จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 678 เทียนขุย เข้าสู่มาร
ก้าวเดียว ความเกรงขามมาถึง!
บรรยากาศในเหตุการณ์เคร่งเครียดขึ้น และเทียนขุยเหมือนกับภูเขาลูกหนึ่งกดทับไว้บนร่างกายของเหอวี่เฉวียน นอกจากรูปร่างสูงใหญ่ของเทียนขุยที่เหมือนภูเขา ทำให้เหอวี่เฉวียนกดดันมากคือตัวตนของเทียนขุย
รองผู้นำสำนักเจ็ดพิฆาต!
อยู่ใต้คนๆเดียวแต่อยู่เหนือคนนับหมื่น
‘นายพล’มารีสอร์หยูฉวน เพียงพอที่จะเห็นการตัดสินใจของจอมพลโผ้จวินแล้ว!
เหอวี่เฉวียนกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “รองผู้นำเทียนขุยครับ ผมไม่ได้ล่วงเกินสำนักเจ็ดพิฆาตนะครับ ผมเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ทำผิดมากมายได้ขนาดนี้ ขอรองผู้นำเทียนขุยเข้าใจด้วยนะครับ”
คำพูดนี้พูดได้อย่างถูกต้อง ไม่ได้ยอมรับความผิด และไม่ได้ผิดใจกับเทียนขุย เหอวี่เฉวียนเข้าใจแต่แสร้งทำเป็นมึนงง เขายังคงอยากรู้ว่าจอมพลโผ้จวิน มาเพื่อตราประทับเทียนซือจริงๆหรือไม่!
ถึงแม้การปรากฏตัวของเทียนขุยอีกทั้ง‘การแนะนำตัวเอง’ บ่งบอกตัวตน แต่เหอวี่เฉวียนยังคงอยากแน่ใจเป็นครั้งสุดท้าย เขาไม่เต็มใจ และไม่อยากเชื่อว่าจอมพลโผ้จวินจะทำลายล้างสำนักเทียนซือได้
เทียนขุยไม่พูดใดๆ ผู้หญิงที่อยู่ข้างเขากลับเอ่ยปากออกมา
“ผู้อาวุโสเหอ คุณนี่เขี้ยวลากดินจริงๆนะ ”ฉันก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังคุณ เอาตราประทับเทียนซือมา แล้วจะไว้ชีวิตคุณ แล้วฉันจะพยายามชมต่อหน้าจอมพลโผ้จวินสักสองสามประโยค รับประกันคนอื่นจะมีชีวิตรอด!
“ฮ่าๆๆ……” เหอวี่เฉวียนหัวเราะอย่างโศกเศร้า หัวเราะไปหัวเราะมาน้ำตาไปลงมา ในใจเหมือนโดนทิ่มแทง
ที่แท้ก็มาเพื่อตราประทับเทียนซือ!
เสียสละชีวิตคนหนึ่งเพื่อทุกคนปลอดภัย นี่เป็นสิ่งที่เหอวี่เฉวียนยินดีที่จะเห็น แต่ จะให้เอาตราประทับเทียนซือให้ไม่มีทาง
“ตราประทับเทียนซือคืออะไร?” เหอวี่เฉวียนหน้าตาสงสัย สีหน้าสงบนิ่ง
“ผู้อาวุโสเหอ เอาตรงๆฝีมือการแสดงของคุณนี่เยี่ยมยอดมาก แต่คุณรู้มั้ยว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับใครอยู่ เทพแห่งสงครามประเทศหวา จอมพลโผ้จวิน คุณคิดจะล้างไพ่เหรอ?คุณอย่าลืมนะ จอมพลที่เก่งกาจคุณหลอกลวงได้เหรอ อยากลองการไต่สวนของสำนักเจ็ดพิฆาตใช่มั้ย?”
เหอวี่เฉวียนช็อกกับสิ่งนี้ แม้เขาจะไม่เข้าใจการไต่สวน แต่ก็ไม่ใช่คนโง่ อย่าว่าแต่การไต่สวนของสำนักเจ็ดพิฆาตเลย ต่อให้เป็นการไต่สวนของกองทัพทั่วไปก็ทำให้คนอกสั่นขวัญหายแล้ว
สำนักเจ็ดพิฆาตแกร่งกล้ามหาศาล แล้วการไต่สวนของเขาจะแย่มั้ย?
ต่างคนต่างมีหน้าที่ของตัวเอง รองผู้นำเทียนขุย‘รับคำสั่ง’ให้มาทำลายรีสอร์ทหยูฉวน เป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง แต่เขาเหอวี่เฉวียนรับตราประทับเทียนซือที่ส่งต่อมาจากอาจารย์ก็เป็นหน้าที่อย่างหนึ่ง เข้าใจไม่กล้าต่อต้านคำสั่งของจอมพลโผ้จวินอย่างเปิดเผย
หน้าที่สองอย่างชนเข้าด้วยกัน สงครามก็ยากจะเลี่ยงได้
เขาเห็นอนาคตของตัวเอง ถอยไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่ได้เป็นคนสับสน แต่คำสั่งของอาจารย์ยากจะขัดได้ จะให้ตราประทับเทียนซือไม่ได้ ต่อให้พังทลาย เขาก็ไม่กลัว
“หรือท่านอยากจะให้ยอมรับจากการถูกทรมาน?” เหอวี่เฉวียนสีหน้าเคร่งขรึม
“คุณคู่ควร?” เสียงของหญิงสาวเยือกเย็นขึ้น “ผู้อาวุโสเหอ ในเมื่อฉันเรียกคุณแบบนี้ คุณคิดว่าเราจะเล่นสงครามน้ำลายกันเหรอ?ฉันจะเตือนคุณอีกครั้งนะคะ ขัดคำสั่งของจอมพลโผ้จวิน ตายสถานเดียว!”
ตายสถานเดียว?
ถ้าจะบอกว่าไม่ผวาก็โกหกไป ทว่าในโลกนี้ ชื่อเสียงของจอมพลโด่งดังไปทั่ว ใครกล้า‘ขัดคำสั่ง’ ถ้าคุณดูให้ดี จะให้สีหน้าของเหอวี่เฉวียน เต็มไปด้วยความหวาดผวา
ดูเหมือน คำพูดนี้ของหญิงสาวทำลายแนวป้องกันในใจเขา
เงียบสงัดไม่พูดไม่จา
ราวกับว่าความอดทนสุดท้ายของหญิงสาวถูกเหอวี่เฉวียนที่มีทิฐิทำลายลงแล้ว เห็นเพียงเธอพูดเสียงอย่างเคร่งขรึมว่า “ให้เกียรติแล้วไม่เอา คุณเป็นคนแรกที่กล้า‘ต่อต้านคำสั่ง’ จำได้ว่าสำนักไร้หน้าแข็งกร้าวเหมือนคุณนี่แหละ?หรือการที่สำนักไร้หน้าพังพินาศ ยังไม่พอเชือดไก่ให้ลิงดูอีกเหรอ?จอมพลโผ้จวินเป็นคนที่คุณต่อต้านได้!”
พูดพลาง เธอมองเทียนขุย “ลงมือเถอะ!”
สามคำ!
เหมือนกับแจ้งให้ทราบเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ต่างจากคนที่ใกล้จะสิ้นชีพ
สีหน้าของเทียนขุยไม่เปลี่ยนไป ปล่อยความเหี้ยมโหดออกมา นัยน์ตาที่ดำขลับสองข้าง เต็มไปด้วยแรงสังหาร จู่ๆตัวก็สั่น เห่าหอนดังสนั่น รูปร่างของเขาเหมือนปีศาจ ไปทั่วด้านในรีสอร์ทหยูฉวน ทุกๆครั้งที่หยุด จะมีหนึ่งคนล้มลง
แข็งแกร่ง!
แข็งแกร่งมาก!
เทียนขุยราวกับเทพเจ้ามาจุติ พลังไร้เทียมทาน ไม่มีใครต้านทานความเร็วของเขาได้ และนาทีที่เผชิญหน้ากัน ศิษย์ของสำนักเทียนซือก็ล้มลง
ไม่เพียงแค่เหอวี่เฉวียนที่จ้องเทียนขุยที่ฆ่าไปรอบๆด้วยหน้าตาทรมาน แม้แต่ทุกคนที่อยู่ด้านหลังของหญิงสาวล้วนตกใจจนเหงื่อไหลออกมาเต็มตัว ความแข็งแกร่งของเทียนขุยปรับทัศนคติใหม่ของพวกเขา ทุกคนเพิ่งจะตื่นตัว ว่าพลังของสำนักเจ็ดพิฆาตแข็งแกร่งขนาดไหน
นี่เพิ่งจะผ่านไปได้หนึ่งนาที นอกจากผู้เฒ่าสองสามคนที่อยู่ด้านหลังของเหอวี่เฉวียน ลูกศิษย์ของสำนักเทียนซือล้มลงกับพื้น ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร และในแว็บเดียว จู่ๆเทียนขุยก็เงยหน้าขึ้นมองเหอวี่เฉวียนที่ยืนอยู่บนระเบียงอาคารไม้ แรงสังหารในแววตาไม่ลดลงเลย
“ผู้อาวุโสเหอ เจ็บใจมากใช่มั้ยคะ?” หญิงสาวมองอารมณ์ของเหอวี่เฉวียน ดูแคลนออกมาว่า “พูดดีๆไม่ชอบชอบให้ใช้กำลัง คุณก็ฉลาดนะ ฉันจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง เอาตราประทับเทียนซือมา จากนั้นจะไว้ชีวิตคุณ!”
เจ็บใจมากขึ้นไปอีก!
เหอวี่เฉวียนรู้สึกเลือดที่อยู่ในตัวแข็งตัวแล้ว ฝีมืออันน่ากลัวที่เทียนขุยแสดงออกมา ทำให้เขารู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก ก็จริง อยู่กับคนที่เป็นเทพแห่งสงครามของประเทศหวา จะแย่ได้ที่ไหนกัน?
“จักรพรรดิให้ตายแต่ฉันไม่อยากตายแต่ยังไงก็ต้องตาย!” เหอวี่เฉวียนแสยะยิ้ม “ผมไม่มีตราประทับเทียนซืออะไรนั่น แล้วจะให้ได้อย่างไรกัน?ผมเป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง มากสุดก็แค่นักธุรกิจ ผมไม่รู้จริงๆว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่?”
“ดูท่าทางแล้วคุณไม่ได้รู้สึกสิ้นหวังเลย!” หญิงสาวส่งสายตาให้เทียนขุย จากนั้นก็ทะยานขึ้น ไปที่ระเบียงชั้นสอง ห่างกับเหอวี่เฉวียนเพียงเล็กน้อย หญิงสาวดูแคลนออกมาว่า “หวังว่ากระดูกของคุณจะแข็งเหมือนปากนะ ฉันจะให้คุณรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าเจ็บปวดจนหายใจไม่ได้ และคุณก็ทำได้เพียงมองอย่างทำอะไรไม่ได้ คนร่วมสำนักของคุณล้มลงต่อหน้าคุณ ไม่รู้ว่าคุณจะรับ ความสิ้นหวังแบบนั้นได้มั้ย?”
ฆ่าคนและจิตใตให้ตายไปด้วยกัน!
เหอวี่เฉวียนหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด นาทีที่เทียนขุยพุ่งขึ้นมา เขาได้เตรียมตัวที่จะตายแล้ว แต่ผู้หญิงที่ใจดำอำมหิตอยากใช้คนร่วมสำนักมาทรมานตน บีบให้ตนเอาตราประทับเทียนซือออกมา
พิษจากเหล็กในของต่อไม่นับว่าร้ายแรงเท่าไหร่ พิษร้ายสุดคือจิตใจของผู้หญิง!
ไม่รอให้เหอวี่เฉวียนเอ่ยปาก เทียนขุยก็ลงมือ ร่างกายราวกับปีศาจมาที่ด้านหลังของเขาอย่างเร็ว การกระทำรวดเร็วไม่เชื่องช้า เมื่อหมัดเหวี่ยงมาโดยตรง ก็มีคนๆหนึ่งล้มลงไป
“รองผู้นำเทียนขุย ผมไม่มีความสามารถ ไม่รู้เรื่องการต่อสู้ กรุณาสอนผมด้วยนะครับ!”
พูดจบ เหอวี่เฉวียนหันไป พุ่งไปที่เทียนขุย
เทียนขุยไม่ลืมตา เหวี่ยงหมัดอย่างแรงไปที่เหอวี่เฉวียน
ปัง!
เหอวี่เฉวียนถอยไปสามก้าว ราวกับมือขวาชนเข้ากับแผ่นเหล็ก เจ็บจนเขาคาดไม่ถึง กลับมาที่เทียนขุย ไม่สะท้านใดๆ รอยยิ้มบนใบหน้ายิ่งอยู่ยิ่งเยือกเย็นขึ้น ราวกับเหอวี่เฉวียนที่อยู่ตรงหน้าได้กลายเป็นศพไปแล้ว
“แค่นี้?” เทียนขุยกล่าวอย่างไม่พอใจ “นึกไม่ถึงว่าผู้อาวุโสเหอของสำนักเทียนซือจะอ่อนหัดได้ขนาดนี้?ช่างน่าเวทนายิ่งนัก!”
เหอวี่เฉวียนหัวเราะ “ข่าวลือผู้ใต้บังคับบัญชาจอมพลโผ้จวินสู้หนึ่งต่อร้อยได้ วันนี้เมื่อได้เห็นก็ไม่ธรรมดาจริงๆ ผมได้รับการสอนแล้ว”
“อย่าไร้สาระ เอาตราประทับเทียนซือออกมา แล้วจะไว้ชีวิตแก”
เหอวี่เฉวียนหัวเราะเสียงดัง ในเสียงหัวเราะมาพร้อมกับความเศร้ารันทดที่ไม่สิ้นสุด “รองผู้นำเทียนขุย ผมไม่มีตราประทับเทียนซือ!”
“พูดดีๆไม่ชอบชอบให้ใช้กำลัง รนหาที่ตาย!”
ไม่นานทั้งสองก็ต่อสู้กันอีกครั้ง แต่ดูไม่ยาก เหอวี่เฉวียนถูกเทียนขุยจู่โจมตลอด ไร้ซึ่งพลังโต้ตอบ
และในขณะเดียวกันนี้เอง ด้านนอกของรีสอร์ทหยูฉวนมีเสียงดังสนั่นหูเกิดขึ้น เสียงนั้นราวกับฟ้าผ่าลงทันใด
“ครึกครื้นจริงๆ!”