จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 522 มีสาวน้อยคนหนึ่งอยู่ด้านนอก
“ฮะฮะฮะ!” คนแก่ที่มีหลานอยู่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดคนนั้นหัวเราะขึ้นมา ชี้ไปที่ฟางเหยียนพลางว่า “คนหนุ่มแบบนี้มีไม่มากแล้ว โกหกหน้าตายไม่แดงเลยสักนิด โดนเชิญไปเป็นศาสตราจารย์ แถมยังปฏิเสธอีก น่าสนใจริงๆ! น่าสนใจมาก!”
ความคิดของพวกเขาเหมือนกับทุกคน สำหรับคนหนุ่มสาวแบบนี้แล้ว การเป็นศาสตราจารย์ เรียกได้ว่าเป็นจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว อย่างอื่นไว้ก่อน อายุแค่นี้กลับมาถึงตำแหน่งที่คนมากมายพยายามมาทั้งชีวิตก็ยังไม่ได้ เรียกได้ว่าได้ทั้งชื่อเสียงและผลประโยชน์ ศาสตราจารย์ สำหรับคนมากมายแล้ว มีความหมายเยอะมากเยอะมาก! นี่ไม่เพียงเป็นการสะสมของวุฒิการศึกษา ยิ่งเป็นปัญหาความสำเร็จทั้งชีวิตของคนคนหนึ่งเลยทีเดียว
พอเห็นสีหน้าเหยียดหยามของทุกคน สีหน้าฟางเหยียนจู่ๆขรึมลงไป เขาถามพวกคนแก่ที่ทำหน้าดูถูกเหยียดหยามเขา “ทำไม? คุณคิดว่าผมโกหกหรอ?”
“หึๆ!”คนแก่คนนั้นส่ายหัวบอกว่า “มันก็ไม่ใช่หรอก เพียงแต่รู้สึกว่าเธอไม่คู่ควรกับหลานสาวของหยางกง ถึงจะเป็นหลานสาว แต่ก็โตมาในตระกูลหยางตั้งแต่เด็ก คุณหนูฉินน่ะคุ้นเคยรักใครกับหยางกงมากกว่าลูกสาวตัวเองซะอีก ลูกสาวของหยางกงจะหาใครที่ไหนไม่รู้มาอยู่ร่วมด้วยตลอดชีวิตได้ยังไง? อย่างน้อยต้องฐานะตระกูลเท่าเทียมกันสิใช่ไหม?! ในเมื่อเธอปฏิเสธเป็นศาสตราจารย์แล้ว ก็แปลว่า เธอไม่ใช่ศาสตราจารย์เลย และในเมื่อไม่ใช่ก็ไม่คู่ควรกับคุณหนูฉินไง
ฐานะตระกูลเท่าเทียมกัน!ไม่คู่ควร! ก็จริง ด้วยอำนาจการเงินของตระกูลหยางซึ่งเป็นตระกูลใหญ่อันดับสองของดินแดนตะวันตก ยังไม่คู่ควรพอจะประจบฟางเหยียน
คนแก่คนแรกที่พูดนั่นทำธุรกิจอัญมณีก็บอกว่า “ใช่ ฉินเข่อ หลานสาวของหยางกง ใครไม่รู้ว่าเขาเป็นลูกสาวของน้องสาวหยางกง โตมาในตระกูลหยางตั้งแต่เด็ก เป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลหยางมานานแล้ว แก้วตาดวงใจจะคบกับคนไม่มีอะไรเลยได้ยังไง กัน นี่ลบหลู่หยางซงหรือไง?”
ไม่มีอะไรเลย นี่เป็นการลบหลู่คนอย่างหนึ่งแล้ว! ถึงพวกเขาจะไม่ได้ด่าว่าหรือทำร้ายคนคนหนึ่งจริงๆ แต่คำพูดที่ออกมากลับช่วงชิงศักดิ์ศรีของคนคนหนึ่งไป ทำให้เขาค่อยๆตายไปช้าๆ!
ฆ่าคนโดยไร้รูปร่าง ไม่ได้ใช้อาวุธลับฆ่าคน ก็คือใช้คำพูดโจมตีคน!
“ฟางเหยียน!” ฉินเข่อยกมือขึ้นจับแขนฟางเหยียน พยายามปลอบว่า “คุณอย่าโกรธ! อย่าโกรธเด็ดขาดนะ”
ฉินเข่อจับแขนฟางเหยียนแน่น เธอกลัวฟางเหยียนโกรธจริงๆ ถ้าเขาขาดการควบคุม คนพวกนี้ต้องตายแน่! เธอไม่ใช่ไม่เคยเห็นฟางเหยียนฆ่าคน เดี๋ยวถ้าเขาบ้าเลือดขึ้นมา จะฆ่าคนจริงๆ รับรองมีคนตายแน่
ฟางเหยียนไม่มีทางโกรธเพราะเรื่องพวกนี้แน่ เขาเคยชินกับการที่คนจะพูดถึงเขาแบบนี้นานแล้ว ถ้าคนคนหนึ่งจะแคร์ว่าคนอื่นจะพูดถึงตัวเขาว่ายังไง มองตัวเขายังไง นั่นก็แค่คนธรรมดา
เขาเป็นใคร เขาคือฟางเหยียน จะไปคิดแบบเดียวกับคนพวกนั้นได้ยังไงกัน!
ในตอนที่เขากำลังคิดอย่างนั้น คนแก่ที่มีหลานเรียนอยู่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดลุกขึ้นพูดว่า “หยางกง วันนี้ผมขอทำการสู่ขอกับคุณเลยละกัน! หลานชายผมยังไงก็จบมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด รู้จักกับคุณหนูฉินด้วย ถ้าไงคุณตกลงใจ ยกคุณหนูฉินให้กับเสี่ยวเหิงของเรา พวกเราก็ดองกัน เป็นยังไง?”
ระหว่างพูด ก็ประสานมือคำนับอย่างจริงจัง
คนอื่นก็พยักพเยิดพูดตาม “ใช่ไง หยางซง พวกเราเป็นเพื่อนกันมานานแล้ว เสี่ยวเหิงเป็นคนมีความคิดก้าวหน้า เรียกได้ว่าพวกเราเห็นมาแต่เด็กจนโต ถ้าเขาคบกับฉินเข่อจริงๆ เรียกได้ว่ากิ่งทองใบหยกจริงๆนะ!”
“ใช่ หยางกง อาศัยงานวันเกิดวันนี้ของคุณ ยอมรับข้อเสนอของท่านหวง แบบนี้ก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก คู่กับเสี่ยวเหิงเรียกได้ว่ากิ่งทองใบหยก เสี่ยวเหิงหน้าตาหล่อเหลา ฉินเข่อเองก็สวย เหมาะสมกันดี”
“ใช่ใช่ ถ้าคุณหนูฉินคู่กับพ่อหนุ่มคนนี้ ก็ดูจะเหมือนกิ่งทองใบตำแยไปหน่อยนะ!”
ที่จริงทุกคนพยายามจะเหยียดฟางเหยียนกันทั้งนั้น คิดยั่วยุให้ฟางเหยียนโกรธจนไปจากตระกูลหยาง
เพราะท่าทางเย่อหยิ่ง ดูไม่แยแสอะไรเลยของเขาทำให้ทุกคนไม่พอใจมาก และเพราะพวกเขาไม่ชอบ ถึงพยายามจะขับไล่ไป
ไม่รอพวกเขาพูดต่อ ฉินเข่อลุกขึ้นพูดเองว่า “ผู้อาวุโสทุกท่าน ฉันคิดว่าทุกคนทำแบบนี้ไม่เหมาะสม! แฟนฉันไมได้ทำอะไรพวกคุณ ทำไมพวกคุณต้องพูดจาดูถูกเขาด้วยล่ะ? สำหรับพวกคุณแล้ว วุฒิการศึกษากับเงินคือทุกอย่างหรอคะ? ที่จริงแล้วคนจะดีไม่เกี่ยวอะไรกับวุฒิการศึกษาเลยด้วยซ้ำ แฟนฉันเรียนจบแค่ม.ปลายแล้วยังไง เขาสามารถเป็นแบบอย่างการศึกษาได้ ทุกคนล่ะคะ? ทุกคนทำได้ไหม? คุณลุงหวง หวงเหิงของบ้านคุณฉันรู้จัก ตอนเรียนม.ปลาย เขาเรียนข้างห้องฉัน ฉันพูดถึงเขาแบบนี้ หวังว่าคุณลุงจะไม่ถือสา เขาเป็นคนที่ไม่ตั้งใจเรียนเลย ถ้าไม่ใช่เพราะที่บ้านมีเงิน คุณคิดว่าด้วยความสามารถเขาจะเข้ามหาลัยได้หรือคะ? พวกคุณอายุมากกันแล้ว ไม่ควรเคารพคนหนุ่มสาวหรือไงกัน?”
“เข่อเข่อ พวกเราหวังดีกับหนูนะ ต่อไปหนูจะรู้ว่าทำไมพวกเราถึงเตือนหนู อายุแบบพวกหนูน่ะมักจะตาบอดเห็นผิดเป็นชอบ เลยต้องการการชี้นำ หนูอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้จนชินแล้ว ต่อไปถ้าเกิดต้องเร่ร่อนไปทั่วกับคนแบบนั้น หนูคงไปใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ได้หรอก”
หลายคนยังคงพูดจาถากถางฟางเหยียนอยู่ แต่ฟางเหยียนกลับไม่แยแสเลยสักนิด แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงบนสีหน้านั่นเลย เขาทำให้คนอื่นรู้สึกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา!
ฉินเข่อแค่นเสียงหึพลางว่า “ขอโทษนะคะ ฉันชอบใครมันเป็นสิทธิ์ของฉัน หวงเหิงไม่คู่ควรกับฉัน”
คำพูดนี้ออกไป ทำให้ใบหน้าคนแก่หลายคนแดงก่ำขึ้นมา ดูอับอายไม่น้อยเลย
หยางจิ่งเซียนยกมือขึ้นพลางว่า “เข่อเข่อ เอาล่ะ! พวกคุณลุงของหนูแค่หวังดีกับหนู ถ้าทุกคนไม่เป็นห่วงหนู จะตักเตือนหนูแบบนี้ได้ไง! เอาล่ะ เอาล่ะ ทุกคนอย่างโกรธเลยนะ เข่อเข่อยังเด็กอยู่ ต้องให้ทุกคนดูแลอีก พวกเราไปดื่มกันต่อนะ ดื่มๆ”
ฉินเข่อแค่นเสียงหึ นั่งลงอย่างไม่พอใจ
เธอพูดกับฟางเหยียนอย่างรู้สึกผิดว่า “ขอโทษนะ ฟางเหยียน ฉัน…”
“ไม่เป็นไร!” ฟางเหยียนตอบกลับอย่างแผ่วเบาอารมณ์ดี จากนั้นยิ้มบางให้
ที่จริงหยางจิ่งเซียนไม่ได้คัดค้านคำพูดของเพื่อนๆตน ตรงกันข้าม คำพูดนี้ยังแสดงการเห็นด้วย มันเพียงพอให้เห็นว่า เขารู้สึกกับฟางเหยียนไม่ดีนัก
ในตอนที่ทุกคนกำลังดีใจสนุกสนานกันอยู่ ด้านนอกมีคนท่าทางเหมือนพ่อบ้านเดินเข้ามาพูดว่า “คุณท่านครับ ด้านนอกมีหญิงสาวคนหนึ่งบอกว่ามาอวยพรวันเกิดให้คุณท่านครับ!”
ท่านหยางได้ยินคำนี้ มองสบตากับลูกชายหลายคนของตน จากนั้นเขาพูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “คนที่ผมเชิญมาครบแล้วนี่ หญิงสาวคนนี้คือใครล่ะ? คนที่ไหนกัน? หน้าตายังไง?”