จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 617 ผู้ไร้ยางอายอันดับหนึ่ง
ฟางเหยียนหรี่ตากล่าวว่า “ดูๆแล้ววิสัยทัศน์ของคุณก็ไม่เท่าไหร่นะ?”
มุมปากของต่งยู่แสยะขึ้นเบาๆ แล้วถาม “คุณหมายความว่าไง?”
“คนนี้ไร้ยางอายมาก!ผมไม่เคยเจอคนที่ไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อนเลย สิ่งที่น่าขำที่สุดคือ นึกไม่ถึงว่าคุณคบกับเขาโดยทั่วไป ได้ผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องนะเนี่ย!” ฟางเหยียนหยอกล้อ
นี่เป็นผู้หญิงในไม่กี่คนที่ทำให้ฟางเหยียนหยอกล้อ ต่งยู่ฮึมออกมา แล้วกล่าว “ฉันได้ผู้ชายไม่ได้เรื่องแล้วไง?คุณคิดว่าทุกคนจะเหมือนคุณหรือไง?ฉันจะคบกับคุณ คุณก็ไม่เอา!”
“เหอะๆ!” ฟางเหยียนหัวเราะแห้งๆสองครั้งอย่างเซ็งๆ แล้วไม่พูดอะไร
สายตาของเขามองไปที่หลี่คังอีกครั้ง สำหรับคนที่รักตัวกลัวตายแบบนี้ ฟางเหยียนไม่สนใจ
การกระทำทั้งหมดของคนนี้ ไร้ยางอายถึงขีดสุดจริงๆ
“ไอ้สารเลว ตอนนี้ฉันล่ะอยากจะถีบมันให้ตาย!ไอ้หมาเย็ดแม่ ขยะแขยงชะมัด” ต่งยู่ที่เกรี้ยวกราดอดที่จะสบถออกมาแบบนี้ไม่ได้ คำพูดนี้ทำให้ฟางเหยียนอดที่จะตกใจขึ้นมาไม่ได้!
นี่เพียงพอที่จะทำให้ต่งยู่โมโหได้จริงๆ คนนี้พูดเต็มปากเต็มคำว่าตัวเองเป็นคุณชายคังอะไรนั่น ที่บ้านมีเงินยังไงๆ กลับนึกไม่ถึงว่าจะเป็นต้นตุ๋นที่หลอกลวง สำคัญที่สุดคือตัวเองหัวแหลมขนาดนี้ยังถูกเขาหลอกเลย
และที่อับอายยิ่งกว่าคือ แม้แต่พ่อของตัวเอง ต่งโป๋เหวินที่มีชื่อเสียงเลื่องลือยังถูกหลอก
สิ่งที่น่าโมโหไม่เพียงแค่นี้ คำพูดต่อไปของผู้ชายคนนั้น ทำให้ต่งยู่แทบจะเข้าไปขย้ำ ถลกหนังออกมากินเลยทีเดียว
หลี่คังยกยาถ้วยหนึ่งมาที่ด้านหน้าเตียงของต่งโป๋เหวิน เขาพูดกับต่งโป๋เหวินว่า “ลุงต่ง นี่คือยาที่ผมได้มาจากภูเขาหวงเฮ่อ คุณลุงดื่มเถอะครับ!”
ต่งโป๋เหวินถอนหายใจ กำลังจะดื่ม ยาถึงปาก กลับถูกหลี่คังคว้ากลับไป
หลี่คังหัวเราะอิๆแล้วกล่าว “ลุงต่ง ก่อนที่จะดื่มยาตัวนี้ คุณลุงดูเอกสารนี้หน่อยนะครับ นี่เป็นสัญญาเกี่ยวกับโอนทรัพย์สินตระกูลต่งฉบับหนึ่ง แน่นอน ผู้ได้รับผลประโยชน์คือผม ใช่ คุณไม่ได้ฟังผิดไปหรอก ผมเอง อย่าเพิ่งร้อนรน ระวังอีกแป๊บจะกระอักเลือดตาย เรื่องดีจะกลายเป็นความอาลัย แบบนี้จะไม่ดีนะครับ”
แกร๊ก!
ถ้วยกระเบื้องตกลงบนพื้น ต่งโป๋เหวินก็หล่นจากเตียงทันใด คำรามอย่างหยุดไม่อยู่ “หลี่คัง ว่าแล้วว่าแกไม่ใช่คนดีอะไร นึกไม่ถึงว่าแกจะทำเรื่องแบบนี้ได้!แกไอ้สารเลว!”
หลี่คังหัวเราะออกมา แล้วกล่าว “ลุงต่ง ฉันบอกแล้วนะ ว่าอย่าร้อนรนขนาดนั้น!ช่วยไม่ได้ ใครให้ฉันเป็นหนี้มากขนาดนี้ ฉันเป็นลูกชายของตระกูลหลี่จริง แต่เพราะเป็นหนี้ไม่น้อย จึงได้ถูกตระกูลหลี่ฆ่าชื่อออกอย่างลับๆ แกคิดว่าฉันอยากเป็นลูกชายแกจริงเหรอ?ถ้าไม่ใช่เห็นว่าตระกูลแกมีวัตถุโบราณที่มากขนาดนั้น กูจะดูแลมึงจนถึงวันนี้? แน่นอน สำหรับลูกสาวแก ฉันอยากได้มันจริงๆนะ แต่เสียดาย ที่ไม่ได้ ฉันบอกแกอย่างตรงๆเลยก็ได้ ว่าลูกสาวแกหนะถูกลักพาตัวไปจริงๆแล้ว และฉันตั้งใจไม่ช่วยมัน อยากรู้มั้ยว่าทำไม?”
นึกไม่ถึงว่าต่งโป๋เหวินจะไออย่างรุนแรงขึ้นมา เลือดสีแดงได้ออกมาจากปากของเขาอีกครั้ง จะเห็นได้ว่า เขาโมโหไม่น้อยเลยจริงๆ แต่เขายังคงถามดุดันว่า “ทำไม?”
หลี่คังเห็นต่งโป๋เหวินแบบนี้ ดูเหมือนเขาจะดีใจมาก วันนี้เขารอมานานมาก ถ้าไม่ใช่พี่เปียวเร่งรัดทวงมา เขาจะปล่อยไปอีกสองวันค่อยทำแบบนั้น เป็นคนที่เสแสร้งต่อไปอีกสองวัน แต่ช่วยไม่ได้ เขายั่วโมโหพี่เปียวไม่ได้!
แล้วพี่เปียวเป็นใคร?
ลูกน้องของหลงต้าเป่า นักเลงตัวฉกาจ ครั้งที่แล้วตอนที่ฟางเหยียนจัดการสามีของน้าของเขา หลงเสี่ยวเฟิงพาอาเปียวเตรียมจะไปหาเรื่องฟางเหยียน สุดท้ายเมื่อเห็นฟางเหยียนจัดการกาวหรง ก็ถอดใจกลางคัน
หลงต้าเป่านั่นเป็นใครอีก?นักธุรกิจชั้นนำที่มีชื่อเสียงเลื่องลือของเจียงตู เฟรนด์ไชส์มากมาย!เรื่องเงินไม่ต้องพูด ความสัมพันธ์ก็ไม่ต้องพูดมากเช่นกัน
เพราะเขาผิดใจกับอาเปียวลูกน้องของหลงต้าเป่า ตระกูลหลี่จึงได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับเจ้าสวะนี่
“ทำไม?” ต่งโป๋เหวินถามอย่างตะคอกออกมาอีกครั้ง
“เพราะฉันแพ้พวกมันไง ฮ่าๆๆ……” หลี่คังหัวเราะเยือกเย็นออกมาโดยตรง!
“เอาล่ะ ไม่พูดพร่ำเพื่อแล้ว ตอนนี้แกจะเซ็นชื่อได้แล้วยัง?” หลี่คังยืนสัญญานั้นไปด้านหน้าอีกครั้ง
“ชั้นต่ำ!”
“ชั้นต่ำ?” หลี่คังดูแคลน “แค่มีเงิน เป็นชั้นต่ำแล้วไง?”
“ตาแก่ต่ง รู้มั้ยทำไมฉันเลือกที่จะมาตอนกลางคืน?ดูจากแววตาของแกน่าจะรู้แล้วนะ ก็คือฆ่าแกโดยไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้ยังไงล่ะ แกสบายใจได้ ไม่มีใครรู้ว่าฉันเป็นคนทำ ฉันจะให้ศพของแกเน่าอยู่กับบ้าน ค่อยๆแปรสภาพเป็นกระดูกขาว แล้วสิ่งของที่นี่ของแก ฉันเอาไปขายก่อนสองอย่าง บรรเทาเงินที่ฉันติดหนี้ไว้ไปก่อน ส่วนเรื่องมรดก หลังจากที่มีคนเจอแกแล้วฉันจะแสร้งว่าเพิ่งรู้เรื่อง แกผู้เฒ่า ปกติก็ไม่มีเพื่อน จุดนี้ฉันรู้ดีมาก ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนมา ต่อให้มีคนมา ฉันก็จะเตรียมการไว้ นี่ถือเป็นสิ่งตอบแทนที่ฉันดูแลแกมาในช่วงหลายวันนี้”
นี่กำลังทำให้ต่งโป๋เหวินโมโหจนคลั่งตาย ยังไงก็ตามต่งโป๋เหวินก็เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของประเทศหวา คนที่คนมากมายเลื่อมใส คนจำนวนมากรู้สึกคนหนึ่งที่ลึกลับ จะมาตกอยู่ในมือของคนแบบนี้ได้อย่างไรกัน
ทันใดนั้น น้ำตาและน้ำมูกไหลออกมาพร้อมกัน ต่งโป๋เหวินเกลียด แทบจะอยากฆ่าหลี่คังแล้ว
เขาต้องทำอะไรสักอย่าง ต้องทำ!
เทียบกับร่างกายที่ทุกข์ทรมาน เขายิ่งอยากล้างแค้นสารเลวนี่มากกว่า!
เนื่องจากหลี่คังตื่นเต้นเกินไป ไม่ทันได้สังเกตความผิดปกติของต่งโป๋เหวิน เมื่อเขารู้สึกตัวขึ้นมา หน้าถอดสีอย่างมาก คิดจะหยุดต่งโป๋เหวินไว้ก็ไม่ทันแล้ว เขาพูดโดยไม่รู้ตัวว่า “ไม่นะ!”
ปัง!
หลี่คังถูกชนล้มลงกับพื้น!
“เชี่ย!” หลี่คังอดคำรามออกมาไม่ได้
แต่วินาทีต่อมา เขาก็แข็งทื่อไป
เห็นที่ประตูมีสองคนเดินเข้ามา หญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง!
แว็บนั้นที่เห็นสองคนนี้ เขาก็ตัวสั่น ใบหน้าเหมือนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น
“หลี่คัง คุณจะทำอะไร?
หลี่คังอ้าปากค้าง อารมณ์ช็อกได้แปรเป็นร้อนรนทันที ใบหน้ากินขี้นั้นได้กลายเป็นท่าทางตื้นตันใจ “เสี่ยวยู่ คุณกลับมาแล้ว! และแล้วคุณก็กลับมาเสียที คุณรู้มั้ย ผมใช้แรงคนมากมายขนาดไหน พระเจ้าช่วยให้ประสบความสำเร็จเสียที ดูๆแล้วความซื่อตรงของผมซาบซึ้งใจพระเจ้าเข้าแล้วล่ะ คุณกลับมาได้ก็ดี กลับมาได้ก็ดี”
ตกอยู่ในภวังค์จนถอนตัวไม่ขึ้น นึกไม่ถึงว่าหลี่คังจะร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลออกมา น้ำตาไม่น้อยยังไหลลงบนร่างกายของต่งยู่ ทำให้เธออดที่จะขยะแขยงไม่ได้ คนๆหนึ่งจะไร้ยางอายได้ขนาดไหน ไตร่ตรองจากการกระทำของหลี่คังได้!
จะว่าไป เขามองต่งยู่เป็นควายเหรอ?เขามองว่าต่งยู่ไม่รู้อะไรเลยเหรอ?
เจ้านี่ไม่ไปแสดงหนัง ช่างน่าเสียดายจริงๆ ถ้าไปถ่ายหนัง การเปลี่ยนสีหน้าทันใดอาจจะได้รับรางวัลออสการ์ก็ได้นะ
“คุณคิดว่าฉันเป็นควายหรือไง?” ต่งยู่หน้าตาจริงจัง ยกมือขึ้นมาตบไปหนึ่งฉาด
เพี่ยะ!
หลี่คังถูกตบหนึ่งฉาดอย่าวรวดเร็ว ถูกตบจนมึนไปทันใด จับหน้าของตัวเองใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่คาดคิด
“คุณคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยเหรอ?จะบอกให้นะ ฉันได้ยินหมดทุกอย่างแล้ว แกไอ้สวะ ไอ้หมาหัวเน่า!ไร้ยางอายสุดๆ!ไร้ยางอายสุดๆ!” พูดพลาง ต่งยู่ได้ยกมือขึ้นมาจะตบไปอีกฉาดอย่างแรงๆ
แต่ถูกหลี่คังจับไว้แน่น เขาส่งเสียงเหอะออกมา แล้วตวาด “คุณบ้าเหรอ?ต่งยู่ คำพูดเมื่อกี๊เป็นแค่การล้อเล่นนะ ผมหลี่คังพฤติกรรมยังไง คุณยังไม่รู้อีกเหรอ?”
ถ้าพูดว่าไร้ยางอาย หลี่คังบอกว่าตัวเองเป็นอันดับสอง มีใครก็บอกว่าตัวเองเป็นที่หนึ่งมั้ย?