จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 356
การตบแบบนั้นทำให้ฟางไห่อิงไม่ทันตั้งตัว ศีรษะสั่นสะเทือน เมื่อสักครู่ในหัวเธอมีคิดบางอย่าง แต่ในตอนนี้การโดนตบทำให้เธอสมองว่างเปล่า เธอตกตะลึง ยกมือขึ้นมาลูบบริเวณที่ปวดบนใบหน้าโดยอัตโนมัติ นี่มันเป็นการตบหน้าจริงๆ
นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าผู้ชายคนนี้กล้าลงไม้ลงมือกับเธอ แต่งงานกันมาตั้งหลายปี เธอต้องแบกรับความทรมานมาตั้งเท่าไหร่ ทำอย่างดีที่สุดแต่ก็ไร้ค่า เธอเองก็รับรู้ ใจเธออยากรู้แค่ว่ากาวหรงดีกับเธอหรือไม่ อย่างอื่นเธอไม่สนใจ
ทว่าในตอนนี้กาวหรงลงไม้ลงมือกับเธอ ผู้ชายคนที่ซื่อสัตย์ต่อหน้าคนอื่น ผู้ชายที่ดีคนนี้ตบเธอ เธอไม่รู้ว่าทำไม ผู้ชายที่ซื่อสัตย์คนนี้ถึงได้กลายเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ เธอไม่อยากจะเชื่อ ไม่กล้าที่จะยอมรับ
น้ำตาของเธอรื้นขึ้นมาในเบ้าตาทันที ความคับข้องใจที่สะสมมาเป็นเวลานานกำลังพรั่งพรูออกมาในเวลานี้
ทว่าเธอไม่ยอมให้น้ำตาได้ไหลออกมา ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่กำลังจะไหลลงมา
เธอไม่อยากเสียน้ำตาต่อหน้าผู้ชายคนนี้ เพราะเขาไม่คู่ควร!
ตั้งแต่วินาทีที่ผู้ชายคนนั้นลงมือกับเธอ ก็แน่นอนแล้วว่าเขาไม่คู่ควรกับตัวเธอเองอีกต่อไป ! ฟางไห่อิงเชื่อเรื่องข่าวลือโลกภายนอก ผู้ชายที่อยู่หน้าเธอช่างไม่คู่ควรกับเธอเลยจริงๆ !
ดังนั้นเธอจึงกัดฟัน มองกาวหรงและพยักหน้าอย่างผิดหวัง ความรู้สึกที่แสดงออกมาทางสายตาบ่งบอกทุกสิ่ง
สิ้นหวัง เธอสิ้นหวังทุกสิ่งอย่างกับกาวหรง !
ทว่ากาวหรงยังไม่รู้ตัวว่าตนเองทำอะไรผิด เขาพูดอย่างกับว่าได้คืบจะเอาศอก “คุณเสแสร้งจะอะไร? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องน่าละอายที่คุณทำไว้! ในตอนนี้แม้ว่าจะไปถึงบ้านของคุณแล้วบอกว่าฉันทำร้ายคุณ ฉันก็ไม่กลัว ฉันจะบอกคุณให้นะ ศักดิ์ศรีของผู้ชายในชีวิตนี้ไม่ว่าภรรยาของเขาจะเชื่อฟังหรือไม่ ตอนนี้คุณสวมหมวกเขียวให้ฉัน คุณคิดว่าฉันจะกลัวคุณหรือไง! ตอนนี้ฉันมีคลิปวิดีโอพลอดรักของคุณกับชู้รักอยู่ในมือ ฉันอดทนที่จะไม่พูดเรื่องนี้ต่อหน้าครอบครัวของคุณ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อไว้หน้าคุณ แต่ตอนนี้คุณช่างไร้ยางอายซะจริง ๆ!”
“จอด!” ฟางไห่อิงไม่อยากพูดอะไรกับกาวหรงอีก เธอตะโกนสั่งคนขับ
คนขับพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ “คุณนาย ถนนเส้นนี้จอดไม่ได้ครับ”
“ฉันบอกให้นายจอด!” ฟางไห่อิงไม่อยากฟังอะไรอีก หล่อนกรีดร้องออกมาอย่างหมดเรี่ยวแรง ใบหน้าที่แต่ก่อนเคยงดงามแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายและน่ากลัว นั่นคือสีหน้าสิ้นหวังของผู้หญิงคนหนึ่ง เดิมทีเธอไม่เคยตะวาดใส่คนงาน ทุกคนล้วนเพื่อการอยู่รอด ไม่ใช่เพื่อถูกต่อว่า เพียงแต่ตอนนี้ จิตใจของเธอเหมือนน้ำที่หยุดไหล!
“ไม่ต้องจอด!” กาวหรงตะโกนเสียงดัง คนขับก็ไม่กล้าจอด
“อ้ะ!” ฟางไห่อิงเหมือนเป็นบ้า ดิ้นรนเปิดประตูรถด้วยตัวเอง แต่กาวหรงรีบกอดเธอทันทีที่เห็นเหตุการณ์และตะโกนว่า “คุณทำแบบนี้คิดว่าการขัดขืนจะได้ผลหรือไง? กลับบ้านกับฉันก่อน”
“เอามือสกปรกของคุณออกไปจากฉัน ออกไป!” ฟางไห่อิงขัดขืน
“ที่สกปรกมันคือร่างกายของคุณ!” กาวหรงกอดฟางไห่อิงที่ดูเหมือนเป็นบ้าไปแล้วแนบแน่น นี่มันรุนแรง
ในขณะนั้นเอง รถก็หยุดอย่างกะทันหัน พร้อมกับกาวหรงที่กำลังทะเลาะกับฟางไห่อิง ความเร็วของรถที่หยุดลงในระยะเวลาอันสั้น เป็นผลทำให้ศีรษะของกาวหรงกระแทกเข้ากับที่นั่งอย่างแรง ศีรษะของเขาโนแดง
เขากอดฟางไห่อิงไว้แน่น ไม่กล้าปล่อยมือ ทำได้เพียงแค่ตะโกนใส่คนขับอย่างโกรธเคือง “แกจอดรถทำไม? รีบพาฉันไปเลย รีบขับไปเลย! ไม่งั้นผู้หญิงบ้าคนนี้หนีไปแน่”
ผู้หญิงบ้า กลายเป็นชื่อเรียกภรรยาของเขาไปแล้ว เจ้าหมอนี่กลายเป็นคนไร้ยางอายไปแล้ว
คนขับรถเอ่ย “ไม่ใช่นะ ประธานกาว มีรถจอดขวางทางอยู่ข้างหน้า”
กาวหรงกอดฟางไห่อิงไว้ ร่างกายของเธอดิ้นไปมาอยู่ตลอด ทำให้เขาไม่เห็นสถานการณ์ตรงหน้า เขายังคงกัดฟันและพูดต่อ “อย่างนั้นก็อ้อมไปสิ อ้อมไป แกอยากหาเรื่องตายหรือไง!”
คนขับพูดติดอ่าง “มะ มะ ไม่ ไม่ใช่ คนที่อยู่ในรถคันนั้นกำลังเดินมาทางนี้”
เพิ่งจะพูดจบ ประตูห้องโดยสารก็ถูกเปิดออก คนขับหันไปมอง ก็เห็นเพียงชายรูปร่างกำยำยืนอยู่หน้าประตูรถ คนขับขมวดคิ้วและถามว่า “นายเป็นใคร? นายจะทำอะไร?”
ผู้ชายคนนั้นไม่พูดอะไรสักคำ ยกมือขึ้นมาจับคนขับโยนออกไปโดยตรง คนขับเองก็รูปร่างสูงใหญ่ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเรี่ยวแรงคนๆนี้ กลับเหมือนกับลูกเจี๊ยบตัวน้อยที่ถูกผู้ชายคนนั้นจับโยนทิ้ง หลังจากล้มลงไปบนพื้น ผู้ชายคนนั้นก็ไม่สนใจเขาอีก ตรงขึ้นไปนั่งที่คนขับ
เมื่อเห็นคนที่เข้ามาอย่างกะทันหัน ในใจของกาวหรงก็เต้นตึกตัก เอ่ยถามร่างรูปร่างกำยำคนนั้น “นายเป็นใคร? โจร? แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? ฉันคือกาวหรง บ้านฉันทำเหมือง บ้านฉันมีเงิน!”
ประโยคที่ว่าบ้านเขารวยน่ะเขาพูดเรื่องจริง ไม่ว่าใครจะพูดอะไร เพียงแค่ได้ยินว่าบ้านรวย ล้วนแต่ตกใจขวัญหนีดีฝ่อกันทั้งนั้น แต่น่าเสียดายที่ผู้ชายคนนี้ไม่ตกใจ ตรงกันข้ามเขานั่งอยู่ในรถอย่างสงบเสงี่ยมไม่สะทกสะท้าน
เขากำลังจะพูด ทว่าประตูห้องผู้โดยสารด้านหลังก็ถูกเปิดออก เขาหันศีรษะไปมองด้วยความตระหนก เมื่อมองแล้ว เขาก็เห็นเงาของผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าประตูรถ มองไม่เห็นหน้า ผู้ชายคนนั้นขึ้นมานั่งในรถจากด้านนอก
เบาะหลังของรถเบนซ์ค่อนข้างกว้างขวาง แต่เมื่อนั่งกันสามคนบวกกับกาวหรงที่รูปร่างใหญ่ก็ยังแออัดเล็กน้อย!
หลังจากที่คนๆนั้นขึ้นมานั่งบนรถ อีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นมาวางบนไหล่ของกาวหรง
กาวหรงตัวสั่นไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลืมตาขึ้นมองคนที่เพิ่งขึ้นมานั่งบนรถ ใบหน้าแบบนี้ เสื้อผ้าแบบนี้ เขาจำได้แล้ว เป็นมัน คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเจ้านั่น เจ้าคนที่ประจบประแจงภรรยาของเขาในบ้านตระกูลฟาง เจ้าคนที่สวมหมวกเขียวให้เขา ทันทีที่เขาเห็นผู้ชายคนนี้ เขาก็โกรธมาก ให้ตายสิ กำลังจะไปหามันอยู่พอดี คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเอาตัวเองมาส่งให้ถึงหน้าประตู
“บัดซบ!” กาวหรงอดไม่ได้ที่จะสบถ ใบหน้าอ้วนของเขายับยู่ยี่เป็นก้อนกลม
จากนั้นกาวหรงก็ยกมือขึ้นจะต่อยผู้ชายคนนั้น แต่ก่อนที่กำปั้นจะตกลงไปบนหน้าของฟางเหยียน ก็ถูกมือของฟางเหยียนจับเอาไว้แน่น อีกฝ่ายจับไว้แน่นจนไม่สามารถดึงมือกลับมาได้
เจ้านั่นรูปร่างผอมแห้ง ดูแล้วคงต้านลมไว้ไม่อยู่ ทำไมมือของเขามีเรี่ยวแรงมากขนาดนี้
กาวหรงเหงื่อไหลออกมาทั้งร่าง กัดฟันถามอีกฝ่าย “แกจะทำอะไร?”
“เสี่ยวเหยียน!” ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ฟางไห่อิงก็ค่อยๆมีสติขึ้นมา จ้องมองให้แน่ใจ หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา หลังจากเห็นว่าเป็นฟางเหยียน
ฟางเหยียนเหลือบมองไปที่ฟางไห่อิง ก็พบว่าศีรษะของเธอยุ่งเหยิง มีน้ำตาไหลผ่านที่มุมตาของเธอ สิ่งที่น่าเกลียดที่สุดคือ บนใบหน้าของเธอมีรอยนิ้วมือ ปฏิกิริยาแรกของฟางเหยียนคือเธอถูกตบ
“เขาตบอาเหรอ?” ใบหน้าของฟางไห่อิงโทรมลงมาก อากาศภายในรถก็ดูเหมือนจะลดลงหลายองศาในทันที