จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 453 ลูกพี่ ไม่ได้การแล้วครับ
“อ๋อ!” เห้ออีกางตอบไปงั้นๆ แล้วกล่าวอย่างดวงตาครึ่งปิดครึ่งเปิดว่า “แล้วไง กำลังจะเป็นบันไดให้ผมก้าวไปเป็นถังจู่ของซีหนานไม่ใช่เหรอ”
“ถังจู่!” หญิงสาวตบบ่าของเห้ออีกางอย่างออดอ้อน คิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ๆแขนของเธอถูกเห้ออีกางจับไว้ จากนั้น เห้ออีกางลากหญิงสาวมาอยู่ในอ้อมกอดของตน
ตอนที่ก้นใหญ่นั่นนั่งลงมา ทำให้เห้ออีกางอดกลั้นที่จะตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้ เห้ออีกางยกมือขึ้นลูบไล้ตามลำตัวของหญิงสาว ลูบไล้ไปได้สักพัก เขาได้เตรียมที่จะจูบอีกฝ่าย
แต่หญิงสาวกลับยกอีกมือหนึ่งขึ้นมาวางไว้ที่ปากของเห้ออีกาง แล้วกล่าว “ลูกพี่คะ ฉันยังพูดไม่จบเลยค่ะ คุณไม่อยากรู้เหรอคะว่าทำไมตงข่ายกรุ๊ปนั่นถึงได้ร่วมมือทางการค้ากับซีหนานกรุ๊ปได้?ซีหนานกรุ๊ปกิจการใหญ่โตทรัพย์สินมหาศาล ไม่มีทางสนใจกิจการเล็กๆแบบนี้อย่างตงข่ายกรุ๊ปได้ การที่ร่วมมือทางการค้ากับตงข่ายกรุ๊ปได้ แสดงว่ามีคนที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา คุณคิดดูนะ ถ้าไม่มีใคร กิจการนี้จะเติบโตได้เร็วขนาดนี้ได้เหรอ?ฉันไม่เชื่อหรอกค่ะว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะมีความสามารถที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น”
“ดังนั้น?” มือของเห้ออีกางยังไม่หยุด ยังคงลูบไล้ไปมาบนเรือนร่างของหญิงสาวเช่นเคย ดูท่าทางแล้วตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก
หญิงสาวพึมพำแล้วกล่าว “ดังนั้นฉันคิดว่าที่เบื้องบนให้คุณมาจัดการเรื่องนี้ มันมีอะไรแปลกๆนะคะ ตงข่ายกรุ๊ปนี้ก็เป็นแค่ธุรกิจขนาดเล็กที่มีทรัพย์สินหลักร้อยล้าน ทำไมถึงได้เจาะจงว่าจะเอาธุรกิจนี้ด้วยล่ะ ธุรกิจนี้มีอะไรพิเศษมั้ย?หรือพวกเขาอยากจะดึงดูดความสนใจของใครบางคน”
จะว่าไป ผู้หญิงที่หัวแหลมไม่เหมือนกับผู้ชาย เมื่อวิเคราะห์ออกมาก็ล้วนมีเหตุผล
เห้ออีกางกลับกล่าวอย่างไม่สนใจว่า “แล้วยังไง?ต่อให้มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดา แล้วยังจะต่อกรกับแก๊งซินหงของเราได้งั้นเหรอ?ผมมองว่า เบื้องบนจงใจให้โอกาสผม ภารกิจที่ไม่ท้าทายอย่างนั้น เบื้องบนตั้งใจจะสนับสนุนผม ให้ผมเป็นผู้นำของเขตซีหนาน เป้าหมายแบบนี้มันชัดเจนมาก ไม่ใช่เหรอ?”
“อิๆๆ ที่รัก เดี๋ยวเรียกผมว่าถังจู่หลายๆครั้งหน่อยนะ” พูดพลาง เห้ออีกางกดร่างของหญิงสาวไว้ใต้ร่างกายของเขา ทั้งจุ๊บทั้งจูบหญิงสาว คำพูดเมื่อกี๊ของหญิงสาว เขาไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจ และไม่คิดอะไรเลย
แค่ตงข่ายกรุ๊ป เขาเห้ออีกางจะสนใจทำไมกัน กิจการขนาดเล็กแบบนี้ไม่คุ้มค่าที่เขาจะไปสืบเชิงลึก
หญิงสาวดิ้นพลางกล่าวว่า “ถังจู่ ฉันจะสืบเจอ ว่าเย่ชิงหยู่คนนี้มีสามีเป็นทหารด้วยนะ ได้ยินมาว่าหลังจากที่ผู้ชายคนนี้กลับมาแล้วเย่ชิงหยู่จึงเจริญก้าวหน้าอย่างราบรื่น คุณไม่อยากสืบผู้ชายคนนี้บ้างเลยเหรอ ฉันคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมี……”
“อ้า!” เสียงพูดของหญิงสาวกลายเป็นเสียงที่แปลกประหลาดมาก เพราะการกระทำของเห้ออีกางรบกวนคำพูดที่หญิงสาวจะพูด เขาก็ขัดจังหวะคำพูดของหญิงสาวที่จะพูดได้สำเร็จ
ไม่นาน ทั้งสองเริ่มนัวเนียกันไปมาบนเก้าอี้หนังเสือ เป็นฉากที่โอเวอร์มาก
ประมาณสามนาทีให้หลัง หญิงสาวใช้มือค้ำร่างกายไว้ ให้ตัวเองเอนกายบนเก้าอี้หนังเสือ จากนั้นเธอกล่าวอย่างพึมพำว่า “ลูกพี่คะ!ฉันรู้สึก……”
ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเห้ออีกางขัดจังหวะไว้ เขายกมือขึ้นมาแสดงท่าทีอย่าพูด จากนั้นก็ถามว่า “คุณเรียกผมว่าอะไรนะ?”
“ถังจู่!” หญิงสาวหน้าแดงรีบเปลี่ยนสรรพนาม
เห้ออีกางหัวเราะฮ่าๆๆ “ใช่ คุณควรเรียกผมว่าถังจู่”
“ถังจู่ ฉันคิดว่าเราควรจะระวังตัวไว้หน่อยนะคะ ไม่งั้นฉันสืบตัวตนของผัวเธอก่อนแล้วค่อยจัดการ!” หญิงสาวพูดกับเห้ออีกางอย่างจริงจัง
เห้ออีกางดูแคลนออกมา แล้วกล่าว “มีอะไรต้องสืบอีก หรือเมืองจินโจวที่เล็กๆแห่งนี้จะซ่อนยอดฝีมือไว้งั้นเหรอ?หรือคุณคิดว่าแก๊งซินหงของเราเมื่ออยู่ข้างนอกแล้วกลัวจะถูกรังแก?เกรงว่าคนที่กล้ารังแกผมเห้ออีกางยังไม่เกิดเลยมั้ง”
ความยิ่งใหญ่ของแก๊งซินหง เห้ออีกางผ่านมาหมดแล้ว นี่เป็นองค์กรที่มีพลังอันน่ากลัวอยู่ ใครก็ตามที่ได้ยินแก๊งซินหง ไม่ว่าเขาจะเจ๋งขนาดไหน ล้วนตกใจจนตัวสั่นด้วยกันทั้งนั้น
ช่วงหลายปีมานี้ถึงแม้แก๊งซินหงไม่ได้ทำการใหญ่อะไร แต่ชื่อเสียงของพวกเขาดังกระฉ่อนไปทั่ว เพียงแค่ได้ยินแก๊งซินหงสามคำนี้ ก็ทำให้คนหวาดกลัวขึ้นมา
เคยมีคนจำนวนมากคิดว่าความสามารถของตัวเองนั้นต่อกรกับแก๊งซินหงได้ สุดท้ายก็ไม่ใช่ว่าถูกบีบ ถูกจัดการไปหมดเหรอ ดังนั้นเขาไม่คิดว่าพลังของแก๊งซินหงนั้นด้อยไปกว่าใคร ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่เป็นเพียงเมืองจินโจวที่เล็กๆเมืองหนึ่งเท่านั้น ไม่ว่าคนที่เจ๋งขนาดไหนก็จำกัดอยู่ในเมืองจินโจวเท่านั้น ในสายตาของแก๊งซินหง ต่อให้เป็นคนที่เก่งที่สุดของเมืองจินโจวพวกเขาก็ไม่สนใจ
“แต่…… ถังจู่ ถ้าผัวของเธอ……”
หญิงสาวยังคิดจะโน้มน้าวอะไรบางอย่าง แต่เห้ออีกางไม่อยากฟังแล้ว ทัศนคติของหญิงคนนี้เชิงลบมาก ทำอะไรก็เป็นกังวลไปหมด นี่ไม่ใช่สไตล์การทำงานที่เขาชอบ เขาขัดจังหวะคำพูดของหญิงสาว แล้วกล่าว “ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เชื่อผม เชื่อแก๊งซินหง ผมไม่เชื่อว่าที่แห่งนี้จะมีคนเก่งซ่อนอยู่ ผมให้หยิวอู่ไปจัดการแล้ว”
“ถังจู่!” หญิงสาวมองเห้ออีกางอย่างตกใจ คนนี้จัดการปัญหาแบบนี้แหละ เดิมทีภารกิจนี้ไม่ธรรมดา แล้วยังเป็นเบื้องบนที่ร่วมมือกันสั่งการลงมา การกระทำขององค์กรนั้นไม่ชัดเจน ใครจะรู้ว่าเป้าหมายของพวกเขาคืออะไร
“เสี่ยวซิน คุณละเอียดอ่อนเกินไปแล้วนะ แก๊งซินหงของเราแข็งแกร่งขนาดนั้น จะกลัวใครได้ไงกัน”
“ก็อกๆๆ!” ในขณะเดียวกันนี้เอง เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เห้ออีกางกระแอม แล้วพูดกับด้านนอกประตูว่า “เข้ามา!”
หญิงสาวกล่าวอย่างลำบากใจว่า “ถังจู่ ฉันยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย!ทำไมคุณ…”
“ไม่เป็นไร แบบนี้สิถึงจะตื่นเต้น” เห้ออีกางยกมือขึ้นมาลูบที่เคราของตัวเองอีกครั้ง ด้วยสีหน้าชิลล์ๆ
ขณะนี้ ประตูถูกเปิดออกแล้ว เป็นวัยรุ่นสวมชุดจงซานจวงคนหนึ่งเดินเข้ามา วัยรุ่นคนนี้อายุยี่สิบห้ายี่สิบหก ผมหงอกเต็มหัวไม่เข้ากับสภาพของเขา ผู้ชายวัยรุ่นผมหงอก คิ้วดก หนามาก แล้วดำมาก ดูๆแล้วมีความเคร่งขรึมที่บรรยายออกไม่ได้ เขารูปร่างไม่สูงไม่กำยำ ตอนที่เดินเข้ามา เหมือนกับพาลมติดตัวเข้ามาด้วย ให้ความรู้สึกยอดฝีมือที่อธิบายออกมาไม่ถูก
“กู่เฟิง!” หลังจากที่เห็นผู้ชายเดินเข้ามาแล้ว เห้ออีกางถามขึ้นมา “แกมีธุระอะไรมั้ย?”
“ลูกพี่ ไม่ได้การแล้วล่ะ มีคนบุกเข้ามาฆ่าถึงที่เลย” กู่เฟิงเดินมาข้างกายของเห้ออีกางอย่างสงบ อยู่ใกล้กับเห้ออีกางมาก แม้จะเห็นมีผู้หญิงอยู่บนเก้าอี้หนังเสือ แต่กู่เฟิงกลับเพิกเฉย
หญิงสาวให้ท่ากู่เฟิงลับๆ ไม่รู้กี่ครั้งไปแล้ว แต่เหมือนกู่เฟิงไม่สนใจผู้หญิงแม้แต่น้อย!