จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 366
เช้าวันรุ่งขึ้น ฟางเหยียนมีที่คฤหาสน์ตระกูลเจี่ยพร้อมกับเทียนขุย
คฤหาสน์ตระกูลเจี่ยอยู่ใกล้กับสุ่ยหยุนต้งเทียน สุ่ยหยุนต้งเทียนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง อยู่นอกชานเมืองของเจียงตู ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่วิเศษ วิวทิวทัศน์ชวนให้คนผ่อนคลาย เหมาะแก่การท่องเที่ยว
สิ่งที่เจียงตูขาดแคลนมากที่สุดก็คือสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติแบบนี้ เพราะเจียงตูเป็นเมืองที่พัฒนาที่สุดของประเทศหวา คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คุ้นเคยกับตึกสูงใหญ่ คุ้นเคยกับรถรา พวกเขาต้องการสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติเพื่อปรับเปลี่ยนอากาศหายใจ ดังนั้นจึงสะอิดสะเอียนกับตึกสูงๆ
แต่ทว่าสุ่ยหยุนต้งเทียนเหมาะสมอย่างสมบูรณ์แบบต่อความต้องการของคนเจียงตู ที่นี่มีดอกไม้นานาพรรณ แล้วยังมีแม่น้ำที่ทอดผ่านสวนพฤกษชาติ แม่น้ำนี่เป็นน้ำไหลตามธรรมชาติ ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ดังนั้นเมื่อมองลงไปจะเห็นท้องแม่น้ำ และฝูงปลาแหวกว่ายได้อย่างชัดเจน และยังมีช่องสวนพฤกษชาติแนวยาว ในช่องทางนั้นทอดยาวไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ เต็มไปด้วยกลิ่นหอมฟุ้งของดอกไม้นานาชนิด
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ตามหลักแล้วจะต้องมีคนจำนวนมากมาเที่ยว แต่สิ่งที่แปลกคือ นอกจากผู้เฒ่าสองสามคนที่ตกปลาอยู่ริมแม่น้ำ บริเวณโดยรอบสวนพฤกษชาติแทบจะไม่มีคนเลย แม้แต่ลานจอดรถของสุ่ยหยุนต้งเทียนก็ไม่มีรถจอดสักคน
เนื่องจากไม่มีผู้คน จึงดูๆแล้วเหมือนที่รกร้าง อึดอัดมากจนเห็นได้อย่างชัดเจน
เมื่อรถหงฉีขับผ่านถนนที่ว่างเปล่าเส้นนั้น ฟางเหยียนหันไปมองด้านนอกรอบๆ เมื่อมองไป ได้เห็นหญิงชราที่ผมมากมายกำลังนั่งยองๆเผากระดาษอยู่ที่สามแยก
เทียนขุยก็เห็นเหตุการณ์นี้เช่นกัน เขาบึนปาก แล้วด่าออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า “โชคร้าย!”
หลังจากที่ด่าแล้ว ก็ได้ถามฟางเหยียนว่า “จอมพลโผ้จวิน ท่านรู้มั้ยว่าทำไมที่นี่ถึงไม่มีคน?”
ฟางเหยียนไม่รู้จริงๆว่าทำไมที่นี่ถึงไม่มีคน แต่เขาก็กล่าวอย่างไม่สนใจว่า “สำคัญอะไรมั้ย?”
“ท่านดูนะ ที่นี่เป็นเมืองสวนสาธารณะที่ใหญ่โต วิวทิวทัศน์ไม่เหมือนใคร แม่น้ำทอดผ่านทั้งที่ท่องเที่ยว ตั้งอยู่ที่ชานเมือง อากาศบริสุทธิ์ มีความวิเศษทางธรรมชาติ เมื่อก่อน สถานที่แห่งนี้เป็นตัวเลือกของผู้คนมากมายในการพักผ่อน แต่หลังจากที่เกิดเรื่องนั้นแล้ว ที่นี่ก็กลายเป็นมืดมน เริ่มรกร้าง” เทียนขุยแนะนำเหมือนเป็นไกด์ก็มิปราณ
ฟางเหยียนส่งเสียงอ๋อ แล้วเริ่มสนใจ จึงได้ถามต่อว่า “เกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
เทียนขุยหัวเราะขึ้นมา แล้วพูดด้วยความสุข “เรื่องนี้ต้องเริ่มพูดจากเจ้าของที่เข้ามาพัฒนาที่นี่ ที่นี่เปลี่ยนเจ้าของโครงการมาสามครั้งถึงจะพัฒนาสำเร็จจนเป็นแบบนี้ ที่เปลี่ยนเจ้าของไม่ใช่เพราะเรื่องเงิน แต่เพราะเรื่องแปลกๆบางอย่าง พูดให้มันลึกลับหน่อยก็เกี่ยวข้องกับเรื่องผี ตอนที่เจ้าของโครงการกำลังพัฒนาที่ดินที่นี่อยู่นั้น ได้ขุดกระดูกมากมายจากใต้ดิน เจ้าของคนนั้นไม่สนใจ เพราะการที่ขุดเจอโครงกระดูกใต้ดินนั้นเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยมาก เขาขุดต่อไป ต่อมาได้ขุดพบโครงกระดูกมากมายขึ้นไปอีก อย่างน้อยก็ร้อยกว่าชิ้น ที่นี่เหมือนกับเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ขึ้น จึงได้ฝังคนไว้มากมายขนาดนั้น”
“แน่นอน ไม่มีใครสนใจโครงกระดูกเหล่านี้ เจ้าของธุรกิจคนนั้นเป็นนักธุรกิจดั้งเดิม ไม่เชื่อเรื่องผีสางนางไม้อะไรพวกนั้น หลังจากที่ขุดลึกลงไปแล้วนั้น พวกเขาเริ่มขุดเจอสิ่งของล้ำค่าบางอย่าง ว่ากันว่าเป็นเครื่องทองสัมฤทธิ์ลายมังกร และเซรามิกที่ยุคราชวงศ์เซี่ยซางโจว แต่ละชิ้นมูลค่ามหาศาล และเจ้าของธุรกิจที่ไร้ยางอายได้เก็บทุกอย่างไว้เป็นของตัวเอง”
“หลังจากที่เขาครอบครองสิ่งของล้ำค่าเหล่านั้นได้ไม่นาน ก็เริ่มเกิดปัญหาขึ้น เกิดเรื่องแปลกๆมากมายที่ไซต์งาน คนงานจำนวนมากมายพูดว่าเห็นผี บอกว่ามีคนแปลกหน้ามาหาพวกเขาที่นี่เพื่อมาเอาของ ถามพวกเขาว่าเห็นของของตัวเองมั้ย พออธิบายลักษณะ ก็เป็นสิ่งล้ำค่าเหล่านั้นที่ถูกขุดออกมา ต่อมามีคนไปบอกเจ้าของโครงการ เจ้าของโครงการกลับคิดไปว่าคนนั้นคิดจะแบ่งของล้ำค่าจึงได้แต่งเรื่องขึ้นมา ด้วยเหตุนี้จึงได้ด่าคนนั้นไป คนงานจะถูกด่าก็ไม่ได้ป้ะ พอถูกด่าปุ๊บก็กลับบ้านเลย”
“แบบนี้ จึงทำให้คนงานค่อยๆลดน้อยลงไป ค่อยๆน้อยลงจนหลายแค่ไม่กี่คน อยู่มาคืนหนึ่ง มีคนงานคนหนึ่งไปหาเจ้าของโครงการ บอกว่าพบเจอกับเรื่องประหลาด ตอนที่คนนั้นไปถึงห้องทำงานของเจ้าของ เจ้าของก็ได้เสียชีวิตไปแล้ว!ผูกคอตายที่โคมไฟระย้าในห้องทำงาน และสิ่งของที่ขุดขึ้นมาได้จากใต้ดินก็หายไปกับตา ในตอนนั้นทุกคนก็มั่นใจว่าต้องเป็นภูตผีพวกนั้นขึ้นมาเอาของๆตัวเองกลับไปแน่นอน ดังนั้นจึงได้ฆ่าเจ้าของโครงการทิ้ง สถานที่ที่พวกเขาขุดลงไปนั้นเหมือนจะเกิดวิกฤตอะไรสักอย่างขึ้น”
“เจ้าของตายแล้ว โครงการนี้ก็กลายเป็นโครงการร้าง เพื่อเงิน เจ้าของโครงการคนที่สองก็ได้โผล่ขึ้นมา เจ้าของคนนี้เหมือนกับคนแรก เป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีเช่นกัน เขารับช่วงต่อโครงการนี้มา ไม่นานก็ได้เริ่มลงมือ ว่ากันว่าเจ้าของคนนี้ไม่ได้ขุดเจอโครงกระดูก และไม่ได้ขุดเจอของล้ำค่าพวกนั้น ทำงานได้อย่างราบรื่นจนน่าแปลกใจ คนจำนวนมากบอกว่าบรรพบุรุษของเจ้าของคนนี้มีพลังมากพอ ดังนั้นจึงคุ้มครองเขาไว้ได้ แต่ตอนที่โครงการกำลังจะถึงโค้งสุดท้ายก็ได้เกิดเรื่องขึ้น!”
“เช้าตรู่วันนั้น คนงานคนหนึ่งขุดเจองูที่ใหญ่มาก พูดว่ากว้างเป็นห้าหกสิบเซนติเมตร ความยาวไม่แน่ชัด รถแมคโครขุดเจอด้านหลังของงู ไม่ได้ขุดโดนตัวงู แต่ขุดจนเกล็ดหลุดไปนิดหน่อย งูตัวนั้นค่อนข้างใหญ่ เริ่มมีเกล็ดขึ้นมาแล้ว ตอนที่ร่างของมันถูกขุดเจอ มันขยับนิดนึง อย่างประหลาด”
“เดิมทีอากาศแจ่มใส จู่ๆก็กลับฝนฟ้าคะนอง ไม่กี่นาทีฝนก็ตกลงมา เจ้าของมาที่ไซต์งาน เมื่อเห็นงูยาวตัวนั้น ก็ไม่ได้สนใจอะไร ได้ให้คนงานคนนั้นขุดต่อไป คนงานบอกว่าไม่กล้าขุดต่อ เพราะคนที่ขับรถแมคโครรู้ข้อห้ามดี แต่ขุดเจองู วันนั้นทั้งวันจะขุดต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ถ้าขุดโดยไม่ระวังขุดจนมันตาย ต้องรีบขอขมา ขอโทษอย่างจริงใจ มีคำพูดที่ตกทอดกันมาว่า งูที่อยู่ในดินส่วนใหญ่กำลังฝึกฝน คนอื่นอาจจะไม่เชื่อ แต่คนขับรถแมคโครต้องเชื่อ”
“เจ้าของเห็นคนขับรถไม่ขุดต่อ จึงได้ขึ้นไปลงมือเอง เดิมทีเขาก็ทำงานด้านนี้อยู่แล้ว ตัวเองขับรถแมคโครได้ เขาพยายามเอางูยักษ์ออกมาให้ผู้คนได้เห็น และไม่คิดที่จะทำร้ายงูยักษ์นั้นแต่อย่างใด เพียงแต่ขุดไปรอบๆตัวของมัน เอาดินที่คลุมงูยักษ์อยู่ออกให้หมด หลังจากที่เขาขุดไปได้ห้านาที จู่ๆตัวงูก็ได้ประกายแสงสีทองออกมา ว่ากันว่าแสงสีทองนี้ประกายออกมาจากเกล็ดของมัน สว่างจ้าจนคนจำนวนไม่น้อยลืมตาไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว”
“หลังจากรอให้แสงนั้นหายไปแล้ว งูยักษ์นั่นก็หายไป ไม่มีใครรู้ว่างูไปไหนแล้ว ต่อมามีคนพูดว่านั่นไม่ใช่งูแต่เป็นมังกร!เมื่อกี๊เกล็ดที่หล่นลงจะต้องเป็นเกล็ดมังกร มีคนรู้สึกประหลาดใจ จึงได้หยิบเกล็ดนั้นขึ้นมาดู เมื่อหยิบขึ้นมา คนนั้นก็ตายทันที!ร่างเป็นสีดำม่วง น้ำลายฟูมปาก แล้วล้มลงกับพื้นทันใด”
“วันนั้นคนงานไม่ได้ขุดต่อ แต่หลังจากวันนั้นแล้ว ก็ไม่มีใครเห็นเจ้าของคนนั้นอีกแล้ว เขาหายตัวไป ของทุกอย่าง อุปกรณ์ทุกอย่างยังอยู่ครบ แต่ไม่เห็นตัวคนแล้ว หาทั่วไซต์งาน หาทุกๆทีที่เขาอาจจะไปก็ไม่เจอ ด้วยเหตุนี้ที่ไซต์งานมีคนพูดว่าว่าเขาถูกเข้ากับเทพเจ้า ถูกเทพเจ้าเอาไปเป็นคนใช้แล้ว ไม่มีใครรู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน!”