จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 587 ตะลึงไปทั้งงาน
เฉินหย่ามองไปที่เย่ชิงหยู่อย่างมึนงงอยู่บ้างและถามว่า “เขาสามารถเป่าเครื่องดนตรีนั่นได้จริงหรือ?”
เย่ชิงหยู่ส่ายหัว จากนั้นก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ เขาเป่าได้”
ฟางเหยียนได้นำปาฏิหาริย์มาให้เธอมากกว่าหนึ่งครั้ง และคราวนี้ก็จะต้องมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ดังนั้นแม้ว่าเธอจะไม่เคยได้ยินฟางเหยียนเล่นขลุ่ยไม้ไผ่ แต่เธอก็เชื่อว่าฟางเหยียนเล่นขลุ่ยไม้ไผ่ได้
เสียงขลุ่ยไม้ไผ่เริ่มดังขึ้น ทุกคนไม่ได้ให้เกียรติฟางเหยียนมากพอ บนเวทีด้านล่างยังคงมีเสียงดูหมิ่นดังขึ้นอยู่บ้าง และมีบางคนถึงกับตะโกนด่าว่าเด็กหนุ่มอย่างเขาอย่าได้มาทำลายภาพลักษณ์เครื่องดนตรีประเทศหวาในใจของคน
ฟางเหยียนเข้าใจดีว่าวิธีที่ดีที่สุดในการปิดปากอีกฝ่ายหนึ่งก็คือการทลายพวกเขาลงซะ และปล่อยให้ดนตรีแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของพวกเขา
ฟางเหยียนรู้อย่างลึกซึ้งว่าเขาไม่ได้ยืนอยู่บนเวทีนี้เพื่อฆ่าคน แต่เพื่อใช้ดนตรีควบคุมคนกลุ่มนี้รวมถึงแม้กระทั่งติงห้าว เขาจะต้องให้ทุกคนได้รู้ว่า เครื่องดนตรีของประเทศหวาต่างหากที่สามารถเจาะเข้าไปในใจคนจริงๆได้
นี่คือสิ่งที่เปียโนไม่มี และยังเป็นสิ่งที่เครื่องดนตรีต่างประเทศทั้งหมดไม่เคยมีครอบครอง
ห้องโถงที่แต่เดิมมีเสียงดัง หลังจากเสียงขลุ่ยไม้ไผ่ดังขึ้น ทั้งห้องก็ค่อยๆเงียบลงอย่างช้าๆ ห้าวินาทีต่อมา สิบวินาทีต่อมา เสียงขลุ่ยไม้ไผ่ของฟางเหยียนยังคงธรรมดา ฟังไม่ออกถึงอารมณ์พิเศษบางอย่าง
ในที่สุด หลังจากหนึ่งนาท่านไป เพลงก็บรรเลงเข้าสู่หัวใจหลัก!
เพลงเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทุกคนเองก็ถูกอารมณ์ในนาทีนั้นดึงดูดเข้าไปสู่บทเพลงทันที
บรรดาผู้คนที่กำลังพูดอยู่ต่างปิดปากลงทั้งหมด ทุกคนเริ่มถูกเสียงของขลุ่ยไม้ไผ่ดึงดูดขึ้นมาอย่างลึกซึ้ง นี่เป็นบทเพลงที่แปลกประหลาด ราวกับว่ามันสามารถไหลผ่านจิตวิญญาณของผู้คนได้
ขลุ่ยไม้ไผ่ เครื่องดนตรีที่ดูเหมือนธรรมดาอันนี้ เมื่อถูกเป่าบรรเลงออกมาเป็นจังหวะเช่นนี้ก็แทบจะทำให้คนต้องตกตะลึง!
ท่วงทำนองบนเวทียิ่งสวยงามและล้ำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงขลุ่ยที่นุ่มนวลกระทบลงบนจิตใจของผู้คน ราวกับเสียงของธรรมชาติ
บางคนในงานเริ่มตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด จุดอ่อนโยนที่สุดในใจของพวกเขาถูกอธิบายออกมาผ่านบทเพลงนี้ ดนตรีมักจะส่งผลต่อจิตใจของคนคนหนึ่งได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่สวมหูฟังเท่านั้น
บทเพลงที่บรรเลงอยู่ในขณะนี้นั้นสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้คนได้ นี่ต่างหากถึงเป็นเรื่องที่ทำให้คนตกตะลึง
บางคนในงานเหยียดหยาม บางคนไม่ฟัง บางคนไม่ชอบ บางคนดูถูก แต่ตอนนี้ ทุกคนล้วนถูกดึงดูดเข้าไปแล้ว
นี่คือขอบเขตที่สูงสุดของดนตรี!
ดนตรีแบ่งออกเป็นสองวิธีในการดึงดูด หนึ่งคือเมื่อคุณรู้ว่ามีคนดังอยู่บนเวที คุณก็จะตั้งใจฟังมัน มีแต่การตั้งใจฟังมันเท่านั้นที่จะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงอารมณ์ข้างใน นี่คือความหมายที่แท้จริงของดนตรี
ยังมีอีกอย่างก็คือสถานการณ์ในตอนนี้ เขาใช้ดนตรีเพื่อปลุกระดมอารมณ์ของทุกคน แต่การปลุกระดมดังกล่าวจะต้องได้รับการยอมรับจากผู้ชม
ความน่าสะพรึงกลัวของฟางเหยียนก็คือ คนที่ด้านล่างเวทีไม่เห็นด้วยกับเขา แต่คนเหล่านั้นก็ยังเขาถูกขับเคลื่อนด้วยท่วงทำนองของดนตรี
ดึงดูดผีเสื้อ เริ่มจากหูเข้าสู่กลางหัวใจของผู้คน จากนั้นก็ค่อยๆ ส่งกลับไปสู่สมอง ส่วนที่บอบบางอ่อนแอที่สุดในหัวใจได้รับอิทธิพลแล้ว
มีบางคนเริ่มน้ำตาไหลลงมาจากหางตา
มีบางคนเริ่มหลับตาและเข้าสู่ภวังค์ ท่าทางเคร่งขรึม
มีบางคนเริ่มหวนคำนึงถึงความทรงจำบางอย่างที่ฝังอยู่ในใจขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ตอนนี้ล้วนจมเข้าสู่ท่วงทำนองของบทเพลงนี้อย่างบ้าคลั่ง
สิ่งที่เปราะบางที่สุดในใจของทุกคนล้วนขับเคลื่อนผ่านบทเพลงนี้!
นี่เป็นเพียงเสียงที่ขลุ่ยไม้ไผ่ลำหนึ่งเป่าออกมา แต่กลับแซงหน้าเปียโนราคาแพงไปแล้วด้วยซ้ำ
ติงห้าวตกตะลึง เขาเริ่มเรียนดนตรีเมื่ออายุ 11 ขวบ เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะในวงการเพลง อายุเพียง26ก็ประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ ดังนั้นจึงเรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์
แต่วันนี้ เขานิ่งบื้อไปแล้ว เขามองดูชายหนุ่มตรงหน้าที่อายุเท่าเขา และรู้สึกว่าตนเองพ่ายแพ้แล้ว เปียโนสามารถบรรเลงทำนองที่สมบูรณ์แบบออกมาได้ไม่น้อย แต่มันกลับไม่สามารถเล่นเพลงที่เข้าถึงหัวใจของผู้คนได้
เมื่อก้มหน้ามองไปยังผู้คนในงาน ส่วนใหญ่ล้วนกำลังเช็ดน้ำตาแล้ว
ส่วนที่เหลือที่ยังไม่ได้เช็ด ก็ล้วนกำลังหลับตาลงและมีน้ำตาไหลริน
เปียโนแพ้แล้ว เขาไม่สามารถเรียกมันว่าเป็นราชาแห่งเครื่องดนตรี 100 ชิ้นได้จริงๆ ต่อหน้าเครื่องดนตรีประเทศหวาธรรมดาๆชิ้นหนึ่งเขายังพ่ายแพ้เสียยับเยิน
ประเทศประเทศหวา ประเทศที่มีอายุมายาวนาน ย่อมไม่สามารถนำมาเทียบได้กับสิ่งธรรมดาทั่วไปจริงๆ
ติงห้าวถอนหายใจยาว ใบหน้าของเขาจมลงช้าๆ
ฉู่หยางนั้นตอนนี้ตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์ เขานิ่งอึ้งไปราวกับไม้สลัก!
ในเวลานี้ ในใจของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง!
ไม่ผิด ตื่นตะลึง!
เขาถูกบทเพลงนี้ของฟางเหยียนทำให้ตื่นตะลึงไปแล้ว เขารู้ว่าเพลงดึงดูดผีเสื้อนั้นสามารถเข้าถึงหัวใจของผู้คนได้ แต่ว่าตนก็ยังไม่เคยไปถึงจุดสูงสุดเช่นนี้
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยแบบนี้แต่เขาก็ยังสามารถทำให้บทเพลงเดินเข้าสู่หัวใจของคนเหล่านี้ได้ ทำให้ทุกคนตื่นตะลึง
ต้องรู้ว่า การที่สามารถใช้บทเพลงทำให้คนที่ไม่ชอบดนตรีหลั่งน้ำตาได้หลังฟัง มีเพียงแค่คนรุ่นก่อนเท่านั้นที่สามารถทำได้ แต่วันนี้ เขากลับได้เห็นการแสดงดังกล่าวแล้ว
การแสดงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ในชีวิตของเขาสามารถได้เห็นมัน นี่สำหรับเขาแล้วถือได้ว่าเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของตน
ตอนนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะต้องตายไป เขาก็ตายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแล้ว
เมื่อมองไปที่ฟางเหยียน ในใจของเขาเกิดความรู้สึกผสมปนเปขึ้น ใบหน้าชราเกิดน้ำตาแห่งความโล่งอกยินดีไหลออกมา
อย่างน้อย อย่างน้อยดนตรีที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีประเทศหวาก็ทำให้ผู้คนประทับใจ
เพลงนี้มีความยาวเพียงหกนาที แต่กลับทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่าได้พาดผ่านประสบการณ์มานับศตวรรษ พวกเขาต่างถูกดนตรีดึงดูดจิตวิญญาณไป ทุกคนล้วนหลับตาลง และเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกที่ดนตรีนำมาให้ในขณะนี้อย่างเงียบ ๆ
ในที่สุด เพลงก็จบลง ทั้งงานเงียบลง และทุกคนก็จมอยู่ในภวังค์ท่วงทำนองของดึงดูดผีเสื้อ
ฟางเหยียนค่อย ๆ วางขลุ่ยไม้ไผ่ในมือของเขาลง จากนั้นจึงกวาดตามองไปที่ทุกคนที่อยู่ด้านล่างเวที
ดึงดูดผีเสื้อนี่ นี่แหละคือดึงดูดผีเสื้อของจริง!
ทั้งงานเงียบสงัดจนน่ากลัว เงียบจนอาจได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มตกลงบนพื้น
ความเงียบยังคงดำเนินต่อไป สิบวินาที หนึ่งนาที สองนาทีผ่านไป ทุกคนก็ยังคงจมอยู่ในภวังค์
“แปะ!” “แปะ!” “แปะ!” ฉู่หยางที่ยืนอยู่ไม่ไกลออกไปบนเวทีเริ่มปรบมือขึ้นเป็นคนแรก
นี่คือนักดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็น นี่คือดึงดูดผีเสื้อที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่เขาเคยได้พบเจอมา
ชายหนุ่มตรงหน้าเขาเพิ่งจะอายุเพียงยี่สิบกว่าปีเท่านั้น แต่กลับประสบความสำเร็จในการถ่ายทอดอธิบายสิ่งที่เรียกว่าดึงดูดผีเสื้อได้แล้ว แม้ว่าเขาจะมีลมหายใจที่มากพอ เขาก็คงไม่สามารถทำให้ทุกคนในงานเกิดความรู้สึกได้ขนาดนี้ แต่คนผู้นี้ทำได้แล้ว ชายหนุ่มคนนี้ทำได้แล้ว
ใบหน้าชราของเขามีน้ำตา มันเป็นน้ำตาแห่งความตื้นตัน ประเทศประเทศหวารอดแล้ว มีคนหนุ่มสาวที่มีความสามารถเช่นนี้ ยังต้องกลัวอีกหรือว่าวัฒนธรรมประเทศหวาดั้งเดิมจะหายไป? ไม่หรอก มันมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นจนมากพอที่จะไปสู่ทั่วโลก
เขาปรบมืออย่างซาบซึ้ง ด้านหนึ่งปรบมือด้านหนึ่งเดินไปหาฟางเหยียน สาวเท้าเต็มก้าว ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตาแวววาว
การแสดงออกของฟางเหยียนสงบนิ่ง มองไม่เห็นถึงคลื่นอารมณ์ใด ราวกับว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้เป็นไปตามที่เขาคาดไว้
ใช่ การแสดงแบบนี้สำหรับเขาแล้วไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องง่ายๆหรอกหรือไง? เขาไม่ใช่นักดนตรีที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่การใช้กำลังภายในทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง สำหรับฟางเหยียนแล้วนี่ไม่ใช่เรื่องยากอะไร!