จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 443 เย่ชิงหยู่ที่เจ็บปวด
นั่งอยู่บนรถที่ออกจากหนานหลิงกลับเมืองจินโจว หัวของฟางเหยียนพิงกับหน้าต่างตลอดเวลา ในสมองของเขาผุดการกระทำทั้งหมดของถังยู่เมื่อกี๊ ขึ้นมาอย่างเร็ว เขารู้ความคิดของถังยู่อยู่แล้ว
ความจริงถังยู่เป็นเด็กสาวที่ไม่เลวคนหนึ่ง เพียงแต่ในใจของเขาเต็มไปด้วยเย่ชิงหยู่แล้ว ไม่สามารถแทรกผู้หญิงคนอื่นเข้าไปได้อีก อะไรคือยอมเป็นเมียน้อยของตัวเอง ล้วนเป็นคำพูดที่ไม่มีทางเป็นไปได้ทั้งนั้น
ต่อให้ด้วยตัวตนของฟางเหยียนสามารถมีเมียน้อยได้ แล้วยังสามารถมีภรรยาได้หลายคน แต่เขาไม่มีทางทำแบบนั้น เพราะในใจของเขามีได้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้น
คิดไปคิดมา ในหัวของเขาเริ่มย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าครุ่นคิดไปนานขนาดไหน บทสนทนาของทั้งสองที่นั่งเบาะหลังดึงดูดความสนใจของเขา
“เห้อ แกเคยได้ยินมั้ย?ว่าบริษัทซินปางนั่นจะผูกขาดธุรกิจน้อยใหญ่ของเมืองจินโจวแล้วนะ!ว่ากันว่าช่วงก่อนหน้านี้ตี้หาวกรุ๊ปที่มีมากว่าเจ็ดแปดปีได้ถูกพวกเขาซื้อกิจการไปแล้วนะ”
“ได้ยินมาแน่นอนสิ ไม่รู้ว่าบริษัทซินปางเจอที่พึงอะไร แป๊บเดียวก็สร้างได้ใหญ่โตขนาดนั้น!ได้ยินมาว่าใช้วิธีสกปรกไม่น้อยนะ หุ้นส่วนหลายคนของตี้หาวกรุ๊ปก็เสียชีวิต เห้อ แม่งไร้มโนธรรมสิ้นดี เมื่อก่อนทำไมถึงดูไม่ออกนะหยิวโจวฉวนเจ้าของกิจการของพวกเขาจะมีความคิดแบบนี้”
“ยังต้องถามอีกเหรอ?ก็ต้องเพราะตระกูลเซียวนะสิ ตระกูลเซียวยิ่งใหญ่มาก ยิ่งใหญ่จนคนพวกนั้นต้องเที่ยงตรง นี่ไม่ใช่พอ ตระกูลเซียวล่มสลายไป ก็ไม่มีใครมาเป็นผู้นำของจินโจวของเรา ธุรกิจขนาดเล็กพวกนั้น แล้วก็พวกที่ไม่ปรากฏตัว ก็เริ่มอยากมีหน้ามีตาใช้อุบายต่างๆกันเพื่อแย่งกันเป็นที่หนึ่ง บริษัทซินปางนี้ก็เป็นกิจการแรกที่ปรากฏตัวออกมา”
“ว่ากันว่าเป้าหมายของพวกเขาใหญ่มาก ครั้งนี้ ถึงขั้นเพ่งเล็งไปที่ตงข่ายกรุ๊ปที่ฮอตที่สุด!ต้องรู้ไว้นะ ว่าตงข่ายกรุ๊ปร่วมมือกับซีหนานกรุ๊ป นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเพ่งเล็งไปที่ตงข่ายกรุ๊ปได้”
“ฉันว่า เมืองจิวโจวในตอนนี้วุ่นวายจริงๆ ถ้าไม่มีตระกูลที่ยิ่งใหญ่กดดันคนอื่นเอาไว้ได้ออกมา เกรงว่าจะต้องมีข่าวใหม่ๆออกมามากกว่านี้”
“แล้วข่าวที่ตระกูลเซียวล่มสลายล่ะ มีข่าวคราวบ้างแล้วยัง?”
“ตลก ไม่มีอยู่แล้ว ตระกูลเซียวยิ่งใหญ่ขนาดนั้น แกคิดว่าคนที่สามารถล้างบางได้จะเป็นคนธรรมดางั้น?พวกเขาต้องทำผิดต่อบุคคลที่ยิงใหญ่แน่นอน ดังนั้นเรื่องนี้จึงจบไปอย่างไม่มีบทสรุป ถึงขั้นไม่มีแม้กระทั่งการรายงานข่าวใดๆ”
“…”
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกันอย่างมีอรรถรส ฟางเหยียนหันไปถามหนึ่งประโยค “เมื่อกี๊พวกคุณพูดว่า บริษัทซินปางจะซื้อกิจการตงข่ายกรุ๊ป?”
ทั้งสองเป็นคนที่อายุห้าสิบกว่าปี ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน เมื่อได้ยินฟางเหยียนถามแบบนี้ ก็ชะงักอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็พยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่!”
“ช่วงนี้บริษัทซินปางโอหังมากเลยเหรอ?” ฟางเหยียนถามต่อ
“ใช่!” ชายวัยกลางคนนั้นตอบต่อ ฟางเหยียนไม่ถามอะไรอีก แล้วหันกลับมา
ดูท่าทางแล้วช่วงที่ตนไม่อยู่ ที่เมืองจินโจวเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ถ้าเปลี่ยนแปลงไม่มาก หวงหยวนฉาวก็ไม่มีทางโทรหาตนด้วยตัวเอง การกลับบ้านครั้งนี้ ได้จัดการคนที่อวดดีได้พอดี
แน่นอน ไม่ตัดเรื่องที่มีองค์กรคอยให้ท้ายพวกเขาอยู่เบื้องหลัง แต่ทว่าองค์กรนี่เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเพลิงเสวน!
ไม่นาน รถมาถึงเมืองจินโจว
ฟางเหยียนยังไม่ได้กินอะไร ก็ไปที่อาคารทำการของเย่ชิงหยู่โดยตรง
สถานีขนส่งผู้โดยสารอยู่ไม่ไกลจากอาคารทำการ ฟางเหยียนลังเลสักพัก สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่เข้าทางประตูใหญ่ ถ้าผ่านประตูใหญ่ จะต้องดึงดูดความสนใจของคนจำนวนไม่น้อย เขาเป็นคนแปลกหน้าของตงข่ายกรุ๊ปไปแล้ว ดังนั้นเขาตัดสินใจใช้ทางหน้าต่างไปที่ถึงทำงานของเย่ชิงหยู่โดยตรง นี่เป็นอาคารสูงที่มียี่สิบชั้น ห้องทำงานของเย่ชิงหยู่อยู่ที่ชั้นสิบ
เขามาถึงผนังด้านข้างของห้องทำงานเย่ชิงหยู่ ดูจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน รอบๆติดไว้ด้วยกระจก ไม่มีทางที่จะปีนได้เลย แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฟางเหยียนสนใจ สิ่งที่เขาสนใจคือห้องทำงานของเย่ชิงหยู่เปิดหน้าต่างไว้มั้ย
เมื่อเห็นหน้าต่างเปิดอยู่ เขาก็ได้เตรียมตัวที่จะปีนขึ้นไป
ในตอนที่เขาเตรียมตัวอยู่นั้น คนหนึ่งสวมใส่ชุดเครื่องแบบกำลังผิวปากพลางเดินมา เขาเห็นเงาดำนี้พอดี เขาถามเงาดำว่า “แกเป็นใคร?ลับๆล่อๆ ทำอะไร?”
เพิ่งพูดจบ เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นต่อหน้าของรปภ.
นึกไม่ถึงว่าชายคนนั้นจะลอยขึ้นอย่างเร็ว รปภ.ตาโตส่งเสียงขึ้นทันใดว่า “เชี่ย!”
เขาเห็นอะไร? เหตุการณ์ที่อยู่เบื้องหน้ามันจริงเท็จแค่ไหนกัน?ทำไมถึงมีคนบินได้?
ไม่ได้การล่ะๆ เขาต้องรีบขึ้นไปดู
ตงข่ายกรุ๊ป ห้องทำงาน
เย่ชิงหยู่กำลังนั่งอยู่ในห้องทำงาน มือหนึ่งกุมขมับไว้ มองไปที่หน้าต่าง ดูท่าทางแล้วจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว บนใบหน้าของเธอดูโศกเศร้าอยู่บ้าง ดูท่าทางแล้วเหมือนทรมานเป็นอย่างมากในช่วงนี้
ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอยอมรับเรื่องการแต่งงานของฟางเหยียนไม่ได้ แต่จะไม่ให้เธอไม่เชื่อก็ไม่ได้ ทุกคนรู้เรื่องการแต่งงานของคุณชายตระกูลฟางทั้งหมด คนทั้งประเทศรู้กันหมด
ตระกูลฟางจัดงานใหญ่โตขนาดนั้น หรือจะกลัวว่าตัวเองไม่รู้งั้นเหรอ?
ฟางเหยียนนะฟางเหยียน ในเมื่อคุณจะแต่งงาน แล้วทำไมต้องกลับมา?ถ้าคุณไม่กลับมา ฉันก็ไม่มีทางรักคุณแบบเป็นตุเป็นตะอย่างนั้นแล้ว ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว ทำไมยังต้องทำแบบนี้ในตอนที่ฉันรักคุณด้วย?หรือการทำร้ายหญิงสาวคนหนึ่ง ทำให้คุณรู้สึกภูมิใจมากนักเหรอ?
เยชิงหยู่ตำหนิฟางเหยียนวกไปวนมา เธอเจ็บปวดมากขนาดไหน มีเพียงตัวเธอเองเท่านั้นที่จะเข้าใจ
ตอนนั้นที่เย่เทียนจากไป เธอไม่ทรมานขนาดนั้น แต่ตอนนี้เธอกลับรับรู้ได้ถึงการตายทั้งเป็น ช่วงหลายวันมานี้เธอกินน้ำตาต่างข้าว อยากหาคนระบายความใจในก็ไม่มี
แต่ เธอนอกจากจะตำหนิฟางเหยียนแล้ว ก็ยังมีความคิดอีกอย่าง บางทีคนที่แต่งงานคนนั้นอาจจะไม่ใช่ฟางเหยียน?ตระกูลฟางเป็นตระกูลใหญ่ จะมีฟางเหยียนทายาทคนเดียวได้อย่างไรกัน ตระกูลใหญ่ขนาดนั้นจะต้องมีทายาทจำนวนไม่น้อยสิถึงจะถูก ดังนั้นเป็นไปได้มากว่าคนนั้นไม่ใช่ฟางเหยียนเสียด้วยซ้ำ แต่เป็นคุณชายคนอื่นของตระกูลฟาง
นี่เป็นปัญหาที่ทรมานเย่ชิงหยู่มาโดยตลอดในช่วงหลายวันนี้ เธอค่อนข้างเสียใจที่วันนั้นไม่รับสายของฟางเหยียน ตอนนั้นเธอกำลังร้องไห้อยู่ เมื่อเห็นฟางเหยียนเธอมา เธอไม่มีทางรับสายแน่นอน ถ้าฟางเหยียนได้ยินเสียงตัวเองร้องบางทีฟางเหยียนอาจจะสะใจมากก็เป็นได้ คิดว่าตนไปจากตัวเองไม่ได้ แล้วประนีประนอมให้เธอเป็นเมียหลวงหรือเมียน้อยของเขา เธอไม่มีทางไม่เอาถ่านไปเป็นเมียน้อยของฟางเหยียนแน่นอน ชอบเขาแล้วไง จะมาแชร์ความสุขกับคนอื่นไม่ได้หรอกนะ!
เรื่องอื่นเย่ชิงหยู่แบ่งปันกับคนอื่นได้ แต่เรื่องสามี เธอไม่มีทางแบ่งปันกับคนอื่น คนของตระกูลใหญ่แล้วไง เธอไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก!