จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 661 เป็นเกียรติสูงสุด
นี่มันเวลาไหนแล้ว เขายังจะเก๊กหล่ออีก!เวินหลานเริ่มโมโหเล็กน้อย แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร ท่าทางก็ร้อนรน ยังจะโทรศัพท์ไปอีก
“เชื่อในตัวพี่เหยียนสิ คนพวกนี้ ไม่พอให้พี่เหยียนตีหรอก” ฟางฟังบอกเป็นนัยว่าให้เขาวางโทรศัพท์ลง พร้อมกับยิ้มหวานๆ
“ไอ้พี่น้องสองคนนี้ก็นะ!”
เวินหลานไม่เพียงหายกังวล กลับยิ่งมีหน้าโมโหกว่าเดิม ร้อนใจอย่างมาก
ยิ่งเป็นกังวลยิ่งเกิดความวุ่นวาย บวกกับที่เวินหลานไม่เคยเห็นฝีมือของฟางเหยียนมาก่อน จะมีความกังวลอยู่บ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา
แต่ฟางฟังกลับไม่เหมือนกัน เธอมีความมั่นใจกับฝีมือของฟางเหยียนมาก แม้แต่สัตว์เฝ้าบ้านในตำนานอย่างขวังซือก็ยังสู้เขาไม่ได้ โดยเฉพาะพวกผู้หญิง10คนสวมหน้ากากลายมังกรที่พ่อตนเองบอกไว้ ว่าเกือบจะฆ่าล้างตระกูลฟางไปจนหมด อุกอาจมาก แต่สุดแล้วน่ะหรือ? หญิงสวมหน้ากากลายมังกรผู้เก่งกาจ ก็ไม่ได้ถูกฝ่ายตรงข้ามบีบคอตายไปหมดหรอกหรือ?
ได้ยินพ่อบอกว่า ทั้ง10คนนั้นล้วนเป็นนินจา ทั้งยังเป็นระดับต้าชี่ด้วย ถึงแม้เธอจะไม่ค่อยรู้เรื่องระดับของนินจา แต่ว่าสามารถมีฝีมือเสมอขวังซือได้ ก็เพียงพอให้รู้แล้วว่าเก่งกาจพอตัว อีกอย่าง เอาใครสักคนเพียงคนเดียว ก็สามารถกวาดล้างทั้งเจียงตูได้เลย เอามาจัดการกับพวกไร้ระดับพวกนี้ ก็เหมือนกับใช้ปืนใหญ่ยิงยุงตัวหนึ่งเท่านั้น ใช้ไม่เหมาะกับฝีมือที่มี
ฟางฟังรู้ดี เจิ้งชงก็รู้ผิดแล้วไม่ยอมแก้ไข ไม่เพียงไม่ฟัง แถมยังได้คืบจะเอาศอก อาศัยว่าที่บ้านมีเงินมีอำนาจ แล้วก็ลืมเหตุผลอะไรไปหมด นี่ถ้าเป็นคนอื่น บางทีก็อาจจะยอมขอโทษไปจริงแล้วๆ แต่ว่าครั้งนี้ เกรงว่าเจิ้งชงคงจะต้องรู้สึกผิดไปทั้งชีวิต
เพราะว่าคนที่เขาจะแก้แค้นนั้น ไม่ต้องพูดถึงตัวเขาเองหรอก ต่อให้เป็นเจิ้งอู่จิ้นพ่อของเขาเอง ก็ได้แต่ต้องคุกเข่าหมอบกราบเหมือนกัน
พอผ่านไป ฟางฟังก็รู้สึกไว้ทุกข์ให้กับเจิ้งชงในใจ
ไปหาเรื่องใครไม่ว่า แต่จะมาหาเรื่องกับฟางเหยียน
ฟางเหยียนเป็นคนที่หาเรื่องได้ง่ายๆ งั้นหรือ?
ให้โอกาสแล้ว ไม่รักษาไว้เอง สมหน้าน้ำ!
คนที่เข้าไปในมุงข้างรถเก๋งยี่ห้อred flag มีมากขึ้นเรื่อยๆ คนขับรถเริ่มมือใบหน้าไม่พอใจ ถ้าทำเสียหน้าที่ไปตอนนี้ งั้นก็เป็นทำลายอาชีพตนเองน่ะสิ ถ้ากลัวกับสถานการณ์แค่นี้ล่ะก็ งั้นเขาก็ควรออกจากคำว่า เกียรติยศ ไปได้เลย กลับไปทำนาที่บ้านได้เลย บนรถของตนเองเป็นถึงเทพแห่งสงครามผู้ไม่เคยพ่ายแพ้เชียวนะ เป็นเทพที่มีความเกรียงไกรหาใครเปรียบ ผลงานของชายคนนั้น ไม่มีใครเทียบได้
แต่ว่าไม่พอใจก็ส่วนไม่พอใจ ความจริงใจก็ต้องแสดงออกมาเหมือนกัน
“จอมพลโผ้จวิน คุณรอบนรถสักเดี๋ยวนะครับ”
“ไม่ต้อง”
ฟางเหยียนมองไปที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตที่อยู่ไม่ไกล ในใจก็หัวเราะอย่างมาก ถนนเส้นนี้เหมาะกับการแฝงตัวของมือซุ่มโจมตีอย่างมาก ขอเพียงออกจากถนนเส้นนี้ไปได้ แล้วเลี้ยวซ้ายก็ถึงมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตแล้ว ถ้าอยากจะลงมือคงเป็นไปไม่ได้ เลือกที่นี่ ก็คงจะเป็นโอกาสที่จะโจมตีกลับที่ดีที่สุด
ในเมื่อรนหาที่ตายเอง งั้นฟางเหยียนก็จะสนองเขาเสียหน่อยแล้วกัน
ฟางฟังเห็นว่าฟางเหยียนเป็นแบบนี้ ก็รู้ดีว่าญาติผู้พี่ตนเองโกรธเข้าจริงๆ แล้ว
รถยี่ห้อGhibliขับเข้ามาสามคัน พอเจิ้งชงลงรถ คนที่มุงอยู่รอบๆ รถเก๋งred flag ก็แยกเปิดทางเดิน
“คุณชายเจิ้ง!”
“คุณชายเจิ้ง!”
เวลานี้ เจิ้งชงกำลังได้ใจ ใบหน้ายิ้มแย้ม พอเปลี่ยนมาเรียกอย่างเคารพแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกว่าได้อยู่เหนือคน ราวกับคนตรงหน้าพวกนี้ ล้วนเป็นมดแมลงตัวเล็กๆ
พอเขาเดินไปทางรถเก๋งred flag ก็อดกลั้นความผยองไว้ไม่ได้ เขาแทบจะเป็นคนที่ตัดสินความเป็นตายของคนอื่นได้เลย สำหรับเขาแล้ว ฟางเหยียนคงจะดีใจมาก เขาใช้คนมากมายเพื่อฆ่าเขา ก็ถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูงก่อนตาย
ถ้าไม่ได้แก่รถเก๋งred flagคนนี้ เขาก็ไม่อยากจะออกมาแบบนี้หรอก หารถสักคันไปขับชนฟางเหยียนเสีย แล้วก็หาคนไปรุมตะลุมบอนกระทืบซ้ำซ้ำอีก แบบนี้ก็จบแล้ว
ตระกูลฟางนั้นไม่อาจจะไปหาเรื่องได้ ฟางฟังก็หาเรื่องด้วยไม่ได้ และยิ่งกว่านั้นคนข้างในรถเก๋งred flag ก็ยิ่งหาเรื่องด้วยไม่ได้ ถ้าไม่ใช้เพราะไม่มีทางเลือกแล้ว เขาก็จบการต่อสู้นี้ไปแล้ว แต่แบบนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะหาวิธีที่น่าสนุกได้แล้ว
ความรู้สึกที่ได้ควบคุม และเล่นกับชีวิตคนอื่น มันก็เป็นการเสพสุขอย่างหนึ่ง!
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คืนนี้ฟางเหยียนจะต้องตาย ใครก็มาช่วยเขาไม่ได้!