จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 603 ความแตกต่าง
“สารเลว แกไม่ชอบให้พูดดีๆชอบให้ใช้กำลังใช่มั้ย?” พูดพลาง ฟางเหยียนแยกมือทั้งสองของสัตว์ประหลาดออก
แม้ว่าดขาจะพลังมหาศาล ก็ไม่สามารถเทียบกับฟางเหยียนได้อยู่ดี!
หลังจากที่แยกมือทั้งสองของเขาออกแล้ว ฟางเหยียนกำหมัดชกไปที่หน้าอกของเขาหนึ่งหมัดอย่างรุนแรง!
ตูม!
เสียงดังกระหึ่ม ฟ้าเดินสั่นสะเทือนเพราะการนี้!
กำลังภายในที่แข็งแกร่งเป็นระลอก ราวกับการสั่นสะเทือนเป็นระลอก มีทั้งสองเป็นจุดศูนย์กลางของวงกลม การสั่นสะเทือนสลายไป ต้นไม้ในรัศมีหลายเมตรร่วงหล่นลงมา!
“พูว์…..” ต่งยู่ยืนอยู่ไม่ไกลจากสองคน เลือดสดออกมาจากปากของเธอ จากนั้นตัวของเธอยังถูกการสั่นสะเทือนของกำลังภายในเข้าให้ด้วย
“ต่งยู่!”
ฟางเหยียนเข้าใจในทันที เธอเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ยังต้านทานก็การโจมตีของกำลังภายในแบบนี้ได้อย่างไรกัน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี๊ที่ใช้กำลังภายในต่อยออกมาไม่ได้มีเพียงเขา แม้แต่เจ้านี่ก็ใช้กำลังภายในเช่นกัน
ต่งยู่ล้มลงกับพื้น ร่างกายสั่นอย่างรุนแรง เหมือนกับชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย
ฟางเหยียนขี้เกียจจะพัวพันกับเจ้านี่ ด้วยเหตุนี้จึงได้กำหมัด ต่อยไปอีกครั้ง!
หมัดนี้คลุ้มคลั่งมาก เจ้านั่นลอยไปโดยตรง
เขาไม่มีเวลาสนใจสัตว์ประหลาดนั่น รีบวิ่งไปข้างกายของต่งยู่ ใช้มือกอดเธอขึ้นมา จากนั้น เขาหยิบยาเม็ดสีแดงในกระเป๋าใส่เข้าไปในปากของเธอ แล้วพูดเบาๆว่า “รีบกิน!”
ต่งยู่แทบจะไม่ลังเล กลืนลงไปโดยตรง ต่อให้สิ่งที่ฟางเหยียนให้เธอกินจะเป็นยาพิษ เธอก็ยินยอมพร้อมใจ
ใครจะรู้ว่าไม่กี่วินาทีผ่านไป เธอจะรู้สึกสบายขึ้นมากแล้ว อากาศที่ติดขัดเมื่อกี๊ได้หายใจออกมาแล้ว
เธอกล่าวด้วยใบหน้ารู้สึกผิดว่า “ฟางเหยียน ฉันทำให้คุณต้องเดือดร้อนอีกแล้ว คุณ คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ?”
แม้แต่เธอยังได้รับบาดเจ็บ เธอไม่เชื่อว่าฟางเหยียนจะไม่เป็นอะไร เพราะตอนที่พลังนั่นจู่โจมเข้ามา ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงกำลังภายในที่เขียนในนิยายและในหนัง นั่นจึงจะเป็นการลอบสังหารที่แท้จริง สามารถฆ่าคนได้จากระยะไกล ถึงแม้ฟางเหยียนจะฝีมือดี แต่นี่คือสัตว์ประหลาดนะ
ยังไงเขาก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง!
ฟางเหยียนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไม่เป็นไรครับ คุณพักผ่อนก่อนนะ”
พูดจบ ฟางเหยียนวางต่งยู่นอนราบกับพื้น
การต่อสู้กันครั้งนี้ ฟางเหยียนรู้แล้ว เกรงว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนี้คือระดับต้าชี่ ความเร็วและพลังของมันต้องเก่งกว่าในระดับเดียวกันแน่นอน ต่อให้เป็นอู๋หมิงของสำนักไร้หน้าเกรงว่าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน
การโจมตีปะทะเข้าด้วยกัน ใบหน้าของสัตว์ประหลาดนั่นตกใจขึ้นมา มองไปยังฟางเหยียนที่เตี้ยกว่าตนอย่างชัดเจน ช็อกสุดขีด
——
“ลูกพี่ เมื่อกี๊ฟ้าผ่าหรือเปล่า?”
ตีนเขาภูเขาทิพย์ จู่ๆทีมลูกพี่หวางก็หยุดเดินลง จ้องไปที่ภูเขาทิพย์อันมืดสนิท เริ่มตื่นตระหนกไม่สงบ โดยเฉพาะคำพูดของหนึ่งในลูกน้องคนหนึ่ง ยิ่งทำให้ในใจของทุกคนเริ่มไม่สบายใจขึ้นมา
บนฟ้ามีดวงดาว ดวงดาวสว่างไสวจะเกิดฟ้าผ่าได้อย่างไรกัน? ฟ้าผ่าตอนกลางวันจะอธิบายได้อย่างไรกัน?
ทำได้เพียงอธิบายได้อย่างเดียว นั่นก็คือข่าวลือที่ว่าสัตว์ประหลาดภูเขาทิพย์ปรากฏตอนกลางคืน คือความจริง
สัตว์ประหลาดภูเขาทิพย์!
สิ่งที่เจ้านั่นเป็ยความจริง!
ภูเขาทิพย์ใหญ่มาก ไม่มีร่องรอยของสัตว์ตัวอื่น ต่อให้เป็นนกที่โบยบินสักตัวก็ไม่มี มีเพียงตำนานของสัตว์ประหลาดที่เป็นความจริง!
คนพวกนี้แม้จะเป็นพวกเดนตาย แต่ตอนที่เจอเข้ากับภัยอันตรายจริงๆ พวกเขาให้ความสำคัญกับชีวิตของตนกว่าใคร!ความรู้สึกตื่นตระหนก ไม่สงบ กังวลใจเกิดขึ้นในหัวใจของผู้คนในเหตุการณ์ทันใด แทบจะในเวลาเดียวกัน ทุกคนจ้องไปยังลูกพี่หวาง
เห็นใบหน้าของเขานิ่งสงบ แต่ความจริงภายในจิตใจผวาจนไม่ไหวแล้ว เขาเป็นคนแรกที่พบความผิดปกติ ก่อนหน้านี้คือเสียงแปลกๆนั่น ต่อมาก็เป็นเสียงที่เหมือนกับฟ้าผ่า ที่ภูเขาทิพย์มีสัตว์ประหลาดเดิมเป็นเรื่องที่เข้าใจกันดีอยู่แล้ว แต่ไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้มาก่อน ดังนั้นเขายอมที่จะเชื่อว่าไม่มี!
แต่ตอนนี้ สถานการณ์ราวกับจะเหนือความคาดหมายของเขา
คนที่พวกนั้นวันๆเอาแต่พูดถึงความตาย มักจะเป็นพวกเลวทรามต่ำช้าที่รักตัวกลัวตาย ลูกพี่หวางก็ไม่ต่างกัน เขาอยากหนีไปแล้วจริงๆ แต่ถ้าพอมีเรื่องแล้วหนี แล้วยังจะเป็นลูกพี่ได้อย่างไรกัน!
ไม่เพียงแค่หนีไม่ได้ กลับกันยังต้องสร้างบารมีของตัวเองอีกด้วย!
ต้องไปภูเขาทิพย์ เจ้านั่นต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
ลูกพี่หวางนอกจากจะเชื่อมั่นอาวุธในมือของเขาอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ยังมีอีกเหตุผลที่ทำให้ในใจของเขาสั่นคลอน นั่นก็คือความสวยของหญิงสาวคนนั้น เขาเชื่อสายตาของต้าทง
เมื่อนึกถึงหญิงสาวคนนั้น แว็บเดียวก็ทำลายความคิดของเขาทั้งหมดไป!
ไปภูเขาทิพย์!
“ห้ามระแวง พวกเราต้องล้างแค้นให้กับพรรคพวก เข้าใจมั้ย?”
“อืม”
“……”
ตอบกลับอย่างง่ายๆ เห็นได้ชัดว่าไม่มีกะจิตกะใจจะต่อสู้ ซึมเซา!
จู่ๆลูกพี่หวางก็เกรี้ยวกราดออกมา ยิงปืนขึ้นฟ้าไปหนึ่งซองกระสุน ปากกระบอกปืนสีดำกำลังโผล่ควันสีขาวออกมา และเขาราวกับเทพแห่งการฆ่าองค์หนึ่ง กล่าวเสียงทุ้มว่า “ไปภูเขาทิพย์!”
อีกด้านหนึ่ง
ภูเขาทิพย์มีมาเป็นร้อยปี ไม่เคยปรากฏว่ามีใครทำให้สัตว์ประหลาดสั่นไหวได้ขนาดนี้
“โอว……”
เสียงที่เสียดหูดังสนั่นไปทั่วฟ้า
ฟางเหยียนขมวดคิ้วเบาๆ เจ้านี่มันทนไม่ไหวแล้ว?ในตอนที่เขาเตรียมพร้อม เหตุการณ์ที่ทำให้เขาประหลาดใจได้เกิดขึ้นแล้ว!
นึกไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะเลือนหายไปแล้ว จากนั้น เขาเห็นเงาดำวิ่งไปอีกด้าน!
นึกไม่ถึงว่าเจ้านั่นจะหันหลังหนีไปแล้ว!
ใช่ หนีไปแล้ว!
ฟางเหยียนเหม่อลอย เจ้านี่มันคิดจะทำอะไร?ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เขาล้วนไม่อยากให้สัตว์ประหลาดไป เหตุผลง่ายมาก เขามาภูเขาทิพย์เพียงเป้าหมายเดียว นั่นก็คือปลดล็อกความลับของหินทิพย์ เขาไม่อยากพลาดโอกาสนี้ไป ส่วนสัตว์ประหลาด เขาเชื่อว่ามีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับฉินเสียงหลิน
ฟางเหยียนแทบจะไม่ลังเลใดๆ ไล่ตามไปอย่างแน่วแน่
ต่งยู่อยู่ด้านหลังตะโกนว่า “ฟางเหยียน คุณจะทิ้งฉันโดยไม่สนใจไม่ได้นะ!ฉันกลัว!”
ฟางเหยียนไม่ทันได้ตอบแต่อย่างใด และไม่ได้ยินคำพูดนี้ด้วย เพราะความเร็วของเขาไปถึงขั้นสูงสุดแล้ว ไม่นานก็ไล่ตามสัตว์ประหลาดทัน เขาไม่ได้เซอร์ไพรส์ที่ไล่ทัน กลับกันสีหน้าเคร่งเครียดขึ้น มักจะรู้สึกว่าตรงไหนสักจุดที่แปลกๆ แต่ตรงไหน ไม่รู้เลยแม้แต่น้อย ด้วยเหตุนี้ เขาทำได้เพียงช้าลง จงใจรักษาระยะห่างจากสัตว์ประหลาด
การต่อสู้ในสนามรบ เขามีความรู้สึกต่อภัยอันตรายได้มากกว่าใครอื่น แต่ยิ่งเข้าใกล้สัตว์ประหลาด ภัยอันตรายในจิตใจของเขายิ่งหนักข้อขึ้น ความรู้สึกอันตรายแบบนี้ไม่ด้อยไปกว่าสิบประเทศบุกเข้ามา กลับกันยังมากกว่านั้นอีกด้วย
ตรงไหนที่มันผิดสังเกตกันแน่นะ!
ฟางเหยียนมองจังหวะการหนีของสัตว์ประหลาดอย่างผ่านๆ รูม่านตาหดตัวลง แว็บเดียวก็รู้ทันใด ความเร็ว ใช่ ก็คือความเร็ว สัตว์ประหลาดเหมือนจะจงใจเคลื่อนไหวช้าลง ดึงดูดความสนใจของเขา!ส่วนทำเพื่ออะไรนั้น เขาไม่รู้แล้ว แต่ตอนนี้ เขาต้องหยุดสัตว์ประหลาดไว้!
ต่งยู่ยังอยู่ด้านหลัง ใครจะรู้ว่าภูเขาทิพย์นี่จะมีสัตว์ประหลาดอยู่แค่ตัวเดียวมั้ย?
เขาเร่งความเร็ว ยกฝ่ามือตั้งขึ้น ในฝ่ามือของเขาปรากฏเป็นดาบเล่มหนึ่งไม่ชัดเจน ฝ่ามือกลายเป็นดาบ นี่เป็นวิธีการโจมตีที่ธรรมดาที่สุดของเขา
ฝ่ามือดาบราวกับกระบี่คมเล่มหนึ่งจู่โจมไปที่หลังของสัตว์ประหลาด
ตูม!
สัตว์ประหลาดตัวสั่น ส่ายไปส่ายมา คำรามใส่ฟางเหยียน!
“ลนลานแล้วเหรอ?” ฟางเหยียนดูแคลน แล้วพุ่งเข้าไปที่สัตว์ประหลาดทันใด
ทันใดนั้น เกิดพายุขึ้น ต้นไม้หักโค่น แต่ฟางเหยียนกลับเหมือนปีศาจก็มิปราณ เจาะไปมาอยู่ด้านหน้าของสัตว์ประหลาด ราวกับจูล่งแห่งเสียงสาน จะได้ยินเสียงครวญครางอันเจ็บปวดของสัตว์ประหลาดทุกครั้ง
ในการโจมตีอันรุนแรงอีกครั้ง ฟางเหยียนและสัตว์ประหลาดหลุดออกจากกัน บนร่างของสัตว์ประหลาดมีบาดแผลมากมาย ทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือด ภายใต้แสงจันทร์สาดส่องให้ความผิดปกติชัดเจน กลับมาที่ฟางเหยียน ทั้งตัวไร้ซึ่งบาดแผล ไม่เหนื่อยเลย
ความแตกต่าง!
ความแตกต่างอันแท้จริง!