จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 340
หม่ากวางชาวงงงวย เขาก็เป็นนักบู๊เช่นกัน อยู่ที่หนานหลิงมาตลอดชีวิต ไม่เคยเห็นการต่อสู้แบบนี้มาก่อน หม่าจงหัวพูดมาตลอด ว่าในโลกนี้มายอดฝีมือมากมาย พวกเขาทำอะไรต้องติดดินไว้ แต่ปีนี้เขาอายุสี่สิบแปดปีแล้ว ก็ยังไม่เคยเห็นคนที่เก่งกว่าพ่อของเขาเลย ครั้งนี้ เขาเห็นเข้าแล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่เห็น แต่ยังตกใจอีกด้วย
การต่อสู้แบบนี้ไม่มีในศิลปะการต่อสู้ เทียนขุยนี่ เป็นตำนานจริงๆ!
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เหงื่อของเขาก็ไหลลงมาไม่หยุด ไหลลงมาที่ตา ตอนนี้ เขาได้รู้แล้วว่าทำไมหม่าจงหัวถึงได้หวาดกลัวคนผู้นี้ขนาดนี้ คนที่เก่งกาจรอบข้างของเขามีมากมาย มากมายเหลือเกิน!
“จอมพลโผ้จวิน ฆ่ามันมั้ยครับ?” เทียนขุยมองไปที่ฟางเหยียนแล้วถาม
ฟางเหยียนไม่พูด แต่มองไปที่หม่ากวางชาวแล้วถาม “มิทราบว่า แกมาเพื่อฆ่าฉันหรือเปล่า?”
หม่ากวางชาวตัวสั่น เขากลืนน้ำลาย มองไปยังผู้คนที่นอนเกลื่อนกลาดบนพื้น เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกล่าว “ใช่ แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากฆ่าแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ ขอโทษที่รบกวน”
ความแข็งกร้าวที่มีเมื่อกี๊ไม่หายไปทั้งหมด เหตุการณ์เปลี่ยนไปเร็วมาก
ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่การ์ดของฟางเหยียนเก่งกาจเกินไป ผู้รู้สถานการณ์คือผู้ที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ หม่ากวางชาวรู้ว่าตัวเองสู้การ์ดคนนั้นของเขาไม่ได้ แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่มั่นใจเลยว่าจะจัดการคนพวกนั้นได้เร็วขนาดนี้ ถ้าต้องสู้กับอีกฝ่าย มันรนหาที่ตายชัดๆ
นักบู๊ล้วนรู้ดีว่าสู้ไม่ไหวก็คือสู้ไม่ไหว ต่อให้แค่นิดเดียว ก็คือสู้ไม่ไหว!
“อ๋อ?” ฟางเหยียนกล่าว “เมื่อกี๊แกพูดว่าคนที่แตะต้องตระกูลหม่าของแก เท่ากับรนหาที่ตายไม่ใช่เหรอ?ต่อให้ฉันเก่งกาจขนาดไหน ตระกูลหม่าของพวกแกก็จะจัดการแกให้สิ้นซาก!ใช่มั้ย?”
แววตาของหม่ากวางชาวมืดมน เขาเงยหน้าเช็ดเหงื่อที่หางตา เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็รู้แล้วว่าไม่มีทางปล่อยตนไปแล้ว ต่อให้ตนจะยอมก็ไร้ประโยชน์ ถ้ายอมแล้วไม่มีประโยชน์ งั้นสู้ให้ถึงที่ดีล่ะกัน!
ด้วยเหตุนี้เขาจึงยกพัดขึ้นมา มีเข็มที่คมสองอันลอยออกมาจากในพัดของเขา นี่เป็นอาวุธลับของเขา เข็มนั่นพุ่งโจมตีไปที่ทั้งสอง เทียนขุยถอยหลังไป กำหมัดตั้งรับเข็มทั้งสองนั้น
ได้ยินเพียงเสียงตึงๆ แล้วเข็มก็หล่นลงกับพื้น หม่ากวางชาวแทบจะลอยมาพร้อมกับเข็ม หลังจากที่เทียนขุยโจมตีจนเข็มตกลงมา ขาของหม่ากวางชาวก็โจมตีอย่างรุนแรงไปที่เทียนขุย
เทียนขุยตั้งหมัดรับขาทั้งสองข้างที่โจมตีมาของเขา หม่ากวางชาวลอยอยู่บนอากาศ ขาทั้งสองข้างชนเข้ากับหมัดทั้งสอง
หน้าตาและแววตาของเขาดุดันน่ากลัว แต่ในตอนนี้ หมัดของเทียนขุยมีพลังที่ซ่อนอยู่ เป็นพลังที่ทะลุผ่านชั้นบรรยากาศภายนอกมา เต็มไปด้วยการโจมตีมหาศาล
ทันใดนั้น ร่างกายของหม่ากวางชาวก็ลอยขึ้นไป เสียงดังปัง ชนเข้าอย่างจังแล้วตกลงมากับพื้น ในขณะเดียวกัน ก็กระอักเลือดออกมา นี่มันพลังผีบ้าอะไรกัน แค่หมัดสองข้างเท่านั้นทำไมถึงได้มีพลังมากมายขนาดนี้
หรือ คนที่อยู่ด้านหน้านี้เป็นคนที่ฝึกชี่งั้นหรือ?ถูก เป็นคนที่ฝึกชี่ มีเพียงคนที่ฝึกชี่เท่านั้นที่จะอธิบายความแข็งแกร่งของเขาได้
“แกไอ้เลวทรามต่ำช้า นึกไม่ถึงว่าจะกล้าลอบทำร้ายผู้อื่น ฉันจะฆ่าแกซะ” เมื่อพูดจบเทียนขุยเดินเข้าไปอย่างบ้าคลั่งที่ หม่ากวางหลง สายตาเลือดเย็น เทียนขุยลอยขึ้นไปในอากาศ มองจากด้านบนลงมาแล้วจะใช้พลังทั้งหมดที่มีฆ่าเขาทิ้งเสีย
หม่ากวางชาวไม่มีทางให้หลบอีกต่อไป นี่เป็นวาระสุดท้ายของตัวเองจริงๆแล้วเหรอ?
เขาได้เตรียมตัวตายแล้ว!ถึงแม้จะไม่ยอม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“หยุดก่อน เทียนขุย!” ฟางเหยียนสั่งอย่างเยือกเย็น
เทียนขุยเก็บหมัดสังหารทันใด แล้วหันตัวในอากาศ จากนั้นก็คุกเข่าลงกับพื้น เนื่องจากพลังเมื่อกี๊เป็นพลังที่ออกแรงเพื่อฆ่า ดังนั้นตอนที่เก็บการโจมตีจึงยากที่จะควบคุมร่างกายได้ ดังนั้นจึงได้คุกเข่าลงกับพื้นโดยตรง
เมื่อเห็นตัวเองโชคดีที่รอดพ้นมาได้ หม่ากวางชาวก็ถอนหายใจอย่างไม่รู้ตัว
ฟางเหยียนเดินไปที่หม่ากวางชาว เขากำลังยืน ส่วนหม่ากวางชาวล้มลงกับพื้น ฟางเหยียนมองเขาจากที่สูงแล้วกล่าว “แกเห็นแล้ว ว่าการที่ฉันจะเอาชีวิตแกแค่สั่งการก็ทำได้แล้ว!อย่าทำดิ้นรนอะไรอีก ตระกูลหม่าของพวกแกไม่มีค่าอะไรในสายตาฉันทั้งนั้น ถ้าฉันจะล้างบางตระกูลหม่าของแก แค่สั่งก็ทำได้แล้ว”
คำพูดของฟางเหยียนเสียดแทงเข้าไปในใจของหม่ากวางชาวอย่างมาก แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีแรงที่จะต่อต้านใดๆ
“พาคนของแก ไสหัวไปซะ!” ฟางเหยียนสั่งอย่างสบายใจ จากนั้นก็เดินออกจากหม่ากวางชาว หม่ากวางชาวยืนขึ้น แล้วชักตาไปที่ฟางเหยียน จากนั้นกัดฟันแล้วตะคอกออกมาว่า “ไปพวกเรา!”
ผู้คนที่นอนอยู่กับพื้นต่างยืนขึ้นอย่างล้มลุกคลุกคลาน เดินออกจากคฤหาสน์ของฟางเหยียนอย่างยากลำบาก
กลับมาในห้อง เทียนขุยกล่าว “จอมพลโผ้จวิน ให้ผมไปล้างบางตระกูลหม่าเถอะครับ!ตระกูลหม่านี่มันโอหังเกินไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะฆ่าท่านในช่วงกลางวันแสกๆ”
ฟางเหยียนยกมือขึ้นห้าม แล้วกล่าว “ไม่จำเป็น!เรื่องของกองทัพ จัดการเสร็จแล้วหรือยัง?”
เทียนขุยพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วกล่าว “ก็แค่ค้ายาข้ามชาติเท่านั้น!ฆ่าหมดแล้วครับ”
ชายแดนภาคใต้ของประเทศหวาเกิดความโกลาหลขึ้น ช่วงสองวันนี้เทียนขุยได้ไปจัดการที่กองทัพแล้ว
“โอเค เตรียมตัว มะรืนนี้พวกเราจะไปเจียงตูกัน”
“เจียงตู?” เทียนขุยชะงัก ไม่รู้เลยว่าจอมพลโผ้จวินไปเจียงตูทำไม แต่เขาก็ไม่พูดอะไร
เพียงแต่ตอบคำเดียวว่า “ครับ!”
อีกด้าน หม่ากวางชาวที่เดินออกจากเขตคฤหาสน์หุบดอกพีช
เขาถูกสองคนพยุงขึ้นมา พยุงเขาเหมือนยกเกี้ยวเจ้าสาวอย่างไรอย่างนั้น ตอนนี้เขาไม่กล้าแตะส่วนใบหน้าและส่วนขา เพียงแค่โดนพื้น ก็จะเจ็บปวดเข้าไปสุดใจ เขาได้รับรู้ถึงการที่ร่างกายถูกชนเข้ากับค้อนแล้วว่ามันเจ็บขนาดไหน
“คุณชายรอง ไอ้นั่นเป็นใครกันแน่?ทำไมเก่งกาจขนาดนั้น?” คนที่พยุงหม่ากวางชาวคนหนึ่งถามขึ้นมา
หม่ากวางชาวตะคอกใส่คนนั้นอย่างโมโห “เก่ง!เก่งแม่มึงสิ”
“แม่ง สักวันกูจะฆ่าไอ้หมาเย็ดแม่ทั้งสองนี่ให้ได้” หม่ากวางชาวด่าอย่างเกรี้ยวกราด ทุกคนต่างไม่พูดอย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน เมื่อกี๊หม่ากวางชาวยอมแพ้แล้ว แต่ตอนนี้กลับพูดคำพูดที่ทำอะไรไม่ได้แบบนี้ เพียงแต่ทุกคนเป็นลูกน้อง ดังนั้นจึงไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่แอบมองหม่ากวางชาว แล้วนิ่งสงบไป
“ไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาเมื่อไหร่ ถ้าได้รับการช่วยเหลือจากพวกเขา การที่จะฆ่าไอ้สองตัวนี่ก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายแล้ว!” หม่ากวางชาวกล่าวอย่างไม่มีทางเลือก ในขณะเดียวกันก็แสดงสีหน้ารอคอยออกมา
ไม่นาน เขาถูกพยุงไปที่รถ เขาตะคอก “ได้แล้ว ปล่อยกูลง กูจะเข้าไปเอง”
ทั้งสองปล่อยลงไป เมื่อขาถึงพื้น ก็ส่งเสียงเจ็บปวดรวดร้าวออกมา เขาตะคอกไปที่ทั้งสอง “พวกมึงโง่ป่ะวะ?วางเบาๆไม่เป็นหรือไง?เย็ดแม่ เจ็บชิบหาย!”
หม่ากวางชาวพูดพลาง เปิดประตู เขาเอียงหัวเขาไปนั่งด้านในรถ
เพิ่งขึ้นรถ ก็ได้ยินเสียงแปลกๆดังขึ้นมา “หม่ากวางชาว!