จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 328
ถังหงเม้มริมฝีปากเล็กน้อย เดินออกไปอย่างไม่พอใจ ทุกคนของตระกูลทั้งก็ต่างพากันเดินออกไปด้วยเช่นเดียวกัน
หัวหน้าแผนกเจียงมองดูถังเสี่ยนจง ในบ้านเพิ่งจะเกิดเรื่องที่ไม่สบอารมณ์แบบนี้ พวกเขาจะต้องมีเรื่องที่ต้องปรึกษาหารือกันอย่างแน่นอน ดังนั้นก็เลยเอ่ยว่า “น้องถัง ในเมื่อข้างกายของคุณมีเทพหมอคนหนึ่งแบบนี้ งั้นผมก็ไม่รบกวนคุณแล้ว ผมขอตัวก่อน!”
ถังเสี่ยนจงมองดูหัวหน้าแผนกเจียง พยักหน้าพร้อมกับเอ่ยว่า “ขอบคุณพี่ใหญ่มากที่มาด้วยตัวเองในครั้งนี้ พี่วางใจ ผมจะต้องสร้างสถานการณ์ให้พี่เจอกับเทพหมอฟางผู้นี้อย่างแน่นอน เขา จะต้องไม่ทำให้พี่ผิดหวังอย่างแน่นอน!”
หัวหน้าแผนกเจียงได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกคุ้มค่าแล้ว คนอายุนี้พูดจาไม่จำเป็นต้องอธิบายมากมาย ก็แค่หนึ่งสองประโยคนั่น ทุกคนต่างก็รู้ดีกันแล้ว ดังนั้นเขาจึงหัวเราะฮ่าๆออกมา “ดีๆๆ!งั้นก็รอฟังการจัดการของคุณแล้ว”
แม้ว่าเขาตอนนี้ก็อยากจะเจอเทพหมอผู้นี้มาก แต่เขาชัดเจนดีว่า คนๅนี้ก็ไม่ใช่คนที่ถังเสี่ยนจงบอกว่าเชิญแล้วจะมาได้
“เสี่ยวยู่ ส่งคุณปู่เจียงของเธอหน่อย!” ถังเสี่ยนจงสั่งถังยู่ที่เต็มไปด้วยน้ำตาไปทีหนึ่ง
ถังยู่พยักหน้าตอบรับ ลุกขึ้นมาจากข้างเตียง ประคองหัวหน้าแผนกเจียงออกจากห้องไป
ชั่วพริบตา ภายในห้องก็เหลือเพียงเหล่าเห้อและถังเสี่ยนจง
“โครม!” ทันใดนั้น เหล่าเห้อเพียงครู่เดียวก็คุกเข่าลงไปบนพื้น ทั้งคนต่างก็ก้มศีรษะลงไป วินาทีนั้นเปลี่ยนเป็นชายชราที่น้ำตานองเต็มใบหน้า เขาเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่รู้สึกผิด “ขอโทษครับคุณท่าน!หากผมออกมือ เขาก็ไม่ได้มีโอกาสทำร้ายคุณจนได้รับบาดเจ็บแล้ว ล้วนเป็นความผิดของผมทั้งหมด ยังไงก็ขอให้คุณท่านกรุณาลงโทษ!”
ถังเสี่ยนจงถอนหายใจออกมา เอ่ยว่า “นี่แกทำอะไรเนี่ย เหล่าเห้อ!แกรีบลุกขึ้นมา นี่ฉันไม่ใช่ดีๆอยู่หรอกหรอ!ลงโทษอะไรกันล่ะ พวกเราอายุก็ขนาดนี้แล้ว ยังชอบทำเรื่องต่อสู้ฆ่าฟันเหล่านี้ทำไมกัน”
“คุณท่าน คุณเป็นถึงคนของตระกูลอันดับหนึ่ง สูงส่งล้ำค่าอย่างหาใดเปรียบ จะให้คนแบบนี้ทำร้ายได้ยังไงกัน!ไม่ว่าอย่างไร ต่างก็เป็นผมที่คุ้มกันอ่อนแอ!นับตั้งแต่วันนี้ ผมก็จะออกจากตระกูลถังไปโดยอัตโนมัติ ผมไม่มีหน้าอยู่ต่อไปแล้ว” เหล่าเห้อคายคำพูดออกมาอย่างหนักหน่วง
ถังเสี่ยนจงถอนหายใจเฮ้อออกมา เอ่ยว่า “ฉันว่าแกน่ะ เหล่าเห้อ!แกก็คือลมหายใจด้านยุทธภพเข้มข้นเกินไปแล้ว!ฉันจะไล่แกออกจากตระกูลถังได้ยังไงกันล่ะ แกเป็นถึงเสาหลักของตระกูลเรา!บางเรื่องแกไม่ออกมือก็ไม่แน่ว่าจะคือเรื่องเลวร้าย อีกอย่าง หากแกออกมือ จะต้องดึงดูดความสนใจจากคนอื่นอย่างแน่นอน ถึงเวลาสถานะของแกก็ถูกเปิดเผยแล้ว งั้นแกหลบมาหลายปีขนาดนี้ จะลำบากไปทำไมกันล่ะ ใช่หรือเปล่า?”
“อีกอย่าง ในตอนแรกพวกเราไม่ใช่เคยพูดกันเอาไว้แล้วหรอกหรอ มีแค่ในตอนที่ตระกูลถังอับจนสิ้นไร้หนทางเท่านั้นแกค่อยออกมือ ตอนที่ยังเดินไปไม่ถึงอับจนสิ้นไร้หาทาง แกไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองต่อเรื่องใดๆทั้งสิ้น!” ถังเสี่ยนจงเอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่น
“เฮ้อ!” เหล่าเห้อก้มศีรษะลึกลงไปอีก ส่ายศีรษะพร้อมกับเอ่ยอย่างละอายใจไม่เป็นตัวของตัวเองว่า “ล้วนเป็นผมที่ไม่มีประโยชน์ ถึงได้ทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ!”
ในขณะที่พูด เขาก็คิดย้อนกลับไปถึงฉากในปีนั้นขึ้นมาอีกครั้ง คนกลุ่มนั้น คนที่โหดเหี้ยมทารุณกลุ่มนั้น คิดไม่ถึงว่าเพราะว่าเรื่องเล็กนิดเดียวแค่นั้นก็จะฆ่าปิดปากเขา เขาอุทิศตัวเองทั้งหมดเพื่อพวกนั้น แต่สุดท้ายที่แลกมากลับเป็นการตามฆ่าถึงสามวันสามคืน
หากไม่ใช่การปรากฏตัวของท่านถัง คืนวันนั้นเขาอาจจะได้กลายเป็นศพไปแล้ว!เป็นคนที่ตรงไปตรงมาไม่เสแสร้ง ไม่เพียงแต่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ยังไม่ถามอะไรถึงสถานะของเขา ให้พื้นที่ใช้ชีวิตใหม่ทั้งหมดกับเขา ให้เขาสามารถทำตัวเป็นคนใหม่ได้
ค่ำคืนที่นับไม่ถ้วน เหล่าเห้อต่างก็จะตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหันจากในความทรงจำส่วนนั้น เขารู้ดีว่า นั่นคือองค์กรที่ทั้งโหดเหี้ยมทารุณทั้งโลภมาก!แต่ตัวเองมีวิธีไหนได้อีกล่ะ? สุดท้ายก็ยังคงสู้พวกเขาไม่ไหว พวกเขาพูดลวกๆขึ้นมาประโยค ตัวเองอาจจะหายไปโดยสมบูรณ์แบบ
และก็เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น เขาได้กลายเป็นคนข้างกายที่ใกล้ชิดกับถังเสี่ยนจงที่สุด
“พอได้แล้ว ลุกขึ้นมาเถอะ อีกสักครู่ถูกคนเห็นเข้าไม่ดี นำเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากที่ฉันสลบไปเล่ามาหนึ่งรอบ!” ถังเสี่ยนจงดันเหล่าเห้อที่คุกเข่าอยู่บนพื้นพร้อมกับเอ่ยขึ้น
เหล่าเห้อพยักหน้า ตัวสั่นยันพื้นลุกขึ้นมา นำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ทั้งหมดพูดขึ้นมาหนึ่งรอบอย่างไม่มีตกหล่น
หลังจากฟังจบ ดวงตาของถังเสี่ยนจงก็หรี่ลงมา!
เหล่าเห้อเอ่ยว่า “ที่จริงแล้วอารมณ์ของคุณชายใหญ่ผมสามารถเข้าใจได้ ตอนนี้เขาเกลียดคุณ ถึงอย่างไรเขาคือคนที่มีสิทธิ์สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลในตระกูลนี้มากที่สุดจริงๆ ตอนนี้ถูกบีบจนกลายเป็นแบบนี้ ผมคิดว่าคุณท่านก็ต้องเข้าใจคุณชายใหญ่”
ถังเสี่ยนจงหรี่ตาสูดหายใจเข้าเต็มปอด เอ่ยขึ้นอย่างคิดจะหลอมเหล็กให้กลายเป็นเหล็กกล้าว่า “ฉันรู้ ต่างก็มีชีวิตจนอายุขนาดนี้แล้ว เขาทำเรื่องอะไรควรจะสุขุมหนักแน่น เป็นเพราะริษยาผู้หญิงคนหนึ่งจนกลายเป็นสภาพแบบนี้ ไม่ควรเลย!”
“ไม่อย่างนั้น พวกเราไล่หลินถงไปเถอะครับ!เธอกำลังเป็นปฏิปักษ์กับคุณชายใหญ่อย่างเหมือนตั้งใจแต่ก็เหมือนไม่ตั้งใจจริงๆ” เหล่าเห้อพูดจบก็โค้งตัวลงมา นี่คือครั้งหนึ่งในคำแนะนำที่ไม่ค่อยจะมีให้กับคุณท่าน
ถังเสี่ยนจงได้ยินคำพูดนี้ ดวงตาหรี่ลงจนกลายเป็นเส้น จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา และไม่ได้พูดอะไร
เห็นท่า เหล่าเห้อเอ่ยขึ้นต่อไปว่า “คุณท่าน หลินถงนี่ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ผมมักจะรู้สึกว่าหลังจากที่เธอกลับมาจากเมืองจินโจวในครั้งนั้น ก็เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน”
“หืม?” ถังเสี่ยนจงสายตาเปลี่ยนในทันที เอ่ยถามขึ้นว่า “ความหมายของแกก็คือเชื่อคำพูดของพวกเขาแล้ว? เธอมีสัมพันธ์กับเทพหมอฟาง?”
“ไม่ๆๆ!” เหล่าเห้อส่ายศีรษะพร้อมกับเอ่ย “ไม่ใช่เช่นนี้ครับ ผมไม่ได้สงสัยเทพหมอฟาง เพียงแต่หลินถงก็เท่านั้น”
ถังเสี่ยนจงยกมือขึ้นมาหยุดยั้งคำพูดของเหล่าเห้อ เอ่ยว่า “ตอนนี้ยังไม่พูดถึงหัวข้อสนทนานี้ชั่วคราว”
“ใช่แล้ว แกคิดเห็นยังไงกับเทพหมอฟางคนนั้น?” ถังเสี่ยนจงเอ่ยถามขึ้น
สายตาของเหล่าเห้อเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงตาหรี่ลง ใบหน้าที่แต่เดิมก็น่าเกลียดในเวลานี้เปลี่ยนเป็นอึมครึมขึ้นมา หลังจากสักพัก เขาถึงเอ่ยพึมพำขึ้นมาว่า “นี่คือยอดมนุษย์คนหนึ่ง!ออร่าของเขาแข็งแกร่งมาก ไม่เหมือนหมอธรรมดาทั่วไป!”
“อ๋อ?” ถังเสี่ยนจงนิ่งอึ้งไปสักพัก เอ่ยถามว่า “งั้นแกคิดว่าเขาควรจะเป็นสถานะอะไร? ทั้งแตกฉานวิชาทางการแพทย์ ยังสามารถมีออร่าที่แกว่าแบบนั้นอีก หรือว่าคือยอดฝีมือระดับชั้นบรรยากาศอย่างที่ว่ากันหรอ?”
เหล่าเห้อส่ายศีรษะ เอ่ยว่า “สถานะของเขา วินิจฉัยยากมาก แต่เขาจะต้องเป็นยอดฝีมือระดับเหนือชั้นบรรยากาศขึ้นไปอย่างแน่นอน อีกทั้งเป็นคนที่เคยเห็นฉากสถานการณ์ที่ใหญ่โตมาก่อน เมื่อครู่นี้เผชิญหน้ากับปืนหลายร้อยกระบอก เขาไม่เหลือบตามองเลยสักครั้ง ถึงขั้นแม้แต่ฝีเท้าก็ยังไม่ได้ขยับ บนโลกนี้สามารถทำได้ถึงจุดนี้ เกรงว่ามีไม่กี่คน!ก็แค่ยอดฝีมือระดับชั้นบรรยากาศเหล่านั้น ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะสามารถทำได้ถึงสงบเยือกเย็นไม่สะทกสะท้านก็ไม่ปานอย่างนี้ อีกอย่าง เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาบอกยังเหลือเวลาอีกสามนาที พูดได้อย่างมั่นใจเต็มร้อย!นี่แสดงให้เห็นว่า เขามีการเตรียมความพร้อมมาตั้งนานแล้วถึงได้ลุกยืนขึ้นมา หากผมเดาไม่ผิดล่ะก็ เขาน่าจะมากับกองกำลังนั้นที่เร่งรีบเข้ามา มีการติดต่อกับสำนักเจ็ดพิฆาต”
ลูกตาของถังเสี่ยนจงเบิกกว้างขึ้นมาในทันที สำนักเจ็ดพิฆาต ในฐานะที่เป็นผู้นำตระกูลของตระกูลอันดับหนึ่งในหนานหลิงเขาเคยได้ยินมาก่อน นั่นคือกองกำลังระดับภูมิภาคที่รักษาชายแดน คนที่สามารถเข้าไปด้านในได้ต่างก็เป็นยอดฝีมือชั้นหนึ่งของประเทศหวา สำหรับกองกำลังระดับภูมิภาคนี้ ถังเสี่ยนจงมีความเข้าใจไม่ใช่เยอะมาก ที่เขารู้ก็มีแค่นั้น นั่นคือกองกำลังป้องกันชายแดนกองกำลังหนึ่ง
“งั้น แกคิดว่าเขาคือคนที่มาจากกองทัพหรอ?” ถังเสี่ยนจงเอ่ยถามขึ้นอีกด้วยความประหลาดใจ