จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 493 ใช่เขา ใช่คนนั้นมั้ย
ส่วนตัวฉินเข่อเอง ก็เชื่อฟังมาก เดิมทีต้องไปเรียนมหาลัยต่างถิ่น แต่คนในครอบครัวล้วนพูดว่าเรียนในท้องที่ดี ไม่ให้เธอไม่จากดินแดนตะวันตก ด้วยเหตุนี้เองเธอจึงได้กรอกมหาลัยของท้องถิ่นไป หลังจากเรียนมหาลัยแล้ว ฉินเข่อรู้สึกว่าการถูกดูแลแบบนี้ไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเพื่อนนักศึกษา จึงได้บอกหยางซงว่าอย่าเอะอะอะไรก็มามหาลัย โดยเฉพาะเขามักจะชอบขับรถมา
ต่อมาหยางซงก็ยุ่งอยู่กับธุรกิจของที่บ้าน จึงไม่ค่อยได้มาหาฉินเข่อที่มหาลัยแล้วจริง นี่เป็นครั้งหนึ่งในไม่กี่ครั้ง เขาก็ไม่คิดว่าเมื่อมาถึงฉินเข่อจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
คนที่พูดว่าฉินเข่อไปห้องทำงานกับอาจารย์คนนั้นคือหลิวเจียเจีย และคนที่พูดว่าคนนั้นไม่ใช่คนดีอะไรก็คือหลิวเจียเจียเช่นกัน
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเข่อ หยางซงส่งเสียงเหอะออกมา จากนั้นมองไปยังฉินเข่อด้วยใบหน้าโมโห แล้วกล่าว “เข่อเข่อ พี่บอกแล้ว ถ้าเกิดเรื่องอะไรที่มหาลัย ต้องบอกพี่ แกพูดว่ากลัวไม่มีเพื่อน กลัวว่าสถานะของครอบครัวเราทำให้แกรู้สึกแตกต่างจากเพื่อนของแก พี่ไม่มาหาแกที่มหาลัยได้ แต่ถูกรังแก แกต้องบอกพี่สิ ถ้าแม้แต่ถูกรังแกแกยังไม่บอกพี่ มันหมายความว่าไง!ในใจของแก ยังมีพี่ชายคนนี้อยู่มั้ย”
ฉินเข่อเห็นหยางซงที่โมโหขนาดนี้ ก็หัวเราะอิๆๆขึ้นมา แล้วกล่าว “มีๆๆ จะไม่มีพี่ชายคนนี้ได้อย่างไรกัน!ฉันรู้ว่าพี่ชายดีกับฉันที่สุดแล้ว แล้วก็จะปรากฏตัวปกป้องฉันในยามวิกฤตอีกด้วย พี่สบายใจได้ ฉันรับรองครั้งหน้าตอนเกิดเรื่อง จะต้องบอกพี่ก่อนแน่นอน” พอหัวเราะ ดวงตาทั้งสองขาก็โค้งๆ เหมือนดวงจันทร์ พูดแล้วว่าขอโทษรับผิด เธอได้ยิ้มรับความผิดแล้วยังจะโกรธเธอลงอีกเหรอ เมื่อเห็นฉินเข่อหัวเราะแบบนั้น หยางซงจะยังโมโหอยู่ได้อย่างไรกัน
เขาถอนหายใจ แล้วกล่าว “เข่อเข่อ ถ้าไม่ใช่เพราะแก คนเมื่อกี๊ถูกฉันขยี้ตายไปแล้ว!”
ฉินเข่อขี้เกียจจะพูดเรื่องนี้ กลัวว่าเดี๋ยวพี่ชายจะโมโหต่ออีก ด้วยเหตุนี้เองจึงได้ถามว่า “อ้อ จอดรถไว้ที่ไหน?”
หยางซงเบี่ยงเบนความสนใจสำเร็จ แล้วกล่าว “แกบอกว่าไม่ชอบให้ฉันมาที่มหาลัยไม่ใช่เหรอ ฉันไม่ได้ขับรถมาแน่นอน จอดไว้ที่ลานจอดรถที่หน้าประตูมหาลัย!”
“อิๆ!” ฉินเข่อหัวเราะ “นี่สิถึงจะเป็นพี่ชายคนดีของฉัน!รู้ว่าพี่นี่แหละดีกับฉัน”
หยางซงส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ หญิงสาวคนนี้เป็นคนที่เขารักมากที่สุด
“อ้อ วันนี้พี่มาหาฉันมีธุระอะไรเหรอ?” ฉินเข่อถามอีก เธอไม่ได้เรียกให้หยางซงมา
เพิ่งจะถามคำถามนี้จบ เธอก็ชะงักไป เพราะเธอเห็นคนๆหนึ่ง!
ขณะนี้ มีรถแท็กซี่คันหนึ่งขับผ่านเธอไปพอดี ในรถแท็กซี่เธอเห็นใบหน้าของคนๆหนึ่ง นั่นมันคนนั้นหนิ คนนั้นที่ช่วยเธอไว้ในอารามเต๋า ใช่ คือคนนั้น
ถึงแม้จะเป็นแว็บเดียวที่ผ่านไป แต่ฉินเข่อกล้ารับประกันว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นก็คือใบหน้านั้น แม้ใบหน้านั้นจะนิ่งสงบมาก แต่อารมณ์บนใบหน้าคนทั่วไปจะไม่มีทางมีได้
“พี่มารับแกกลับบ้านไปทำธุระ อีกสองวันเป็นวันเกิดครบรอบหกสิบแปดปีของลุงใหญ่ไม่ใช่เหรอ?พวกเราเตรียมจัดงานของลุงใหญ่ของแก!มีหลายที่ต้องตกแต่ง พวกเราไม่รู้ว่าจะตกแต่งยังไงดี จึงมารับแกไปดูโดยเฉพาะ” หยางซงกำลังพูด พูดพลางเดินพลาง เขากลับไม่เห็นว่าฉินเข่อไม่ได้ตามมา แต่ยืนเหม่อลอยอยู่ในตำแหน่งที่ห่างจากตัวเองห้าเมตร
เดินไปได้หลายก้าวเขาเพิ่งจะพบความผิดปกติ ด้วยเหตุนี้จึงได้หันไปถามว่า “เข่อเข่อ แกทำอะไรอะ?”
ฉินเข่อส่งเสียงหา กลับมาได้สติ แล้วกล่าว “เมื่อกี๊รองเท้าหลุด ฉันใส่รองเท้า ใส่รองเท้า”
ฉินเข่อเข่อไม่กล้าเล่าเรื่องที่เจอในอารามเต๋าให้หยางซงฟัง ถ้าหยางซงรู้เข้า ไม่รู้ว่าจะร้อนใจขนาดไหน
เมื่อมาถึงด้านหลังของหยางซง ฉินเข่อนึกถึงคำถามที่ตัวเองเมื่อกี๊แล้วถาม “อ้อ พี่ชาย พี่มาหาฉันที่มหาลัยมีธุระอะไรเหรอ?” หยางซงทำได้เพียงอดทนแล้วพูดคำพูดเมื่อกี๊อีกครั้ง
——
ตลอดการเดินทาง เปลี่ยนรถหลายคัน และแล้วฟางเหยียนดูถึงดินแดนตะวันตก นี่เป็นสถานที่ที่มากมายด้วยชาติพันธุ์ หาบเร่ขายเนื้อแกะ ขาแกะ เนื้อวัว สเต๊กวัว เนื้อวัวเสียบไม้ มีขนมนานาชนิดเต็มเกลื่อนถนนไปหมด
เทียนขุยขาดการติดต่อ ฟางเหยียนจะไม่มาตามหาก็ไม่ได้ สามวันเข้าไปแล้ว เทียนขุยขาดการต่อต่อไปสามวันแล้ว ต้องเกิดเรื่องแล้วแน่นอน การเดินทางมาดินแดนตะวันตกเที่ยวนี้ เขาไม่มาไม่ได้ เจ็ดเทียนของสำนักเจ็ดพิฆาตมีความสัมพันธ์เหมือนพี่น้องกับเขา แม้ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา แต่ทุกคนต่างผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน แล้วเขาจะไม่มาตามหาเทียนขุยได้อย่างไรกัน
ก่อนหน้าที่เทียนขุยจะมาดินแดนตะวันตก เขาพูดไว้ว่าจะมาล้างแค้นคนของตระกูลหยาง สถานที่แรกที่ฟางเหยียนนึกถึงก็คือตระกูลหยาง
แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เขาต้องหาที่กินข้าวก่อน นี่ เพิ่งจะหาสถานที่ที่กินข้าวได้
หลังจากที่สั่งอาหารไปบางส่วน เขาจึงได้นั่งกินข้าว ความจริงฟางเหยียนไม่ชอบไปไหนแล้วมีคนติดตาม มีแค่เขาคนเดียวแบบนี้ก็ดีอยู่ เขาชอบความรู้สึกที่ไม่ถูกคนรบกวนแบบนี้มาก
ไม่ได้บอกว่าฟางเหยียนมีโลกส่วนตัวสูง เขาเป็นคนนิสัยแบบนี้ ไม่ชอบให้ใครมารบกวน ชอบทำเรื่องที่ตัวเองชอบเท่านั้น!ฟังเสียงปืนเสียงระเบิดจนเป็นนิจ ฟังเสียงคร่ำครวญของความเจ็บปวดถึงทรวงอกจนชิน กว่าจะสงบได้ ให้เขาพักผ่อนจิตใจบ้าง
ฟางเหยียนอยากทำเรื่องที่ตัวเองชอบมา เช่นอยู่กับเย่ชิงหยู่คนเดียวเท่านั้น
อีกตัวอย่าง หาที่ๆไม่มีคน แล้วใช้ชีวิตแบบลู่หงปอ
ถึงแม้จะอายุแค่ยี่สิบกว่าปี แต่จิตใจของเขาได้ไปถึงคนที่อายุมากกว่าร้อยปีไปแล้ว ผ่านอุปสรรคต่างๆนานา ผ่านกระสุนระเบิดมา แล้วเขาจะไม่มีแม้กระทั่งความคิดแบบนี้ได้อย่างไรกัน
ในตอนที่เขากำลังทานข้าวอยู่นั้น โต๊ะข้างๆกำลังพูดคุยกัน “เฮ้อ ได้ยินมาบ้างมั้ย?อีกสองวันข้างหน้าเป็นวันเกิดหกสิบแปดปีของหยางกง!ได้ยินมาว่าหยางกงจะจัดงานใหญ่ ถึงตอนนั้นลูกชายทั้งเจ็ดของเขาจะมาด้วย”
“ฉันว่านะ ตระกูลหยางนี่เจ๋งจริงๆ ลูกชายเจ็ดคน นึกไม่ถึงว่าจะโดดเด่นทุกคน มีสามคนเป็นทหาร ประเด็นคือทุกคนไม่ได้บ้าอำนาจแบบลูกชายของตระกูลโจวด้วยนะ การอบรมสั่งสอนแบบนี้หาไม่ได้ในดินแดนตะวันตกของเรานะ”
“ก็ใช่นะสิ ไม่ใช่ว่าแกไม่รู้อารมณ์ของหยางกง เขาเป็นคนจิตใจดีที่ขึ้นชื่อ เกลียดที่สุดคือเรื่องอยุติธรรม แกได้ยินเรื่องการบรรเทาสาธารณภัยเมื่อปีที่แล้วมั้ย แค่หยางกงคนเดียวบริจาคไปยี่สิบล้านเลยนะ สิ่งสำคัญที่สุดคือลูกชายของเขาทุกคนใช้นามตัวเองบริจาคไปห้าล้าน พื้นที่ทุรกันดารของดินแดนตะวันตกของเรามีเยอะ หยางกงสร้างถนน สร้างโรงเรียนให้กับสถานที่เหล่านั้น มีอันไหนบ้างที่ไม่ลงแรงกับมือ หวังว่าดินแดนตะวันตกของเราจะมีคนใจบุญแบบนี้หลายคนจริงๆ ถ้าทุกคนสามารถได้รับการปลูกฝังจากหยางกงได้ ก็จะเป็นเรื่องดีเลยทีเดียวล่ะ โลกนี้ก็จะอบอุ่นขึ้นสุดๆ”
“ใช่ คนแก่ดีๆแบบนี้หวังว่าเขาจะมีอายุยืน!แบบนี้ ถือว่าเป็นการสร้างความสุขให้กับดินแดนตะวันตกของเรา แล้วยังยังมีเรื่องในปีนั้น เนื่องจากธรณีพิบัติภัยทำให้ประชาชนไม่ได้รับการจัดการที่เหมาะสม ก็เป็นหยางกงทั้งนั้นที่สร้างบ้านให้กับประชาชน ให้ประชาชนพักอาศัย ไม่ต้องกังวลเรื่องที่อยู่ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกิน เขาทำเพื่อประเทศชาติเพื่อประชาชนจริงๆ!”