จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 582 ท้าทายเปิดเผย
คนอ้วนหัวเราะอิๆ แล้วกล่าว “ใช่ ผมก็คือหลิ่วจื้อเชา หลานชายของหลิวเหอฉาง!”
นี่ไม่ใช่อ้วนน้อย แต่เป็นอ้วนใหญ่ รูปร่างอ้วน ตอนหัวเราะ เนื้อทั้งสองก้อนใบบนหน้าอัดเข้าด้วยกัน ดูๆแล้วยิ่งอ้วนเข้าไปใหญ่ เมื่อพูดออกไป ทำให้เฉินหย่าตกใจจนต้องป้องปากไว้ เธอตาลุกโตแล้วกล่าว “คุณ คุณคือหลิ่วจื้อเชา?”
หลิ่วจื้อเชากล่าว “ผมเอง ทำไมครับ? คาดคิดไม่ถึงมากเหรอ?”
เฉินหย่าอดไม่ได้ที่จะป้องปากหัวเราะ แล้วกล่าว “เมื่อก่อนฉันจำได้ว่าคุณเป็นแบบนี้ ทำไมตอนนี้กลายเป็นใหญ่ขนาดนั้นแล้วล่ะ”
เฉินหย่าพลางพูด พลางแสดงท่าทาง! กิริยาที่แสดงออกมาเว่อร์วังมาก
เมื่อหลิ่วจื้อเชาเห็นกิริยานี้ ก็เริ่มไม่พอใจ เฉินหย่ารีบพูดว่า “ขอโทษนะ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เพียงแค่ไม่คิดว่าตอนนี้คุณจะอ้วนขนาดนั้นแล้ว! เมื่อก่อนคุณผอมมากไม่ใช่เหรอ?”
หลิ่วจื้อเชาอดทนเพราะตรงหน้าคือสาวสวยจึงไม่โมโห ถ้าเปลี่ยนไปเป็นหญิงสาวที่ขี้เหร่ เขาโมโหไปนานแล้ว
ด้วยเหตุนี้เองเขาถอนหายใจอย่างเซ็ง แล้วกล่าว “นี่ก็ต้องโทษชีวิตเมืองนอกดีเกินไป แม่ง ที่ต่างประเทศเพียงแค่กินของไม่ออกกำลังกาย ก็จะยิ่งอยู่ยิ่งอ้วน ว่ายังไงดีล่ะ? คุณค่าสารอาหารที่เมืองนอกสูงเกินไป ปกติผมออกกำลังกายน้อย ดังนั้นจึงอ้วน!”
“อ้อ ได้ยินว่าคุณไปเรียนต่างประเทศยอดเยี่ยมมาก อาจารย์ของมหาลัยเรายังพูดถึงคุณกับพวกเราอยู่เลยค่ะ ตอนนี้คุณน่าจะจบปริญญาเอกแล้วหรือเปล่าคะ?”
หลิ่วจื้อเชาพยักหน้าอย่างภูมิใจแล้วกล่าว “ใช่ครับ เพิ่งจะจบปริญญาเอกมา! แต่ผมมีปริญญาเอกนี้ก็ไร้ประโยชน์ ที่ต่างประเทศมีบริษัทหนึ่งให้เงินเดือนรายปีผมหนึ่งล้าน ผมไม่ไป แล้วกลับมาสานต่อกิจการของครอบครัว พวกคุณก็รู้ ว่าตระกูลเราไม่ขาดแคลนเงิน”
ความจริงวุฒิปริญญาเอกนี้ซื้อมา และคุณปู่ของเขาหลิวเหอฉางยังใช้ความสัมพันธ์อย่างไม่น้อยอีกด้วย คนอย่างเขาไม่มีทางที่จะมีคนจ้างเขาทำงานที่ต่างประเทศได้ เพราะเขาไม่ใช่อัจฉริยะระดับท็อปแบบนั้น เขาเป็นแค่ขยะเท่านั้น
แต่คนจำนวนมากก็เชื่อเข้าให้แล้ว เพราะเขาคือหลานชายของหลิวเหอฉาง ครอบครัวมีเงินมาก บางทีคนในเหตุการณ์อาจจะเสียดายเงินเดือนรายปีหนึ่งล้าน แต่เขาหลิ่วจื้อเชาไม่เสียดายเงินนี้จริงๆ
“เห้อ อะไรอยู่ในกระเป๋าผมนะ!”
พูดจบ หลิ่วจื้อเชาหยิบจี้อันหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าแล้วโยนออกไปบนโต๊ะ เขาเห้อออกมา แล้วกล่าว “ผมไม่รู้เลยว่าของสิ่งนี้ใส่ไว้ในกระเป๋าตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมก็ว่าทำไมแข็งขนาดนั้น”
อวดรวย นี่กำลังอวดรวยชัดๆ! คนนี้มันอวดนี้เสร็จก็อวดนั่นต่อเลยนะเนี่ย ดูท่าทางแล้วหลิ่วจื้อเชานี่ก็ใช้เงินเก่งเหมือนกันนะ ฟางเหยียนไม่กังวลใจที่จะสั่งสอนหลานชายสวะนี้ของหลิวเหอฉาง
“นี่คือเพชรเลือดฟีนิกซ์?” เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันพูดออกมาอย่างตกใจ
“เพชรเลือดฟีนิกซ์?” ทุกคนล้วนพากันไปดูของแปลก
“พระเจ้า ฉันได้ยินมาว่าเพชรเลือดฟีนิกซ์สามารถขายได้สามสิบกว่าล้านเลยนะ ว่ากันว่าอยู่ใกล้ๆกับหินภูเขาไฟที่ใต้พื้นลงไปจึงจะดำรงอยู่ได้ อุณหภูมิต้องมากกว่าหนึ่งพันองศาจึงจะมีชีวิตต่อไปได้ นี่ นี่ของจริงใช่มั้ย?”
“ไร้สาระ ของๆคุณชายหลิว ยังมีของปลอมอีกงั้นเหรอ? คุณชายหลิวเป็นใคร? เขาคือเถ้าแก่ของในอนาคตของร้านหยกตี้เซิ่งหยวนนะ”
ทันใดนั้นก็มีคนขี้ประจบมาพูดแทนหลิ่วจื้อเชาแล้ว
ครอบครัวของหลิ่วจื้อเชาทำธุรกิจเกี่ยวกับอัญมณี ร้านที่คุณปู่ของเขาหลิวเหอฉางเปิดเป็นร้านหยกตี้เซิ่งหยวนหรูหราที่สุดในจินโจว วันนี้เขาตั้งใจเอาสิ่งนี้ออกมาจากร้าน เป้าหมายก็เพื่อโอ้อวด ไม่แน่อาจจะได้ผู้หญิงไปนอนด้วยนะ ถ้าเย่ชิงหยู่หรือเฉินหย่าใครคนใดคนหนึ่งติดเบ็ด สำหรับเขาแล้วก็ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้วล่ะ
เมื่อก่อน หลิ่วจื้อเชาเคยจินตนาการบางอย่างถึงสองคนนี้ เพียงแต่จินตนาการนี้อยู่ถึงแค่ตอนจบการศึกษามัธยมปลาย หลังจากที่ตนเรียนมหาลัยแล้ว ก็ไม่มีโอกาสได้เจอสองคนนี้อีกเลย และไม่ได้นึกถึงอีก
เมื่อกี๊ตอนที่เห็นทั้งสอง ในใจของเขาได้เริ่มคิดแผนการ การอวดรวยเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้หญิงสาวมา เมื่อก่อนเขาใช้วิธีนี้ได้สาวสวยมาจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นที่ต่างประเทศ หรือในประเทศ ล้วนเป็นแบบนี้
ผู้หญิงค่อนข้างวัตถุนิยม เพียงแค่โชว์นิดๆหน่อยๆ พากลับไปนอนง่ายเหมือนหายใจอย่างไรอย่างนั้น
คนที่นั่งโต๊ะเดียวกันได้ประจบหลิ่วจื้อเชาอีกครั้ง พูดว่าเขาเจ๋งยังไงๆ แต่หลิ่วจื้อเชาข้ามผ่านไปอย่างนิ่งสงบ แสดงท่าทีที่มันควรจะเป็นแบบนี้อยู่แล้วออกมา
แต่เย่ชิงหยู่และเฉินหย่าไม่ได้รู้สึกแปลก เพราะพวกเธอรู้ดีว่าคนนี้สุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ ถ้าไม่ใช่พึ่งตำแหน่งของคุณปู่ของเขาที่จินโจว เขาไม่กล้าอวดรวยอย่างโอหังแบบนี้
อีกอย่าง ตอนนั้นหลิวเหอฉางเป็นคนที่คุกเข่าต่อหน้าฟางเหยียน เฉินหย่ารู้สึกเฉยๆกับหลิวเหอฉางไปนานแล้ว
เย่ชิงหยู่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผู้ชายของเธอคือฟางเหยียน แล้วเธอจะชอบลูกเศรษฐีแบบนี้ได้อย่างไรกันเล่า
หญิงสาวคนนี้ชื่อเสิ่นตาน เธอเทียบไม่ได้กับสาวสวยระดับเย่ชิงหยู่และเฉินหย่า ในร่างกายของพวกเธอมีออร่าผู้ดีที่ไม่เหมือนใคร แต่เสิ่นตานพึ่งการแต่งตัวจึงจะทำให้เธอดูไม่เลวขึ้นมาอย่างอิดออด
หลิ่วจื้อเชามองเสิ่นตาน ส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ได้อยู่แล้วครับ คุณไม่ได้เป็นอะไรกับผม แล้วผมจะให้คุณทำไม?”
เสิ่นตานหน้าถอดสี แล้วกล่าว “ความจริงคุณคิดทบทวนให้ฉันเป็นแฟนคุณก็ได้นะ! ฉันโสด คุณก็โสด พวกเรามาคบกันก็ได้หนิ!” การที่สามารถพูดคำนี้ออกมาต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้นได้ ก็ไม่ใช่เห็นแก่เงินของเขาหรอกเหรอ
หลิ่วจื้อเชาฮึมออกมา เพียงแต่มองเสิ่นตานอย่างเหยียดหยาม ยกมือขึ้นไปหยิบเพชรเลือดนั่น จากนั้นยื่นไปที่ด้านหน้าของเฉินหย่า แล้วกล่าว “ผมคิดว่าเฉินหย่าเหมาะกับเพชรเลือดเม็ดนี้กว่า”
“อู!” ผู้ชายที่น่ารังเกียจหลายคนเริ่มโห่ออกมา ทุกคนเข้าใจความหมายของหลิ่วจื้อเชา เหตุการณ์นี้ทำเอาเจิ้งถงหน้าถอดสีเล็กน้อย แต่เขาไม่ได้โมโห เพียงแต่ยกแก้วขึ้นมาดื่มชาอย่างอึดอัด
เสิ่นตานหน้าเขียวไปหมด ตนให้ขนาดนั้นแล้ว ไม่เอาก็ช่าง นึกไม่ถึงว่าจะเอาไปให้ผู้หญิงอีกคน แต่เธอไม่กล้าทำอะไร และไม่กล้าพูดอะไร เพียงแต่ส่งเสียงเหอะออกมาอย่างโมโห
เพชรเลือดฟีนิกซ์สามสิบล้านทำให้คนหวั่นไหวได้จริงๆ แต่เฉินหย่าก็รู้ว่าหลิ่วจื้อเชาคิดอะไรอยู่ เธอหัวเราะอิๆออกมา แล้วกล่าว “ขอโทษนะ ช่วงนี้ฉันยังใส่ของที่แพงอย่างนั้นไม่ไหว แล้วก็ ฉันมีแฟนแล้ว”
“อ๋อ?” หลิ่วจื้อเชาจ้องเจิ้งถง แล้วถาม “แฟนของคุณทำอะไร?”
“ปกป้องประชาชน!” เฉินหย่ากล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“เหอะๆ!” หลิ่วจื้อเชาดูแคลนออกมา แล้วกล่าว “เงินเดือนน่าจะไม่สูงนะ! บางทีชาตินี้ก็ไม่ได้ขนาดนั้น เอางี้ ผมเอาอันนี้ให้คุณ คุณเลิกกับเฉินหย่า ว่าไง?”