จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 432
หลังจากเทียนขุยหยิบเสื้อผ้าไป พนักงานสาวก็แอบคิด ในเมื่อคนนี้สนใจตน ทำไมไม่ลองถามความเห็นตนดูสักหน่อยล่ะ ดูท่าแล้วเขาน่าจะเป็นเถ้าแก่ที่มีเงินมากโขอยู่
พอเข้าไปในห้อง เทียนขุยเอาเสื้อผ้าให้เสี่ยวหงพลางว่า “คุณไปอาบน้ำก่อนเถอะ!”
เสี่ยวหงรับชุดมา และเข้าไปในห้องน้ำ
ขนาดฝันเทียนขุยยังไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเสี่ยวหงอีกด้วยวิธีแบบนี้ นี่เป็นอะไรที่เขาคิดไม่ถึงเลย เรื่องที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวหง ไม่ได้ทำให้เขารังเกียจเสี่ยวหง กลับยิ่งเห็นใจเสี่ยวหงมากขึ้นซะอีก
เสี่ยวหงเป็นตัวแทนความรักทั้งหมดของเทียนขุย ในด้านความรักของเขามีแต่เสี่ยวหงเท่านั้นที่เคยมีตัวตน นอกจากแม่เขาแล้วเสี่ยวหงเป็นผู้หญิงที่ใกล้ชิดเขามากที่สุดเพียงคนเดียว ดังนั้นเสี่ยวหงเลยมีความสำคัญในใจเขามาก
เทียนขุยกำหมัดแน่น แอบสัญญาในใจว่า “คุณวางใจเถอะ เสี่ยวหง ผมจะต้องช่วยคุณจัดการตระกูลหยางให้ราบเลย”
ไม่นาน ประตูเปิดออก มีกลิ่นหอมของครีบอาบน้ำลอยออกมาจากในห้องน้ำ ตามมาด้วยร่างสาวสวยสะอาดคนหนึ่งเดินออกมาจากข้างใน
เสี่ยวหงที่อาบน้ำสะอาดแล้วยิ่งดูบริสุทธิ์ผ่องใสมากขึ้น เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ถึงจะอายุสามสิบแล้ว แต่ก็ดูน่ากอบโกยสมกับที่ขอทานสกปรกสองคนนั้นบอกว่าผิวเรียบเนื้อนุ่ม ถึงเสี่ยวหงจะผ่านความโหดร้ายมา แต่ยังคงรักษาใบหน้างดงามเอาไว้ได้ แถมบนตัวเธอยังพกพากลิ่นอายสาวเต็มวัยที่ดึงดูดใจคนไม่หยุดอีก
ถึงเธอจะเทียบกับหลินถงไม่ได้ แต่ถ้าดูตามความสวย เธอถือเป็นสาวสวยคนหนึ่งเลยทีเดียว ต่อให้อยู่ในชุดพนักงาน กลับทำให้เทียนขุยใจเต้นไม่เป็นส่ำเหมือนกัน จุดที่ควรนูนก็นูน ส่วนที่ควรโค้งก็โค้ง ไม่ว่าดูยังไง ก็มีเสน่ห์ของผู้หญิงเต็มเปี่ยม
ความเปลี่ยนแปลงของเสี่ยวหงมันมากเกินไป คำที่ว่าผู้หญิงเปลี่ยนแปลงไวมาก คำพูดนี้ไม่ผิดเลยจริงๆ มิน่าคนแก่อายุหกสิบคนนั้นอยากได้เสี่ยวหงเป็นเมียน้อย ต่อให้ตอนนี้เทียนขุยดู ก็ยังอดกลืนน้ำลายดังเอื๊อกไม่ได้
เทียนขุยเป็นผู้ชายคนหนึ่ง ถึงจะไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไหนในสนามรบ แต่ในใจก็ยังคงคิดถึงผู้หญิงอยู่ เขาไม่ได้แน่วแน่มั่นคงเท่าฟางเหยียนขนาดนั้น พอมาเห็นเสี่ยวหงในตอนนี้ ในใจก็เริ่มมีความรู้สึกแปลกๆอย่างหนึ่งขึ้นมา
เขารีบดึงสายตากลับ ลุกขึ้นจากเตียงถามว่า “อาบเสร็จแล้วหรอ?”
เสี่ยวหงพยักหน้ารับ ดวงตากลมโตมองเทียนขุยพลางถามว่า “เจ้าวัวรอง ฉันใส่ชุดนี้ไม่สวยหรอ?”
เทียนขุยรีบพยักหน้าบอก “สวย สวยสิ ทำไมจะไม่สวยล่ะ”
“งั้น…ทำไมคุณไม่มองฉันล่ะ?” เสี่ยวหงถามอีก น้ำเสียงร้อนรนเล็กน้อย
เทียนขุยอ๋ามาหนึ่งคำ เงยหน้ามองเสี่ยวหงพลางว่า “เปล่านี่ ผมก็แค่…”
เขาจะพูดอะไร แต่ก็เงียบไปอีก และไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขาเพียงแค่ลุกขึ้นพูดว่า “ไปเถอะ!”
ระหว่างพูด เทียนขุยเดินไปทางนอกประตู แต่พึ่งเดินไปไม่กี่ก้าว เขาก็โดนเสี่ยวหงจู่โจมเล็กน้อยด้วยการกระโดดกอด เสี่ยวหงพูดทั้งน้ำตาว่า “เจ้าวัวรอง คุณรู้ไหม? ในตอนที่ฉันหมดหวัง สมองฉันคิดถึงแต่คุณ หวังว่าคุณจะปรากฏตัวช่วยฉัน เพราะตอนเด็กที่โดนรังแกมีแต่คุณเท่านั้นที่ปรากฏตัวออกมาปกป้องฉัน และมีแต่คุณที่คอยปกป้องฉันเงียบๆ ตอนนั้นฉันหวังให้คุณปรากฏตัวจริงๆ”
เทียนขุยรู้สึกถึงความชื้นเปียกที่หลังตน เกิดจากน้ำตาและน้ำฝนที่ผมของเสี่ยวหง เสี่ยวหงที่ทุกข์ทรมานมามากนักร้องไห้ออกมาแล้ว
บางทีเธออาจจะไม่ได้ร้องไห้มานานแล้ว มีแต่ตอนเห็นเทียนขุย ผู้ชายที่เธอคิดถึงมานาน เธอถึงได้หลั่งน้ำตา นี่เป็นครั้งที่ห้าที่เธอร้องไห้แล้ว น้ำตานี้ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะยอมแห้ง
พอได้ยินเสี่ยวหงพูดแบบนี้ เทียนขุยก้มหน้าลงพูดด้วยสีหน้ารู้สึกผิดว่า “ขอโทษ เสี่ยวหง! โทษผมเอง ผมมาช้าไป ต้องโทษว่าผมมาช้าเกินไป”
“ไม่!” เสี่ยวหงกอดเทียนขุยแน่นมาก พลางว่า “ไม่ ไม่เกี่ยวกับคุณเลย”
“คุณวางใจเถอะ ผมจะต้องให้หมอนั่นชดใช้ด้วยเลือดอย่างสาสมแน่” เทียนขุยพูดอย่างหนักแน่น
เสี่ยวหงร้องไห้กระซิกต่อ ไม่รู้ว่าพูดอะไร ฟังไม่ค่อยชัด
หลังจากร้องอยู่สักพักใหญ่ เสี่ยวหงพูดเสียงเบาว่า “เจ้าวัวรอง คืนนี้พวกเราไม่กลับไปได้ไหม? ฉันอยาก ฉันอยากอยู่กับคุณ รอพรุ่งนี้ฉันสงบจิตใจลงแล้ว ค่อยกลับไปกับคุณ ได้ไหม?”
พอเทียนขุยได้ยินคำนี้ ก็อึ้งไป เขาหมุนตัวกลับมามองเสี่ยวหงช้าๆ หน้าของเสี่ยวหงแดงก่ำ หัวก้มต่ำมาก เทียนขุยเข้าใจความรู้สึกของเธอในตอนนี้ดี เธอไม่ได้เจอคนแปลกหน้ามาหลายปีแล้ว จู่ๆจะไปเจอคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ก็ต้องการเวลาในการปรับตัวหน่อยอยู่แล้ว
เทียนขุยหันไปมองเวลา ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าแล้ว กลับไปเจอโผ้จวินพักผ่อน ก็ต้องรอพรุ่งนี้เช้าถึงจะรายงานได้
เทียบกับกลับไปพักผ่อนที่นั่น สู้อยู่ที่นี่เลยดีกว่า พอคิดถึงตรงนี้ เทียนขุยพยักหน้าเล็กน้อยพลางว่า “ตกลง!”
เทียนขุยพาเสี่ยวหงไปที่เตียง ส่วนตัวเองก็นั่งลงข้างๆ บรรยากาศเริ่มกระอักกระอ่วน นี่เป็นครั้งแรกที่เทียนขุยอยู่ในห้องกับผู้หญิงสองต่อสอง แถมห้องเล็กมาก กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำบนตัวเสี่ยวหงทำให้คนคิดไปไกลมาก
ทันใดนั้น เสี่ยวหงมุดตัวเข้ามาในอ้อมแขนของเทียนขุย พลางว่า “เจ้าวัวรอง ฉัน…”
เธอยังพูดไม่ทันจบ ทั้งตัวก็เริ่มกอดเทียนขุยแน่นขึ้นเรื่อยๆ คือมุดเข้าในอ้อมแขนเขาทั้งตัวเลย เธอบ่นพึมพำว่า “เจ้าวัวรอง คุณไม่ว่าที่ฉันกอดคุณแบบนี้ใช่ไหม?”
ที่จริงเทียนขุยไม่ว่าเลย เขาร้องอ๋ามาหนึ่งคำ พูดอย่างหน้าแดงว่า “ไม่ ไม่ว่าเลย”
เสี่ยวหงใส่ชุดพนักงานที่สั้นเผยขาสวย พอนั่งลงก็จะเห็นขาขาวผ่องทั้งสองข้างของเธอ เทียนขุยไม่เคยมองเห็นขาสาวที่ไหนระยะประชิดขนาดนี้มาก่อน พอเห็นเลยก็เลยเริ่มทนไม่ไหวแล้ว
เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง มีความต้องการที่ผู้ชายมี มันก็แค่สัญชาตญาณของผู้ชายเท่านั้นเอง
เสี่ยวหงกอดเทียนขุยแน่น พลางว่า “ไม่รู้ทำไม ฉันรู้สึกปลอดภัยเมื่อกอดคุณไว้แบบนี้ เจ้าวัวรอง กำยำกว่าเมื่อก่อนนะ แถมยัง…ยิ่งกว่าก่อนอีก”
ระหว่างพูด สองตากลมของเสี่ยวหงจ้องมองเทียนขุย เธอไม่ได้พูดต่อ กลับกระพริบตามองเทียนขุย และค่อยๆแนบร่างเข้าชิดเขา นำพาความเป็นหญิงเข้าใกล้เขา
เทียนขุยเริ่มต้านทานไม่ไหว ใกล้แล้ว เสี่ยวหงอยู่ใกล้เขามากขึ้น
นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่หรือไง? ตลอดเวลานานขนาดนั้น เขารอคอยที่จะได้เจอเสี่ยวหงมาตลอด วันนี้ได้เจอแล้ว จะไม่คุ้นชินได้ยังไง? เสี่ยวหงจะทำอะไรน่ะ? จะจูบตนหรอ?