จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 580 ชีวิตที่เรียบง่าย
ฟางเหยียนส่งเสียงหืมอย่างสงสัยไม่เข้าใจ จากนั้นขมวดคิ้วขึ้นมา เขาไม่เข้าใจความหมายแฝงอยู่ของคำถามนี้อยู่แล้ว ทำได้เพียงครุ่นคิดสักพัก แล้วกล่าว “คุณพูดไปไหนแล้วเนี่ย อะไรคือตอนนี้ผมมีภรรยากี่คน?”
เย่ชิงหยู่สะอึกไป แล้วกล่าว “คุณพูดตามความจริงก็พอแล้ว หรือว่ามากเกินไปแล้ว?”
ฟางเหยียนกล่าวอย่างค่อนข้างหมดคำพูดว่า “มีแค่คุณคนเดียว”
เห็นได้ชัดว่าเย่ชิงหยู่ไม่เชื่อ แต่เธอไม่ได้ถามต่อ อีกเดี๋ยวเธอจะถาม ได้ถามต่อว่า “งั้นคุณมีภรรยาได้กี่คนเหรอ?”
“ตามกฎแล้ว ไม่มีใครยุ่งเรื่องที่ผมจะมีภรรยา ผมอยากมีกี่คนก็ได้!ยังไงใครก็ห้ามผมไม่ได้”
เย่ชิงหยู่ได้ยินคำพูดนี้ ใจเต้นตึกๆ อย่างที่คาดไว้ เขาไม่ใช่คนธรรมดา
ถึงแม้การที่ได้เป็นภรรยาคนหนึ่งของฟางเหยียนถือว่าสุดยอดแล้ว เพราะเป็นภรรยาของจอมพลประเทศหวา แต่เย่ชิงหยู่กลับหวังให้ฟางเหยียนมีเธอเป็นภรรยาเพียงคนเดียว ความคิดแบบนี้ บางทีถ้าเป็นผู้หญิงก็จะคิดแบบนี้แหละ โดยเฉพาะอย่างเย่ชิงหยู่ เติบโตมากับฟางเหยียน เธอหวังเป็นอย่างที่สุดก็คือครอบครองฟางเหยียนเพียงคนเดียว
เห็นแววตาที่เป็นทุกข์ของเย่ชิงหยู่ ถึงขั้นอยากร้องออกมา ฟางเหยียนจับมือของเธอแล้วกล่าว “แต่ ผมมีคุณก็เพียงพอแล้ว!ผมมีใจแค่ดวงเดียว ไม่พอที่จะไปรักคนอื่นนะ ทำไมคุณถึงถามแบบนั้น?”
นี่ถือเป็นคำพูดที่ซาบซึ้งที่สุดที่ฟางเหยียนเคยพูดมา!
เย่ชิงหยู่ชะงักไป เงยหน้าขึ้นมามองดวงตาของฟางเหยียน คิดในใจคุณยังเสแสร้งอยู่อีกเหรอ?ฉันรู้ว่าคุณแต่งงานกับคุณหนูของตระกูลตงฟางแล้ว ในเมื่อคุณเสแสร้ง งั้นฉันก็ไม่ต้องคิดอะไรมากขนาดนั้นแล้ว เมื่อนึกถึงจุดนี้ เธอก็กล่าวอย่างเปิดอกว่า “ความจริงฉันรู้แล้ว ฉันรู้ว่าคุณอยู่กับคุณหนูตงฟางของตระกูลตงฟางแล้ว เรื่องนี้คุณไม่จำเป็นต้องปิดบังฉัน ไม่ใช่แค่ฉันที่รู้นะ บางทีคนมากมายก็รู้แล้ว เพราะตอนนั้นเรื่องนี้ขึ้นท็อปชาร์ตนะ!”
“อะไรนะ?” เมื่อฟางเหยียนได้ยินคำพูดนี้ สงสัยว่าตัวเองได้ยินผิดมั้ย
เย่ชิงหยู่ก็ชัดเจน รีบกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้พ่อบ้านของตระกูลฟางของพวกคุณบอกกับฉันว่าคุณแต่งงานกับคุณหนูของตระกูลตงฟาง ให้ฉันห่างจากคุณ” เสียงที่เย่ชิงหยู่พูดยิ่งอยู่ยิ่งเล็ก เล็กจนหลังๆไม่ได้ยินเสียง
สายตาของฟางเหยียนเปลี่ยนไป จ้องเย่ชิงหยู่ด้วยนัยน์ตาแหลมคมแล้วถาม “คุณหมายความว่า ฟางจินหยวนให้คนมาหาคุณ?แล้วยังพูดว่าผมจะแต่งงานกับตงฟางหยุนเอ๋อร์?”
เย่ชิงหยู่สะอึกไป ไม่ได้ตอบคำถามนี้ แล้วเริ่มหลบสายตาอันแหลมคมของฟางเหยียน
ฟางเหยียนรู้แล้ว รู้แล้วว่าทำไมครั้งที่แล้วเย่ชิงหยู่ถึงได้โมโหขนาดนั้น ที่แท้ก็เพราะฟางจินหยวนส่งคนมาหาเธอ ส่งข่าวที่ผิดพลาดนี้กับเธอ
เขากัดฟัน พยักหน้ารัวๆแล้วกล่าว “ได้ ฟางจินหยวน”
“ฟางหยาย!” เย่ชิงหยู่มองท่าทางเคียดแค้นของฟางเหยียน จึงรีบจับมือของเขาไว้ ลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วย แล้วส่ายหน้าใส่ฟางเหยียนกล่าว “ไม่นะ”
ฟางเหยียนฮึมออกมา แล้วกล่าว “ผมเคยบอกเขาไว้ ว่าอย่ามายุ่งเรื่องของผม!”
ตอนพูด จู่ๆมุ้งในห้องก็ถูกลมพัด นี่เป็นลมประหลาดที่ผิดปกติ และเป็นลมประหลาดที่เย่ชิงหยู่เคยเห็น ลมแบบนี้เคยเจอขึ้นเมื่อก่อน ปล่อยออกมาจากร่างกายของฟางเหยียน
ตอนที่เขาลงมือจะฆ่าสองคนนั้น ก็ได้เกิดพายุแบบนี้ขึ้น การกระทำแบบนี้หมายถึงเขาอยากฆ่าคน
เย่ชิงหยู่ผวาแล้ว มือทั้งสองกอดแขนของฟางเหยียนไว้ ส่ายหน้าอย่างพยายามสุดๆแล้วกล่าว “ฟางเหยียน ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นคุณปู่ของคุณนะคะ!คุณอย่าวู่วามนะ”
ฟางเหยียนเก็บอาการของกลิ่นอายฆ่าคนนี้ไป แล้วเอามือไปไว้บนใบหน้าของเย่ชิงหยู่ กล่าวอย่างจริงใจว่า “ชิงหยู่ มีหลายเรื่องที่คุณไม่เข้าใจ คุณอย่าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ผมได้บอกพวกเขาไว้แล้ว ว่าอย่ายุ่งเรื่องของผม!พวกเขาคิดว่าตัวเองสามารถยุ่งเรื่องของผมได้อย่างคิดไปเอง มันช่างไร้เดียงสา ช่างน่าขำเสียจริงๆ”
“ฟางเหยียน!” เย่ชิงหยู่ใช้หัวไถร่างกายของเขา ร่างกายได้อยู่ในอ้อมกอดของเย่ชิงอยู่อย่างตัวอ่อนอีกครั้ง แล้วกล่าว “ถ้าอย่างนั้น คุณไม่ได้แต่งงานกับคุณหนูของตระกูลตงฟาง มีฉันเป็นภรรยาแค่คนเดียว ใช่มั้ยคะ?”
“แน่นอน คนที่ตงฟางหยุนเอ๋อร์แต่งงานด้วยไม่ใช่ผม เป็นพี่ชายของผม เขาชื่อฟางเหมี่ยว!ที่ตระกูลฟางทำแบบนั้น ก็คือให้คุณไปจากผม ฟางจินหยวนตาเฒ่าคนนั้น เขาได้บีบจนผมสูญเสียพ่อ แล้วตอนนั้นทำไมยังจะให้คนที่ผมใกล้ชิดที่สุดจากผมไปอีก ริษยาเหรอ?หรืออิจฉา?”
เย่ชิงหยู่รีบปลอบประโลมกล่าว “ยังไงเขาก็เป็นคุณปู่ของคุณ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกคุณ แต่คุณคิดดูนะ ถ้าไม่มีเขา ก็ไม่มีพ่อของคุณ ไม่มีพ่อของคุณ แล้วจะมีคุณได้อย่างไร?”
ในโลกของเย่ชิงหยู่ ครอบครัวจึงจะเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุด!เพราะเธอได้สูญเสียพ่อไปแล้ว ไม่อยากให้ฟางเหยียนต้องสูญเสียญาติคนใดของเขาไปอีก ถ้าฟางเหยียนฆ่าคุณปู่ของตัวเองด้วยน้ำมือของตัวเอง หรือทำลายล้างตระกูลฟาง งั้นต่อไปนี่จะกลายเป็นความเกลียดที่อยู่ในจิตของเขาตลอดไป โดยเฉพาะเพราะตนไปทำลายล้างตระกูลฟาง แบบนี้จะทำให้ในใจของตนยิ่งติดค้างมากขึ้น
ฟางเหยียนสะอึกไป มองเย่ชิงหยู่ที่อ่อนโยนเอาอกเอาใจ อยู่ในอ้อมกอดของตนเหมือนแมวน้อยตัวหนึ่ง เขาถอนหายใจยาวๆ แล้วกล่าว “ก็ได้!เห็นแก่การขอของคุณ ผมจะปล่อยตระกูลฟางไปหนึ่งครั้ง แต่หนี้นี้ผมต้องชำระไม่ช้าก็เร็ว”
“อืม!” เย่ชิงหยู่ลุกขึ้นจากอ้อมกอดของฟางเหยียน พยักหน้ารัวๆให้เขาแล้วกล่าว “อ้อ คุณทำก๋วยเตี๋ยวให้ฉันทานหน่อยได้มั้ยคะ?ฉันอยากทานก๋วยเตี๋ยวที่คุณทำขึ้นมาแล้วค่ะ”
ฟางเหยียนไม่มีทางปฏิเสธคำขอที่ง่ายดายแบบนี้แน่นอน ออกจากประตูไปทำก๋วยเตี๋ยวให้เย่ชิงหยู่ทานในทันทีก๋วยเตี๋ยวที่ฟางเหยียนทำยังคงอร่อยอย่างนั้น หลังจากที่กินก๋วยเตี๋ยวที่ฟางเหยียนทำแล้ว เย่ชิงหยู่ก็ไม่อยากกินอาหารอย่างอื่นแล้ว
หลังจากที่ทั้งสองทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จแล้ว เย่ชิงหยู่รับโทรศัพท์ เฉินหย่าโทรเข้ามา
เฉินหย่าพูดปลายสายว่า “ชิงหยู่ วันนี้หวงเจียวแต่งงาน แกห้ามลืมนะ สองทุ่มถึงงานจำไว้ด้วย”
“หา!” เย่ชิงหยู่ชะงักไป วางตะเกียบในมือลง แล้วกล่าว “เห้ย ถ้าแกไม่พูดฉันลืมแล้วนะ”
เกิดเรื่องที่ใจหายใจคว่ำแบบนั้นเมื่อคืน ถ้าเฉินหย่าไม่พูด เย่ชิงหยู่ลืมเรื่องที่สำคัญอย่างนั้นไปแล้วจริงๆ
เฉินหย่าหัวเราะ “ฉันเตือนแกอยู่นี่ไง อย่าลืมนะ อ้อ เดี๋ยวตอนฉันไปจะพาตำรวจคนนั้นไปด้วย แกอย่าหัวเราะฉันนะ”
“ไม่หัวเราะแน่นอน!” เย่ชิงหยู่ตอบผ่านมือถือไป
หลังจากที่วางสายแล้ว เย่ชิงหยู่มองฟางเหยียนที่กำลังก้มหน้าทานก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้วถาม “อ้อ เดี๋ยวคุณไปเป็นเพื่อนฉันร่วมงานแต่งงานของเพื่อนสมัยเรียนคนหนึ่งได้มั้ยคะ?ถ้าคุณไม่มีเวลา ก็ไม่เป็นไรนะ”
เย่ชิงหยู่เพิ่งจะเผชิญกับเรื่องอกสั่นขวัญหายแบบนั้น ถ้าเขาจากไปแบบนี้ ไม่ได้แน่นอน ถึงแม้ตัวเองยังมีเรื่องมากมายต้องจัดการ เช่นเรื่องหินทิพย์ในมือ หรือก็เรื่องมุกเทพนั่น อีกเรื่องก็เรื่องของเทียนขุย เรื่องของเพลิงเสวน แต่สิ่งเหล่านี้เมื่อเทียบกับเย่ชิงหยู่แล้ว จิ๊บจ๊อยไปเลย เพียงแค่เย่ชิงหยู่มีเรื่อง เรื่องของเย่ชิงหยู่จะเป็นเรื่องสำคัญตลอดไป
ฟางเหยียนไม่มีทางปฏิเสธคำขอใดๆของเย่ชิงหยู่ ด้วยเหตุนี้เองเขาพยักหน้าแล้วกล่าว “ได้แน่นอน!”
“อืม!” เย่ชิงหยู่พยักหน้าอย่างแรง ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มที่มีความสุข