จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 614 ลูกพี่หวาง คุกเข่า
แว็บนั้นที่เห็นปืน ดูเหมือนต่งยู่และหญิงสาวแข็งทื่อไป แล้วยังวางไว้บนแขนของฟางเหยียน
“ฟาง ฟางเหยียน!พวกมันมีปืน” ต่งยู่พูดอย่างติดๆขัดๆ
พวกเขาไม่มีปืนฟางเหยียนไม่มีทางสนใจ แต่หลังจากที่พวกเขามีปืนแล้ว ต่งยู่ก็ไม่มีความกล้าแล้ว!
แต่แววตาของฟางเหยียนกลับเชื่อมั่นมาก ไม่สนใจปืนเลยแม้แต่น้อย ราวกับสิ่งที่จ่อเขาอยู่ไม่ใช่ปืน แต่เป็นแร่อันหนึ่งเท่านั้น
ความสงบของเขาทำให้ชายฉกรรจ์ไม่ค่อยกล้า เชื่อมั่นไปแล้ว เชื่อมั่นจนทำให้เสี่ยวโก่วเสี่ยวโก่วผมทองที่ถือปืนค่อนข้างตกใจ
“เด้กน้อย คุกเข่าหรือไม่คุกเข่า ถ้าไม่คุกเข่าก็จะลั่นไกแล้วนะ!” เสี่ยวโก่วเสี่ยวโก่วผมทองกล่าวอย่างคับแค้นใจต่อฟางเหยียน
ถึงแม้ท่าทีถือปืนของเขาก็หล่อมาก แต่ท่าทีสับปลับนั่นของเขาก็ขี้ขลาดมากจริง
“ไม่มีใครกล้าใช้ผืนจ่อฉัน!คนที่ใช้ปืนจ่อฉัน ล้วนตายด้วยกันทั้งนั้น!” ฟางเหยียนกล่าวอย่างเย็นชา
พูดจบ เสี่ยวโก่วเสี่ยวโก่วผมทองรู้สึกข้อมือเจ็บปวดอย่างทะลุถึงใจ จากนั้นปืนที่อยู่ในมือก็หล่นลงกับพื้น
แว็บนั้นที่ปืนหล่นลงกับพื้น เสี่ยวโก่วส่งเสียงร้องอาวๆอย่างเจ็บปวดออกมาทันที
แว็บเดียว คอหอยชายฉกรรจ์และหญิงสาวขยับขึ้นลง ช็อกจนหาที่เปรียบไม่ได้ ขาและท้องเริ่มสั่นอย่างไม่หยุด ตอนที่ฟางเหยียน ราวกับมองปีศาจตัวหนึ่ง ใช่ปีศาจ ชายฉกรรจ์ถือว่า‘ผ่านสนามรบนับร้อย’ ฆ่าคนเป็นนิจ ฟันคนมาไม่เจ็ดสิบแปดสิบคนก็เป็นร้อย ยังไงเขาก็มองไม่ออก ว่าเจ้านั่นจัดการอย่างไร
ถ้าไม่ใช่บนมือของเสี่ยวโก่วมีเลือดสดไหลออกมา เขาก็สงสัยว่าตัวเองเจอผีหรือเปล่า
ขาทั้งสองของหญิงสาวสั่นอย่างหยุดไม่ได้ ทันใดนั้นก็นึกถึงเหตุการณ์บนรถก่อนหน้านี้ แม้แต่เสียงก็สั่นขึ้นมา “ลูกพี่ เหมือนพวกเราจะล้างแค้นไม่ได้แล้วนะ!”
ชายฉกรรจ์ห่อเหี่ยวใจ นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว หรือวันนี้จะล้างแค้นไม่ได้จริงๆแล้ว?
แต่จากเสียงเหยียบเบรกที่เร่งด่วนดังขึ้น สีหน้าเย็นชาของชายฉกรรจ์ได้ตื่นเต้นขึ้นมาทันใด
“เด็กน้อย แกต่อสู้ได้ แต่จะเร็วไปกว่าปืนกลหลายกระบอกขนาดนี้ได้มั้ย?เตรียมตัวตาย!”
ผู้หญิงเห็นรถตู้ยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้เข้ามา ทั้งตัวก็ตื่นเต้นขึ้นมา แว็บเดียวก็เอาเรื่องที่เสี่ยวโก่วถูกทำร้ายปล่อยไว้ก่อน มือหนึ่งจับเอวไว้ อีกมือชี้ฟางเหยียนกล่าว “เด็กน้อย ตอนนี้ยอมรับผิดยังทันนะ อีกเดี๋ยวแม้แต่โอกาสจะขอโทษก็ไม่มีแล้วนะ” จู่ๆชายฉกรรจ์ก็กลับมาหัวรุนแรงของตัวเองอีกครั้ง ดูแคลนว่า “เด็กน้อย วันนี้แกต้องตาย!”
ฟางเหยียนยิ้มเย็นชา จ้องสองคนอย่างไม่พอใจ ท่าทางที่ดูหมิ่น กดสองคนที่อาศัยบารมีคนอื่นมาเบ่งลง ชายฉกรรจ์เชื่อว่าคนนี้ไม่ได้อวดเก่ง แต่เอาจริงๆ แต่ออร่าของคนนี้สูงกว่าพวกเขามาก
ถึงแม้จะถุกกดไว้ แต่ชายฉกรรจ์ก็อดที่จะพูดจารุนแรงออกมาไม่ได้ “หวังว่าอีกเดี๋ยวปากของแกจะแข็งเหมือนกระดูก ไม่งั้นจะไม่สนุก”
รถตู้หลายสิบคันมาอยู่ตรงหน้าทั้งสาม ไม่ได้หยุดลง กลับกันปิดเส้นทางไว้โดยตรง รถตู้แยกเป็นสองแถว จอดด้านซ้ายด้านขวาของถนน เป็นตัวอักษรเลขหนึ่ง เหมือนทหารที่กำลังรอนายพลของตัวเอง
หลังจากจอดรถสนิทแล้ว คนของรถตู้ทุกคันล้วนกระโดดลงมา มีจำนวนห้าหกสิบคนได้ แต่ละคนต่างถือปืนกล ท่าทางเกรี้ยวกราดทำให้คนเกิดความกลัว
ชายฉกรรจ์เหล่านี้ไม่ได้ลงมือโดยตรง ราวกับกำลังรออะไรอยู่ ล้อมรอบฟางเหยียนไว้อย่างนั้น
ถูกปากกระบอกปืนสีดำจ่อไว้ ต่งยู่ที่ไม่เกรงกลัวขณะนี้ได้ผวาจนไม่ไหว อย่างที่คนนั้นพูดไว้ ว่าฟางเหยียนต่อสู้ได้ แต่จะเอาชนะคนมากมายขนาดนี้ได้มั้ย?ยิ่งไปกว่านั้นยังมีปากหลายกระบอกอีกด้วย!แม้แต่หญิงสาวที่อยู่ด้านหลัง ขณะนี้ก็ตกใจจนหน้าซีดแล้ว จิตใจหวาดกลัวมาก คิดในใจวันนี้ต้องตายแน่ๆ!
แต่สิ่งที่ทำให้หญิงสาวทั้งสองประหลาดใจก็คือ ฟางเหยียนนิ่งสงบเกินไปแล้ว นิ่งสงบจนทำให้พวกเธอสงสัย ว่าคนนี้จงใจสงบหรือตกใจจนพูดไม่ออกแล้ว
ปี๊น!
จากเสียงแตรดังขึ้น ชายฉกรรจ์ที่อยู่รอบๆหลบทางให้โดยอัตโนมัติ รถSUVสีดำคันหนึ่งขึบเข้ามาช้าๆ หลังจากที่รถSUVสีดำสองคันจอดลง คนที่เข้าแถวตอนสองแถวยืนตรงทันใด ไม่มี่เอ้อระเหยลอยชายอย่างเมื่อก่อนแล้ว
ลูกพี่ของ‘เซียนกระโดด’ เมื่อเห็นรถคันนี้ อารมณ์บนใบหน้าตื่นเต้นขึ้น ท่าทางนั้นเหมือนกับลูกชายที่ถูกรังแกได้เห็นพ่ออย่างไรอย่างนั้น แทบจะวิ่งหัวซุกหัวซุนไปเปิดประตูให้เขา ท่าทางเคารพนั่นเหมือนกับสุนัขที่เชื่อฟังสุดๆ
“ลูกพี่ครับ รบกวนด้วยครับ”
ลูกพี่หวางหน้านิ่งตบเขาไปหนึ่งฉาด
เพี่ยะ!
คนนั้นไม่รู้ทำไม แต่ยังคงยิ้มให้ “ขอบคุณสำหรับรางวัลครับลูกพี่”
“แม่ง ไม่รู้ว่ากูกำลัง‘ทำธุระ’หรือไง?ถ้ามึงยังผิดนัดกูอีก กูจะทำให้มึงพิการซะ!”
“สบายใจได้ครับลูกพี่ วันนี้ให้ลูกพี่มา นอกจากให้ลูกพี่ได้ระบายความหดหู่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว พวกเรายังเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ไว้ให้ลูกพี่ด้วยนะครับ ผู้หญิงคนนั้นแค่เห็นก็รู้แล้วว่าเป็นสาวในเมือง ลักษณะนั้น รูปร่างนั้น ทำให้ลูกพี่พอใจแน่นอนครับ ลูกพี่มองไปทางนั้นนะครับ”
ก่อนลงจากรถ ลูกพี่หวางได้เห็นผู้หญิงที่แต่งกายทันสมัยคนนั้น ต่อให้เป็นแค่แผ่นหลัง ก็ทำให้เขาเลือดสูบฉีดแล้ว ใช้คำพูดของคนนี้ แค่ดูการแต่งกาย ก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้มาจากในเมือง อย่างพวกเขานักเลงที่วางตัวเป็นใหญ่ ในชนบทที่ผู้คนน้อย ผู้หญิงในเมืองเหมือนกับนางฟ้าบนฟ้าอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ผู้คน เกิดกิเลสขึ้นมา
“ไอ้นี่ถือว่ายังเป็นการเป็นงานอยู่นะ ไป ไปดูกัน”
ทันใดนั้นชายฉกรรจ์คนนั้นเชื่องเหมือนสุนัข นำทางไปด้วยท่าทางสะใจ ลูกพี่หวางถือปืนAKตามไปอย่างช้าๆ ท่าทางนั้นเหมือนกับหมาป่าหิวโหยจ้องแกะน้อยที่เชื่องตัวหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
“หันมา!”
ต่งยู่ได้ยินการสนทนาที่ไม่เข้าหูของสองคน ก็ผิดหวังมาก ไม่ใช่แค่เธอแม้แต่ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆก็เป็นเช่นกัน แต่ฟางเหยียนยังคงนิ่งสงบอย่างเช่นเคย บางครั้งคิ้วของเขาขมวดหนัก บางครั้งก็คลายตัว ไม่ค่อยชอบเหตุการณ์แบบนี้สักเท่าไหร่
“อืม มีอารมณ์ด้วย ฉันชอบผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบนี้ เสี่ยวตงจื่อ วันนี้ทำได้สวย อยากได้อะไร กูให้หมด”
เมื่อชายฉกรรจ์ได้ยินประโยคนี้ ใบหน้ายิ้มดูไม่แย่เหมือนกับดอกเบญจมาศ
ลูกพี่หวางดีใจเป็นอย่างมาก หันหน้าไปดูอย่างไม่รีรอ รอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมได้หุบลงทันใด ใบหน้านั้นดูแย่ยิ่งกว่ากินขี้สิบจินเสียอีก
“เชี่ย!”
จู่ๆก็เปล่งออกมา ทำให้ทุกคนในเหตุการณ์มึนงงไปหมด สมแล้วที่ลูกพี่หวางเป็นคนที่ตรงไปตรงมา ธาตุแท้ของผู้ชาย!
ตอนที่เห็นใบหน้านี้ ลูกพี่หวางเหมือนถูกฟ้าผ่า ยืนนิ่งทันที โดยเฉพาะชุดทหารที่เก่าชุดนี้ ทำให้เขาเงียบกริบ ร่างกายสั่นขึ้นมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
คือเขา!
เป็นเขาได้อย่างไรกัน!
ถ้าจำใบหน้านี้ไม่ได้ยังพอจะให้อภัยได้ แต่ชุดนี้เหมือนกับฝันร้าย ไม่หายไปจากใจของเขา ตั้งแต่ได้เห็นเหตุการณ์ที่ภูเขาเขาทิพย์เมื่อสี่วันก่อน คนนี้ได้ต่อยสัตว์ประหลาดลอยไปไกลหลายเมตร ได้ทิ้งความหวาดกลัวที่ไม่อาจลบล้างไปได้ ถึงขั้นหลายวันมานี้เขาล้วนระลึกถึงผู้ชายที่สวมชุดทหารเก่าแก่ กลัวว่าจะผิดใจต่อเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่องค์นี้ แต่ตอนนี้ เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ได้อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แต่เขากลับทำผิด
คนที่โหดเหี้ยมระดับนี้เป็นคนที่เขาแตะต้องได้เหรอ?
เขามองว่าความช็อกของลูกพี่หวาง ก็คือเห็นสาวสวยจนไปต่อไม่เป็น โดยเฉพาะเสี่ยวตงจื่อ ราวกับเห็นอนาคตของเขาแล้ว
นึกไม่ถึง ว่าการกระทำต่อไปของลูกพี่หวาง จะทำให้คนอ้าปากค้าง หวาดกลัวจนไม่กล้าพูดออกมา
เสียงดังปัก ลูกพี่หวางคุกเข่าลงต่อหน้าฟางเหยียน
ต่งยู่:“……”
ทุกคน:“……”
แม้แต่ฟางเหยียนก็งงก็เหตุการณ์นี้ ค่อยๆขมวดคิ้ว ไม่รู้เลยว่าคนนี้กำลังทำอะไรอยู่