จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 442
เสือดาวดำหัวเราะเหอะๆ แล้วกล่าวอย่างสบายๆว่า “คุณชายโล๋ คุณน่าจะรู้ดีนะว่าทำไมผมถึงได้เรียกคุณมา?!”
โล๋เหวินส่ายหน้าด้วยหน้าตามึนงงแล้วกล่าว “ไม่ ไม่รู้สิ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าแกเรียกฉันมาทำไม“
เสือดาวดำจงใจเข้าใกล้โล๋เหวิน ยกมือขึ้นไปจับหน้าของเขา แล้วกล่าว “แกไอ้สารเลว รู้มั้ยเมื่อกี๊แกเกือบจะฆ่าฉันแล้วนะ!ตาของแกแม่งไปอยู่ที่ก้นแล้วหรือไงวะ?”
พูดจบ เสือดาวดำยกมือขึ้นอย่างโมโหตบไปที่หน้าของโล๋เหวินอย่างแรง
ได้ยินเสียงเพี่ยะดังสนั่น จากนั้นก็เห็นรอยนิ้วทั้งห้าบนใบหน้าของโล๋เหวิน ตระกูลโล๋มีเงิน แต่อำนาจที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขากลับไม่ยิ่งใหญ่มากเท่าไหร่ ดังนั้นจึงทำอะไร คนที่อยู่ใต้ดินไม่ได้
ถูกตบหนึ่งฉาด โล๋เหวินกล่าวอย่างทำอะไรไม่ได้ “คือ ฉันก็ไม่รู้ว่าไอ้นั่นมันจะใหญ่โตขนาดนั้นนี่ เสือดาวดำ เราทำอะไรต้องรู้ผิดชอบชั่วดีนะ เมื่อก่อนแกรับเงินของฉันไปไม่น้อย ตอนนี้แกทำแบบนั้น มันเกินไปหน่อยมั้ย”
“เกินไป?” เสือดาวดำดูแคลนออกมา แล้วกล่าว “ยังมีที่เกินไปกว่านี้อีก!”
“เอามีดมา!” เสือดาวดำตะคอกใส่โล๋เหวิน
โล๋เหวินจ้องเสือดาวดำด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แล้วถาม “แกๆๆ แกจะทำอะไร?แกจะทำอะไร?”
“เมื่อกี๊แกบอกว่าจะสับมือของคุณฟางไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้ฉันจะมาเอามือของแก แกรู้ความเป็นมาของเหลียงเจิ้งสินะ?” เสือดาวดำถามเองตอบเองกับโล๋เหวินน
โล๋เหวินรู้เรื่องของเหลียงเจิ้งแน่นอน ไอ้เหี้ยนั่นถูกคนหักขาทั้งสองข้าง ต่อไปต้องใช้วิลแชร์ดำรงชีวิต
“เหลียงเจิ้งก็เพราะทำผิดต่อคุณฟางเช่นกัน พูดว่าจะหักขาทั้งสองข้างของคุณฟางเช่นกัน จึงได้พบจุดจบแบบนั้นไงล่ะ ถ้าแกคิดว่าตัวเองเจ๋งกว่าเหลียงเจิ้งล่ะก็ งั้นแกก็วิ่งให้เต็มที่ หนีให้เต็มที่!”
โล่เหวินตกใจจนหลังเปียกปอนไปหมด เขารีบพูดว่า “เสือดาวดำ เสือดาวดำ พี่เสือดาว พี่เสือดาว!ฉันให้เงินพี่ ฉันให้เงินพี่ ได้โปรดอย่าทำร้ายฉันเลย ได้มั้ย?ขอร้องล่ะ ขอร้องอย่างทำร้ายฉันเลย…”
เสือดาวดำส่ายหน้าแล้วกล่าว “สายไปแล้วล่ะ!”
พูดจบ มีดที่เป็นประกายสับลงไป ทันใดนั้นเสียงร้องอันน่าสังเวชดังขึ้นในถนนที่เปลี่ยว
ฟางเหยียนที่อยู่อีกด้าน
หลังจากที่ออกจากร้านเสื้อผ้าของเหลียงจง เขาก็มาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารโดยตรง
ด้วยตำแหน่งและสถานะของฟางเหยียน ไม่ต้องนั่งรถทัวร์แต่อย่างใด แต่เทียนขุยไม่อยู่ข้างกายแล้ว เขาขี้เกียจขับรถ ทำได้เพียงนั่งรถบัสเอง เขาไม่ชอบควบคุมรถเก๋ง เพราะการควบคุมรถเก๋ง สมองของเขาจะไม่สามารถครุ่นคิดเรื่องอื่นได้อีก ตอนนี้เขามีปัญหาเยอะแยะที่ต้องคิด แน่นอนว่าเขาไม่มีทางเลือกที่จะขับรถเองแน่นอน
เพิ่งจะซื้อตั๋วรถเสร็จ มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขามองเบอร์แปลกบนมือถือ ลังเลไปสักพักก็ยังเลือกที่จะรับสาย เพิ่งจะรับสาย ปลายสายก็มีเสียงของถังยู่ดังขึ้นมา “ฟางเหยียน คุณอยู่ไหน?”
ฟางเหยียนลังเลไปสักพัก แล้วตอบกลับ “สถานีขนส่งผู้โดยสาร!มีอะไรมั้ย?”
“ฉันเห็นคุณแล้ว!”เมื่อถังยู่พูดประโยคนี้จบ ก็ตัดสายตู๊ดๆๆไป
จากนั้น เสียงของถังยู่ดังขึ้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร “ฟางเหยียน!”
เมื่อตะโกนเรียกเสร็จ ถังยู่ได้วิ่งจากห้องโถงของสถานีขนส่งผู้โดยสารไปหาฟางเหยียน เธอสวมชุดยีนสีดำ กางเกงยีนรัดทรง มัดผมหางม้า สะพายกระเป๋าเป้สะพายหลัง ดูท่าทางเหมือนจะไปท่องเที่ยว
ถังยู่ทำตามอำเภอใจมาก เมื่อมาถึงข้างกายฟางเหยียน ก็กระโดดไป ที่ตัวของฟางเหยียนโดยตรง มือทั้งสองข้างกอดคอของฟางเหยียน ขาทั้งสองข้างก็เกี่ยวเอวของฟางเหยียนไว้
การกระทำนี้ทำให้ฟางเหยียนตั้งรับไม่ทัน เขาคาดไม่ถึงว่าถังยู่จะทำแบบนี้!การกระทำนี้ยังไม่เคยทำกับเย่ชิงหยู่มาก่อนเลย ถังยู่คนนี้ทำกับตัวเองเกินไปแล้ว!
เขาจับมือของถังยู่ พาร่างกายของเธอลงมา แล้วกล่าว “คุณกำลังทำอะไร?”
ถังยู่ทำปากจู๋แล้วกล่าว “ทำอะไรคุณยังไม่รู้อีกงั้นเหรอ?ก็ต้องหนีไปกับคุณนะสิ”
คำพูดนี้ทำให้ฟางเหยียนตกใจ หนีตาม!คนรักกันต่างหากที่จะเรียกว่าหนีตามกัน เธอรักอยู่ฝ่ายเดียวก็เรียกว่าหนีตามได้ด้วยเหรอ?จะว่าไปถังยู่ก็สวยจริงๆ ให้ความรู้สึกที่สวยตามธรรมชาติ เพลิดพริ้ง แม้เธอจะไม่สง่าผ่าเผยเหมือนแบบหลินถง แต่เธอกลับให้ความรู้สึกที่พิเศษออกไป อย่างน้อยเธอก็ไม่เสแสร้งตัวเองอย่างจงใจ
จู่ๆเธอก็เปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน มองฟางเหยียนอย่างใจจดใจจ่อแล้วกล่าว “ฟางเหยียน ฉันชอบคุณ ฉันชอบคุณมากจริงๆ!แม้คุณจะมีภรรยาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถห้ามใจไม่ให้ชอบเธอได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอคุณ ฉันก็รู้สึกต้องมนต์สะกด!คุณรู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงปฏิเสธเย่เฟย?เพราะฉันพบว่าในใจของฉันมีแต่คุณ ไม่มีเย่เฟยแล้ว เมื่อก่อนฉันคิดว่าพี่เย่เฟยเป็นคนที่ฉันรักมากที่สุด จนกระทั่งเจอคุณ ฉันเพิ่งจะรู้ว่าเขาไม่ใช่คนนั้น ฉันไม่มีทางให้คุณหย่าร้างกับภรรยาของคุณ ฉันอยากเป็นแค่เมียน้อยของคุณ ได้มั้ย?”
ฟางเหยียนมองถังยู่ที่จริงจัง มองเขาด้วยแววตาสองข้างที่จริงใจสุดๆ แววตาบอกกับตนว่า ถังยู่ไม่ได้กำลังโกหกอยู่อย่างแน่นอน ทุกประโยคที่เธอพูดออกมาล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น
ฟางเหยียนกำลังจะพูดออกมา ถังยู่กลับยกนิ้วชี้ขึ้นมาปิดปากของฟางเหยียนไว้ แล้วกล่าว “ไม่ต้องพูดอะไร!ฉันยอมถึงขั้นนี้แล้ว คุณยังจะปฏิเสธฉันได้อีกเหรอ?คุณต้องรู้ไว้นะ ว่าฉันเป็นคุณหนูของตระกูลถัง มีตั้งกี่คนที่เข้าแถวจีบฉัน ฉันสารภาพรักกับคุณโดยทิ้งเกียรติศักดิ์ศรีแล้ว และยังยอมถึงขั้นนี้ คุณอย่าปฏิเสธฉันได้มั้ย”
นี่เป็นคำขอที่หมดหนทางที่สุด หญิงสาวคนหนึ่งหมดหนทางถึงขั้นนี้ มันช่างน่าเศร้าเสียจริงๆ
“ถังยู่!” ฟางเหยียนจับแขนของถังยู่ พยายามรักษาระยะห่างของทั้งคู่ แล้วเขาก็พูดว่า “คุณน่าจะ…”
ยังไม่ทันพูดจบ ถังยู่กลับหัวเราะฮ่าๆๆออกมา ขัดจังหวะคำพูดของเขา ถังยู่ชี้ไปที่ฟางเหยียนแล้วกล่าว “ถูกฉันต้มแล้วล่ะสิ?ฉันว่าแล้วว่าตัวเองมีทักษะการแสดงมาก จะต้องต้มคุณได้แน่นอน โง่ ฉันไม่มีทางยินยอมให้ผู้ชายที่ฉันชอบมีผู้หญิงคนอื่นได้หรอก คุณคิดว่าฉันเป็นคนที่ยอมถอยแบบนั้นเหรอ?วางใจได้ ฉันตัดใจจากผู้ชายที่แต่งงานแล้วแบบคุณแล้วล่ะ ต่อให้คุณชอบฉัน อยากคบกับฉัน ฉันก็จะปฏิเสธคุณ คุณไปอย่างสบายใจเถอะนะ!”
พูดพลาง มือของถังยู่ก็ตบไปที่แขนของฟางเหยียนเบาๆ จากนั้นหันหลังแล้วจากไป หันหลังได้อย่างสง่างาม แต่หลังจากความสง่างามกลับตามมาด้วยน้ำตาไหลริน ถังยู่รู้ว่าฟางเหยียนเป็นผู้ชายที่เธอไม่มีทางได้มา หลายวันมานี้เธอเฝ้ามองฟางเหยียนอยู่ห่างๆ รู้ว่าเขาจะไปจากหนานหลิง ด้วยเหตุนี้เองจึงได้ตัดสินใจมาสารภาพความในใจของตัวเอง
จากกิริยาต่างๆของฟางเหยียนทำให้เธอรู้ว่า ฟางเหยียนไม่มีทางตอบรับเธอแน่นอน แทนที่จะถูกปฏิเสธ สู้ให้ตัวเองดูสง่าสักหน่อย พูดให้ดูใจกว้างสักหน่อย ต่อให้ต้องมีน้ำตา ตนก็ต้องฝืนอย่างเงียบๆ
ฟางเหยียนจะไม่รู้จิตใจของถังยู่ได้อย่างไรกัน เพียงแต่เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้ก็เท่านั้น!