จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 450 ฟางเหยียนไม่เคยเปลี่ยนไป
“ตึกๆ!” หยิวอู่ใจเต้นตึกๆอย่างรุนแรง เขาต้องถูกแก๊งซินหงไล่ฆ่าไม่ใช่เหรอ?ทำไมตอนนี้ถึงได้กลายเป็นจะไปล้างบางแก๊งซินหงล่ะ นี่มันเนื้อเข้าปากเสือไม่ใช่เหรอ ไปรนหาที่ตายเอง?
“ฟางเหยียน!” เย่ชิงหยู่อดที่จะเรียกฟางเหยียนออกมาไม่ได้ เธอเป็นห่วงว่าฟางเหยียนจะทำเรื่องบ้าๆอะไรขึ้นมา ตระกูลเซียวถูกฟางเหยียนล้างบางไป เรื่องนี้เธอซ่อนมันไว้ในก้นลึกของจิตใจ ถ้าฟางเหยียนบ้าขึ้นมา จะทำเรื่องที่น่าตกใจออกมาได้จริงๆ
เธอไม่หวั่นว่าฟางเหยียนจะถูกคนของแก๊งซินหงเล่นงาน เพียงแต่กลัวว่าฟางเหยียนจะไปล้างบางแก๊งซินหง ถึงตอนนั้นแก๊งซินหงทั่วทุกมุมโลกจะไล่ฆ่าฟางเหยียน ถึงตอนนั้นถึงแม้เขาจะซ่อนตัวที่ตระกูลฟาง เกรงว่าตระกูลฟางก็จะถูกค้นเช่นกัน
ฟางเหยียนหันหน้าไปมองเย่ชิงหยู่ ด้วยแววตาอบอุ่น แววตาคู่นั้นเหมือนสามารถทนต่อทุกอย่างไว้ได้ เป็นความหวังให้กับเย่ชิงหยู่ เขายกมือขึ้นมาวางไว้บนใบหน้าของเย่ชิงหยู่ แล้วกล่าวอย่างสบายๆว่า “ไม่เป็นไรนะ เชื่อใจผม!”
ยังคงเป็นคำพูดที่คุ้นหู และยังคงเป็นคนที่คุ้นเคยพูดออกมา บนโลกนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นที่จะพูดแบบนี้กับเย่ชิงหยู่ คนหนึ่งคือพ่อของเธอที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว อีกคนก็คือฟางเหยียน พ่อของเธอเสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้ก็มีเพียงฟางเหยียนที่พูดแบบนี้กับเธอ ฟางเหยียนเป็นเพียงคนเดียวที่พูดแบบนี้กับเธอ
มองฟางเหยียน ราวกับว่าทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป เขายังคงมั่นใจมากเช่นเคย เขามักจะให้กำลังตนลับๆ นี่ก็คือฟางเหยียน คือฟางเหยียนคนนั้นที่หลังจากกลับมาแล้วได้ตราตรึงอยู่ในจิตใจของเธอ ที่เย่ชิงหยู่ชอบฟางเหยียนขนาดนั้น ก็เพราะฟางเหยียนสามารถให้ความอุ่นใจที่พิเศษกับตนได้ นี่เป็นสิ่งที่เย่ชิงหยู่ขาดหาย หลังจากที่เย่เทียนจากไปแล้ว ฟางเหยียนเติมเต็มสิ่งที่ขาดในใจของเย่ชิงหยู่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นเธอถึงได้ชอบฟางเหยียนมาก
แต่ไม่นาน เธอก็ได้สติกลับมา รีบพูดกับฟางเหยียนว่า “อำนาจของแก๊งซินหงยิ่งใหญ่มาก เราจะไม่ไปแตะต้องพวกเขา ถ้าพวกเขามาหาเรื่องเรา พวกเราก็แจ้งความ ฉันรู้จักคุณ คุณเป็นคนที่มีฝีมือ แต่พวกเขายิ่งใหญ่มาก”
“เหอะๆ!” ฟางเหยียนปล่อยมือลงจากใบหน้าของเย่ชิงหยู่ แล้วกล่าว “กล้าข่มขู่ครอบครัวของผม ข่มขู่ภรรยาของผม ต่อให้จะยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ต้องถูกกำจัด!ผมเคยพูดไว้ ว่าจะไม่ให้ใครคนไหนก็ตามบนโลกนี้รังแกคุณได้ แค่แก๊งซินหง มีค่าขนาดไหนกัน จำไว้ ในโลกนี้ไม่มีใครแตะต้องคุณได้”
คำพูดนี้ดังเข้าไปในจิตวิญญาณเบื้องลึกของเย่ชิงหยู่ ทำให้เย่ชิงหยู่ซาบซึ้งใจขึ้นอีกครั้ง แววตาทั้งสองข้างของเธอมองฟางเหยียนอย่างเสน่หา เกิดเป็นความสุขขึ้นมาข้างๆกาย ค่อยๆห้อมล้อมเธอเอาไว้ นี่เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด และก็เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เธอมีความสุขที่สุด ผู้ชายคนนี้ มักจะมอบสิ่งที่สวยงามที่สุดให้กับเธออยู่เสมอ
“ไป!พาฉันไปหาแก๊งซินหง” ฟางเหยียนหันหลังไปมองหยิวอู่ แล้วพูดกับเขาอย่างเย็นชา
หยิวอู่กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ จากนั้นก็ถอนหายใจยาวๆ ไอ้นี่มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ กล้าไปหาแก๊งซินหง เขาหัวเราะอย่างไม่เต็มใจ แล้วถาม “เด็กน้อย แกแน่ใจเหรอว่าจะไปหาแก๊งซินหง?แกรู้มั้ยว่าไปตอนนี้ ก็เนื้อเข้าปากเสือชัดๆ!”
“เพียะ!” ฟางเหยียนยกมือขึ้นตบไปที่หน้าของหยิวอู่อย่างแรง ตบจนหยิวอู่ตาพร่ามัว ใบหน้าเจ็บอย่างร้อนผ่าวๆ บนใบหน้าของเขา ยังมีรอยนิ้วมือห้านิ้วประทับอยู่อีกด้วย เห็นได้ชัดว่าออกแรงตบมาก
“หยุดพูดพร่ำเพรื่อ นำทางไป!” ฟางเหยียนเร่งออกมา
หยิวอู่ไม่กล้าพูดอะไรอีก ยืนขึ้น นำทางอย่างโซซัดโซเซ แต่คนนี้ตบหน้าเขา อีกแป๊บเขาจะตบคืน ในเมื่อเขาไม่ประมาณตน ก็จะมาโทษตัวเองว่าโหดเหี้ยมไม่ได้
หลังจากที่เห็นฟางเหยียนจากไปแล้ว เย่ชิงหยู่ก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พูดออกมา เลขาสาวคนนั้นของเย่ชิงหยู่พูดกับเย่ชิงหยู่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉาว่า “ประธานเย่ สามีของคุณดีกับคุณจริงๆเลยค่ะ”
ไม่เพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น แม้แต่พนักงานบริษัทที่เห็นเหตุการณ์นี้ก็อดไม่ได้ที่จะพูดคุยกันขึ้นมา
“พระเจ้า หล่อจังเลยอะ!ถ้าฉันมีสามีแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะมีความสุขมากมายขนาดไหนกันนะ ทั้งอบอุ่น ทั้งหล่อ ทั้งต่อสู้เก่ง เป็นผู้ชายคนดีที่หาได้ยากจริงๆ”
“อ้อ ฉันจำได้ว่าเขายังซ่อมคอมพิวเตอร์เป็นอีกด้วยนะ ครั้งที่แล้วระบบของบริษัทเราล่ม เขานั่นแหละที่เป็นคนแก้”
“ถูกๆๆ ราวกับว่าเขาทำเป็นทุกอย่างเลยนะ ชายที่ครบสูตรขนาดนั้น ทำไมไม่ให้ฉันได้เจอบ้างนะ”
“เฮ้อ ไม่ใช่ว่าแกไม่รู้ว่าประธานแย่ของเราเป็นใคร คนธรรมดาจะเทียบกับสามีของเค้าได้เหรอ?”
หญิงสาวพวกนี้ล้วนอิจฉาเย่ชิงหยู่ที่ได้ผู้ชายอย่างฟางเหยียน เป็นผู้หญิงที่ทำให้ผู้คนอิจฉาได้จริงๆ
แต่เย่ชิงหยู่เองกลับหน้าตาโศกเศร้า ฟางเหยียนปกป้องเธออย่างจริงใจ แต่เธอกลับยากที่จะยอมรับความจริงในเรื่องที่ฟางเหยียนแต่งงานกับคนอื่นได้ ทำไมฟางเหยียนถึงทำแบบนั้น!ทำแบบนั้นแล้วทำไมยังต้องดีกับตนขนาดนั้นอีก
ที่ฟางเหยียนปกป้องตน อาจไม่ใช่เพราะความรัก แต่เพราะทดแทนบุญคุณที่พ่อของตนได้เลี้ยงดูเขามา!ฟางเหยียนเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึก ที่เขาทำแบบนั้น ต้องเป็นเพราะทดแทนบุญคุณการเลี้ยงดูของพ่อเป็นแน่!
จิตใจของเย่ชิงหยู่ห่อเหี่ยวสุดๆลงอีกครั้ง ถ้าเป็นเพราะทดแทนบุญคุณการเลี้ยงดูของพ่อจริงๆล่ะก็!งั้นทำไมเขาถึงได้ดีกับตัวเองขนาดนั้น การทำดีแบบนี้ทำไปเพียงเพื่อทดแทนบุญคุณแค่นั้นเหรอ?
“ประธานเย่ จะเอายังไงกับผู้หญิงคนนี้ดีคะ?” เลขาของเย่ชิงหยู่มองผู้หญิงที่กำลังเหม่อลอย ถือสัญญาอยู่ตรงหน้าคนนี้แล้วถาม
หญิงสาวตกใจมาก ดังนั้นจึงไม่ขยับไปนาน จนกระทั่งถึงตอนนี้ขาของเธอยังไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
“อ้า!” ได้ยินมีคนพูดถึงเธอ เธอจึงรับกล่าวว่า “ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันนะ ฉันแค่ทำงานให้หยิวอู่ เขาให้ฉันทำอะไรฉันก็ทำ? ฉันไม่มีทาง…”
เลขาสาวคนนั้นกอดอกแล้วกล่าว “เหอะๆ!แปลกจริงๆ เมื่อกี๊แกยังยโสโอหังอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?แล้วทำไมตอนนี้จึง…”
“พอแล้ว!ปล่อยเธอไป!” เย่ชิงหยู่ไม่มีทางทำให้ผู้หยิงแบบนี้ลำบากใจ หลังจากที่หญิงสาวได้ยินคำพูดนี้แล้วก็รีบขอบคุณ จากนั้นก็วิ่งออกจากกรุ๊ปไปอย่างลนลาน
ขณะนี้ หญิงสาวคนหนึ่งในบริษัทวิ่งไปที่เย่ชิงหยู่ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉา เธอถามอย่างยินดีปรีดาว่า “ประธานเย่คะ ท่านหาสามีที่ดีแบบนั้นที่ไหนกัน เจ๋งจริงๆเลยค่ะ หล่อมากเลย ท่านบอกดิฉันหน่อยได้มั้ยคะว่าเขาชื่ออะไร?”
เมื่อเย่ชิงหยู่ได้ยินประโยคนี้ ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นท่าทีของเย่ชิงหยู่ หญิงสาวรีบอธิบายว่า “ดิฉัน ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ ประธานเย่ ฉันก็แค่ถามไปงั้นๆ อ้อ เขามีพี่ชายหรือน้องชายมั้ย ถ้ามีล่ะก็ แนะนำให้ฉันหน่อยได้มั้ยคะ?ฉันรู้สึกว่าเขาเท่มากๆเลยอะค่ะ”
“ไม่มี!” เย่ชิงหยู่ตอบไปคำหนึ่งอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้นบน