จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 433
เห็นแต่เพียงว่าเสี่ยวหงหลับตาลงแล้ว เหมือนที่ละครฉายเลย คือจะจูบตนแล้ว
แต่ว่าในตอนที่เสี่ยวหงกำลังจะจูบเทียนขุยแล้ว เทียนขุยกลับลังเลขึ้นมา และพูดว่า “เสี่ยวหง ผมว่า…”
เขาพูดยังไม่ทันจบ เสี่ยวหงก็ยกนิ้วขึ้นมาปิดปากเทียนขุยไว้ ตัดบทคำพูดเขา จากนั้น มือเธอก็เลื่อนไปมาบนตัวเขา ต้องยอมรับจริงๆว่า วิธีนี้ของผู้หญิงมันถึงชีวิตจริงๆ เทียนขุยรับไม่ไหวกับการโจมตีแบบนี้เลย
เขากลืนน้ำลายคำโตพลางว่า “เสี่ยวหง คุณ…”
เขาไม่รู้จะพูดยังไงดี มันเร็วเกินไปแล้ว เทียนขุยรับไม่ค่อยได้ ต่อให้เสี่ยวหงจะมีเสน่ห์มากแค่ไหน แต่เทียนขุยก็รับเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยได้
ในจังหวะสำคัญนั้นเอง เทียนขุยพลันได้สติกลับมา เขาจับมือเสี่ยวหงไว้พลางว่า “ไม่ได้!”
เขามองเสี่ยวหงใจเต้นแรง พลางกลืนน้ำลายว่า “เสี่ยวหง ผมไปอาบน้ำสงบสติอารมณ์หน่อยนะ”
พูดจบ เทียนขุยก็ไม่สนว่าเสี่ยวหงจะว่ายังไง ลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไปเลย
พอเทียนขุยออกมาอีกที เสี่ยวหงก็นอนหลับบนเตียงแล้ว เขาไม่ได้ทำอะไร และไม่กล้าทำอะไร ได้แต่ปิดไฟเบาๆ จากนั้นก็ลงไปนอนที่พื้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่ใกล้ผู้หญิงมากขนาดนี้ เทียนขุยไม่ทำอะไรเสี่ยวหงหรอก ยิ่งในเวลาอย่างนี้ด้วยแล้ว เขายิ่งไม่มีทางใช้ความอ่อนแอในจิตใจเสี่ยวหงมาฉวยโอกาสกับเธอแน่
คืนนี้ ถึงจะนอนบนพรม แต่เทียนขุยก็หมุนพลิกตัวอยู่นานกว่าจะหลับลงได้
พอตื่นในวันต่อมาก็พบกว่าปาเข้าไปเที่ยงกว่าแล้ว เขารีบลุกขึ้นนั่ง หันมองเสี่ยวหงและพบว่าเธอไม่อยู่แล้ว เขาหันไปมองห้องน้ำ ไม่มีแม้เงาร่างเสี่ยวหง
“เสี่ยวหง!” เทียนขุยร้องออกมา แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบจากเสี่ยวหง ห้องใหญ่แค่นี้ ห้องเดี่ยว มองแวบเดียวก็เห็นหมดแล้ว ทำไมเสี่ยวหงหายล่ะ? หรือว่าเมื่อคืนตนฝันไป?
ไม่ไม่ไม่ ถ้าไม่มีเสี่ยวหง ตนจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
พอคิดถึงตรงนี้ เขารีบใส่เสื้อผ้า ในตอนที่เขาหยิบเสื้อบนโต๊ะ เขามองเห็นโน้ตแผ่นหนึ่ง ด้านบนมีตัวหนังสืออยู่ พอเห็นก็รู้ว่าเสี่ยวหงเขียนให้เขา
เขารีบหยิบโน้ตมาดู ด้านบนเขียนไว้ว่า
เจ้าวัวรอง ขอบคุณมาก! ได้อยู่ร่วมกับคุณคืนหนึ่ง นอนในห้องเดียวกัน ได้รับรู้ความดีงามเหมือนเก่าอีกครั้ง ฉันเพียงพอแล้ว เมื่อคืนขอบคุณมากจริงๆ ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้เจอคุณอีกครั้ง และขอบคุณที่คุณอยากช่วยแก้แค้นให้ฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่คู่ควรให้คุณเสี่ยงอันตรายแล้วล่ะ
ฉันเป็นผู้หญิงมีมลทินคนหนึ่ง ส่วนคุณมีความกล้าหาญดั่งที่เคยเป็นมาตลอด แข็งแกร่งใสสะอาดอยู่อย่างนั้น ทั้งร่างกายและวิญญาณฉันไม่คู่ควรกับคุณแล้ว เมื่อคืนฉันดีใจมากที่ได้อยู่ใกล้คุณขนาดนั้น และดีใจมากที่ได้เจอคุณอีกครั้ง ความแค้นของฉัน ให้ฉันแก้แค้นเองเถอะ ใครก็ไม่กล้าหาเรื่องตระกูลหยางหรอก เจ้าวัวรอง ใช้ชีวิตตัวเองให้ดีนะ คิดซะว่าในชีวิตคุณไม่เคยเจอฉันมาก่อน หาผู้หญิงใสสะอาดมาสร้างครอบครัวของตัวเองเถอะ!
เรื่องเมื่อคืนฉันรู้สึกเสียใจมาก ฉันไม่รู้จะขอบใจคุณยังไงดี ได้แต่ใช้วิธีแบบนี้ โชคดีมากที่เราไม่ได้มีความสัมพันธ์กัน ทำให้ฉันเชื่อมั่นว่าคุณเป็นผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง
ฉันไม่คู่ควรกับคุณเอง ขอให้คุณมีความสุข เจ้าวัวรอง!
ส่วนท้ายของจดหมาย เทียนขุยเห็นตัวอักษรสามตัวที่เสี่ยวหงเหลือไว้ มันมีร่องรอยน้ำตาอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขียนไปร้องไห้ไป
ผู้หญิงคนหนึ่ง จะผิดหวังแค่ไหนที่จะเขียนตัวหนังสือแบบนี้ออกมาได้?
หรือเป็นเพราะเมื่อคืนตนปฏิเสธ ไป ถึงได้ทำให้เธอโกรธจนจากไป?
ไอ้หยา! เทียนขุยร้อนใจลุกขึ้นมา เสี่ยวหงต้องคิดว่าตนรังเกียจเธอแน่เลย
เสี่ยวหงผ่านเรื่องราวมามากมาย ในใจคงรู้สึกต่ำต้อยไปแล้วแน่ กว่าจะได้มาเจอเทียนขุย ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเด็กของตน แถมยังเป็นคนที่มักเข้ามาช่วยเหลือยามเธอมีภัยอีก แต่เขากลับไม่ได้แสดงท่าทีอะไรต่อเธอไปสักนิด เสี่ยวหงคงยิ่งเสียใจ ในสายตาเธอ เทียนขุยช่วยเธอเพราะรังเกียจเธอแน่
ดังนั้นเสี่ยวหงเลยจากไป พกพาความสิ้นหวังแล้วจากไป
ตอนนี้สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือใช้เรือนร่างตอบแทนเทียนขุย แต่เมื่อคืนเทียนขุยกลับไม่แตะต้องเธอสักนิด เสี่ยวหงเลยยิ่งไม่มีหน้าอยู่ขอร้องเทียนขุย เสี่ยวหงรู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าตนอยู่กับคนละโลกกับเทียนขุย ดังนั้นเธอเลยจากไป จากไปตอนที่เทียนขุยยังไม่ตื่น
“ไอ้หยา!” เทียนร้อนใจสบถออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูกว่า “เสี่ยวหงเอ๊ยเสี่ยวหง ทำไมถึงโง่อย่างนี้นะ ผมจะรังเกียจคุณได้ยังไง ต่อให้ผมรังเกียจใครก็ไม่มีทางรังเกียจคุณได้หรอก คุณไม่รู้เลยว่าในใจผม คุณเป็นผู้หญิงที่สดใสบริสุทธิ์ตลอดไปเลยนะ ที่ผมไม่แตะต้องคุณ เพราะผมอยากให้คุณเหลือความทรงจำที่ดีที่สุดไว้ ผมอยากบอกคุณว่า โลกนี้ยังมีคนที่พร้อมจะช่วยคุณโดยไร้เหตุผลอยู่”
พอคิดถึงตรงนี้ เทียนขุยรีบร้อนออกจากโรงแรม พอมาถึงหน้าประตู เขาเห็นพนักงานสาวคนเมื่อคืน และเดินตรงเข้าไปหาเธอถามว่า “คุณเห็นผู้หญิงคนนั้นไหม?”
พนักงานสาวคนนั้นอึ้งไปสักพัก ถามอย่างงุนงงว่า “ผู้หญิงคนไหน?”
เทียนขุยขมวดคิ้วเล็กน้อยบอกว่า “ผู้หญิงคนที่มาเมื่อคืนกับผมไง ใส่ชุดพนักงานของพวกคุณคนนั้น”
พนักงานสาวยกมือปิดปาก อุทานอย่างตะลึงว่า “ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่เล่นแต่งตัวเป็นขอทานเมื่อวานหรอ? สวยเกินไปแล้ว!”
“…..” เทียนขุยพูดไม่ออกเลย อะไรเรียกว่าแต่งตัวเป็นขอทาน ผู้หญิงคนนี้กำลังพูดอะไรกันแน่ ก่อนเมื่อคืนเสี่ยวหงใช้ชีวิตเป็นขอทานมาตลอด
เธอมองออกถึงความรำคาญของเทียนขุย รีบพูดขึ้น “ฉันเห็นเธอแล้ว เธอออกไปนานแล้ว ไม่ได้พูดอะไรเลย ฉันพึ่งเปิดประตูเธอก็ออกไปเลย”
“ไปทางไหน?” เทียนขุยรีบถาม
พนักงานสาวชะงักเล็กน้อย ยักไหล่บอก “อันนี้ฉันก็ไม่รู้แล้วล่ะ”
เทียนขุยไม่พูดอะไรอีก เตรียมเดินออกไป พึ่งเดินไปได้สองก้าว พนักงานสาวเรียกเขาไว้ “นี่นี่นี่ เดี๋ยวก่อนสิ”
เทียนขุยชะงักเท้าลง นึกว่าเธอจะให้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม
สีหน้าพนักงานสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อพลางว่า “ถ้าคราวหน้าคุณอยากได้บริการอย่างว่า ติดต่อฉันได้นะ ฉันเล่นได้ทุกบทบาท นักเรียน แม่บ้าน เทพธิดา ขอทาน คนเดินถนน ไม่ว่าคุณต้องการบทบาทไหน ฉันรับได้หมด ราคาไม่แพงด้วย แค่เท่าชุดนั้นก็พอแล้ว ไม่ได้จริงๆ ครึ่งราคาก็ได้”