นี่ทำให้สีหน้าของทั้งสองคนตกใจจนกลายเป็นสีเขียว พวกเขาเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ที่ไหนกัน ตกใจจนรีบหยิบมีดที่อยู่บนพื้นขึ้นมา เอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกักว่า “ตัดครับ พวกเราตัด พวกเราตัดเดี๋ยวนี้!”
เทียบกับมือข้างหนึ่งแล้ว ตัดเพียงแค่นิ้วมือนิ้วเดียวของตัวเอง นี่คือแตกต่างราวฟ้ากับดินจริงๆ!
คนๆนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาสามารถยุแหย่ได้ พวกเขายุแหย่คนแบบนี้ไม่ไหว ไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงตัดแล้ว!
จ้าวก่วงรูปร่างใหญ่ ค่อนข้างกล้าหาญ จับมีดเล่มนั้นเอาไว้ นำนิ้วมือของตัวเองวางลงไปที่บนพื้น เขากัดฟัน ร้องขึ้นเสียงดัง “อ๊าก!” หลังจากร้องตะโกนออกมาอย่างรุนแรง เหมือนกับกำลังให้ความกล้ากับตัวเองแล้ว
จากนั้น มีดก็ร่วงสู่บนนิ้วมือของเขา นิ้วนั้นแยกตัวออกในทันที
“เคร้ง!” มีดตกลงบนพื้น จ้างก่วงได้เหงื่อออกเต็มหัวแล้ว เขากัดริมฝีปากเอาไว้ กัดจนริมฝีปากเลือดออก ตัวเองตัดนิ้วของตัวเอง นี่ต้องหยิบเอาความกล้าขนาดไหนออกมากันถึงจะสามารถทำได้!
เห็นได้ว่า จ้าวก่วงคือคนโหดคนหนึ่ง!
หลังจากตัดเสร็จ เขาก้มศีรษะลงเหมือนยกภูเขาออกจากอก ยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว นั่นคือความเจ็บแบบทะลุหัวใจ ปกตินิ้วมือหากถูกก้อนหินทุบจนได้รับบาดเจ็บก็เจ็บมากแล้ว นับประสาอะไรกับ ตัวเองลงมือตัดนิ้วของตัวเองล่ะ!
หยางซิงเป็นคนที่อาศัยบารมีของนายเที่ยวรังแกชาวบ้านตามแบบฉบับ เขาขี้ขลาด กลัวเจ็บ!เขาตัดพร้อมกับร้องไห้ไปด้วย แม้กระทั่งตัดไปสองทีแล้วก็ยังไม่ตัดโดน ครั้งแรกคือตัวเองดึงกลับเข้ามา ครั้งที่สองคือไม่กล้าลงมีด ประสาทส่วนสมองมีจิตสำนึกในการป้องกันตัวเองอยู่ คนที่ค่อนข้างขี้ขลาดอีกทั้งจิตสำนึกในการป้องกันค่อนข้างแข็งแแกร่งแบบนั้น ตอนที่ร่างกายได้รับการคุกคาม จะกระจายจิตสำนึกในการป้องกันตัวเองออกมา!หยางซิงก็เป็นเช่นนี้ สมองใหญ่กระจายจิตใต้สำนึกในการป้องกันตัวเองออกมา!ดังนั้นเขาจึงตัดไม่โดนนิ้วของตัวเอง
“ทำไม?ต้องการให้ฉันมาช่วยแกไหม?” ฟางเหยียนดูหยางซิงที่กำลังร้องไห้ เอ่ยถามขึ้นอย่างเยือกเย็น
หยางซิงฮือๆๆส่ายศีรษะ จ้าวก่วงกัดฟันเอ่ยขึ้นว่า “ไม่เป็นไร กัดฟันแน่น เดี๋ยวเดียวก็ผ่านไปแล้ว!”
หยางซิงกัดฟันแน่น เหวี่ยงลงไปอย่างรุนแรงด้วยตัวเอง คราวนี้ สำเร็จแล้ว!นิ้วของเขาแยกออกจากมือ
เจ็บ ความเจ็บแบบทะลุหัวใจม้วนตัวเข้ามา แทบจะชาไปทั้งสมองใหญ่ของตัวเอง เพียงแต่ก็เป็นเพราะความเจ็บปวดนี้ ก็ทำให้เขารักษาความรู้สึกตัวเอาไว้ได้บ้าง ไม่ได้เป็นลมหมดสติลงไป
เหลียงเจิ้งเบิกตาโพลงมองดูทั้งสองคน กำลังเตรียมจะพูดอะไร กลับพบว่าลิ้นของตัวเองพันกันยุ่ง คำเดียวก็พูดไม่ออก
นี่โอเวอร์เกินไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะตัดนิ้วของตัวเอง
ฟางเหยียนก้าวขาขึ้นไปข้างหน้าช้าๆ มุ่งเข้าไปทางเหลียงเจิ้งและคนอื่นๆ
จ้าวก่วงและหยางซิงรีบโขกศีรษะพร้อมกับเอ่ยขึ้นในทันทีว่า “พวกเราทำแล้ว ขอร้องคุณปล่อยพวกเราไปเถอะครับ?”
ฟางเหยียนไม่พูดอะไรออกมา เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเงียบเชียบ ที่ยืนอยู่มีเพียงแค่สองคนแล้ว เหลียงเจิ้ง และเขา ทุกคน ต่างก็คุกเข่าอยู่บนพื้นกันหมด เหลียงเจิ้งมองดูฟางเหยียนที่เดินมาทางตัวเอง ในใจของเขาตุบๆเต้นอยู่ตลอด ในสมองทะลักคำถามออกมาเป็นกอง
เขาเป็นคนยังไงกันแน่? ทำไมถึงได้น่ากลัวขนาดนั้น?
เวลานี้ เขานีกถึงคำเตือนของพ่อตัวเองขึ้นมาได้ เหลียงจงเคยพูดเอาไว้ว่า ให้เขาอย่าไปยั่วเย้าคนๆนั้น เขาไม่เข้าใจว่าทำไม นึกว่าเหลียงจงเพียงแต่ไม่อยากให้ตัวเองก่อเรื่องข้างนอกเท่านั้น ตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้เหตุผลแล้ว
คนๆนี้คือบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งมีเบื้องหลังเป็นอย่างมาก คือการมีอยู่ที่ตระกูลเหลียงไม่สามารถแตะได้อย่างเด็ดขาด!
หลังจากที่ลงมือทำร้ายคนของแก๊งท่านชายจนได้รับบาดเจ็บมากมายขนาดนั้น ยังสามารถปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่ในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดผู้นำตระกูลถังได้ นี่ยังไม่พอที่จะพิสูจน์ความมีอำนาจของเขาอีกหรือ?