จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 694 ฉันอยากเจอคุณ
คนที่โทรมาไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นสาวสวยอันดับหนึ่งเขตซีหนานที่ไม่ได้ติดต่อกันนานมากแล้ว แม่หม้ายเย็นชาหลินถง!คุณนายใหญ่ของตระกูลถังหนานหลิง และเป็นผู้อาวุโสอู๋ซวงสำนักไร้หน้า ตอนที่สำนักไร้หน้าถูกทำลาย เหลือแค่เธอผู้หญิงคนเดียว และฟางเหยียนจงใจไม่ฆ่าเธอ เพียงเพื่อให้เธอได้อยู่ที่ตระกูลถัง เป็นอู๋ซวง สืบเรื่องของเพลิงเสวนต่อไป
ฟางเหยียนแทบจะไม่ลังเล กดรับสายทันใด
ในขณะเดียวกัน เขตคฤหาสน์หุบดอกพีชหนานหลิง
แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านม่านบังแดด ตาข่ายค่อยๆเปิดออก ปรากฏเป็นห้องนอนที่หรูหราและอบอุ่น เฟอร์นิเจอร์ห้องนอนหรูหรา วางเป็นระเบียบ เพียงแต่รูปแขวนรูปหนึ่งในนั้น ดูเหมือนทำให้ทั้งห้องนอนไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ แม้จะไม่เหมาะสม แต่ก็ไม่ได้ขัดกันแม้แต่น้อย
บนเตียงสีขาวนวล ราวกับมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังนอนอยู่ แสงแดดสาดส่องผ่านตาข่ายไปยังกระดูกไหปลาร้าที่เซ็กซี่ของเธอ ราวกับดาวตกลงมาบนโลกมนุษย์
ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงเตียงหนึ่ง ทะลุผ่านชุดนอนผ้าลูกไม้ ท่านอนสวยงาม ดูๆแล้วเหมือนเจ้าหญิงนิทราในเทพนิยาย แสงอาทิตย์ที่นุ่มนวลสาดส่องบนใบหน้าเธอ ขมวดคิ้วเบาๆ ลืมตาที่เหมือนกับน้ำขึ้นมาอย่างช้าๆ นัยน์ตาที่ตาและเป็นประกายงดงามอ่อนหวาน ราวกับสามารถดึงดูดจิตใจคนได้
คิ้วที่ยาวค่อยๆขยับ ทุกๆการขยับ เหมือนกับผีเสื้อเต้นระบำให้คนรื่นเริง ทำให้คนหลงใหลจนไม่สามารถถอนตัวได้ ดูเหมือนจะรำคาญเล็กน้อยกับแสงอาทิตย์ที่ส่องบนใบหน้าเธอ ราวกับบนใบหน้าที่เหลืองอ่อนๆเต็มไปด้วยความโมโห เธอที่สีหน้าโมโห ความโมโหเป็นความงามที่พิเศษอย่างหนึ่ง
กลับตัวมา ปรากฏเป็นแผ่นหลังที่สวยอันขาวนวลตรงกับแสงอาทิตย์ ดูเหมือนเพียงพอมาก และได้หลับไป แต่ยังไม่ทันนอนไปเท่าไหร่ เธอได้ขยับร่างกายอันได้รูป นั่งขึ้นมาอย่างยากลำบาก ดูๆแล้วยังไม่ตื่น สายตาจ้องไปรอบๆอย่างเหม่อลอย
คิ้วที่ทั้งยาวและดำค่อยๆขยับ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวัง ที่ๆเธอมองไปไม่ใช่ที่อื่นไกล แต่เป็นภาพแขวนที่ไม่เข้าพวกภาพนั้น จากนั้นยิ้มอย่างมึนๆออกมา เมื่อยิ้ม ดุจดั่งอาบลมในฤดูใบไม้ผลิ ทำให้คนหลงใหล ทำให้คนเลื่อมใส
บิดขี้เกียจอย่างขี้เกียจ ปรากฏเป็นทิวทัศน์ที่ขาวโพน แต่เธอกลับไม่สนใจใดๆ หลังจากที่มองวิวนอกหน้าต่าง ยิ้มอย่างอ่อนโยน ขยับเท้าวางบนผ้าห่ม ขาอ่อนที่ขาวนวลปรากฏออกมาอย่างรวดเร็ว
ภาพแขวนนั้นไม่ใช่คนอื่น คือฟางเหยียนที่ตอนนั้นเธอแอบให้คนแอบถ่าย ใบหน้าที่หล่อเหลาเย็นชา เป็นรูปที่เมื่อเธอตื่นขึ้นมาต้องดูทุกวัน และดูยังไงก็ไม่เบื่อ
หลังจากที่จ้องอย่างละเอียดแล้วนั้น ได้ขยับไปที่รูปนั้นช้าๆ ลูบแววตาทั้งสองที่เป็นประกายของฟางเหยียน อีกทั้งแก้มที่เย็นชาที่หยิ่งยโสบนภาพนั้นเบาๆ แล้วจูบไป
จูบไปสักพัก จึงได้เอาปากออก
เธอหัวเราะคิกๆ “อีกเดี๋ยวจะได้เจอคุณแล้ว”
ใช่!
มองหญิงสาวลุ่มหลงในความรักที่
เดินจากภาพแขวนนี้ไปอย่างอาลัยอาวรณ์ ลุ่มหลง เหมือนกับภรรยาสาวที่อำลาสามีของตัวเอง ความรู้สึกแยกจากที่ไม่อยากจากแต่กลับจำเป็นต้องจาก ทำให้คนยากที่จะเผชิญหน้าได้
เดินผ่านห้องนอน ชุดนอนที่อยู่บนเรือนร่างของหลินถงปลดเปลื้องลง เปลือยกายโดยตรง และเธอมองตัวเองที่เปลือยล่อนจ้อนต่อหน้ากระจก พยักหน้าอย่างพอใจ หยิบมือถือเดินไปที่ห้องอาบน้ำ
ไม่นาน ในห้องน้ำมีเสียงปล่อยน้ำในอ่างดังออกมา ควันระเหย โขม่งเย้ายวนใจ
ทั้งห้องอาบน้ำเต็มไปด้วยไอของความเซ็กซี่และฮอร์โมนพลุ่งพล่าน
สาวสวยอาบน้ำ เห็นใบหน้าอีกทั้งร่างกายอันได้รูปของเธออย่างเลือนราง แช่อยู่ในน้ำนม ไอร้อนน้ำนมระเหยผ่านทุกอณูผิวพรรณของเธอ เหมือนกับเครื่องประดับที่สวยงาม งดงามชดช้อย
เธอมาส์กหน้าลงบนใบหน้าของตัวเอง ค่อยๆหลับตาลง พิงข้างๆอ่างน้ำ ผ่อนคลายทั้งตัว ค่อยๆจมอยู่ในความชุ่มชื้นของน้ำนม ดูเหมือนว่านอนหลับไปแล้ว เพียงแต่เธอยังไม่หลับ หนึ่งนาทีผ่านไป เธอเอามาส์กบนหน้าออก พึมพำกับตัวเองว่า “ผู้หญิงไม่ว่าตอนไหนต้องดีกับตัวเอง”
เอามาส์กที่ดึงออกมาจากใบหน้าไปวางไว้อีกฝั่ง หลินถงหยิบมือถือขึ้นมา หาเบอร์ที่อยู่บนสุดแต่ไม่กล้าโทรออกมาโดยตลอด ในเบอร์ผู้ติดต่อ ตั้งใจดูไปสักพัก จึงได้ยิ้มออกมา กดโทรออก
นาทีที่รอสาย ไม่มีใครรู้หลินถงที่มั่นใจจองหอง จะเคร่งเครียด โดยเฉพาะเสียงตูดๆนั่น ราวกับกำลังเร้าจิตใจของเธอ ทำให้เธอเคร่งเครียดและไม่สงบมากขึ้น
ในใจพึมพำตลอดว่า “ต้องรับนะ อย่าไม่รับนะ”
ความรู้สึกที่ละอาย เคร่งเครียด เร้าใจ กลัวเป็นต้นสะสมบนใบหน้าของสาวสวยหลินถง ถ้าพูดออกไป เกรงว่าไม่มีใครเชื่อ โดยเฉพาะเธอผู้หญิงที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว ความคิดเป็นผู้ใหญ่และพริ้มเพราไม่ด้อยไปกว่าพวกรุ่นป้าและภรรยาเด็กเหล่านั้นเลย นึกไม่ถึงว่าขณะนี้จะเหมือนหญิงสาวที่มีรักแรก ตื่นเต้นจนเหงื่อไหลเต็มฝ่ามือ
ทุกๆฉากของการเพิ่มขึ้นของความรัก ล้วนทำให้คนเต็มไปด้วยการรอคอย
โดยเฉพาะครั้งที่แล้วที่ฟางเหยียนไม่ฆ่าเธอ แต่ทว่ากลับตอบตกลงเธอทางอ้อม ต่อไปสามารถทำตามร้องขอของฟางเหยียน ทำให้เธอรอคอยวันที่ทั้งสองจะได้เจอกันอีกครั้งทั้งวันทั้งคืน แต่เธอรู้ ฟางเหยียนชอบความสงบ ไม่ชอบรบกวน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้โทรหาฟางเหยียนนานขนาดนี้
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว
สำนักไร้หน้าถูกทำลาย เธอ‘โชคดี’ที่มีชีวิตรอดมาได้ หลังจากที่พิสูจน์ตัวเอง ทำให้เพลิงเสวนยอมรับเธอแล้วจริงๆ ส่งผลให้เมื่อคืนยังประเมินกันอยู่ ดังนั้นจึงกลับมาดึกมาก พอนอนจึงได้นอนไปจนถึงกลางวัน เมื่อตื่นขึ้นมา เธอจึงได้หาเบอร์นั้นที่อยู่ในเบอร์ผู้ติดต่ออย่างดีใจ
นาทีนี้ ในใจของเธอร้อนรนไม่น้อยไปกว่านาทีที่จะได้เจอฟางเหยียนเลย
นอกจากรอคอยแล้ว เธอตระหนักได้ถึงในอนาคต สามารถใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่รักได้อย่างสิ้นเชิงแล้ว บางทีนี่อาจจะเป็นความตื่นเต้น ของความสุขที่ควรมี ของผู้หญิงที่แอบรักทุกคนควรจะได้รับ
เสียงตูดๆเหมือนกับท้าทายจิตใจของเธอ ทำให้เธอเปลี่ยนเป็นร้อนรนขึ้น นี่เป็นความร้อนรนครั้งแรกตั้งแต่เธอ‘มีชีวิตกลับมา’ และเป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอ ใจที่ร้อนรน มือที่สั่น อีกทั้งหูตั้ง แต่ละการกระทำแสดงให้เห็น ว่าหลินถงคนงามอันดับหนึ่งซีหนาน จะไม่เป็นตัวของตัวเองต่อหน้าผู้ชายคนนี้
เมื่อเสียงตูดๆมาจนถึงปลายสาย และแล้วปลายสายก็มีเสียงดึงดูดแต่กลับแปลกหน้าดังขึ้น ราวกับเสียงเย็นชาที่หยิ่งยโส “มีข่าวอื่นของเพลิงเสวนแล้วยัง?”
เสียงของปลายสายยังคงเย็นชา ราวกับฟังความรู้สึกไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
แต่นี่ไม่ได้ทำลายความกระตือรือร้นของหลินถง กลับกันยิ่งทำให้ดีอกดีใจมากขึ้น มือถือเกือบจะหล่นลงในอ่างน้ำแล้ว แน่นอนนี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ หลังจากที่ตื่นเต้นแล้ว ใบหน้าปรากฏเป็นความขาวที่อธิบายออกมาไม่ได้ บรรยากาศเปลี่ยนเป็นอึมครึม แต่เธอกลับไม่สนใจใดๆ
เพราะผ่านมานานขนาดนี้ สุดท้ายได้ยินเสียงของผู้ชายคนนั้นเสียที เสียงนี้จู่โจม การแสร้งทำเป็นเข้มแข็งของเธอในช่วงนี้ อีกทั้งภัยอันตรายทุกย่างก้าวทันที
เสียงนี้ราวกับแสงที่สาดส่องมาในความมืด แว็บเดียวพาเธอกลับมายังโลกที่สว่างไสว
ความร้อนรนทำให้เธอไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร
ปลายสายได้มีคำถามของฟางเหยียนดังขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้น? เกิดเหตุร้ายอะไรหรือเปล่า? ทำไมไม่พูด?”
เขา?
นี่เขากำลังเป็นห่วงฉันเหรอ?
ในใจของหลินถงดีใจจริงๆ เธอแทบจะยากเอ่ยปากทันที แต่เมื่อจะพูดกลับไม่พูดเสียอย่างนั้น เธอไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยปากอย่างไรดี
“ไม่พูดผมจะวางแล้วนะ” ราวกับฟางเหยียนรำคาญ น้ำเสียงก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น
“ฉัน…ฉันอยากเจอคุณ ที่เขตคฤหาสน์หุบดอกพีช ฉัน ฉันมีข่าวดีจะบอกคุณ