จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 342
“พ่อ!พี่ใหญ่ น้องสาม!” หม่ากวางชาวไม่มีเวลามาสนใจความเจ็บปวดของเท้า วิ่งไปที่ประตูหน้าห้องโถงอย่างล้มลุกคลุกคลาน แล้วผลักประตูของห้องโถง
ประตูเพิ่งเปิดออก เขาก็ได้เห็นสายตาของคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่ในห้องกำลังมองมาที่เขา สายตาสิบกว่าดวงกำลังจ้องมาที่เขาอย่างพร้อมเพรียง คนที่ครอบครัวทุกคนอยู่กับพร้อมหน้า แล้วยังรวมตัวกันอยู่ในห้องโถงอีกด้วย ไม่มีใครนั่งลง ทุกคนต่างยืนอยู่
หลังจากที่เห็นหม่ากวางชาวเข้ามา ได้ดึงดูดทุกสายตาเข้ามาโดยปริยาย
หม่ากวางชาวชะงักไป จากนั้นก็ถอนหายใจ แล้วกล่าว “ผมคิดว่าที่บ้านเกิดอะไรขึ้นแล้วเสียอีก ไม่คาดคิดว่าทุกคนจะอยู่พร้อมหน้ากัน” นอกจากทุกคนที่อยู่ในห้องแล้ว ยังมีผู้เฒ่าผมขาว ดูๆแล้วผอมกะหร่อง ก็คือหม่าจงหัว
นึกไม่ถึงว่าพ่อของเขากลับมาแล้วมิน่าล่ะที่ทุกคนกำลังประชุมกัน!
“พ่อ พ่อกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?” หม่ากวางชาวถามอย่างตื่นเต้น
พูดพลาง เขาก็เดินเข้าไปในห้อง แต่เพิ่งจะเดินเข้าห้องโถง หม่าจงหัวก็เดินเข้ามาอย่างโมโห มาที่หม่ากวางชาว หม่ากวางชาวกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หม่าจงหัวยกมือขึ้น แล้วตบไปที่หน้าของหม่ากวางชาว
การตบหน้าครั้งนี้เสียงดังมาก ดังจนคนที่อยู่ในห้องโถงได้ยินหมดทุกคน ผู้หญิงบางคนทนไม่ได้จนต้องปิดปาก
หม่าจงหัวเป็นนักบู๊ ใช้แรงทั้งหมดที่มีตบ คนธรรมดาไม่มีทางรับได้แน่นอน ฉาดนี้ตบจนหม่ากวางชาวร่างกายสั่นอย่างโซซัดโซเซ แล้วล้มลงไปนั่งกับพื้นโดนตรง
ต่อให้เป็นหม่ากวางชาวที่ฝึกฝนการต่อสู้ แต่ก็ต้านทานการตบของหม่าจงหัวไม่อยู่!
เอาคำพูดของหม่าจงหัวมาใช้ คนในยุคนี้ไม่รู้หรอกว่ายอดฝีมือเมื่อก่อนแข็งแกร่งขนาดไหน แค่ในตัวมีอะไรหน่อยก็หลงตัวเองแล้ว ดังนั้นคนรุ่นหลังของตระกูลหม่า ไม่มีใครที่มีวิทยายุทธ ไม่มีใครที่สืบทอดเจตนารมณ์ของตระกูลหม่าได้อย่างจริงจังสักคน
หม่ากวางชาวยกมือขึ้นมาจับที่หน้า เมื่อกี๊โดนไอนั่นเล่นงานจนมือวางบนพื้นไม่ได้ ก็ทรมานมากพอแล้ว ตอนนี้ยังถูกพ่อของตัวเองตบอีก นี่มันสังคมแบบไหนกันเนี่ย!
“พ่อ พ่อตบผมทำไม?” หม่ากวางชาวถามอย่างโมโห
สีหน้าของหม่าจงหัวเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก เขาเงยหน้าขึ้นมองป้ายบรรพบุรุษของตระกูลหม่า จากนั้นก็กัดฟันแล้วตะคอกไปที่หม่ากวางชาวว่า “ไอ้สัตว์เดรัจฉาน แกไม่รู้เลยเหรอว่าทำไมฉันได้ตบแก?พูดต่อหน้าบรรพบุรุษของตระกูลหม่า ว่าแกไปทำอะไรไว้ข้างนอกนั้น?” ครั้งนี้หม่าจงหัวโมโหแล้วจริงๆ โมโหจนอยากจะฆ่าคน! ถ้าการฆ่าหม่ากวางชาวสามารถแก้ไขปัญหาได้ เขาจะลงมือฆ่าไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ด้วยตัวเองอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ในหัวของหม่ากวางชาวนึกออกอย่างเร็ว พวกเขา ใช่ ต้องเป็นองค์กรนั้นมาที่บ้านแล้วแน่นอน ไม่งั้นหม่าจงหัวไม่มีทางโมโหมากขนาดนี้ ตอนที่หม่าซวี่ซงเสียชีวิต เขายังไม่โมโหมากขนาดนี้
“พ่อ พ่อพูดถึงการเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเขาใช่มัย?” หม่ากวางชาวจับหน้า แล้วเงยหน้าถามหม่าจงหัว
เมื่อหม่าจงหัวได้ยินเรื่องนี้ ก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก เขายกขาขึ้นมาแล้วถีบไปที่หน้าอกของหม่ากวางชาวโดยตรง ได้ยินแค่เสียงปังดังขึ้น แล้วร่างกายของหม่ากวางชาวก็ลอยไป
“ทำไมแกยังมีหน้าพูดเรื่องนี้กับฉันอีก ตอนไหนกันที่ตระกูลหม่าให้ลูกอกตัญญูอย่างแกตัดสินใจเรื่องของตระกูลได้?” หม่าจงหัวโมโหจนควันออกจากจมูกแล้ว ท่าทางแบบนั้นเหมือนกับจะฆ่าหม่ากวางชาวได้จริงๆ
“พ่อ!” หม่าเหาเดินขึ้นมา ดึงมือของหม่าจงหัวไว้ แล้วกล่าว “อย่าตบอีกเลย ถ้ายังตบต่อไป อาจจะตบจนพี่รองตายได้นะ เรื่องก็เกิดขึ้นแล้ว พ่อตบพี่รองก็ไม่มีประโยชน์ เราควรจะหาทางแก้นะ”
หม่าเฉวียนพ่อของหม่าซวี่ซงเดินมาดึงมาอีกข้างของหม่าจงหัวไว้ แล้วขอร้อง “ใช่ พ่อ!ตอนนี้เราโทษน้องรองก็ไม่มีประโยชน์ คิดหาทางแก้ไขสิถึงจะสำคัญที่สุด”
หม่ากวางชาวลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขารับรู้ได้ถึงพลังของหม่าจงหัว จึงได้ผ่อนลมหายใจหนักแล้วกล่าว “พ่อ พ่อรู้มั้ยว่าตอนนี้เราออกไปแล้วคนอื่นพูดถึงเราว่ายังไง?คนอื่นพูดว่าตระกูลหม่าของเราจบเห่แล้ว บอกว่าเราขี้ขลาด ว่าเรากลัวไอ้นั่น คนจำนวนมากกำลังรอให้เราออกไปจัดการกับคนที่เล่นงานตระกูลหม่าของเราอยู่ ฆ่าไอ้คนที่ฆ่าคนของตระกูลหม่า แต่รอมาตั้งนานแล้ว พวกเรากลับนิ่งเงียบ ก็เพราะความขี้ขลาดของพ่อ ตระกูลหม่าของเราทำเพื่อประเทศหวามากมายขนาดนั้น มันสั่งการคำเดียวก็จัดการคนของตระกูลหม่าได้ แล้วจะไม่ไว้หน้าคนแก่อย่างพ่อต่อหน้าผู้คนมากมายอีก นี่มันอะไรกัน?”
“องค์กรนั้นแข็งแกร่งขนาดนั้น พวกเขาสามารถช่วยพวกเราจัดการไอ้สองคนนั้นได้ แล้วพวกเขายังบอกผมอีก ว่าเรื่องนี้ไม่กระทบกับตระกูลหม่าแต่อย่างใด พวกเราก็ยังเป็นพวกเรา ผมล่ะไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมพ่อถึงได้โกรธมากขนาดนั้น?”
หม่าจงหัวมองหม่ากวางชาวอย่างสิ้นหวัง เขาไม่มีพลังอีกแล้ว สิ้นหวังแล้ว และแล้ว ผู้เฒ่าที่สีหน้าเคร่งขรึมก็เริ่มโศกเศร้าลง เขาพยักหน้ารัวๆอย่างท้อใจ แล้วหันไปมองป้ายของบรรพบุรุษ
จู่ๆ เขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าป้ายบรรพบุรุษ!
“พ่อ พ่อทำอะไร?” หม่าเหาเอื้อมมือจะเข้าไปพยุงหม่าจงหัว แต่ถ้าหม่าจงหัวห้ามไว้
เขาโบกมือแล้วกล่าว “ตระกูลหม่าของฉันเป็นตระกูลนักบู๊ตั้งแต่ไหนแต่ไร สืบทอดกันมาตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์หมิง มีความภักดีต่อราชวงศ์หมิง ฝึกฝนคนเก่ง และส่งให้รับใช้ราชวงศ์ แต่กลับไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมหม่าจงหัวทำผิดต่อเหล่าบรรพบุรุษ สอนเด็กออกมาให้มีนิสัยแบบนี้ เป็นความผิดของหม่าจงหัวแต่เพียงผู้เดียว!”
เมื่อพูดจย หม่าจงหัวคำนับลงกับพื้นอย่างรุนแรง เสียงดังจนทุกคนเจ็บปวด
จากนั้น ก็เห็นน้ำตาของหม่าจงหัวไหลตามใบหน้าอันแห้งเหี่ยวลงมาหยดลงกับพื้น
หม่าจงหัวรู้ดี ว่าการเป็นส่วนหนึ่งของเขามันหมายถึงอะไร?หมายถึงพวกเขาจะไม่มีทางเป็นตระกูลหม่าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ตอนแรกเขาเพียงแค่น้ำตาไหล แต่เสียงร้องก็ค่อยๆดังขึ้นในห้องอย่างช้าๆ ห้องโถงเงียบงันอันกว้างใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้คนมากมายเห็นน้ำตาของหม่าจงหัว เขาเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหม่า นาทีนี้ได้ร้องไห้ออกมาเพื่อเสียสละตัวเองเพื่อผู้อื่น
เมื่อเห็นหม่าจงหัวเป็นแบบนี้ หม่าเหาก็ใจเต้นตึกๆ เงียบไปสักพัก “พ่อ อย่าเจ็บปวดใจอย่างนั้นอีกเลย บางที่นี่อาจจะเป็นโชคชะตาของตระกูลหม่าก็ได้ พ่อเคยพูดไว้ไม่ใช่เหรอ ว่าปู่ทวดบอกว่าตระกูลของเราจะเจอวิกฤตแบบนี้?ที่พวกเราทำแบบนั้นก็เพื่อปกป้องตระกูลหม่า ความจริงที่พวกเราทำแบบนั้นก็ไม่ผิดนะ”
หม่าจงหัวไม่พูดอะไร เพียงแต่ค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆ เขายกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่หางตา แล้วมองไปยังทุกคนของตระกูลหม่า เมื่อเห็นใบหน้าที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เหล่านี้ หม่าจงหัวก็อยากจะออกไปจากตระกูลหม่าเสีย แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?เขาคือผู้นำของตระกูลหม่า เพียงแค่ตนเองยังไม่ตาย เขาก็จะไม่มีทางทิ้งตระกูลหม่าไปแน่
จากนั้น แววตาทั้งคู่ขอเขาก็เปลี่ยนเป็นหนักแน่นขึ้นมา
หม่าเหาพูดไว้ไม่มีผิด ว่านี่คือโชคชะตาของตระกูลหม่า