จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 573 เย่ชิงหยู่ที่จิตใจวุ่นวาย
“เหอะๆ!” ชายรูปงามดูแคลนออกมา ย้อนถามว่า “แกเข้าใจว่าไงล่ะ?ถ้าไม่มีแผนการใหญ่ที่การณ์ไกล ฉันจะอยู่ด้านในได้อย่างไรกัน ไง?ยากที่จะเชื่อได้ล่ะสิ?บอกแกตรงๆ เพลิงเสวนต่างหากที่เป็นหัวกะทิประเทศหวาที่แท้จริง ความจริงประเทศหวาเป็นพวกเขาที่ปกป้องอยู่ตลอด”
“ผู้นำคนก่อนทำอะไรก็ลังเล มักจะช่วยประเทศอย่าลับๆ ช่วยประเทศมาสองพันกว่าปี กลับไม่มีใครจดจำความดีของพวกเขา ผู้นำหนุ่มครั้งนี้ และแล้วก็ตัดสินใจทำการใหญ่ อีกสามเดือนให้หลังผู้นำหนุ่มจะรับตำแหน่งต่อ ถึงตอนนั้น ถึงตอนนั้น ผู้นำหนุ่มจะต้องทำการใหญ่ที่สะเทือนฟ้าดินแน่นอน”
เย่เฟยดูแคลนเหอะๆ แล้วกล่าว “ฉันไม่สนว่าเป้าหมายของพวกแกคืออะไร ตอนนี้แกก็ไม่ต้องมาวาดฝันให้ฉัน ฉันแค่อยากฆ่าไอ้นั่น” พูดจบ แววตาของเย่เฟยกลายเป็นดุร้ายขึ้นมา เขาเกลียดฟางเหยียน เกลียดเข้ากระดูก ฟางเหยียนพรากผู้หญิงของเขาไป แล้วยังพรากพี่น้องทั้งหมดของทหารรับจ้างแห่งเอเชียอีก ถือว่าทำลายเขาโดยไม่ทันตั้งตัว
ดังนั้นเขาจำเป็นต้องฆ่าฟางเหยียน ต้องฆ่า!
“ดี!เพียงแค่แกยอมเข้าร่วมกับพวกเรา ให้แกฆ่ามันด้วยน้ำมือของตัวเอง” ชายรูปงามพูดกับเย่เฟย
“จำคำพูดของแกไว้!”
เย่เฟยยกมือขึ้นชี้ชายรูปงาม ชายรูปงามกำหมัดไปยังนิ้วของเขา แล้วกล่าว “คำไหนคำนั้น!”
ทำกิริยานี้เสร็จ ชายรูปงามกล่าว “ไปเถอะ เรายังต้องรีบ ออกไปจากเขตแดน ไม่งั้นเดี๋ยวไอ้นั่นหาพวกเราเจอ ล่ะจะยุ่ง เราอย่ายังไม่ได้ฆ่าเขา แล้วกลายเป็นเนื้อบนเขียงในมือของมันล่ะ ด้านหน้าคือชายแดนอวิ๋นกุ้ย ไม่นานพวกเราจะสามารถออกไปได้แล้ว”
พูดพลาง ทั้งสองเดินฝ่าป่ากันต่อ
——
ฟางเหยียนได้จากไปช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ครึ่งเดือนแล้ว ไร้ซึ่งข่าวคราวใดๆ
เย่ชิงหยู่ไม่รู้ว่าทำไมฟางเหยียนเป็นแบบนี้ มักจะจากไปอย่างไร้เหตุผล สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเธอโทรหาฟางเหยียน เขาก็ไม่รับสาย
ช่วงเวลานี้ ฉินห้าวผู้จัดการใหญ่ของหยุนเฉิงหงเหอกรุ๊ปติดต่อเธอมาไม่น้อย เขาไม่เพียงโทรหาตนเท่านั้น ถึงขั้นมาถึงจินโจวสองสามครั้ง ทุกครั้งที่เจอเย่ชิงหยู่ เขาล้วนจะเลี้ยงข้าวเย่ชิงหยู่ด้วยตัวเอง เดิมทีเย่ชิงหยู่อยากปฏิเสธมาก แต่ในธุรกิจ การทานข้าวกับลูกค้าเป็นสิ่งที่จำเป็น
นี่ เพื่อฉินห้าวสามารถนัดเย่ชิงหยู่ได้ ยังจงใจจัดกรุ๊ปทัวร์ มาเขตแดนหยุนกุ้ยอันไกลโพ้น
ที่นี่คือหุบเขาใหญ่ ที่นี่สามารถตั้งแคมป์ได้ มีภูเขามีลำธาร เย็นสบายมาก แล้วยังสามารถตกปลา บาบีคิวได้อีกด้วย
ว่ากันว่าที่นี่คือชายแดนของประเทศหวา สถานที่แห่งนี้ก็เป็นหุบเขาธรรมชาติที่เปิดให้คนมากมายมาท่องเที่ยว มีน้ำตกไหลลงมาจากด้านบน ด้านล่างมีทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ สวยงามมาก สำหรับผู้คนที่คุ้นเคยกับชีวิตในเมือง ล้วนอยากมาเที่ยวที่นี่อย่างหาที่เปรียบมิได้ ทุกคนมาถึงที่นี่ล้วนตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ถึงแม้คนที่มาด้วยไม่ได้มีเพียงแค่เย่ชิงหยู่ ยังมีหุ้นส่วนทั้งหมดของเขา ให้ทุกคนได้มีโอกาสทำความรู้จักกัน เพื่อกระตุ้นการร่วมมือกันทางธุรกิจในอนาคต แต่เย่ชิงหยู่รู้ดีมาก ว่าฉินห้าวอยากจีบตน
ฉินห้าวหล่อเหลามากจริงๆ หล่อกว่าฟางเหยียนอยู่บ้าง แต่ในตัวของเขาขาดแคลนความองอาจที่ในตัวฟางเหยียนมีทั้งหมดเยอะมาก เมื่อเจอผู้ชายอย่างฟางเหยียนแล้ว เธอจะชอบคนอื่นได้อย่างไรกัน
มีประโยคหนึ่งในอดีตพูดไว้ว่าแบบนี้ ผู้หญิงที่เคยรักอินทรีย์ จะไปชอบนกยูงที่สวยงามได้อย่างไรกัน
เธอถึงขั้นไม่สังเกตฉินห้าวเลยแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่มองเขาว่าเป็นคู่ค้าทางธุรกิจเท่านั้น
ขณะนี้ เย่ชิงหยู่กำลังนั่งพักอยู่อีกฝั่ง เธอสวมใส่ชุดกีฬาสีฟ้าคราม ดูๆแล้วสวยงามและอ่อนเยาว์ ทีมผู้บริหารบริษัทเหล่านั้นล้วนกำลังพูดคุยกันอย่างกลุ่มคนเล็กๆกระจุกตัวกัน พูดถึงจุดเด่นแต่ล่ะอย่างของบริษัทตัวเอง อีกทั้งต่างๆนานา
เธอกำลังนั่งเบื่อๆ จึงได้โทรหาฟางเหยียนอีกครั้ง ปลายเสียงปิดเครื่องไปโดยตรง ฟางเหยียนปิดเครื่องแล้ว เธอไม่รู้ว่าฟางเหยียนกำลังทำอะไร แต่เธอหวังเป็นอย่างยิ่งจริงๆว่าให้ฟางเหยียนปรากฏตัวมาอธิบายกับเธอ
ว่าเขาแต่งงานกับตงฟางหยุนเอ๋อร์แล้วยัง?ทำไมเขาแต่งงานแล้วยังต้องมาที่จินโจว แล้วยังผิดใจกับแก๊งซินหงเพื่อตนอีก
“เฮ้อ!” หย่ชิงหยู่จนปัญญามาก ถอนหายใจยาวๆอย่างโศกเศร้า
ขณะนี้ ฉินห้าวเดินมาทางเธอ ในมือยังถือน้ำมะนาวแก้วหนึ่งยื่นให้เย่ชิงหยู่ เย่ชิงหยู่รับน้ำมะนาวจากในมือฉินห้าวมา ยิ้มให้ แล้วกล่าวอย่างเกรงใจมากว่า “ขอบคุณค่ะ!”
ฉินห้าวฉวยจังหวะนั่งลงข้างๆเย่ชิงหยู่ แล้วถาม “เป็นอะไรเหรอ?มีเรื่องไม่สบายใจมั้ย?”
เย่ชิงหยู่ส่ายหน้าเบาๆ ยิ้มอย่างขมขื่น แล้วกล่าวว่า “ไม่มีอะไรค่ะ!”
“คุณปิดบังผิดไม่ได้หรอกนะ เมื่อก่อนแม่ของผมก็เป็นแบบนี้ พอมีเรื่องไม่สบายใจก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแบบนี้ แต่ยิ่งเป็นแบบนี้ ผมก็ยิ่งดูออกว่าเธอมีเรื่องไม่สบายใจ ดังนั้นเมื่อตอนที่ผมเพิ่งเจอคุณ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเข้าใจคุณมาก” นี่เป็นวิธีหนึ่งของฉินห้าว มักจะใช้การที่เย่ชิงหยู่เหมือนแม่ของตัวเองมาพูด
เย่ชิงหยู่เพียงยิ้มอย่างเจ็บปวดและจนปัญญา แล้วกล่าว “ความจริงก็ไม่มีอะไร!”
“ถ้าไม่มีอะไรทำไมคุณมานั่งคนเดียวตรงนี้ ไม่ไปพูดคุยกับผู้คนล่ะ” ฉินห้าวยิ้มเบาๆพลางถาม
เย่ชิงหยู่พยักหน้าอืมแล้วกล่าว “ฉันไม่เป็นไรค่ะ เจ็บขานิดหน่อย นั่งพักสักแป๊บก็หายค่ะ”
“อ๋อ?เจ็บตรงไหนครับ?” ฉินห้าววางน้ำมะนาวที่อยู่ในมือลง ยื่นมือไปวางบนขาอ่อนของเย่ชิงหยู่ด้วยตัวเอง
เย่ชิงหยู่ตกใจกับการกระทำนี้ของฉินห้าว จึงรีบหุบขาอ่อนไป สีหน้าเธออับอาย จากนั้นก็พูดกับฉินห้าวว่า “ประธานฉินคะ กรุณาให้เกียรติกันด้วยนะคะ”
ฉินห้าวอับอายจนหุบมือไป แล้วกล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกเสียใจ “ขอโทษครับ ชิงหยู่ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมก็แค่อยากนวดให้คุณ เมื่อก่อนผมเคยเรียนนวดมา สามารถเปิดการไหลเวียนของโลหิตได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณนะคะ!” เย่ชิงหยู่ลุกขึ้นจากพื้น แล้วเดินตามทางน้ำไป
เห็นเย่ชิงหยู่ไม่ตามน้ำ ดูท่าแล้วต้องเหนื่อยหน่อยแล้วล่ะ
แต่ฉินห้าวไม่ได้เป็นคนที่ยอมแพ้ง่ายแบบนั้น เขามีวิธีเอาชนะเย่ชิงหยู่ได้แน่นอน ได้แน่ๆ!
เย่ชิงหยู่ยืนอยู่ข้างๆทางน้ำ ล้างเท้า แล้วก็ล้างหน้าด้วยเลย น้ำนี้ใสสะอาด เป็นประเภทใสจนเห็นพื้น ดังนั้นเย่ชิงหยู่จึงสามารถเห็นลักษณะของตัวเองได้อย่างชัดเจนในน้ำ
ในตอนที่เธอกำลังดูใบหน้าตัวเองในน้ำอย่างมีสมาธิอยู่นั้น จู่ๆ อะไรบางอย่างผ่านตัวของเธอไป เหมือนกับจู่ๆใบหน้าหนึ่งก็ปรากฏข้างกายของเธอ
“อ้า!” ฉากนี้ทำให้เย่ชิงหยู่ตกใจ เธอลงไปนั่งบนพื้นโดยตรง
“ทำไมเหรอ?” ฉินห้าวเห็นพฤติกรรมนี้ของเย่ชิงหยู่เข้า เขาจึงรีบวิ่งไปทางเย่ชิงหยู่ พยุงเธอขึ้นจากพื้น เย่ชิงหยู่เปลี่ยนเป็นระมัดระวังตัวขึ้น เธอเงยหน้ามองไปรอบๆ หลังจากครุ่นคิดไปได้สักพัก เธอกล่าวว่า “เมื่อกี๊เหมือนฉันจะเห็นคนๆหนึ่งบินผ่านบนหัวของฉันไป!”
“อะไรนะ?” ฉินห้าวงงงวยขึ้นมาเล็กน้อย มีคนลอยผ่านหัวเธอไป
ถ้าคนนี้ไม่พึ่งบอลลูน ไม่พึ่งเครื่องบิน ไม่พึ่งเครื่องร่อนอะไรนั่น แล้วยังบินได้?
“เหอะๆ คุณเย่ครับตอนกลางคืนพักผ่อนไม่เพียงพอหรือเปล่าครับ!ถ้าเหนื่อยล่ะก็ พักผ่อนก่อนก็ได้นะครับ!” ขณะนี้ ผู้เฒ่าที่สูงอายุคนหนึ่งเดินมาทางเย่ชิงหยู่ แล้วกล่าว