จอมนักรบทรงเกียรติยศ - ตอนที่ 57
บทที่ 57 หลินถงสาวงามอันดับหนึ่งแห่งภาคซีหนาน
แต่ทว่ายังเดินไม่ทันถึง เฉิงฉู่ก็มาหาเย่ชิงหยู่และพูดกับเธอว่า “มาแล้วเหรอชิงหยู่ มานี่สิ เดี๋ยวฉันพาไปที่ที่หนึ่ง”
เย่ชิงหยู่หันไปมองฟางเหยียนโดยอัตโนมัติ เพื่อขอความยินยอมจากเขา
เฉิงฉู่รีบพูดขึ้นมาว่า “ฟางเหยียนไปเดินดูรอบๆ ก่อนสิ”
ฟางเหยียนพยักหน้า หลังจากนั้นเธอจึงตามเฉิงฉู่ไป
“โอะ มาคนเดียวเหรอ” ตู้หมิงล่างเดินเข้ามาหาฟางเหยียนแล้วถามขึ้นด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยความเย้ยหยัน
ฟางเหยียนยังไม่ทันได้พูดอะไร เสิ่นจื่อเจี๋ยก็พูดขึ้นมาว่า “ก็แน่อยู่แล้วนิ ภรรยาของมันโดนคนอื่นพาไปแล้ว”
“ผู้ชายอย่างนายช่างน่าสงสารจริงๆ ตอนนี้ภรรยาของแกประสบความสำเร็จแล้ว คงใกล้จะถึงเวลาโบกมือลานายแล้วล่ะ”
“อ้อ นายรู้หรือเปล่าว่าผู้ชายคนที่พาภรรยาของนายไปคือใคร” ตู้หมิงล่างถามขึ้น
ฟางเหยียนปรายตามองตู้หมิงล่าง แต่ไม่ได้ตอบอะไร เขาขี้เกียจสนใจคนเลวทรามต่ำช้าที่น่าเบื่อพวกนี้
“ดูท่าแล้ว คนจนๆ อย่างนายคงไม่รู้สินะ ฉันจะบอกให้ก็แล้วกัน” ตู้หมิงล่างมองเสื้อผ้าถูกๆ บนตัวของฟางเหยียน
“เขาคือคุณชายของตระกูลเฉิง ตระกูลใหญ่อันดับสองในเจียงตู และเป็นผู้รับชอบความร่วมมือกับตระกูลเซียวในครั้งนี้ด้วย เขามีทรัพย์สมบัติกว่าหมื่นล้าน การที่เขาพาภรรยาของนายไป มันหมายความว่ายังไง นายรู้หรือเปล่า”
เสิ่นจื่อเจี๋ยพูดขึ้นมาว่า “เขาจะรู้อะไร ภรรยากำลังคบชู้ เขายังไม่รู้เลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” พูดจบทั้งสองคนก็หัวเราะอย่างชอบใจ
“โอ้โห!” จู่ๆ เสิ่นจื่อเจี๋ยก็อุทานออกมาเหมือนเจออะไรน่าตื่นเต้น “นายดูสินั่นใคร”
“เวินหลาน!” ตู้หมิงล่างร้องเสียงหลง จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า “ทำไมเวินหลานถึงมาที่นี่”
ทั้งสองคนรู้จักเวินหลาน แต่ไม่ได้สนิทสนมกัน เห็นหน้าตาอันมีเสน่ห์ผ่านรูปถ่ายจำนวนมาก ตอนนี้เหล่าวัยรุ่นชอบผู้หญิงขาเรียวยาว หุ่นสวยเซ็กซี่แบบเวินหลาน ตู้หมิงล่างกับเสิ่นจื่อเจี๋ยก็รวมอยู่ในนั้นด้วย
ทั้งสองคนจ้องเวินหลานจนตาแทบจะหลุดออกมา เสิ่นจื่อเจี๋ยมองตู้หมิงล่างแล้วพูดว่า “คุณชายตู้ อย่างคุณยังต้องโลภกับผู้หญิงอย่างเวินหลานด้วยเหรอ มีผู้หญิงคนไหนที่คุณอยากได้แล้วไม่ได้บ้างล่ะ”
ตู้หมิงล่างส่ายหน้าแล้วพูดว่า “นายไม่รู้อะไรซะแล้ว เวินหลานไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาทั่วไป รูปลักษณ์ภายนอกของเธอดูเซ็กซี่ ทำอะไรตามใจชอบ แต่ในความเป็นจริงเธอไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ ก่อนหน้านี้เซียวฮั่วยังไม่ได้ตัวเธอเลย”
เสิ่นจื่อเจี๋ยส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ จากนั้นจึงพูดว่า “ถ้าเป็นอย่างที่นายพูด เวินหลานคงจะไม่ธรรมดาสินะ”
ตู้หมิงล่างเอ่ยขึ้นว่า “ก็ใช่น่ะสิ ถ้าฉันได้กินสักครั้ง รสชาติคงจะติดปากไปทั้งปี”
“ไม่รู้ว่าคืนนี้ใครจะได้เต้นรำกับเธอ ถ้าได้ใกล้ชิดสักครั้ง ไม่แน่อาจจะมีโอกาสก็ได้”
เสิ่นจื่อเจี๋ยหัวเราะหึหึแล้วพูดว่า “แต่พวกเราไม่เห็นต้องไปโลภในตัวเวินหลาน ตอนนี้ในมือของเราก็มีผู้หญิงอยู่ไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยก็ไม่เหมือนใครบางคน ที่พาผู้หญิงมาแต่กลับส่งให้คนอื่นไปเปล่าๆ นายว่างั้นไหม”
ทั้งสองพูดประชดฟางเหยียนอีกครั้ง ฟางเหยียนไม่พูดอะไรและมองตรงไปข้างหน้า
“ว้าว สวยมาก” จู่ๆ ก็มีเสียงอุทานออกมาหลายครั้ง เสียงนี้เรียกความสนใจของหนุ่มสาว มีผู้หญิงสวมเดรสสีขาวรัดรูปเดินออกมาจากผู้คนในงาน
การปรากฏตัวของเธอ เรียกความสนใจของผู้คนในห้องนี้
ผู้หญิงอายุประมาณ 26-27 ปี ผมยาวดัดลอนประอยู่ที่บ่า ขาเรียวยาว รูปร่างของเธอเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ รูปร่างหน้าตาของเธอ สามารถบรรยายด้วยสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่างามล่มเมืองและจันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง
การปรากฏตัวของเธอ ทำให้คนทั้งงานใจสั่นเพราะความงาม
เธอก้าวย่างแผ่วเบา ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มแห่งความมั่นใจ รอยยิ้มของเธอทำให้หัวใจของผู้ชายเคลิบเคลิ้มไปไม่รู้กี่คนต่อกี่คน
“โอ้โห” ตู้หมิงล่างส่งเสียงอุทานออกมาอย่างอดไม่ได้
“บนโลกนี้มีผู้หญิงสวยขนาดนี้ด้วยเหรอ นี่มันงดงามมาก” ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างตู้หมิงล่างก็อดอุทานออกมาไม่ได้เหมือนกัน
ใช่แล้ว นี่คือผู้หญิงที่ผู้ชายเห็นแล้วไม่กล้าเข้าใกล้ ผู้หญิงด้วยกันเองยังต้องชื่นชม
เมื่อผู้หญิงเห็นผู้หญิงคนนี้ อาจจะคิดว่าก็เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่ทำไมเธอถึงโดดเด่นขนาดนี้ รูปร่างหน้าตาของเธอทำให้หลายคนตกตะลึง และรู้สึกว่านี่มันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้
“คุณชายตู้ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครใช่ไหม” เสิ่นจื่อเจี๋ยถามขึ้น
คุณชายตู้ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ฉันไม่รู้ นี่มันไม่จริงหรอก ในโลกนี้มีคนสวยถึงระดับนี้เชียวเหรอ”
เสิ่นจื่อเจี๋ยหัวเราะหึหึแล้วพูดว่า “ก็ใช่สิครับ เธอชื่อหลินถง เป็นสาวงามอันดับหนึ่งในภาคซีหนาน คุณรู้ไหมว่าเธอเป็นภรรยาของใคร”
แน่นอนว่าตู้หมิงล่างไม่รู้ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้ จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นภรรยาของใคร
“เธอเป็นภรรยาของถังเจิ้งเหา คุณชายใหญ่ของตระกูลถัง ตระกูลอันดับหนึ่งแห่งภาคซีหนาน แต่น่าเสียดายที่ถังเจิ้งเหาแต่งกับภรรยาที่สวยขนาดนี้ ยังไม่ทันได้ทำอะไรเขาก็จากโลกนี้ไป!”
ประโยคนี้ทำให้ตู้หมิงล่างสำลักออกมา เขาถามอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำไมถึงตาย”
“ว่ากันว่าผู้หญิงคนนี้มีดวงกินผัว แต่งกับถังเจิ้งเหาได้สามวัน ถังเจิ้งเหาก็เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต เธอเลยกลายเป็นแม่หม้ายที่มีเสน่ห์จนทำให้คนหวั่นไหว”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่เสิ่นจื่อเจี๋ยพูด ตู้หมิงล่างพูดด้วยสีหน้าเสียดายว่า “เป็นแม่หม้ายตั้งแต่ยังสาว น่าสงสารจริงๆ”
“ใช่สิ ทำไมนายถึงรู้เยอะจัง”
เสิ่นจื่อเจี๋ยหัวเราะหึหึแล้วพูดว่า “คุณไม่รู้อะไรซะแล้ว คุณไปเป็นทหาร ส่วนผมไปเรียน แต่ก่อนผมเรียนที่หนานหลิง ไม่ว่ายังไงก็ต้องรู้เรื่องเรื่องนี้”
ตู้หมิงล่างส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ “คนงามขนาดนี้ ถ้าฉันได้เชยชมสักครั้ง ถึงอายุขัยจะสั้นไปสิบปีก็ยอม”
เสิ่นจื่อเจี๋ยโบกมือไปมาอย่างเหนื่อยใจ “อย่าคิดเลยคุณชายตู้ เป็นไปไม่ได้หรอก เธอมีฉายาว่าแม่หม้ายเย็นชา เหมือนเธอจะปลีกตัวออกห่างจากผู้ชาย สรุปก็คือยังไม่เคยได้ยินว่าเธอคบกับผู้ชายคนไหน”
ตู้หมิงล่างส่งเสียงไม่พอใจออกมา “ผู้หญิงคนนี้เย็นชาที่ไหนกัน แค่ใช้วิธีผิดน่ะสิ”
จู่ๆ หลินถงก็หันมาทางนี้ ตอนที่สายตาของเธอหยุดอยู่ที่ฟางเหยียน จู่ๆ เธอก็อึ้งไป
“เธอกำลังมองฉันอยู่หรือเปล่า” ตู้หมิงล่างพูดพึมพำกับตัวเอง ใจของเขาเต้นแรงมาก
เสิ่นจื่อเจี๋ยก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ผมว่าเธอกำลังมองคุณอยู่”
ทั้งสองคนพูดอย่างหน้าไม่อาย ตู้หมิงล่างหันไปมองฟางเหยียนโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงพูดว่า “แต่ไม่ได้มองนายแน่ๆ แค่ลูกเขยไร้ประโยชน์ที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง”
“พูดเหลวไหลอะไร ถ้ามองเขา ฉันยอมกินขี้ที่ขี้ออกมาวันนี้เลย!” เสิ่นจื่อเจี๋ยพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ
ฟางเหยียนส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ เขาขี้เกียจสนใจสวะสองคนนี้
จู่ๆ หลินถงก็เดินเข้ามาหาพวกเขา
เสิ่นจื่อเจี๋ยกับตู้หมิงล่างเดินถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว พวกเขาเดินถอยหลังเพราะโดนความสวยของหลินถงเล่นงานเข้าให้ ตู้หมิงล่างเอ่ยขึ้นมาว่า “นี่เธอกำลังเดินมาหาเราใช่ไหม คงจะไม่ได้ตกหลุมรักฉันใช่ไหม”
หลินถงเดินมาตรงหน้าของทั้งสองคนไป กลิ่นหอมของผู้หญิงทำให้ทั้งสองคนไม่อาจหักห้ามใจได้
ทั้งสองคนตัวสั่นขึ้นมาทันที
“สะ..สวัสดีครับ ผมชื่อตู้หมิงล่าง” ตู้หมิงล่างยื่นมือออกไปอย่างหน้าไม่อาย เขาหวังจะจับมือของหลินถง
แต่ทว่าหลินถงกลับไม่สนใจเขาสักนิดและทำเหมือนเขาเป็นอากาศ
เธอเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของฟางเหยียน