จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 479 ผู้รังแกคุณนาย ต้องตาย
เทียนหลังมองพิจารณานักฆ่าสัตว์ ร้องอ้อรับคำพลางพูดเสียงเรียบว่า “แล้วยังไงล่ะ? หรือว่ามันจะช่วยไม่ให้แกตายวันนี้?”
โอหังและเย่อหยิ่ง นี่สิโอหังและเย่อหยิ่งของจริง ทุกคำพูดแทงจุดตายของอีกฝ่ายชะงัดนัก
นักฆ่าสัตว์รู้สึกเสียหน้าอีกครั้ง หมอนี่ฟังเรื่องราวของตนแล้วกลับไม่รู้สึกอะไรเลย ตนเป็นคนที่ฆ่าฟันมาหลายร้อยหลายพันคนแล้ว ทำไมเขายังเมินเฉยใส่ตนอย่างเย่อหยิ่งไร้มารยาทแบบนี้ได้อีก หมอนี่มันโอหังมากไปแล้ว
เมื่อก่อนนักฆ่าสัตว์ก็เคยเผชิญหน้าคนร้ายกาจมาไม่น้อย แต่หลังจากได้ยินประวัติตนก็จะพากันตกใจวิ่งหนีไปเลย แต่หมอนี่กลับนิ่งเฉย ทำให้นักฆ่าสัตว์เสียหน้ามาก เดิมคิดอยากได้หน้า ไม่คิดว่าจะผิดแผน
ที่จริงพวกคนที่กลัวนักฆ่าสัตว์คือกลัวคำพูดสุดท้ายของเขา เขาเข้าร่วมแก๊งซินหง แต่นักฆ่าสัตว์กลับโง่คิดเอาเองว่าเรื่องของเขาทำให้คนหวาดกลัว ที่จริงเรื่องของนักฆ่าสัตว์ไม่เท่าไหร่หรอก ในฐานะพี่ใหญ่ในวงการ ใครไม่เคยมีประวัติรุ่งเรืองกันมาบ้างล่ะ เพียงแต่ไม่อยากเป็นศัตรูกับแก๊งซินหงก็เท่านั้นเอง ใครบ้างไม่รู้ว่าแก๊งซินหงเป็นราชาผูกขาดของโลกใต้ดิน
แต่สิ่งเหล่านี้กลับเป็นเสมือนฝุ่นควันในสายตาเทียนหลัง เทียนหลังเป็นใคร รองผู้นำเขตตะวันตกเฉียงเหนือของสำนักเจ็ดพิฆาต คอยควบคุมดูแลพื้นที่ส่วนนั้น เขาจะกลัวคนของโลกใต้ดินคนนี้ได้ยังไง คนตรงหน้านี้เคยฟันคนในถนนแห่งหนึ่ง เทียนหลังกลับเป็นคนที่ฝ่าดงกระสุนปืนระเบิด และใช้ชีวิตท่ามกลางความเป็นความตายทั้งวัน ทั้งสองคนไม่ใช่ระดับเดียวกันเลยด้วยซ้ำ
“โอหัง!” นักฆ่าสัตว์ดึงมีดเล็กในมือออกมา พุ่งเสียงใส่เทียนหลังอย่างเร็ว จะว่ากล้าหาญ นักฆ่าสัตว์ก็กล้าหาญจริง ไม่งั้นคงไม่ฟันคนมากมายขนาดนั้นด้วยตัวคนเดียวได้
พอมาอยู่ตรงหน้าเทียนหลัง มีดแหลมของนักฆ่าสัตว์ก็ฟันลงไปที่เทียนหลังอย่างแรง แต่มีดยังไม่ทันโดนตัวเทียนหลัง ก็โดนเทียนหลังยกมือขึ้นคว้าหมับไว้ได้ซะก่อน
การโดนคว้าหมับนี้ทำเอานักฆ่าสัตว์สะท้าน เขาพยายามดึงมือที่ถือมีดกลับมา แต่ทำยังไงก็ดึงไม่กลับ
แรงเทียนหลังมากเกินไป ไม่ใช่อะไรที่นักฆ่าสัตว์จะเทียบได้เลย ต่อให้รูปร่างทั้งคู่คล้ายคลึงกัน แต่พอมาสู้กันจริงๆ นักฆ่าสัตว์สู้เทียนหลังไม่ได้เลย ในสายตาเทียนหลัง นักฆ่าสัตว์ก็คือขยะดีๆนี่เอง!
หลังจากพบว่าดิ้นรนไม่มีประโยชน์ นักฆ่าสัตว์กัดฟันกรอดก่อนยืนมืออีกข้างออกไป คิดจะใช้หมัดชกหน้าเทียนหลัง แต่หมัดเขาก็เหมือนกัน ยังไม่ทันโดนหน้าเทียนหลังก็โดนเทียนหลังจับไว้ก่อน
สองมือโดนจับไว้หมดแล้ว มันทำให้นักฆ่าสัตว์ร้อนใจจนเหงื่อแตกซิก เทียนหลังหรี่ตามองนักฆ่าสัตว์พลางว่า “ในสายตาฉัน แกก็แค่ไร้ประโยชน์เท่านั้นเอง! ต่างอะไรกับขยะพวกนั้นล่ะ”
“ผู้รังแกคุณนายต้องตาย!” พึ่งพูดจบ มีประกายคมวาบขึ้น ในวินาทีนี้เอง เทียนหลังยกมือขึ้นปาดคอหอยนักฆ่าสัตว์ เทียนหลังใช้เล็บมือ นิ้วมือของเทียนหลังไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไป ตั้งแต่เกิดมา เทียนหลังมีสองนิ้วที่ไม่ปกติ ปลายนิ้วของสองนิ้วนั้นแข็งมาก และยิ่งยาวยิ่งแหลมเหมือนกับเล็บ และยาวขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นมองดูแล้วเลยแปลกๆ ตอนเด็กเทียนหลังโดนคนล้อไม่น้อยเพราะเรื่องเล็บ
ตอนแรกที่ไปเป็นทหาร ตอนคนอื่นเห็นมือเขา ยังเกือบไม่ให้เขาเข้ากองเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเบื้องบนเห็นในร่างกายกำยำของเขา เขายังไม่มีโอกาสเข้ากองทัพและได้รับการฝึกฝนที่ดีแน่ กรงเล็บของเขามีประโยชน์อย่างมาก ตอนนี้เล็บมือกลายเป็นความภูมิใจของเขาไปแล้ว
ในสงคราม เวลาคนอื่นกล่าวถึงนิ้วรูปเขี้ยวหมาป่านี่ ก็จะนึกถึงคนที่มีนิ้วมือเหมือนหมาป่าคนนี้
นิ้วของเขาแหลมคมเหมือนเขี้ยวของหมาป่า การที่เรียกเขาว่าเทียนหลัง เป็นเพราะกรงเล็บแหลมคมนี้ของเขา
คอหอยนักฆ่าสัตว์มีเลือดสดพุ่งกระฉูด จากนั้นร่างเขาค่อยๆคุกเข่าลงพื้นช้าๆ สองตาเขาเบิกโพลง มองมาที่เทียนหลังอย่างไม่อยากเชื่อ แต่เทียนหลังไม่ได้มองเขา ทำเพียงแค่ยกเท้าขึ้นมาเตะเขาล้มลงพื้น ร่างเขานอนบิดไปมาบนพื้นอย่างเจ็บปวด ไม่นานก็แน่นิ่งไป
ตายแล้ว ตายแล้วจริงๆ!
ชายตาเดียวเห็นฉากนี้ก็เบิกตากว้างอย่างตะลึง ตะคอกใส่เทียนหลังว่า “แก แกกล้าฆ่าคนของแก๊งซินหงเรา!”
เทียนหลังแค่ยิ้มบางๆ จากนั้นพูดอย่างโอหังและเย่อหยิ่งว่า “ไม่เพียงแค่มัน ทุกคนที่รังแกคุณนายล้วนต้องตาย! แกเองก็ไม่ยกเว้น ทุกคนที่นี่หนีไม่พ้นหรอก!”
“แก!” ชายตาเดียวโกรธจนกัดฟันกรอด เขาโบกมือสั่งพลางว่า “ลงมือเลย เอาให้พิการ!”
คนพวกนั้นปราดเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย แต่เทียนหลังขยับตัวเล็กน้อย แป๊บเดียวก็ล้มลงพื้นกันหมด ต่างนอนกอดตัวเองร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด
บอกว่าจะฆ่าพวกเขา ที่จริงก็แค่ขู่เท่านั้นเอง เจ้าพวกนี้ยังไม่คู่ควรตายด้วยน้ำมือเทียนหลัง
เขาปรบมืออย่างสบายอารมณ์ พลางหัวเราะว่า “เศษสวะเอ๊ย!”
พอเห็นฉากน่าตะลึงนี่ เฉินหย่ากับเย่ชิงหยู่ต่างมีสีหน้าตื่นเต้น เฉินหย่าถามเสียงต่ำว่า “ชิงหยู่ คนนี้ใครน่ะ? เธอรู้จักเขาหรอ? ทำไมเขาเรียกเธอว่าคุณนายล่ะ”
ที่จริงเฉินหย่าพอเดาออกอยู่บ้าง ฐานะฟางเหยียนต้องไม่ธรรมดาแน่ ไม่งั้นเถ้าแก่หลิวเหอฉางของร้านหยกตี้เซิ่งหยวนไม่มีทางพอเจอฟางเหยียนก็คุกเข่าลงเลยหรอก เพียงแต่เธอไม่คิดเลยว่าฟางเหยียนจะแข็งแกร่งขนาดนั้น ขนาดคนแบบนี้ยังเป็นลูกน้องของฟางเหยียนเลย แถมยังเรียกเย่ชิงหยู่ว่าคุณนายอีก
สรรพนามเรียกคุณนายนี่มีเฉพาะกับครอบครัวแม่ทัพหรือขุนนางชั้นสูงในสมัยโบราณเท่านั้น หรือว่าฟางเหยียนเป็นแม่ทัพ? เขาเคยเป็นทหารมาก่อน แถมยังมีเบื้องหลังและอำนาจใหญ่ขนาดนั้น
หรือว่าคนที่ฆ่าแก๊งซินหงมากมายขนาดนั้นคือฟางเหยียน ถ้าไม่ใช่ คนของแก๊งซินหงไม่มีทางหาเรื่องเย่ชิงหยู่หรอก พอคิดถึงเรื่องนี้ เฉินหย่ายังไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตนเองคาดเดาเลย ถ้าเป็นฟางเหยียนจริง งั้นเขามีฐานะอะไรกันแน่ล่ะ?
เย่ชิงหยู่เห็นสีหน้าตกใจของเฉินหย่าแล้วส่ายหน้าบอก “ฉันไม่รู้!”
เฉินหย่ากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ยังไม่ทันพูดอะไร เทียนหลังก็ก้าวเท้าเข้าใกล้ประตูห้องพิเศษเรื่อยๆ ชายตาเดียวอดตัวสั่นไม่ได้ ทันใดนั้นเขาได้สติกลับมาอย่างไว และหยิบปืนออกมาจากในเสื้อ
หลังจากหยิบปืนออกมา เขาเล็งไปที่เทียนหลัง ตะคอกใส่ว่า “หยุดเดี๋ยวนี้!”
“อ๊า!” เย่ชิงหยู่กอดกับเฉินหย่าร้องกรี๊ดออกมา นั่นปืนนะ พวกเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา เคยเจอปืนกันที่ไหน ใครไม่รู้ว่าโดนปืนยิงแล้วต้องตาย ดังนั้นพอเห็นปืน ทั้งสองคนจะไม่ตกใจได้ยังไง ไม่กลัวได้ยังไง!
เทียนหลังเห็นอย่างนั้นก็อดยืนนิ่งไม่ได้
พอเห็นแบบนี้ ชายตาเดียวแค่นเสียงเย็นสองคำ พูดอย่างได้ใจว่า “แกโอหังนี่? โอหังต่อไปสิ แกไม่ใช่ต่อสู้เก่งหรือไง? มาลองแข่งกับปืนดูสิ แกจะเก่งกว่า หรือลูกกระสุนเก่งกว่า!”