จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 460 เจตนาพูดให้ตกใจ
ในยุทธภพคุณผู้ชายท่านนี้ขนานนามว่าฮองซูน้อย เพราะทำนายได้แม่นยำ เหมือนกับฮองซูในยุคราชวงศ์สามก๊ก เสี่ยงทายคำนวณกว้า หยินหยางห้าธาตุเชี่ยวชาญรอบด้าน เพราะชื่อเสียงโด่งดัง ดังนั้นสำนักไร้หน้าจึงเชิญมา
ไม่คาดคิด ว่าเขาก็จะพูดแบบนี้กับอู๋หมิงตัวแทนเจ้าสำนักของสำนักไร้หน้า
“อ๋อ?” อู์หมิงพูดออกมาหนึ่งคำอย่างสบายๆ จากนั้นก็มองไปยังน้ำตกที่อยู่ไม่ไหลแล้วถาม “มีคนจะมากำเริบเสิบสานที่สำนักไร้หน้าของฉันใช่มั้ย?”
ฮองซูน้อยโบกมือแล้วกล่าว “ไม่ใช่กำเริบเสิบสาน เขามาเพื่อกำจัดสำนักไร้หน้า”
“อะไรนะ?” ตาของอู๋หมิงหรี่เป็นเส้นด้าย เขาดูแคลนเหอะๆออกมาแล้วถาม “คุณผู้ชาย ผมไม่ได้ฟังผิดไปใช่มั้ย? คุณพูดว่าไม่ใช่มากำเริบเสิบสาน แต่มาเพื่อกำจัดสำนักไร้หน้า คุณมั่นใจมากขนาดนั้น?”
“ครับ!” ฮองซูน้อยพยักหน้าอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยแล้วกล่าว “เขามาเพื่อกำจัดสำนักไร้หน้าจริงๆ”
อู๋หมิงไม่พูดไม่จา แต่เพียงหรี่ตาเล็กลงอีก ฮองซูน้อยเห็นเขาไม่พูดไม่จา จึงได้พูดต่อว่า “แต่นี่ไม่ใช่ทางตันของสำนักไร้หน้า ผมยังมีอีกวิธีที่จะทำให้สำนักไร้หน้าผ่านวิกฤตนี้ไปได้!”
“เหรอ?” สายตาของอู๋หมิงค่อยๆลืมขึ้นมาบ้าง เขาจ้องฮองซูน้อยแล้วถาม “เชิญพูดครับคุณผู้ชาย!”
ฮองซูน้อยใช้พัดพัดตรงหน้าหลายครั้ง จากนั้นก็กล่าว “วิธีนี้ถ้าพูดออกมาอาจจะทำให้พระราชารู้สึกไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่ แต่นี่เป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้น ไม่งั้นสิ่งที่รอสำนักไร้หน้าอยู่จะเป็นอันตรายที่ท่านไม่อยากเห็นเลยล่ะ”
อู๋หมิงไม่พูดไม่จา ฟังเขาพูดต่อไป ฮองซูน้อยไม่รีรอ แล้วพูดออกมา “จัดการปัญหาที่อยู่ตรงหน้าก่อน เพียงแค่ท่านฆ่าคนของสำนักไร้หน้าครึ่งหนึ่ง เอาศพของพวกเขากองไว้ในห้องโถง จากนั้นพาคนที่เหลืออีกครึ่งรีบออกไปจากที่นี่โดยเร็ว รอหลังจากที่เขามาแล้ว เมื่อเห็นฉากที่วุ่นวาย เต็มไปด้วยศพ แบบนี้เขาก็จะสันนิษฐานว่าสำนักไร้หน้าได้เผชิญกับวิกฤตเข้าให้แล้ว ถึงตอนนั้นเขาก็จะจากไป นี่เป็นวิธีการที่จะปกป้องสำนักไร้หน้าเพียงวิธีเดียว!”
เมื่อฟังจบ สีหน้าของอู๋หมิงยิ่งดูแย่เข้าไปใหญ่ สายตาทั้งสองของเขาดั่งเปลวไฟจ้องไปที่ฮองซูน้อย ผ่านไปสักพัก เขาหัวเราะฮ่าๆๆขึ้นมา แล้วถาม “คุณผู้ชาย คุณกำลังล้อเล่นกับผมอยู่ใช่มั้ย?”
ฮองซูน้อยส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ได้ล้อเล่นครับ ผมจริงจัง!นี่เป็นวิธีการเดียวที่จะรักษาสำนักไร้หน้าได้ เพราะผมดูปรากฏการณ์ดวงดาวบนท้องฟ้าผมเห็นฉากของสำนักไร้หน้ากองเต็มไปด้วยศพ ถ้าไม่มีคนตาย อันตรายครั้งนี้จะแก้ไม่ตกนะครับ”
ใบหน้าของอู๋หมิงกระตุกอย่างหนัก จากนั้นก็ส่งเสียงเหอะออกมา แล้วกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ “คุณผู้ชาย คนของสำนักไร้หน้าคนไหนบ้างที่ไม่ใช่พี่น้องที่ฝ่าภัยอันตรายมากับผม มาที่สำนักไร้หน้ามาหลายปี สุดท้ายถูกคนที่ตัวเองเคารพฆ่า คุณคิดว่าผมฆ่าลงมั้ย?คุณบอกว่ามีคนจะมากำจัดสำนักไร้หน้าของผม คุณคิดว่าคนผู้นี้มีฝีมือต่อกรกับคนของสำนักไร้หน้าได้มั้ย?คุณรู้หรือไม่ว่าสำนักไร้หน้าของเรามีอะไร?”
ฮองซูน้อยกล่าวอย่างไม่สนใจว่า “ไม่ว่าสำนักไร้หน้าของคุณจะมีอะไร วิกฤตในครั้งนี้ถ้าไม่ทำแบบนั้น ก็จะแก้ไม่ตก!”
อู๋หมิงสะบัดมือ แล้วกล่าว “สำนักไร้หน้าของผมมีจอมคาถาทั้งสี่ มีท่านปรมาจารย์ไร้หน้า แล้วก็ผม อีกทั้งผู้อาวุโสทั้งแปด แล้วก็ยังมีประวัติศาสตร์ความรุ่งโรจน์มาหลายพันปี องค์กรที่อยู่มากว่าพันปี คุณบอกว่าพังแล้วจะพังงั้นเหรอ?คุณผู้ชาย ผมว่าคุณก็แค่มีชื่อแต่ไร้น้ำยาก็เท่านั้นแหละ อะไรปรากฏการณ์ดวงดาวบนท้องฟ้า อะไรกองเต็มไปด้วยศพ ก็เป็นแค่การที่คุณพูดให้ตกใจเท่านั้นแหละ!”
พูดพลาง มือของอู๋หมิงชี้ไปที่ฮองซูน้อยอย่างดุเดือด ท่าทางนั้นดูๆแล้วเหมือนจะฆ่าคนอย่างไรอย่างนั้น
ฮองซูน้อยถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว จากนั้นกล่าว “พระราชา ผมก็แค่พูดความจริง ผมไม่อยากปิดบังอะไรกับท่านทั้งนั้น ถ้าผมตั้งใจจะปิดบัง นั่นสิถึงจะเป็นการไม่เคารพท่านอย่างมหันต์ สิ่งที่ผมเห็นคือความจริง สิ่งที่คำนวณออกมาล้วนเป็นเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งนั้น ทั้งชีวิตผมเสี่ยงทายคำนวณกว้ามานับไม่ถ้วน ไม่เคยคำนวณผิด ครั้งนี้ ก็ไม่มีทางผิดเช่นกัน”
ความเชื่อมั่นของคนๆหนึ่งมาจากความสามารถของตัวเอง ที่ฮองซูน้อยถูกเรียกว่าฮองซูน้อย ก็เป็นเพราะฝีมือของตัวเองเทียบได้กับฮองซูในราชวงศ์สามก๊ก ดังนั้นจึงได้มีการเรียกขานแบบนี้ เขาอ่านอี้จิงเป็นด้วยตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก ในด้านเสี่ยงทายทำนายชะตา ความเคยชินเกิดเป็นความชำนาญไปตั้งนานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดไหน ต่างก็สามารถคำนวณได้จากปรากฏการณ์บนท้องฟ้า
“เหอะๆๆๆ!” จู่ๆอู๋หมิงก็หัวเราะขึ้นมา จากนั้นก็อ้าแขนสองข้างออก หัวเราะฮ่าๆๆๆเย้ยฟ้า หัวเราะเสียงดัง หัวเราะบ้าคลั่ง หัวเราะอย่างไม่สนใจใคร หัวเราะจนทำให้คนห่อเหี่ยวใจ หัวเราะจนทำให้คนหวาดกลัว
หลังจากที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้ว จู่ๆใบหน้าของเขาก็บึ้งลง จากนั้นสีหน้าบึ้งตึงมองไปที่ฮองซูน้อยแล้วถาม “งั้นคุณคำนวณออกมาได้แล้วยังว่าปรมาจารย์กุ่ยซือตายยังไง?”
ฮองซูน้อยกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “คำนวณออกมาแล้ว เขาตายในห้องโถงนี้ ถูกคุณฆ่า”
อู๋หมิงพยักหน้าแล้วกล่าว “ถือว่าเก่งใช้ได้!งั้นคุณรู้มั้ยว่าทำไมมันถึงได้ถูกผมฆ่า?”
ฮองซูน้อยพยักหน้าเบาๆแล้วกล่าว “เพราะเขาก็คำนวณวันพินาศของสำนักไร้หน้าเช่นกัน!ดังนั้นจึงถึงคุณฆ่า”
อู๋หมิงหัวเราะฮ่าๆออกมา จากนั้นก็กล่าวอย่างโอหังว่า “ในเมื่อคุณสามารถคำนวณการตายของปรมาจารย์กุ่ยซือได้ ก็ต้องคำนวณเวลาในการพินาศของสำนักไร้หน้าได้เช่นกัน แล้วคุณได้คำนวณว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณมั้ย!”
อู๋หมิงเหมือนกับสัตว์เดรัจฉานที่บ้าคลั่งตัวหนึ่ง เกรี้ยวกราดขึ้นมา ดูๆแล้วเหมือนกับจะกลืนกินฮองซูน้อยเป็นๆ
กลับมามองที่ฮองซูน้อย เขายังคงมีท่าทางไม่สะทกสะท้านใดๆ จู่ๆเขาก็ยิ้มออกมา “การมีชีวิตมันยากตรงไหน?แล้วการตายมันทุกข์ทรมานอย่างไร? ผมมีชีวิตมานานหลายปี ถ้าจะตายก็ตายได้ แต่ผมยังอยากเตือนอะไรท่านหน่อย อู๋หมิง ถ้าคุณยังดื้อดึงอยู่ สำนักไร้หน้าต้องพังพินาศลง ไม่ว่าใคร ก็ช่วยสำนักไร้หน้าของพวกคุณไม่ได้!”
อู๋หมิงสีหน้าเกรี้ยวกราด ด้านหลังปรากฏเป็นพลังด้านมืดที่ผุดๆโผล่ๆออกมา นั่นเป็นแรงอาฆาตที่อู๋หมิงปล่อยออกมา จากนั้น เห็นเพียงร่างกายของอู๋หมิงเหมือนปีศาจผ่านฮองซูน้อยไป
วินาทีถัดมา อู๋หมิงปรากฏกายตรงหน้าของฮองซูน้อย เขายกมือขึ้นบีบคอหอยของฮองซูน้อย
หลังจากที่ฮองซูน้อยถูกบีบคอหอยแล้วนั้น สีหน้าเปลี่ยนไป ถึงแม้เขาจะนิ่งมาก แต่การหายใจไม่ออกทำให้เขาปรับตัวได้ยาก คอหอยของเขาถูกบีบไว้ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่เขาจะพูดอะไรไม่ออก
เขาบีบคอหอย คำพูดถูกบีบจนเปลี่ยนไป แล้วกล่าวอย่างยากลำบากว่า “สิ่งที่ฉันพูดไปทั้งหมดเป็นความจริง อู๋หมิง หายนะของสำนักไร้หน้าจะมาถึงแล้ว จะมาถึงแล้ว!”
“ไอ้สารเลว!” อู๋หมิงยกร่างของฮองซูน้อยขึ้นอย่างสุดกำลัง เหมือนกับยกลูกไก่ตัวหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น ร่างกายของฮองซูน้อยถูกยกลอยขึ้นในอากาศ แขนขาของเขากำลังดิ้นเป็นครั้งสุดท้าย เพราะการหายใจลำบากมากขึ้น
“ไม่ว่าใคร ก็ไม่สามารถพูดถึงสำนักไร้หน้าของฉันแบบนั้นได้! นี่มันเจตนาพูดให้ตกใจ เจตนาพูดให้ตกใจ!”
อู๋หมิงจ้องฮองซูน้อยอย่างเกรี้ยวกราด แววตาทั้งสองข้างจ้องไปที่ตาของเขาอย่างไม่ละสายตา และแล้ว ดวงตาของฮองซูน้อยค่อยๆหมดสภาพไป สุดท้าย สติของเขาเลือนรางลง
อู๋หมิงตะคอกใส่แววตาอันแดงก่ำของเขาว่า “สำนักไร้หน้า จะอยู่ตราบนานเท่านาน!”