จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 605 ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง
ต่อให้ตอนนี้มีความสามารถเพียงหกสิบเปอร์เซ็นต์ ใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด ก็เพียงพอจะฆ่าสัตว์ประหลาดได้แล้ว เพราะการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังของการทำลายโลก พลังทำลายล้างยิ่งใหญ่ ปกติจะใช้แค่ในสนามรบ
ตอนที่ฆ่าตัดหัวการบุกมาของสิบประเทศ เขาเคยใช้หนึ่งครั้ง ตอนเผชิญกับการรุกล้ำของสามกลุ่มที่ชายแดน เขาก็ได้ใช้มันอีกครั้ง
ครั้งนี้ได้ใช้กับสัตว์ประหลาด มันควรจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก!
ความจริงฟางเหยียนก็ไม่อยากฆ่าตัดหัวสัตว์ประหลาดนี่ เขาเพียงแค่อยากบีบความแข็งแกร่งที่หลบซ่อนอยู่ด้านหลังไว้ออกมา
“กระบี่มา!” ฟางเหยียนตะโกนขึ้นฟ้าอันสว่างไสว จากเสียงตะโกน จู่ๆก็เกิดพายุ ฟ้าผ่าลงมาทันใด!
“เปรี้ยง” เสียงดังสนั่น ฟ้าผ่าผ่าลงไปบนกระบี่ยาวที่ไม่ชัดเจนเล่มนั้นโดยตรง
ทันใดนั้นกระบี่ยาวในมือได้สว่างไสวขึ้น สายฟ้าล้อมรอบ เปล่งความสว่างไสวออกมา เหมือนกับมังกรทองที่ไม่สงบบ้าคลั่งอย่างไรอย่างนั้น สัตว์ประหลาดที่ไม่สามารถขวางทางได้
หอกดั่งมังกร กระบี่มาถึง ทำลายล้าง!
เมื่อโจมตี ต่อให้เป็นพระเจ้าก็ต้องระส่ำระสาย สัตว์ประหลาดต้องตาย ไม่มีอะไรรอดพ้นไปได้!
กระบี่มา!
กระบี่ยาวพุ่งไปที่สัตว์ประหลาดพร้อมกับเปลวไฟสายฟ้าตลอดทาง ความเร็วราวกับดาวตก!
“อาว……”
สัตว์ประหลาดคำรามอย่างจะเป็นจะตาย ฟ้าดินสั่นสะเทือนไปกับการคำรามนี้ของมัน!
ในตอนที่กระบี่ยาวเข้าใกล้สัตว์ประหลาดนั้น สิ่งที่ทำให้ฟางเหยียนอ้าปากค้างเกิดขึ้นแล้ว!
เดิมที่ราวกับแสงสว่างจ้าของกลางวันแสกๆ จู่ๆก็มืดลง ราวกับค่ำคืนที่ไม่สิ้นสุดได้คืบคลานเข้ามา เห็นเพียงแสงสว่างนิดๆหน่อยๆ จ่อไปศีรษะอันใหญ่เบอเร่อของสัตว์ประหลาด แต่จากนั้นแสงสว่างอันเล็กน้อยนั้นก็หายไป รอบๆได้มืดสนิทลงอีกครั้ง ได้กลายเป็นความมืดที่มืดมิดอีกครั้ง
เงียบ!
รอบๆเงียบจนทำให้คนกลัว
และฟางเหยียนในตอนนี้จิตใจกลับว้าวุ่น ไม่สามารถนิ่งสงบลงได้อยู่นาน
นี่……เกิดขึ้นกะทันหันมาก!
ไม่มีเสียงครวญครางของสัตว์ประหลาดที่คิดไว้ และไม่มีการทำลายล้างอย่างพังพินาศ เหมือนกับระเบิดใช้การไม่ได้ก็มิปราณ ไม่มีเสียง เห็นได้ชัดเจน ว่าการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาถูกคนขวางไว้แล้ว ถึงแม้จะเป็นการโจมตีหกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถรับการโจมตีนี้ได้อย่างง่ายดาย แล้วยังแก้ไขได้อย่างไร้เสียงอีกด้วย ในความเข้าใจของฟางเหยียน ยังไม่ปรากฏขึ้นในชั่วขณะนี้!
ใครกันแน่?
ประสบการณ์ทำสงครามโชกโชน คนที่ฆ่าไปยังไงก็เป็นหลายล้าน
ตั้งแต่อาจารย์ของตนสอนกำลังภายในให้เขา เขาไม่เคยพ่ายแพ้ แต่ตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าจะปรากฏตัวแล้ว!
นี่จะไม่ให้เขาไม่ตกใจได้อย่างไรกัน!
รอบๆเงียบสงบจนเข็มตกพื้นยังได้ยิน ในหัวของฟางเหยียนก็แล่นอย่างเร็ว
ทันใดนั้น เขานึกถึงยอดฝีมือที่เคยเจอมาหลายคน นอกจากอาจารย์ ผู้เฒ่าดูนรลักษณ์ที่ตาบอด ก็เหลือแค่เจ้าค้างมีด สามคนนี้เป็นคนพิสดารที่เดาทางไม่ถูกที่สุดที่เขาเคยเจอมา หรือนี่เป็นในนั้น?
ใจเย็น ตอนนี้ทำได้เพียงใจเย็น!
“เอ๊ะ……” ในความมืดมีเสียงถอนหายใจทำลายความเงียบไป จากนั้นก็ตามมาด้วย “จงผ่อนปรนเมื่อไหร่ก็ตามที่ทำได้!”
จงผ่อนปรนเมื่อไหร่ก็ตามที่ทำได้!
เมื่อกี๊สัตว์ประหลาดตัวนี้เกือบจะทำอันตรายต่อชีวิตของต่งยู่แล้ว จะเห็นได้ถึงความเสียสติของเจ้านี่ได้! ถ้าไม่ใช่เห็นว่าเขาคือฉินเสียงหลิน ถ้าไม่ใช่เห็นว่าฟางเหยียนยังมีคำถามที่จะถาม เจ้านี่เป็นศพไปนานแล้ว!
และการปรากฏตัวของเจ้านี่ยืนยันการคาดการณ์ของฟางเหยียนได้พอดี ว่าบริเวณใกล้เคียงมียอดฝีมืออยู่จริงๆด้วย!
คนที่ส่งเสียงนี้ออกมาจะต้องมีความสัมพันธ์กับสัตว์ประหลาดแน่นอน เป็นไปได้มากว่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นแค่หุ่นเชิดของคนที่ส่งเสียงเท่านั้น
บางที ผู้เฒ่าคนนั้นจึงจะเป็นฉินเสียงหลินตัวจริงก็เป็นได้!
แต่ กำลังภายในที่แข็งแกร่งขนาดนั้น เป็นครั้งแรกที่ฟางเหยียนรับรู้ได้!
นึกไม่ถึงว่าเขาไม่สามารถยืนยันทิศทางของคนที่พูดคำนี้ออกมาได้ ราวกับรอบๆล้วนเป็นเสียงของคนนี้ หลังจากที่เปล่งเสียงออกมา ก็ไม่มีคำพูดใดต่ออีก เงียบสงัด รอบๆเหมือนกับตกอยู่ในภวังค์ที่เงียบสงัด เหมือนกับไม่เคยปรากฏกายมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น
อึดอัด ในใจฟางเหยียนไม่เคยอึดอัดอย่างนี้มาก่อน!
คนนี้แก้ทางกระบี่ของตัวเองก่อน ตอนนี้ยังเล่นสงครามจิตวิทยากับตนอีก
นี่เป็นตอนที่ฟางเหยียนเผชิญหน้ากับศัตรู แล้วเกิดเป็นอารมณ์ที่อึดอัดแบบนี้เป็นครั้งแรก!
เมื่อเผชิญกับกองกำลังเป็นพันเป็นหมื่น จิตใจของเขาไม่สะท้าน แต่ครั้งนี้ นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้ในใจเขาจะเคร่งเครียดอย่างบอกไม่ถูก
แต่เขาไม่กลัว ในสายเลือดอันภาคภูมิของเขาบอกเขาว่า ใครมาก็เหมือนกัน
สิบวินาที หนึ่งนาที ห้านาทีผ่านไป
รอบๆยังคงเงียบสงัดจนน่ากลัว!
หรือเห็นว่าเขาถอนท่าสังหารของเขา ดังนั้นจึงหลบไปเอง! ที่เขาปรากฏกายออกมาก็แค่เพื่อช่วยหุ่นเชิดของตัวเองเท่านั้น!
“คุณเป็นใคร? มีอะไรก็ออกมาพูดกัน!” ฟางเหยียนตะโกนขึ้นฟ้าอันกว้างใหญ่
แต่ไม่มีใครตอบกลับแม้แต่น้อย
“อย่ามาเสแสร้งกับผม ถ้าคุณยังไม่ออกมา ผมจะฆ่ามันซะ!”
พูดจบ ฟางเหยียนแบมือออก แว็บเดียวฝ่ามือกลายเป็นดาบ
เขาไม่ลังเล พุ่งเข้าไปที่สัตว์ประหลาดอีกครั้งโดยตรง!
“อาวอาว!”
สัตว์ประหลาดคำรามออกมาสองครั้ง
เสียงนี้ทำให้ฟางเหยียนได้ยินแล้วรู้สึกไม่เหมือนเดิม เมื่อก่อนเสียงร้องของสัตว์ประหลาดบ้าคลั่งโหดเหี้ยม พลังทำลายล้างสูง แต่ตอนนี้เสียงคำรามทั้งสอง ไม่มีพลังเมื่อก่อนไม่ว่า กลับกันยังให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างเอาใจ ใช่ ก็คือเอาใจ ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ไม่เห็นมานานรอคอยให้เจ้าของตัวเองกลับมา นี่?
จู่ๆฟางเหยียนเริ่มงงงวยขึ้นมาแล้ว
หรือคนนั้นมาแล้วเหรอ?
ความคิดนี้เพิ่งจะผุดออกมา รอบๆไม่รู้ว่ามีหมอกหนาๆมาจากไหน! ในหมอกทึบ จู่ๆก็แสงสว่างขึ้น จุดที่เกิดแสงนี้ยิ่งสว่างมากขึ้น
ภายใต้แสงสว่างเหมือนกับมีเงาที่เลือนรางคนหนึ่ง เหมือนกับเทพเซียน…
ใช่ นี่เป็นปฏิกิริยาแรกที่ปรากฏออกมาจากในหัวของฟางเหยียน
ฟางเหยียนคิดว่าตัวเองตาลาย จึงได้ขยี้ตาแล้วมองไปอีกครั้ง ร่างนั้นยิ่งชัดเจนมากขึ้น แน่นอนความชัดเจนนี้ไม่ใช่ความชัดที่สามารถมองเห็นดวงตาและจมูกได้ แต่มีเค้าโครงของคนโดยประมาณ เมื่อเทียบกับสัตว์ประหลาดแล้ว เงานี้ด้อยและอ่อนแอยิ่งกว่า ดูๆแล้วเหมือนกับเด็กน้อย
แต่ฟางเหยียนกลับไม่คิดแบบนั้น สามารถขจัดพลังฆ่าของเขาได้ จะเป็นเด็กน้อยไปได้อย่างไรกัน?!
ตามด้วยเงานั่นยิ่งเข้าใกล้มากขึ้นไปอีก และแล้วฟางเหยียนก็เห็นชัดเจนแล้ว คนนั้นไม่ได้เดินมา แต่ลอยมา เขาปล่อยแสงได้ ร่างกายของเขาเหมือนกับฉินเสียงหลิน ที่สามารถปล่อยแสงออกมาได้ นี่ก็ยืนยันการคาดเดาของฟางเหยียนเช่นกัน ว่าฉินเสียงหลินเป็นเพียงหุ่นเชิดของใครสักคนเท่านั้น คนที่อยู่ตรงหน้า คงจะเป็นคนที่ควบคุมฉินเสียงหลิน!
นี่ไม่ใช่เด็กน้อย แต่เป็นผู้เฒ่าที่ลักษณะเหมือนเซียน ผู้เฒ่าคนนี้ผมขาวหงอกทั้งหัว หนวดยาวรอบปากล้วนกลายเป็นสีขาว คิ้วก็โค้งลง ถึงขั้นส่วนใหญ่กลายเป็นสีขาว
ส่วนลักษณะของเขา ฟางเหยียนแยกแยะลักษณะของเขาไม่ออกจริงๆ
เพราะใบหน้านั้นของเขาดูๆแล้วอ่อนเยาว์มาก ถึงขั้นไม่มีริ้วรอย แต่ใบหน้าแบบนั้นกลับผมยาวและหนวดยาวแบบนี้ ไม่ว่าใครเห็นก็ไม่คิดว่าเขาคือวัยรุ่น
เขาสวมใส่ชุดฉางผาวสีขาวตัวหนึ่ง ดูแล้วเหมือนนักบำเพ็ญพรตในยุคโบราณคนหนึ่ง ไม่เข้ากับคนยุคสมัยนี้!
คนนี้มีกำลังภายในเต็มเปี่ยม จะต้องเป็นคนที่ขจัดกระบี่ของฟางเหยียนเมื่อกี๊แน่นอน เพราะร่างกายของเขาสามารถปล่อยแสงสีขาวออกมาได้!
หลังจากที่เขาเข้าใกล้ฟางเหยียนแล้วนั้น ชี่อันแข็งแกร่งล้อมรอบตัวของฟางเหยียนไว้ ไม่ใช่แค่นี้ ชี่นี้ราวกับยังกระจายไปทั่วป่าอีกด้วย
จ้องผู้เฒ่าที่อยู่ตรงหน้า ฟางเหยียนเริ่มอดกลั้นไม่อยู่!
นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางเหยียนมีความรู้สึกแบบนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าของคนนี้ เขาเหมือนเป็นลูกเจี๊ยบเผชิญหน้ากับอินทรีย์แก่ตัวหนึ่ง ต่อให้ตัวเองจะมีกำลังภายในร้อยเปอร์เซ็นต์ เกรงว่าก็ไม่สามารถที่จะต่อกรกับผู้เฒ่าตรงหน้านี้ได้!
นี่เป็นข้อสรุปที่เขาได้หลังจากพิจารณาแล้ว! และยังมีความแน่นอนต่อผู้เฒ่าคนนี้เป็นอย่างมากอีกด้วย!