จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 722 ไร้ศัตรูค่อนข้างน่าเบื่อ
นี่คือคนที่มีเหตุผลเหรอ!
นี่มันคือการปล้นชัดๆ!
หยินฮว่าอยากจะชกหน้าเขาจริงๆ แต่ถูกความแข็งแกร่งของเขากดทับไว้!
สู้ไม่ได้!
สู้ไม่ได้จริงๆ!
อยากจะขึ้นไปบนจุดสูงสุด ทำไมไม่เอาองค์กรสัตว์เพลิงเป็นพวกด้วยซะเลยล่ะ! สิงโตอ้าปากกว้างไม่กลัวว่าลมจะสัมผัสลิ้น
แต่อู๋จี๋ก็เป็นคนที่แข็งแกร่งจริงๆ เรื่องนี้ดูไม่เกินจริง
อู๋จี๋เห็นท่าทางที่ตกตะลึงของหยินฮว่าจึงยิ้มมุมปากแล้วพูดว่า “แค่ความจริงใจเพียงแค่นี้?องค์กรสัตว์เพลิงดูยิ่งใหญ่น่าเกรงขาม เองงี้ไหมเจ้าไปเตรียมคนที่ถูกทำร้ายที่สำนักไร้หน้า พูดตามรูปธรรมตอนนี้เจ้ากลายเป็นศพไปแล้ว ถ้าไม่อยากตายก็รีบออกไปจากที่นี่ซะ!”
“ท่านผู้อาวุโส ได้โปรดสงบสติอารมณ์ก่อน ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ท่านขุ่นเคือง ท่านมีพรสวรรค์และทรงพลังในการต่อสู้ และเงื่อนไขเป็นไปตามธรรมชาติ แต่นี่เป็นเรื่องใหญ่ ข้าไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ได้โปรดใจเย็นลงสักนิดนะครับ”
“ใหญ่แค่ไหนวะ? ฮ่าฮ่า……” อู๋จี๋พูดเยาะเย้ย “ในเมื่อตัดสินใจเองไม่ได้ งั้นก็หาคนมาตัดสินใจแทนให้ข้าเถอะ!”
“คุยโวขนาดนั้น!”
ทันทีที่พูดจบ ร่างหนึ่งก็ลอยเข้ามา และคนคนนั้นคือเหลียนเฉิงกวงเจ้าสำนักสาขาเหลือง!
เจ้าสำนักเหลียน!
เขามาที่นี่ทำไม!
แม้ว่าหยินฮว่าจะเป็นแค่รองเจ้าสำนัก แต่เขาทำเกือบทุกอย่างด้วยตัวของเขาเอง เหลียนเฉิงกวงดูเหมือนจะเป็นแค่คนสั่งการเท่านั้น ในสถานการณ์ปกติแทบจะไม่เจอตัวเขา แต่ตอนนี้เขามาที่นี่เพื่ออะไร หรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับองค์กรสัตว์เพลิง?
“ใครอีกล่ะเนี่ย?”
“เจ้าสำนักองค์กรสัตว์เพลิงสาขาเหลือง!”
“โอ้!”
กัดฟันแน่น!
เหลียนเฉิงกวงรู้สึกหน้ามืดตาลาย และรู้สึกเย็นเฉียบที่คอในทันที!
เลือดสดๆ ที่คอพุ่งกระฉูด!
หยินฮว่าและเหลียนเฉิงกวงไม่ได้คาดหวังให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้!
ทั้งหมดนี้มันเร็วเกินไป!
“ไม่ ไม่คุยเรื่องคุณธรรมก่อน!”
ปัง!
หลังจากที่เหลียนเฉิงกวงพูดเพียงไม่กี่ประโยคเขาก็ล้มลงกับพื้นราวกับของเหลว ทิ้งให้หยินฮว่ายืนหวาดผวาขาสั่น มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ความแข็งแกร่งของเหลียนเฉิงกวง ไม่น่าเชื่อว่าที่มีความแข็งแกร่งที่สุดยอดจะโดนฆ่าอย่างง่ายดาย!
แม้ว่าหยินฮว่าจะรู้สึกกลัว แต่ก็พยายามกัดฟันถามออกไป “ทำไมท่านถึงฆ่าเขา!”
“ฆ่าคนต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?”
คำพูดนี้ทำให้หยินฮว่ายากเกินกว่าจะรับไหว!
เขาฉุกคิดว่าเขายังคงตกอยู่ในอันตราย และทันใดนั้นก็มองไปทางอู๋จี๋ วางแผนที่จะวิ่งหนี!
“อย่ากังวลไปเลย ถ้าข้าต้องการจะฆ่าเจ้า เจ้าตายไปนานแล้ว เจ้าฉลาดกว่าเขา เจ้ารู้วิธีปฏิบัติตัวในทางที่ดี รู้จักเอาอกเอาใจคนอื่น แต่เขากําเริบเสิบสานเกินไป ดังนั้นเขาสมควรตาย”
วันนี้หยินฮว่าพอที่จะพูดได้ว่าอึดอัดใจที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขารู้สึกไร้ค่าแทนเหลียนเฉิงกวง นี่เขาตายแล้วเหรอ?
นี่คือปลาหมอตายเพราะปาก!
“ตอนนี้เจ้าน่าจะรู้ว่าต้องควรทำยังไงแล้วใช่ไหม?”
“รู้ ข้ารู้แล้ว” หยินฮว่าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ข้าจะกลับไปรายงานทันที และจะพยายามทำให้ท่านผู้อาวุโสพอใจ”
“ฮ่าๆๆๆ……”
“ไร้ศัตรูมันน่าเบื่อจะตาย!”
— —
ณ หนานหลิง บ้านพักที่ล้อมรอบด้วยภูเขาและลำธาร
สะพานเล็กๆ ที่มีเสียงลำธารไหลผ่าน เสียงร่ำร้องของแมลงดังระงมซึ่งเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ในขณะนี้บนสะพานเล็กๆ มีชายคนหนึ่งซึ่งเหมือนพระสงฆ์นั่งหลับตาอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่ดูกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ
ผู้ชายคนนี้คือฟางเหยียน
เทียนขุยมองไปที่ฟางเหยียนที่อยู่ในสภาพน้ำสักหยดยังไม่ดื่ม เทียนขุยอย่างเห็นอกเห็นใจ“โผ้จวิน ตั้งแต่กลับมาจากสำนักไร้หน้าก็นั่งอยู่ที่นี่มาสามวันแล้วนะ สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ? ”
ไม่มีคำใดเปล่งออกมาจากปากของเขา
เทียนขุยมองไปที่ฟางเหยียนแล้วพูดว่า “โผ้จวิน วันนี้ฉันไม่ควรรบกวนนายแล้ว แต่ฉันมีสองเรื่องที่จะมารายงานให้นายฟัง”
“เรื่องแรก สาขาขององค์กรนินจาถูกทำลายแล้ว เรื่องที่สอง น้ำไร้หน้าได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!”
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ฟางเหยียนก็ลืมตาขึ้นมาทันที ความหงอยเหงาในดวงตาของเขาก็หายวับไปในทันใด
“นายพูดว่าอะไรนะ? ”
เทียนขุยดีใจมาก จึงรีบพูดไปตรงๆ ว่า “คือแบบนี้นะ…… ”
เรื่องที่องค์กรนินจาถูกทำลายเทียนขุยพูดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เรื่องน้ำไร้หน้าเทียนขุยพูดอย่างละเอียดและชัดเจน
“น้ำไร้หน้าคือหัวใจของอู๋จี๋เหรอ?” ฟางเหยียนถาม
“ใช่ อู๋จี๋ก็คือจุดเริ่มต้นของความยิ่งใหญ่เมื่อร้อยปีที่แล้ว และเมื่อเขาปรากฏตัวเขาได้ขัดเกลาน้ำไร้หน้า ตอนนี้เขาสามารถฆ่านินจาระดับปรมาจารย์ได้อย่างง่ายดาย เขาได้ค้นพบความจริงของการล่มสลายของสำนักไร้หน้าและได้เริ่มรวบรวมข้อมูลของนายแล้ว นอกจากนี้เขาได้เปล่งวาจาออกมาแล้วว่าจะต้องตามกำจัดนายอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินว่าเขาจะโดนกำจัด เขาไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกเลย ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกตื่นเต้นด้วยซ้ำ ตั้งแต่กลับมาจากน้ำตกหุบเขา เขารู้ดีว่าดอกบัวสายดอกนั้นไม่ใช่น้ำไร้หน้า รวมทั้งตาแก่จางและคนอื่นอีกจำนวนมากล้วนถูกหลอกลวงโดยกลอุบาย ไม่เพียงแต่ถูกหลอก แต่ยังต้องอยู่ในน้ำตกหุบเขานั้นตลอดไป หลินถงก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในช่วงสามวันที่ผ่านมา หัวใจของเขาหนักหน่วงมาก
การตายของหลินถงกลายเป็นความเจ็บปวดในใจของเขาไปตลอดกาล
และตอนนี้น้ำไร้หน้าก็ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!
เขาจำเป็นต้องได้น้ำไร้หน้ามาครอบครอง
“ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่สามารถหาน้ำไร้หน้าเจอได้ แท้จริงแล้วน้ำไร้หน้าคือหัวใจของอู๋จี๋นี่เอง” ฟางเหยียนทอดสายตามองออกไปไม่ไกลนัก แล้วพูดพึมพำกับตัวเอง “ หลินถง เจ้าโง่เกินไป”
“โผ้จวิน โปรดยกโทษให้ฉันด้วยที่เสนอตัวเรียกสำนักเจ็ดพิฆาตมาร่วมด้วย อู๋จี๋นั้นแข็งแกร่งมาก สามารถฆ่าคนได้ในเวลาเพียงรวดเดียว ตอนนี้นายยังไม่หายจากอาการป่วย ฉันเกรงว่านายจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”
แม้ว่าเทียนขุยจะไม่ได้เห็นอู๋จี๋ฆ่านินจาระดับปรมาจารย์ด้วยตาของเขาเอง แต่การข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วสารทิศ และพอจะมีหลักฐานให้ติดตามอยู่บ้าง เทียนขุยไม่ใช่ส่งเสริมให้ผู้อื่นดูมีอำนาจแต่ดูถูกความสามารถตัวเอง เขารู้ดีว่าฟางเหยียนกำลังป่วย แต่ตอนนี้อู๋จี๋กำลังอยู่ในช่วงที่เฟื่องฟู อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้เขาไม่มีศัตรู เกรงว่าฟางเหยียนอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขานะสิ
เทียนขุยมีความกังวลนี้ เขาไม่กล้าถามฟางเหยียนเกี่ยวกับข้อสงสัยนี้เลย แต่เขาเป็นคนที่รู้จักฟางเหยียนดีที่สุด ลองนึกภาพว่า เราจะตั้งคำถามกับเทพได้อย่างไร? ถ้าฟางเหยียนอยู่ในยุครุ่งเรืองของเขาล่ะก็ เทียนขุยจะไม่กังวลเลยสักนิด แต่เท่าที่เทียนขุยรู้มาคืออู๋จี๋เป็นคนที่ไร้คู่ต่อสู้มากที่สุด ถ้าต่อสู้กับอู๋จี๋เกรงว่าจะโชคร้ายมากกว่าโชคดีนะสิ !
แต่เมื่อเขามองไปที่การแสดงออกที่เย็นชาของฟางเหยียน เทียนขุยก็ตัวสั่นทันที “โผ้จวิน ฉันเทียนขุยทำผิดไปแล้ว โปรดโผ้จวินลงโทษฉันด้วยเถิด”
“เทียนขุย นายไม่ได้ทำอะไรผิด” ฟางเหยียนเก็บสีหน้าที่เย็นชาแล้วพูดอย่างเบาๆ
เทียนขุยยืนอยู่นิ่งอย่างกระวนกระวายใจและไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
“น้ำไร้หน้าคือหัวใจของอู๋จี๋?” ฟางเหยียนยิ้มมุมปาก
——
ณ องค์กรนินจา
ภายในห้องโถง
ผู้อาวุโสชุดขาวกล่าวด้วยความเคารพ “ปรมาจารย์ ทางเราได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วว่าผู้ที่ทำลายสาขาของเราก็คืออู๋จี๋เมื่อร้อยปีที่แล้ว และมีเหตุผลเกี่ยวข้องกับผู้ที่ได้ฉายาเทพเจ้าแห่งสงครามของประเทศหวาที่อายุน้อยที่สุดของพวกเราด้วย”
“เข้าใจแล้ว” ดวงตาสีขุ่นของปรมาจารย์ค่อยๆ เปิดขึ้น “เขาต้องการแก้แค้น ฉันเกรงว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น องค์กรสัตว์เพลิงคงไม่ทำผิดพลาดมาฆ่านินจาระดับปรมาจารย์ได้ง่ายๆ หรอกนะ แต่ก็ต้องยอมรับว่าองค์กรสัตว์เพลิงนั้นกำเริบเสิบสานมาก คาดไม่ถึงว่าต่อหน้าจะอีกอย่าง ลับหลังจะอีกอย่าง
“อู๋จี๋? คนผู้นี้ไม่ได้หายสาบสูญไปเมื่อร้อยปีก่อนหรอกหรือ? ทำไมตอนนี้เขาถึงได้ปรากฏตัวอีกครั้ง?”
“ใช่ครับ ไม่ได้พบเจอมาหลายร้อยปีแล้ว เขาจะฆ่าปรมาจารย์ได้อย่างไร? ปรมาจารย์ครับ ฉันเกรงว่าเจ้าคนชั่วคนนี้ต้องการให้ท่านออกแรงซะแล้วครับ”
“ร้อยปีที่แล้ว องค์กรนินจาของพวกเรากับสำนักไร้หน้าก็ต่างคนต่างอยู่ เขาจะทำร้ายพวกเราได้อย่างไร? ฉันร้องขอให้ปรมาจารย์ลงมือสังหารเจ้าคนชั่วนี้ซะ”
“ถ้าเจ้าคนชั่วไม่ถูกกำจัด คนทั้งโลกจะคิดว่าองค์กรนินจาของพวกเรารังแกได้ง่ายๆ และฉันขออ้อนวอนปรมาจารย์ของพวกเราฆ่าเจ้าคนชั่วนี้และคืนความยุติธรรมให้กับองค์กรนินจาของพวกเรา”
“……”
เสียงพูดคุยสนทนาถกเถียงกันไปมา แต่ปรมาจารย์ได้หลับตาลงแล้ว
“โปรดเงียบ!” ผู้อาวุโสชุดขาวพูดเสียงดุดัน ทันใดนั้นทั้งห้องโถงก็เงียบลง แต่ละคนต่างจ้องมองไปที่ผู้อาวุโสชุดขาว แต่เขากล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ตอนนี้ไม่สามารถกำจัดอู๋จี๋ได้ชั่วคราว และดูเหมือนพวกคุณจะไม่สนใจข่าวอื่นเลย นั่นก็คือข่าวที่ว่าน้ำไร้หน้าคือหัวใจของอู๋จี๋!”
ทุกคนเข้าใจได้ในทันใด แต่กลับยิ่งงงเข้าไปอีก
ใช่แล้ว ถ้าเป็นหัวใจของเขาแล้วมันจะยังไงหรือ? แล้วคนขององค์กรนินจาควรถูกเขาฆ่างั้นหรือ?