จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 601 ลูกพี่หวางที่โมโห
ความยอดเยี่ยมของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเห็นประจักษ์ชัดแจ้งแก่สายตาของทุกคน แม้แต่ต่งโป๋เหวินพ่อของตนก็อยากให้ฟางเหยียนเป็นลูกเขยของเขาอย่างจริงจัง ต่อให้เป็นเมียน้อยที่ต้อยต่ำแบบนี้ก็ตาม
พ่อมองคนไม่ผิด และความยอดเยี่ยมของฟางเหยียนยังมีเอกลักษณ์ในยุคปัจจุบันอีกด้วย
มีสิ่งเดียวที่บกพร่องก็คือฟางเหยียนมีภรรยา และยังเป็นสาวสวยที่งามเพริศพริ้ง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาและรูปร่าง แล้วก็ความกล้าหาญของหญิงแกร่งของเธอ
หวนนึกถึงครั้งแรกที่โรงแรมนานาชาติเทียนเยว่เมืองจินโจว คนนี้บงการทุกอย่าง ราวกับทุกสิ่งอยู่ในกำมือของเขา บนใบหน้าของเขามักจะแสดงสีหน้าการผ่านโลกมาอย่างโชกโชนที่ไม่ตรงกับรุ่นอายุของเขา ส่วนการพบปะกันในอนาคต เธอพบว่าตัวเองได้หลงใหลผู้ชายแปลกประหลาดคนนี้เข้าให้แล้ว
ครั้งนั้นหลังจากที่ไปจากหนานหลิงแล้ว ฟางเหยียนเหมือนกับเมล็ดพันธุ์เมล็ดหนึ่งที่ปลูกไว้ในใจของเธอ เมล็ดพันธุ์นี้กำลังเติบโต งดงามและยิ่งใหญ่ ถึงขนาดตอนนี้เมื่อเห็นฟางเหยียน ก็รักแรกพบ
จ้องมองไปยังวิวยามราตรีอันมืดมิดรอบๆ ต่งยู่รู้สึกตื่นเต้น เธอบังคับให้ตัวเองใจเย็นลง ตบหัวของตัวเอง พูดเองเออเองว่า “ต่งยู่นะต่งยู่ แกกำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย!ถ้าไม่ใช่เพราะเขาออกโรงช่วย ตัวเองก็ตายไปนานแล้ว แล้วยังจะเพ้อเจ้ออะไรขนาดนี้ได้อีก!”
เมื่อเธอหันหน้าไป พบว่าฟางเหยียนหลับไปแล้ว หายใจอย่างสงบออกมา
แว็บเดียว ต่งยู่รู้สึกผิดหวัง ในใจว่างเปล่า ราวกับในใจมีอะไรหายไปอย่างไรอย่างนั้น
ต่งยู่กล่าวอย่างเกรี้ยวกราดไม่พอใจว่า “ฉันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?หลับสบายขนาดนั้น?ยังเป็นผู้ชายอยู่มั้ยเนี่ย?”
ราตรีเงียบสงัด ราวกับกำลังตอบอย่างไร้เสียง
มองฟางเหยียนอีกครั้งพบว่าฟางเหยียนหลับไปแล้วจริงๆ เธอก็ถอดใจ พลิกตัวแล้วนอน ใครจะคิดว่าการพลิกตัวของต่งยู่ เหมือนกับหมีโคอาล่า อยู่บนร่างกายของฟางเหยียน!กลิ่นหอมของลมหายใจลอยมา ทำให้ฟางเหยียนตกใจ จิตใต้สำนึกจะลงมือฆ่า เมื่อได้ยกมือขึ้นจึงพบว่าคนที่อยู่ข้างๆคือต่งยู่
นกตื่นธนูเหรอ?
ก็ไม่ใช่นะ
คนล้วนมีความเคยชินในการจดจำ เช่น มือขวาเป็นมือที่ถนัดของคุณ และมือถือกลับไม่ห่างจากตัว ต่อให้ไม่ถือไว้ในมือ ก็จะวางไว้ในกระเป๋ากางเกงที่หยิบได้ นั่นก็คือกระเป๋าทางขวามือ แต่ถ้าคุณไม่ระวังวางไว้ที่กระเป๋าด้านซ้าย งั้นแว็บนั้น คุณจะสงสัยว่าตัวเองได้เอามือถือมาหรือไม่
ฟางเหยียนในขณะนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นคนในกองทัพ ฆ่าคนเป็นนิจ ได้ฝึกฝนสัญชาตญาณการรับรู้ภัยอันตรายจนสำเร็จแล้ว นี่ก็คือความเคยชินในการจดจำ
สัญชาตญาณของความเคยชินในการจดจำ ทำให้เขาผ่านการฆ่ามาได้ไม่น้อย สัญชาตญาณสั่งให้ทำ ถึงแม้ตอนนี้ไม่มีใครสามารถข่มขู่เขาได้แล้ว แต่ความทรงจำกลับฝังลึกเข้าไปในกระดูก ไม่สามารถหายไปได้
ต่งยู่ไม่เหมือนกับเย่ชิงหยู่ ทั้งสองต่างคนต่างมีจุดเด่นของตัวเอง กลิ่นหอมบนเรือนร่างของเธอน่าหลงใหลมาก เหมือนกับดอกไม้ตูมที่กำลังเบ่งบาน สะอาดบริสุทธิ์ ความงดงามแบบนี้ ทำให้ฟางเหยียนที่เพิ่งเจอเรื่องนี้ค่อนข้างจิตใจฟุ้งซ่าน ร้อนผ่าวๆ
ฟางเหยียนคือใคร!
เทพแห่งสงครามของประเทศหวา ผู้ชายดังเทพเจ้า ไม่มีแม้แต่การควบคุมตัวเองในจุดนี้?
จิตใจของเขากว้างใหญ่ ใหญ่จนสามารถใส่ประชาชนของประเทศหวาไปได้ แต่หัวใจของเขาก็เล็กเช่นกัน เล็กจนใส่ได้แค่เย่ชิงหยู่ภรรยาคนเดียวเท่านั้น ต่อให้ต่งยู่จะให้ท่าเอง เขายังคงไม่แยแส ยิ่งภักดีต่อภรรยาของตัวเองขึ้นไปอีก
แต่ แต่ท่านอนเด็กสาวคนนี้อัปลักษณ์ไปแล้วเปล่าเนี่ย!
ไม่มีทางเลือก เขาทำได้เพียงผลักแขนผลักขาต่งยู่ที่อยู่บนร่างกายของเขาออก พลิกตัวไป แล้วหันหลังให้เขาโดยตรง
ตอนที่ฟางเหยียนพลิกตัว ต่งยู่ลืมตาขึ้นช้าๆ ใบหน้าสลับซับซ้อน ผิดหวัง ไม่เต็มใจ สุดท้ายรวมกันเป็นความขมขื่น
ตำบลจินสุ่ยเจิ้น
ยามราตรี ปกติคนบ้านนอกจะนอนเร็ว ตำบลจินสุ่ยเจิ้นค่อยๆหลับใหลไปกับยามราตรี แต่หนึ่งในครอบครัวยังคงเปิดไฟสว่างไสว ที่นี่เป็นที่พักชั่วคราวของลูกพี่หวาง
ในบ้านชั้นเดียวเต็มไปด้วยความเลวทราม คนจำนวนไม่น้อยกำลังดื่มเหล้าเล่นไพ่ ขวดเหล้าวางเกลื่อนกลาดไปหมด ในบ้านชั้นเดียวเต็มไปด้วยบุหรี่และเหล้าที่เคล้าฟุ้งเข้าด้วยกัน
คนๆหนึ่งผลักประตูเข้ามาอย่างลนลาน ตะโกนเสียงดังว่า “ลูกพี่ ตายแล้ว…ตายหมดแล้ว!”
เสียงของผู้ชายดังมาก ทันใดนั้นคนในห้องก็หยุดการกระทำในมือลงทันใด แทบจะในเวลาเดียวกัน สายตาได้มองไปยังผู้ชายที่เข้าประตูมา หนึ่งในนั้นถือปืนขึ้นมา เดินไปที่เขา
เพี่ยะ!
ตบไปฉาดหนึ่ง คนนั้นที่ยืนอยู่ที่ประตูตัวสั่น มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างเหม่อลอย ชายหนุ่มกล่าวเบาๆว่า “มึงแม่งเสพยาจนประสาทหลอนเหรอวะ?ใครตายแล้ว!”
“ไม่นะ!” ชายหนุ่มตัวสั่น คุกเข่าลงไปอย่างเร็ว เขาเห็นลูกพี่หวางที่เดินลงบันไดมา “ลูกพี่ครับ โจรต้าทงถูกคนฆ่าแล้ว พี่น้องที่พาไปล้วนตายทั้งหมดแล้ว”
ลูกพี่หวางชะงักไป จิตใต้สำนึกได้ปล่อยผู้หญิงที่อยู่ในโอบแขนลง ทันใดนั้นก็เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด มองไปที่ชายหนุ่มทันที “แกว่าอะไรนะ?นึกไม่ถึงว่าที่ตำบลจินสุ่ยเจิ้นยังมีคนที่กล้าแตะต้องคนของฉันด้วย?ใช่พวกเหล่าซานนั่นมั้ย!”
“ไม่ ไม่ใช่ครับ เป็นเด็กหนุ่มที่มาจากต่างถิ่น ต่อมาผมจับคนขับรถบัส เขาบอกว่าไอ้เด็กนั้นพาผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในภูเขาทิพย์ แล้วยังเดินทางลัดอีกด้วย”
“ผู้หญิง?” ทันใดนั้นลูกพี่หวางก็เข้าใจทันที ดูๆแล้วตอนที่ต้าทงและคนอื่นๆขวางทางไว้ เจอเข้ากับหญิงสาวที่หน้าตาไม่เลวเข้าโดยบังเอิญ แล้วเด็กนั่นก็เป็นวีรบุรุษช่วยสาวงาม เพราะผู้หญิงที่แต่งตัวงามที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ก็ได้มาแบบนี้
แต่เมื่อนึกถึงสมุนของตนถูกฆ่า เขายังจะนั่งติดได้อย่างไรกัน โบกมือทันใด “ทุกคน หยิบอาวุธ!”
ทันใดนั้น ในบ้านชั้นเดียวได้วุ่นวายขึ้นมา แต่ละคนถือปืนอาก้า ออกไปอย่างเกรี้ยวกราด
ผู้ชายที่ถูกตบรีบขวางลูกพี่หวางไว้ทันใด กล่าวอย่างตัวสั่นว่า “ลูกพี่หวาง พี่เพิ่งจะมาที่ตำบลจินสุ่ยเจิ้นไม่รู้สถานการณ์ของที่นี่ ผมจะบอกพี่ว่า ภูเขาทิพย์มีสัตว์ประหลาด สัตว์ประหลาดที่กินคนโดยเฉพาะ โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ฆ่าคนไร้ร่องรอย ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วนนะครับ!”
“ไตร่ตรองถี่ถ้วน?” ลูกพี่หวางยิ้มเลศนัย พลิกมือตบเขาไปหนึ่งฉาด ชายหนุ่มยังไม่ทันทรงตัวได้ ก็ถูกปืนตบเข้าที่หัว “พี่น้องของกูถูกคนฆ่าแล้ว?มึงยังให้กูไตร่ตรองถี่ถ้วนอีก?”
ชายหนุ่มตัวสั่น ตัวสั่นตลอดเวลา ยิ่งขาทั้งสองข้างยิ่งหยุดสั่นไม่ได้ ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นฉี่ฟุ้งกระจายไปหมด
ฉี่แล้ว!
ตกใจจนฉี่แตกแล้ว!
เพี่ยะ!
ตบหน้าอีกครั้ง ชายหนุ่มนั่งลงกับพื้นโดยตรง ไม่กล้าพูดมั่วอะไรอีก
“ฆ่าพรรคพวกของฉัน เลือดต้องล้างด้วยเลือด!”
“เลือดต้องล้างด้วยเลือด!”
“…”
คนกลุ่มหนึ่งไล่ตามไปอย่างร้อนรน ยังกล้าแตะต้องคนของตัวเองที่ตำบลจินสุ่ยเจิ้น อาจจะจะมีชีวิตจนเบื่อจนรนหาที่ตายเองแล้วใช่มั้ย!
อีกฝั่ง
จู่ๆฟางเหยียนไม่มีอารมณ์หลับแล้ว ในหัวของเขากำลังครุ่นคิดเรื่องหนึ่งอยู่ นั่นก็คือในภูเขาทิพย์มีอะไรกันแน่ ถึงได้ทำให้คนมากมายหวาดกลัวได้ โดยเฉพาะฉินเสียงหลินที่ลึกลับ ฉินเสียงหลินเป็นเพื่อนของเขา แต่ตอนที่ไปดินแดนตะวันตก คนจำนวนมากลือกันว่าฉินเสียงหลินเป็นคนประหลาดคนหนึ่ง
หยางจิ่งเซียนหวาดกลัวและเคารพฉินเสียงหลิน เหมือนกับเทพผีอย่างไรอย่างนั้น มีความลึกลับอันแรงกล้า เขารู้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหยางจิ่งเซียนหรือตระกูลโจวอีกทั้งใครก็ตามในดินแดนตะวันตก ล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวต่อภูเขาทิพย์ ความหวาดกลัวแบบนี้ไม่ได้แสร้งทำ แต่เป็นความหวาดกลัวจากด้านในของกระดูก
คนที่ลี้ลับแบบนี้ ไขปริศนาหินทิพย์ทั้งสองก้อนนี้ได้ แล้วจะเปลี่ยนชีวิตของตนเหรอ?
ฟางเหยียนไม่รู้ แต่ตอนนี้ได้มาถึงภูเขาทิพย์แล้ว เขาอยากไปหาฉินเสียงหลินอย่างรอไม่ไหวแล้ว เผยความลับของหินทิพย์ ฟื้นฟูความฝีมือ แล้วล้างบางเพลิงเสวน
มีเพียงแบบนี้ เขาจึงจะสงบจิตสงบใจอยู่เป็นเพื่อนเย่ชิงหยู่ ปกป้องเธอไปตลอดกาลได้
ในตอนที่เขากำลังปิดตาลง มุมปากยิ้มอย่างเย็นชา “ทนไม่ไหวแล้ว?