จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 618 อยากฆ่าก็ฆ่า
ถึงตอนนี้แล้ว นึกไม่ถึงว่าหลี่คังยังไม่ยอมรับคำพูดของตัวเองอีก
“แกมองว่าฉันเป็นควายจริงๆใช่มั้ย?” ต่งยู่โมโห ยกมือขึ้นมาจะตบอีกฉาด
“พอแล้ว!” หลี่คังจับมือของต่งยู่อีกครั้ง แล้วกล่าว “คุณทำอะไรเนี่ย คุณรู้มั้ยถ้าไม่ใช่เพราะผม คุณจะกลับมาได้มั้ย?ที่หลายวันนี้คุณกลับมาได้ ล้วนเป็นเพราะผมใช้ความสัมพันธ์ทั้งนั้น คุณรู้มั้ย?เพื่อคุณ ผมไปกู้ยืมดอกเบี้ยสูงมา ถ้าไม่ใช่ เพื่อคืนเงินดอกเบี้ยสูงผมจึงจำใจต้องเดินเส้นทางนี้”
“เมื่อกี๊ผมจนปัญญาจึงได้ล้อเล่นกับคุณลุงไป ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว ให้ผมยี่สิบล้าน ให้ผมคืนเงินไปก่อนแล้วกัน!”
เชรด!
นี่ยังอ้อมกลับมาได้อีก ฟางเหยียนเลื่อมใสมาก ต้องพูดเลยล่ะว่าหลี่คังแม่งเป็นแมนจริงๆ ถึงขนาดนี้แล้ว ยังพูดคำพูดเนรคุณแบบนี้ออกมาอย่างไม่สะทกสะท้านอีกด้วย
“อ้อ เขาคือใครเหรอ?” หลี่คังมองฟางเหยียนแล้วถาม
“ปัง!” หนึ่งหมัด ฟางเหยียนใช้เพียงหมัดเดียว ร่างกายของหลี่คังก็ล้มลงไปกับพื้นโดยตรง เขาไม่อยากฟังคนนี้พูดแล้ว และฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว นี่น่าจะเป็นคนที่ไร้ยางอายที่สุดที่เขาเจอมาในชีวิตแล้วแหละ!
“น้องฟาง คุณเองเหรอ……” ต่งโป๋เหวินสั่นไปทั้งตัว จ้องฟางเหยียนแล้วถาม จากนั้นแววตาของเขาก็มองไปที่ต่งยู่!ลูกสาวของเขา เธอกลับมาแล้ว!เขาตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า “เสี่ยวยู่ ใช่ ใช่แกมั้ย?”
“พ่อ หนูเองค่ะ หนูคือเสี่ยวยู่ พ่อทรมานแล้ว หนู หนูกลับมาแล้วค่ะ” ต่งยู่รีบวิ่งไปด้านหน้าพยุงต่งโป๋เหวินขึ้น สองพ่อลูกกอดเข้าด้วยกัน ทันใดนั้นก็ร้องไห้ฟูมฟายออกมา
ต่งยู่เป็นความหวังของต่งโป๋เหวินทั้งหมด ตอนที่ได้ยินว่าต่งยู่ตาย เขาก็ไม่อยากมีชีวิตต่อไปแล้ว
ไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่าต่งยู่ไม่ตาย!
เพียงแค่ลูกสาวของเขายังไม่ตาย เขาก็จะไม่ตาย!
ขณะนี้ ทั้งห้องมีเพียงคู่พ่อลูกที่รักกันมากคู่หนึ่งกำลังกอดกันอยู่ สิ่งอื่นๆล้วนเป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้น
เมื่อหลี่คังดึงสติกลับมาได้ เขาสะบัดหัว มองฉากที่อยู่ตรงหน้า เกรี้ยวกราดขึ้นทันใด แผนการของเขาล่มโดยสิ้นเชิงแล้ว แล้วเมื่อกี๊คนนั้นก็ลงมือต่อยตนอีกด้วย!นึกไม่ถึงว่าคนนั้นจะลงมือต่อยเขา!
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เขาก็คำรามออกมาทันที
เดิมทีพ่อลูกเปรมปรีดิ์พร้อมหน้าพร้อมตากัน กลับถูกเสียงคำรามของหลี่คังขัดจังหวะ
เขาชี้ต่งยู่ ตวาดอย่างโหดเหี้ยม “มิน่าล่ะที่คุณเสแสร้งงามบริสุทธิ์ทั้งกายใจ ที่แท้ก็แอบเลี้ยงไก่อ่อนนั่นอย่างลับๆนี่เอง แกกล้าต่อยฉัน รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?”
“แกเป็นใคร?” ฟางเหยียนถามอย่างเย็นชา
ฟางเหยียนไม่ซีเรียสที่จะปลิดชีพเขาเสียตอนนี้ เมื่อกี๊เหลือทางไว้ให้เขามีชีวิตอยู่ ก็เป็นเพราะเขาอยากรู้ว่าคนที่อยู่ในสายนั่นเป็นใคร!การกระทำทั้งหมดของหลี่คัง ได้กระทบฟางเส้นสุดท้ายของฟางเหยียนแล้ว เขาไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
หลี่คังส่งเสียงเหอะออกมา แล้วกล่าว “ฉันคือคุณชายของตระกูลหลี่ รู้จักตระกูลหลี่มั้ย?”
ตระกูลหลี่เป็นเพียงตระกูลชั้นสอง ไม่มีอนาคตอะไรทั้งนั้น!
ฟางเหยียนส่ายหน้ากล่าว “ไม่รู้!”
“เชี่ย!” หลี่คังสบถออกมา ต่อให้ตระกูลหลี่ไม่ดียังไงก็เป็นตระกูลชั้นสองของเจียงตู นึกไม่ถึงว่าเขาถูก‘ขอทาน’คนหนึ่งดูหมิ่นเข้าให้แล้ว!จะให้เขาทนได้อย่างไร
เขากำหมัด กัดฟันจะล้างแค้น!
ฟางเหยียนดูแคลน แล้วกล่าว “พอล่ะ แกไอ้สวะอย่าลงมือเลย เรียกคนได้ก็เรียกเหอะ!ถ้าเรียกไม่ได้ก็อย่าเสียเวลาของฉัน!”
“ไสหัวไป!” หลี่คังกำหมัดต่อยไป
ฟางเหยียนส่ายหน้าเบาๆ หมดคำพูดกับคนนี้สุดๆ
ในตอนที่หมัดจะต่อยไปที่หน้าของเขา เขาหันตัวเบาๆ หลับหมัดของหลี่คังอย่างเงียบๆ
แต่หลี่คังตั้งหลักไม่ได้ ล้มลงกับพื้นท่าสุนัขกินขี้โดยตรง
ฟางเหยียนเดินไปอย่างไม่ใส่ใจ ยกขาขึ้นวางบนหลังของเขา
หลี่คังเกรี้ยวกราดทันใด “แกจะทำอะไร?”
เพิ่งพูดจบ เขารู้สึกเพียงส่วนหลังของตนหนักเป็นห้าร้อยโล เหมือนกับมีแผ่นเหล็กที่หนักมากแผ่นหนึ่งทับไว้
นั่นแค่ขาเดียวนะ ขาเดียวจะมีพลังมากขนาดนั้นเลยเหรอ?
“ในเมื่อแกอยากต่อสู้ งั้นก็มา!”
พูดจบ ฟางเหยียนโค้งตัวลงไป จับผมยาวของหลี่คังโดยตรง
จากนั้นเขาเอาศีรษะของหลี่คังโขลกกับพื้นอย่างแรง ปังๆๆดังขึ้นหลายครั้ง ความรู้สึกของเนื้อหนังกระแทกเข้ากับพื้น มันทรมานจริงๆ!
“อ้า……” ไม่นาน หลี่คังโอดครวญเหมือนหมูถูกฆ่าก็มิปราณ!
กระแทกไปหลายสิบครั้ง ศีรษะของหลี่คังได้ปรากฏเป็นดาวขึ้น เขารู้สึกเพียงโลกหมุน ตัวเองเหมือนกับจะตายแล้ว บนพื้นมีเลือด บนศีรษะของเขาก็มีเลือดด้วยเป็นธรรมดา
ต่งยู่ได้ป้อนยาที่เต๋ายอดเซียนภูเขาทิพย์ให้เธอมาให้กับต่งโป๋เหวิน
ไม่นาน นึกไม่ถึงว่าทันใดนั้นต่งโป๋เหวินก็ฟื้นกลับมาทันใด นึกไม่ถึงว่าเขาจะหายแล้ว
ความรู้สึกซมๆหายไปแล้ว การทำงานของร่างกายก็เหมือนกับเพิ่มขึ้นอย่างสุดขีดทันที
นี่มันยาเซียนหรือยาวิเศษกันนะ? ทำไมเจ๋งขนาดนั้น?
แต่ตอนนี้ต่งโป๋เหวินไม่มีเวลามาถามเรื่องนี้ เขาด่าหลี่คังยกใหญ่ว่า “ไอ้หลี่คังหมาเย็ดแม่ เสียใจที่ฉันคิดว่าแกไม่เลว หลังจากที่ต่งยู่ถูกลักพาตัวแล้วทุ่มเทแรงใจแรงกาย ยุ่งมาก ไม่คาดคิดว่าแกจะใช้วิธีที่สกปรกแบบนี้ได้ กูตาบอดจริงๆ”
ถูกต่งโป๋เหวินด่าไปขนาดนั้น หลี่คังงงไปยกใหญ่
เขาจ้องต่องโป๋เหวินอย่างประหลาดใจ อดไม่ได้ที่จะตะลึงขึ้นมา ต่งโป๋เหวินที่เมื่อกี๊จะตายแหล่มิตายแหล่ นึกไม่ถึงว่าแว็บเดียวจะเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน ไม่พูดว่าไม่มีความโมโหของเมื่อก่อนไม่ว่า ยังเปลี่ยนเป็นยิ่งอยู่ยิ่งฮึกเหิมเหมือนมังกรและเสือ
เหมือนกับ เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน!
ต่งโป๋เหวินไม่เป็นอะไร ต่อไปก็เป็นเขาที่มีปัญหาแล้วล่ะ!
ที่แท้ เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ต่งโป๋เหวินก็ได้เดินมา ท่าทางที่เกรี้ยวกราดแทบจะฆ่าจะแกงเขาแล้ว
“อยากได้ชีวิตฉัน ขอโทษนะ กูจะฆ่ามึงก่อน” ต่งโป๋เหวินตะคอก
จากนั้นเดินไปข้างๆของหลี่คัง แล้วกล่าว “น้องฟาง ให้ผมต่อยสองหมัด ระบายความอัดอั้นของผมหน่อยนะ!
“อืม!” ฟางเหยียนไม่มีเหตุผลปฏิเสธ รีบถอยกลับไป
จะว่าไปก็แปลก ยาตัวนี้ดีเยี่ยมจริง แว็บเดียวก็ทำให้ต่งโป๋เหวินกลับมามีชีวิตชีวาแล้ว สมแล้วที่เป็นผู้บำเพ็ญตน ยาตัวนี้ไม่เหมือนกับยาของคนทั่วไป
สำคัญที่สุดคือโรคในร่างกายของต่งโป๋เหวินไม่ใช่โรคจริง แต่เป็นโรคเทียม!
ปัง!
เสียงอุดอู้ดังขึ้น หลี่คังส่งเสียงโอดครวญเหมือนเสียงฆ่าหมู
ไม่รอให้เขาได้สติกลับมา ต่งโป๋เหวินปล่อยหมัดโจมตีที่ใบหน้าตรงๆอีกครั้ง เขาได้พลิกตัวของหลี่คังหันมาตรงหน้าแล้ว
จากนั้นได้ต่อยไปหลายหมัด ทุกหมัดล้วนใช้พลังทั้งหมด ทุกหมัดต่อยไปที่ศีรษะของหลี่คัง นี่เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วินาที เสียงของหลี่คังเล็กมาก ถึงขั้นหลังๆไปทำได้เพียงร้องฮือๆๆ ทุกการอ้าปาก จะกระอักเลือดออกมา ใบหน้าบวมใหญ่เหมือนหัวหมู
นานๆฟางเหยียนแสยะยิ้มออกมา สมแล้วที่ต่งโป๋เหวินเป็นยุทธภพเก่า จัดการได้อย่างชิลล์ๆ!
เห็นหลี่คังถูกต่อยรัวๆ ใบหน้าของต่งยู่ก็แสดงความปีติยินดีออกมา! ถ้าไม่ใช่ฟางเหยียนขวางไว้ที่นี่ เธอแทบจะอยากเข้าไปต่อยหลี่คังสักยกแล้ว!
ไม่นาน ต่งโป๋เหวินหยุดลง มือของเขาต่อยจนบวมขึ้นมา แต่พลังของเขาไม่หมดไป
ต่งโป๋เหวินมองหลี่คังที่นอนไม่ขยับอยู่บนพื้น ถุยน้ำลายลงไป แล้วกล่าว “เจ้านี่ควรฆ่ามันจริงๆ ฉันล่ะอยากจะฆ่ามันให้ได้เดี๋ยวนี้!”
“ตอนนี้คุณฆ่าเขาได้แล้ว!” ฟางเหยียนส่งสัญญาณอย่างเย็นชา
“หา!” ต่งโป๋เหวินตาลุกโต จากนั้นส่ายหน้ากล่าว “ไม่ดีมั้ง! ส่งให้คนของทีมรักษาความปลอดภัยจัดการดีกว่า ผมไม่อยากเข้าไปในนั้นหลายปีเพราะไอ้สวะนี่ มันยังไม่มีค่าขนาดนั้น”
“ไม่เป็นไรครับ คุณอยากฆ่าก็ฆ่า! ไม่มีใครมาหาเรื่องคุณได้” ฟางเหยียนกล่าวอย่างเด็ดขาด