จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 335
หลายวันต่อจากนี้ไป ข่าวการแต่งงานขอคุณชายของตระกูลฟางแห่งเมืองเจียงตูตงฟางหยุนเอ๋อร์ได้สะพัดไปทั่วประเทศหวา ในวงการของตระกูลใหญ่แบบนี้แทบจะสะพัดไปทั่ว นักธุรกิจ ข้าราชการ ทุกวงการต่างพากันพูดเรื่องนี้
การแต่งงานของสองตระกูลใหญ่ สะเทือนวงการไม่ได้ การแต่งงานแบบนี้มันช่างน่าตะลึงยิ่งนัก ฝ่ายหนึ่งคือตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศหวา อีกฝ่ายคือตระกูลที่มีธุรกิจกระจายไปทั่วทุกมุมโลก
หนานหลิง ตระกูลถัง
บนโต๊ะในศาลา มีอาหารวางเต็มโต๊ะ มีคนนั่งอยู่บนโต๊ะด้วยกันสี่คน วิวทิวทัศน์ดีมาก เห็นแม่น้ำได้อย่างชัดเจน แล้วยังเห็นต้นหลิวที่อยู่ตรงท่าเรือได้อีกด้วย ผู้เฒ่าหนึ่งในนั้น อายุเจ็ดสิบกว่าปี สวมชุดคอจีน นั่งอยู่บนเก้าอี้วิลแชร์ เมื่อเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าขามีปัญหา ผู้ที่นั่งอยู่ข้างๆผู้เฒ่าอายุมากขึ้นหน่อย หัวล้าน แต่ไว้เครายาว เมื่อดูไปก็ให้ความรู้สึกต่างจากคนทั่วไป อีกคนคือสาวสวย สวมกางเกงยีน เสื้อเชิ้ต ถักเปีย แม้การแต่งกายของเธอจะทำให้ดูเหมือนวัยรุ่น แต่ไม่มีทางปกปิดเสน่ห์ที่เฉิดฉายของเธอได้ อีกคนค่อนข้างธรรมดา สวมเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนเช่นกัน วัยรุ่น ดูๆแล้วเหมือนนักศึกษา แต่หน้าตาของเขาดูแก่กว่าอายุ เมื่อนั่งอยู่กับผู้เฒ่าหลายคน ดูใจกว้างเป็นอย่างมาก ผู้เฒ่าที่อัปลักษณ์ยืนอยู่ข้างๆโต๊ะ ผู้เฒ่ายืนอยู่ข้างๆชายที่แต่งชุดคอจีน ดูๆไปแล้วเหมือนกับคนใช้!
ขณะนี้ ถังเสี่ยนจงหยิบแก้วขึ้นมา กล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “ณ จุดๆนี้ ผมต้องขอขอบคุณเทพหมอฟาง ถ้าไม่มีเทพหมอฟาง วิกฤตนี้ของตระกูลถังของผม ก็ยากที่จะแก้ไขได้จริงๆ”
หลินถงนั่งอยู่ข้างๆฟางเหยียน เธอมองฟางเหยียนอย่างโปรดปรานแล้วกล่าว “ใช่ เทพหมอฟางไม่เพียงรักษาเก่ง แล้วยังมีความกล้าอีกด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเทพหมอฟาง ไม่แน่ตระกูลถังของเราต้องเกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่!ณ จุดๆนี้ พวกเราอยากขอบคุณเทพหมอฟางจริงๆ”
เมื่อเห็นทั้งสองยกแก้วเหล้าขึ้นมา ฟางเหยียนจะไม่ยกก็ไม่ได้ จึงได้ยกตามด้วยเช่นกัน
เช้าตรู่ได้รับสายของท่านถัง ว่าอยากขอบคุณฟางเหยียน จึงตั้งใจจัดงานเพื่อเขาโดยเฉพาะ ตระกูลถังเป็นตระกูลที่สุภาพมาก ฟางเหยียนเคยสืบเกี่ยวกับท่านถัง ท่านเป็นผู้นำตระกูลใหญ่ที่ใสสะอาด ถ้าเขาเหมือนกับตระกูลเซียวของเมืองจินโจวล่ะก็ ฟางเหยียนไม่มีทางให้เกียรติเขาแน่
หลังจากที่ดื่มไปหนึ่งแก้ว ฟางเหยียนหันไปมองหลินถงโดยไม่รู้ตัว วันนี้เธอแต่งตัวแปลกไป แน่นอน การแต่งกายแบบนี้เป็นจุดสนใจให้คนสงสัยได้ง่ายดาย เสื้อเชิ้ตกางเกงยีน นี่เป็นสไตล์การแต่งกายของตนไม่ใช่เหรอ?
แต่งกายแบบนี้ต่อหน้าครอบครัวของตัวเอง เหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่!
“คุณฟาง ทำไมคุณถึงมองฉันตลอดเวลาคะ?” จู่ๆหลินถงก็ถามคำถามนี้ขึ้นมา
หน้าของฟางเหยียนกระตุกขึ้นทันใด เหมือนกับขโมยโดนจับได้อย่างไรอย่างนั้น เขามองถังเสี่ยนจงอย่างอับอาย จากนั้นก็กล่าวว่า “เพียงแค่รู้สึกว่าการที่คุณแต่งกายแบบนี้ มันดูพิเศษมาก!”
“อ๋อ?” หลินถงตอบไปหนึ่งคำ แล้วยืนขึ้นจากเก้าอี้ทันใด หมุนตัวแล้วกล่าว “เหรอ?ฉันก็รู้สึกสบายมาก และแล้วตอนนี้ฉันก็ได้รู้แล้วว่าทำไมคุณถึงชอบแต่งกายแบบนี้”
ฟางเหยียนได้มองไปยังถังเสี่ยนจงอีกครั้ง ถังเสี่ยนจงในขณะนี้ไม่แม้แต่จะมองหลินถง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?ทำไมถังเสี่ยนจงถึงได้ปล่อยปละละเลยหลินถงได้ขนาดนี้กัน?โดยหลักแล้ว เธอเป็นแม่หม้ายคนหนึ่ง แม่หม้ายของตระกูลถังต้องยิ่งทำตามกฎระเบียบ แต่เธอเหลาะแหละขนาดนี้ ถังเสี่ยนจงกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
หรือเธอไม่ใช่ลูกสะใภ้ของถังเสี่ยนจงงั้นเหรอ?ฟางเหยียนไม่เข้าใจ และรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
“หมอเทพฟาง คนนี้คือหัวหน้าแผนกเจียง! อดีตหัวหน้าแผนกแพทย์แฟนจีน และเป็นผู้มีชื่อเสียงของประเทศหวา และหลังจากที่เห็นการรักษาของท่านแล้ว ก็ได้ให้ผมเชิญท่านมา ผมเองก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่เชิญหมอเทพฟางมาได้”
ฟางเหยียนพยักหน้าตอบรับให้กับผู้เฒ่า ผู้เฒ่ากล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ตอนแรกที่เห็นสามจุดเข็มเฉินหนงผมคิดว่าเป็นผู้เฒ่าที่อายุมากแล้วเสียอีก ไม่คาดคิดว่าจะเป็นวัยรุ่นที่มีความสามารถ อายุน้อยก็ชำนาญในเรื่องแก่นแท้การแพทย์ของประเทศหวาของเราแล้ว ผมนับถือท่านจริงๆครับ!”
“ก็ว่าไปครับ!ท่านเจียงช่วยคนมานับไม่ถ้วน แบบนี้สิถึงจะน่าเลื่อมใส!” ฟางเหยียนกล่าวอย่างสงบ ดูจากภายนอกหัวหน้าแผนกเจียงเป็นคนที่ทำเพื่อผู้อื่นจริงๆ เขาไม่ใช่คนที่มีอำนาจแล้วกดขึ่คนอื่น ลักษณะของเขาบ่งบอกทุกอย่าง ฟางเหยียนดูโหงวเฮ้งไม่เป็น แต่มีการอนุมานของตัวเอง อย่างน้อยเขาก็เชื่อมั่นการอนุมาน คนๆหนึ่งจะดีจะเลวของตัวเองมาก
หัวหน้าแผนกเจียงโบกมือแล้วกล่าว “ไม่ครับไม่ครับ เทพหมอฟางก็ว่าไป!” เมื่อพูดจบ เขาก็ถามอย่างจริงจัง “อ้อ เทพหมอฟาง มิทราบว่าอาจารย์ของท่านอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”
ฟางเหยียนหัวเราะ มองไปที่หัวหน้าแผนกเจียง แล้วกล่าว “เรื่องนี้ ผมไม่สะดวกพูดครับ!”
ประโยคนี้ ทำให้หัวหน้าแผนกเจียงที่เฝ้ารอเขินจนปากจู๋ แต่เขาก็พูดออกมาทันทีว่า “ขอโทษนะครับ เทพหมอฟาง ผมไม่ควรที่จะถามคำถามนี้ ผมลงโทษตัวเองด้วยการดื่มหนึ่งแก้ว!”
เมื่อดื่มหมดแก้ว หัวหน้าแผนกเจียงได้มองไปที่ฟางเหยียนอย่างประหลาดใจแล้วถาม “เทพหมอฟางเคยคิดอยากจะไปทำงานที่โรงพยาบาลมั้ยครับ?”
ฟางเหยียนจะชัก ไม่ได้ตอบใดๆ หัวหน้าแผนกเจียงพูดต่อ “ถ้าท่านอยากไปทำงานที่โรงพยาบาล จะต้องทำให้วัฒนธรรมแพทย์แผนจีนเจริญรุ่งเรืองอย่างแน่นอนตอนนี้แพทย์แผนตะวันตกมาแรง ดังนั้นแพทย์แผนตะวันตกจำนวนมากดูถูกแพทย์แผนจีนของเรา บนโลกนี้ ก็ไม่มีพื้นที่ของแพทย์แผนจีน ถ้าเทพหมอฟางอยากทำงานในโรงพยาบาล ผมจะแนะนำท่านไปที่โรงพยาบาลที่ยอดเยี่ยมที่สุด ทักษะการแพทย์ของท่านจะต้องทำให้วัฒนธรรมแพทย์แผนจีนเจริญรุ่งเรืองได้อย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นเทพหมอฟางท่านจะต้องเป็นบุคคลระดับต้นๆของโลก ด้วยทักษะทางการแพทย์ของท่าน อยู่ระดับต้นๆของโลกได้อย่างสบาย วงการแพทย์จะต้องสั่นสะเทือน!”
หัวหน้าแผนกเจียงยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ตื่นเต้นจนเคราก็พลิ้วไหว เขามองไปที่ฟางเหยียน ด้วยความหวงแหน!ใช่ ความอัจฉริยะแบบนี้สำหรับเขาแล้ว เป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ เป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ของประเทศหวา!
เมื่อถังเสี่ยนจงเห็นหัวหน้าแผนกเจียงที่ตื่นเต้น ก็ได้พูดเสริมว่า “ใช่ เทพหมอฟาง ทักษะการแพทย์ของท่านอยู่ระดับสูงแน่นอน ถ้าท่านไปทำงานที่โรงพยาบาลได้ จะต้องสั่นสะเทือนโลกอย่างที่หัวหน้าแผนกเจียงกล่าวไว้แน่นอน หัวหน้าแผนกเจียงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศหวา เพียงแค่เขาแนะนำไป พอท่านเข้าไปในโรงพยาบาลก็ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะระดับสูง ถึงตอนนั้นท่านจะรักษาคนไข้ได้มากมาย ผมเชื่อว่าคนไข้ที่ผ่านการรักษาจากท่าน น่าจะไม่มีคนที่รักษาไม่หาย!เหมือนกับขาของผม!”
ฟางเหยียนมองทั้งสองคน ไม่พูดใดๆ ความรุ่งเรืองแพทย์แผนจีนของประเทศหวาที่พวกเขาพูดนั้น ไม่ได้เป็นสิ่งที่ฟางเหยียนต้องการแต่อย่างใด เขาไม่อยากใช้แพทย์แผนจีนไปโต้แย้งกับแพทย์แผนตะวันตก โต้แย้งแล้วมีประโยชน์อะไร?ไม่ใช่ว่าเพื่อรักษาคนหรอกเหรอ!
เขาไม่อยากไปสั่นสะเทือนโลกอะไรทั้งนั้น ตัวตนและตำแหน่งในตอนนี้ของเขา ก็สะเทือนโลกมากพออยู่แล้ว!
แล้วจะไปเพิ่มตัวตนอื่นอีกทำไมกัน!