จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 384
ฟางเหยียนพยักหน้าแล้วกล่าว “เป็นอะไรครับ?เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านตามผมมา!” ตอนที่ถังเสี่ยนจงเรียกฟางเหยียนใช้สรรพนามว่าท่าน อายุของเขาเป็นรุ่นปู่ของฟางเหยียนไปแล้ว แต่ก็ยังคงให้เกียรติในการเรียกฟางเหยียน นี่เป็นสิ่งที่ได้ติดไปจากนิสัยของฟางเหยียน
ไม่นาน เขาพาเทียนขุยและฟางเหยียนมาที่สระน้ำ ในสวนนั้นมีศพที่ถูกคลุมผ้าขาวที่เรียงลายอยู่หลายศพ ข้างๆศพมีทีมหลายรักษาความปลอดภัยหลายคนกำลังตรวจสอบอยู่
ดูจากผ้าขาวที่คลุมศพไว้ ผู้ตายเหล่านี้น่าจะส่วนหัวถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักแล้วตาย เพราะส่วนหัวมีเลือดซึมออกมาที่ผ้าขาว ฟางเหยียนไม่พูดอะไร เพียงแต่เข้าไปใกล้ๆศพเหล่านั้นอย่างเงียบๆ
เมื่อมาถึงข้างๆศพ เขานั่งยองๆลง ยกมือขึ้นไปเปิดผ้าขาวนั้น ภาพนองเลือดปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา ส่วนหัวของผู้ตายถูกตีจนแบน ยุบลงไปอย่างลึก เหมือนถูกค้อนทุบลงไปที่หัว รอบๆบริเวณหัวมีการผสมกันของสมองและเลือดที่ไหลลงมา เมื่อดูแล้วมันช่างคลื่นไส้เสียจริงๆ
ภาพแบบนี้ ฟางเหยียนไม่ได้เห็นแค่ครั้งเดียว ในสนามรบ เขาแทบจะต้องอยู่กับคนตายทุกวัน เคยชินไปนานแล้ว เทียนขุยยืนอยู่หลังเขา แว็บแรกที่เห็นศพนั้น ก็ตัวสั่นขึ้นมา เขาตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น “นั่นมันหนิ!”
ฟางเหยียนปิดศพนั้น ยืนขึ้นหันไปมองเทียนขุย ใบหน้าของเทียนขุยสั่น แล้วกล่าวอย่างติดๆขัดๆ “จอมพลโผ้จวิน มัน เป็นมันจริงๆด้วย!มันมาแล้ว และแล้วมันก็มาเสียที”
ตอนพูด เทียนขุยตื่นเต้นจนเกือบน้ำตาไหลออกมา วินาทีนี้ เขารอมานานมากๆ และแล้วก็มาถึง เขามาแล้ว การฆ่าคนแบบนี้นอกจากอาจารย์อ๋าวไท่ของสามคุณชายแห่งจินโจวลูกพี่ชายหน้าบาก แล้วยังมีใครอีก?
อ๋าวไอ่ คนที่ทำร้ายเทียนขุยเกือบตายครั้งที่แล้ว คนที่เหยียดหยามเทียนขุย คนที่อยู่ร่วมโลกกับเทียนขุยไม่ได้ และแล้วเขาก็ปรากฏตัวออกแล้ว และแล้วเทียนขุยก็รอถึงการปรากฏตัวของเขาเสียที
เดิมทีคิดว่าเขาจะไม่ปรากฏกายออกมาง่ายๆ เทียนขุยต้องไปล้างแค้นเขาเอง ไม่คาดคิดว่าเขาจะปรากฏตัวออกมาเร็วขนาดนั้น
เทียนขุยกัดฟัน แล้วพูดอย่างชัดเจนว่า “ปรากฏตัวอีกแล้วสินะ”
เขากำหมัดแน่น ระหว่างข้อต่อเกิดเป็นเสียงแกร็กๆขึ้น กลิ่นอายความเกลียดชังสะท้อนออกมา คนที่คลุกคลีอยู่กับสนามรบ ให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีของตัวเอง แต่ไอนั่นเหยียดหยามศักดิ์ศรีของเขา
นี่เป็นการไม่เคารพทหารมากที่สุด แล้วยังไม่ให้เทียนขุยเกลียดได้อย่างไร!
ถังเสี่ยนจงเดินเข้ามา แล้วถาม “หมอเทพฟาง ท่านรู้จักคนนี้มั้ย?”
ฟางเหยียนพยักหน้าแล้วกล่าว “ครับ!ถ้าไม่เกิดเหตุ เขาเป็นคนที่ผมอยากเจอ”
“เฮ้อ!” ถังเสี่ยนจงรีบกล่าว “เทพหมอฟาง บางทีคุณอาจจะไม่รู้ เมื่อวานคนนั้นมาถึงที่บ้านเราก็ฆ่าคน เห็นใครก็ฆ่า ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม!ศพที่ท่านเห็น เป็นคนที่เขาฆ่าทั้งหมด ในมือของเขาเหมือนมีค้อนอยู่อย่างไรอย่างนั้น ทุบตีลงไปที่หัวของคนเหล่านั้นอย่างรุนแรง ตีจนหัวคนแตกกระจายเลย ต่อมาเหล่าเห้อมาขวางเขาไว้ เขาพยายามฆ่าเหล่าเห้อ แต่ฆ่าไม่ได้ แล้วเขาก็คว้าตัวเสี่ยวยู่ไป เหล่าเห้อไล่ตามออกไป พอออกไปก็ออกไปทั้งคืน จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวอะไรเลย”
ถังเสี่ยนจงพูดพลาง เกือบจะร้องไห้ออกมา
“เขาเปลือยกายท่อนบนใช่มั้ย หัวล้าน แต่ภายใต้หัวล้านก็มีผมยาวถึงไหล่?” เทียนขุยถาม
ถังเสี่ยนจงชะงัก รีบพยักหน้า “ใช่ๆๆ เป็นคนอย่างที่คุณเทียนขุยพูดไว้เลยครับ”
“พวกเรากำลังหาเขาอยู่เหมือนกัน ไม่คาดคิดว่าเขาจะมาหาถึงที่!” เทียนขุยกัดฟัน กระทืบเท้าลงกับพื้นอย่างเกรี้ยวกราด
กระทืบลงไปที่หินอ่อน ได้ยินเสียงเพียะดังขึ้น จู่ๆหินอ่อนก็แตกออกเป็นส่วนๆ
ตำรวจเห็นเหตุการณ์นี้ก็ตะลึง พวกเขาจะเคยเห็นชายกำยำแบบนี้ได้อย่างไรกัน นึกไม่ถึงว่าแค่กระทืบก็ทำให้หินอ่อนแตกได้ หินอ่อนนี้ไม่กลวง แต่มีเนื้อในจริงๆ การที่จะเหยียบให้แตก ต้องใช้พลังมากมายขนาดไหนกัน
ถังเสี่ยนจงเหลือบไปมอง ฟางเหยียนแล้วถาม “หมอเทพฟาง ท่านพอจะช่วยได้มั้ยครับ…”
เขายังพูดไม่จบ ก็ถูกเสียงเรียกของมือถือดังขัดจังหวะ โทรศัพท์ของฟางเหยียน เขาหยิบมือถือขึ้นมา เป็นเบอร์แปลก เขาเงียบไปสักพัก รับสาย เขายังคงเก็บอาการไว้ แล้วรอให้ปลายสายพูดขึ้นมา
สิ่งที่แปลกคือ ครั้งนี้ปลายสายไม่พูดอะไร เปลี่ยนไปเป็นเหมือนเขา ที่นิ่งเงียบ!
ทั้งสองเงียบไม่พูดไม่จาอะไร เหมือนกับกำลังเดาความคิดของอีกฝ่ายอยู่
เหตุการณ์เงียบสงัด ทุกคนกำลังรอเนื้อหาจากในสายของฟางเหยียน แต่เห็นฟางเหยียนไม่พูดอะไร ถังเสียนจงร้อนรนจะอดไม่ไหว ตอนนี้การรอคอยสำหรับเขาคือความทรมานอย่างหนึ่ง
เขาสะอึกสะอื้น แล้วถาม “เทพหมอฟาง ใครอะครับ?คนปลายสาย…”
ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาส่งสัญญาณว่าอย่าพูด นี่เป็นการต่อสู้ของยอดฝีมือทั้งสองฝ่าย การต่อสู้ของยอดฝีมือ ไม่ใช่การด่าทอ แต่เป็นการอดทน ใครพูดก่อน ก็เป็นคนที่อดไม่ไหว
ในเมื่อโทรมาแล้ว นั่นหมายถึงปลายสายมีเรื่องจะคุยกับฟางเหยียน ถ้ามีเรื่องก็ต้องพูดขึ้นมาเอง
เห็นท่าทีของฟางเหยียน แม้ถังเสี่ยนจงจะไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร เพราะเป็นชีวิตของหลานสาวที่รักของตัวเอง!
และแล้ว ก็เป็นฝ่ายนั้นที่ทนไม่ไหว เสียงอู้อี้ดังขึ้น “แกคือฟางเหยียน?”
เป็นเสียงของผู้ชาย ฟังดูแล้วดูมีอายุ แต่เสียงกลับเต็มเปี่ยมด้วยพลัง แค่ฟังก็รู้แล้วว่าเป็นยอดฝีมือ ความจริงแล้วที่ฟังก็คือฟังว่าเสียงของคนนี้มีพลังหรือไม่
ถ้าเสียงภายนอกมีพลัง คนนี้จะมีนิสัยรุนแรง แต่อ่อนแอ ถ้าเสียงภายนอกไม่มีพลัง ไม่ก็เป็นโรค ไม่ก็จิตใจดีอ่อนโยน ถ้าใช้เสียงหลบ มีเสียงจากภายในดังขึ้นมา คนนี้เป็นคนเลว นี่เป็นความรู้เบื้องต้นในการดูคน และเป็นสิ่งที่พวกเราเรีนมาทั้งหมด เสียงบ่งบอกได้ถึงนิสัยของคนๆนี้
คนนี้อยู่ในกลุ่มคนที่ใช้เสียงภายใน นิสัยชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่ง แล้วยังโหดเหี้ยมอีกด้วย มีความอาฆาตปรากฏออกมาจากทั้งในและนอก คำพูดทุกคำจะฆ่าแกงกันให้ได้
“ใช่!มีธุระอะไร?” ฟางเหยียนถามอย่างเย็นชา
จู่ๆปลายสายก็ส่งเสียงเยาะเย้ยออกมา แล้วกล่าว “ฉันว่า แกน่าจะรู้แล้วนะว่าฉันเป็นใคร?”
“รู้ ว่ามา แกคิดจะทำอะไร?” ฟางเหยียนถาม
อ๋าวไท่หัวเราะเสียงดัง เปลี่ยนเรื่องคุย แล้วกล่าวอย่างคมคาย “แกฆ่าลูกศิษย์ของฉัน!แกว่าฉันจะทำอะไรล่ะ?”
“แกคืออ๋าวไท่?” ฟางเหยียนพูดเบาๆ เย็นชา เดาอารมณ์ไม่ออก และไม่รับรู้ถึงความโกรธเลยแม้แต่น้อย
ปลายทางหัวเราะฮ่าๆๆออกมา ตอนที่เขาหัวเราะออกมา แล้วยังมีเสียงสะท้อนกลับมา เขาน่าจะอยู่ที่โล่งว่าง และเป็นที่ๆใหญ่มาก