จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 754 คำเชิญจากองค์กรสัตว์เพลิง
ตระกูลหยางดินแดนตะวันตก
ตั้งแต่ที่ฟางเหยียนจากไปจากตระกูลโจวโดยไม่ลา ฉินเข่อก็อยู่แต่ที่บ้านของคุณลุงใหญ่หยางจิ่งเซียน และไม่เคยออกจากดินแดนตะวันตกแม้แต่ก้าวเดียว เพราะเธอเชื่อ ว่าฟางเหยียนที่ไปไม่ลา ต้องมีสักวันที่จะกลับมาที่นี่ ถ้าจะให้บอกว่าทำไม ก็เพราะมาจากสัมผัสที่หกของผู้หญิงอย่างเธอ และการรอครั้งนี้ก็ยาวนานถึงเดือนกว่า เธอแทบจะลืมแล้วว่าจุดประสงค์ที่อยู่ที่นี่คืออะไร
คนที่รอไม่มา แล้วยังเสียเวลารอต่อไป ก็ไม่มีผลอะไร
วันนี้ เป็นวันที่เธอตัดสินใจจะกลับสู่โรงเรียนแล้ว
ในห้องส่วนตัว เธอเก็บข้าวของด้วยท่าทางแข็งทื่อ
คนใช้ที่ผลักประตูเข้ามาชะงัก ถามว่า “คุณหนูเข่อเข่อ คุณจะไปแล้วหรอคะ?”
ฉินเข่อไม่แม้แต่จะเงยหน้า เก็บข้าวของต่อไปเรื่อยๆและพูดว่า “ใกล้จะจบการศึกษาแล้ว พี่ชายใหญ่พูดถูก ฉันรับใบรับรองปริญญาตรีก่อน แล้วค่อยมาสืบทอดธุรกิจของลุงใหญ่ เพื่อรอเขาต่อไป อย่าว่าแต่หนึ่งเดือนเลย หนึ่งปีฉันก็สามารถรอเขาได้
คนใช้สบายใจขึ้น “คุณหนูเข่อเข่อ คนโบราณพูดไว้ดีว่า ลืมไม่ลงก็จะมีการตอบรับ”
ฉินเข่อใจกระตุก เสื้อที่ถือไว้ในมือตกลงพื้น เธอตัวแข็งทื่อไปหมด เพียงครู่เดียว เธอรีบหันหลัง จับมือคนใช้อย่างตื่นเต้น “เธอบอกว่าฟางเหยียนกลับมาแล้ว?”
“คูณหนูเข่อเข่อคะ ฉันเวียนหัวมากเลย”
ฉินเข่อรีบปล่อยมือของคนใช้ สีหน้าตื่นเต้นไม่หายไปแม้แต่น้อย
“รีบพูดมา!”
คนใช้จึงพูดว่า “วันนี้คุณท่านปวดหัวทนไม่ไหว จากนั้นคุณหมอหลินก็มา จากนั้นฉันก็ได้ยินพวกเขาคุยกันว่าสามีของคุณหนูอยู่ระหว่างทางมา ตอนนนี้น่าจะใกล้ถึงดินแดนตะวันตกแล้วค่ะ!”
สามีของคุณหนู!
หมายถึงฟางเหยียนแน่นอน
ฉินเข่อแทบจะไม่ลังเลเลยสักนิด รีบบุกเข้าไปในห้องของลุงใหญ่หยางจิ่งเซียน
ปัง!
ประตูถูกผลักออก ทำเอาทุกคนในห้องสะดุ้งตกใจ
หยางจิ่งเซียนส่ายหัวอย่างเอือมระอา “เข่อเข่อ ระวังภาพลักษณ์หน่อย เธอไม่ได้เด็กน้อยแล้วนะ เด็กสาวต้องสงบเสงี่ยม ไม่อย่างนั้นอนาคตจะแต่งออกไปได้ยังไง?”
ตอนนี้เองฉินเข่อถึงได้พบว่าในห้องของหยางจิ่งเซียนนอกจากคนในบ้านตัวเองแล้ว ยังมีคุณหมอหลินรวมทั้งหลานสาวของเขาหลินยียีอยู่ด้วย
แต่เธอสนใจมากมายขนาดนั้นที่ไหนกัน จึงถามออกไปตรงๆเลยว่า “ลุงใหญ่คะ เมื่อกี้ได้ยินมาว่าหางเหยียนจะมาหรอคะ?”
หยางจิ่งเซียนชะงัก พูดอย่างน้อยใจว่า “เข่อเข่อ ลุงใหญ่ป่วยแล้วเธอจะไม่เป็นห่วงสักหน่อย?”
ฉินเข่อมองข้ามหยางจิ่งเซียนที่น้อยใจ ถามอย่างอดใจรอไม่ได้ว่า “คุณลุงคะ มีหมอหลินอยู่นี่ คุณจะเป็นอะไรได้ยังไงกันละ คุณรีบบอกหนูมาเถอะค่ะ ฟางเหยียนมาใช่มั้ยคะ?”
“เอิ่ม เหอะๆๆ……” หยางจิ่งเซียนยิ้มขมขื่น “เด็กสาวโตแล้วเก็บไม่อยู่จริงๆ เด็กสาวโตแล้วเก็บไม่อยู่จริงๆ”
ฉินเข่อเขย่าหยางจิ่งเซียน พูดอย่างออดอ้อน “คุณลุงที่แสนดีของหนู คุณรีบบอกกับหนูสิคะ นะคะๆ”
“อย่าเขย่าแล้ว เขย่าจนฉันปวดหัวอีกแล้ว”
ฉินเข่อปล่อยมือทันที จ้องหยางจิ่งเซียนอย่างร้อนรน “เข่อเข่อ ครั้งนี้ดูแล้วฟางเหยียนจะมาไม่ดี เป้าหมายของเขาถือตระกูลโจว ผู้มีอำนาจในดินแดนตะวันตกหลายบ้านต่างก็ได้ข่าวมาแล้ว”
เมื่อได้ฟัง ฉินเข่อก็มีแต่ความผิดหวัง ที่แท้ฟางเหยียนก็ไม่ได้มาเพราะเธอ คิดไปคิดมาก็จริง เธอคิดมากไปแล้ว ฟางเหยียนเป็นใครกัน เป็นถึงจอมพลโผ้จวินของประเทศหวาคนที่สามารถทำให้ดินแดนตะวันตกหวาดกลัว เป็นแม่ทัพเทพห้าดาวเพียงหนึ่งเดียวของประเทศหวา เป็นผู้ที่มีฐานะตำแหน่งสูงส่ง
ในความทรงจำ เธอยังจำช่วงเวลาที่อยู่สำนักไร้หน้าได้ตลอดไป เขาใช้เพียงกำลังของตัวเองฆ่าสำนักไร้หน้าทั้งหมด ช่วยเหลือเธอจากอู๋หมิง ในความทรงจำ เขาไม่แม้แต่วางตระกูลโจวไว้ในสายตาด้วยซ้ำ โดยเฉพาะคุณชายของตระกูลโจวโจวเจิ้งเองยังถูกเขาตัดมือทิ้งข้างหนึ่ง
แม้เธอจะรู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรกับฟางเหยียน แต่ฉินเข่อเองก็รู้ว่า ถ้าหากไม่แสดงความรู้สึกนี้ออกมา ก็ไม่ใช่ฉินเข่อแล้ว
“คุณลุงคะ ความหมายของคุณคือ ที่ฟางเหยียนกลับมาในครั้งนี้เพราะตระกูลโจวหรอคะ? ตระกูลโจวสร้างเรื่องอะไรอีกแล้วคะ?”
“เข่อเข่อ บางเรื่องเธอไม่รู้จะดีกว่า พอแล้ว เธอกลับไปเถอะ เดี๋ยวลุงใหญ่ยังมีธุระอีก”
หยางจิ่งเซียนถึงกับเอ่ยปากไล่แล้ว ฉินเข่อเองก็ไม่กล้าที่จะอยู่ต่อ เธอมีวิธีของเธอเอง จึงได้บอกลาแล้วจากไป
“หยางกง….”
หยางจิ่งเซียนมองหมอหลิน พยักหน้าเล็กน้อย “เหล่าหลิน ฉันรู้ว่านายอยากจะพูดอะไร ยียีเป็นหญิงสาวที่ดี แต่จอมพลเคยพูดแล้วไม่มีชะตาด้วย และครั้งนี้ที่จอมพลมา ดินแดนตะวันตกคงจะได้พลิกผันแล้ว!
ใบหน้าหมอหลินเต็มไปด้วยความผิดหวัง ทั่วดินแดนตะวันตกคงจะมีแค่หยางจิ่งเซียนที่สูงส่งน่านับถือที่จะสามารถคุยกับจอมพลได้ ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ได้ยินมาว่าจอมพลรู้ดีถึงแพทย์แผนจีน ตัวเขาก็เหมือนกับได้รับแรงกระตุ้นอย่างมาก อยากจะเคารพเป็นอาจารย์อยู่เสมอ กว่าจะรอจนจอมพลมา เขาจะท้อถอยได้ยังไงกัน
ที่คาดไม่ถึงก็คือ หยางจิ่งเซียนก็ไล่เขาอีกครั้ง
หมอหลินยิ้มอย่างอึดอัด พูดขอร้องว่า “หยางกง รบกวนคุณบอกกับจอมพลสักหน่อยนะครับ”
หยางจิ่งเซียนพยักหน้า พูดว่า “หมอหลิน ลำบากคุณแล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันยังมีแขกอีก”
“เจ้าสอง จัดเตรียมสักหน่อย ต้อนรับแขก”
หยางซงพยักหน้า “พ่อครับ ตระกูลโจวมีเรื่องกับจอมพลจริงๆงั้นหรอครับ?”
“เจ้าสอง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ว่าไปมีเรื่องกับใคร แม้ว่าจอมพลจะมีความหมายชัดเจน แต่เรื่องระหว่างนั้นพวกเรากลับไม่รู้อะไรสักนิด แกเองก็ไม่ต้องหลอกถามฉันแล้ว เพราะงั้นพวกเขาเลยมาหาฉันเพื่อปรึกษาวิธีรับมือ พอแล้ว ฉันไม่ที่ห้องโถงก่อน ถ้าพวกเขามาแล้วก็พาเข้ามาหาฉันได้เลย”
ห้องโถง
ภายในห้องโถงมีเพียงแค่สิบคน ล้วนเป็นผู้อาวุโสทั้งนั้น แต่สิบคนนี้ล้วนเป็นผู้มีอำนาจที่สามารถสะเทือนดินแดนตะวันตกกันได้ทั้งนั้น เพียงแค่พวกเขากระทืบเท้า ทั้งดินแดนตะวันตกก็สั่นสะเทือน และการที่พวกเขารวมตัวกัน เพียงแค่ปรึกษากันเรื่องเดียว นั่นก็คือเรื่องที่จอมพลมาดินแดนตะวันตกอีกครั้ง เพื่อมาหาเรื่องตระกูลโจว
ผู้ว่าราชการมณฑลดื่มชาหนึ่งอึก วางแก้วลงแล้วพูดว่า “มากันครบแล้ว พวกเราก็มาพูดกันสั้นๆ หยางกง เรื่องนี้คุณคิดว่ายังไง?”
หยางจิ่งเซียนพูดออกมาฉับพลันว่า “บรรยากาศที่น่าอึดอัดแบบนี้ คิดว่าดินแดนตะวันตกคงจะได้พลิกผันแล้วละครับ”
เพียงประโยคเดียว ได้คำตอบครอบคลุมทั้งหมด!
ทำเอาบรรยากาศในห้องโถงอึดอัดกังวลขึ้นมาในพริบตา
นอกจากผู้ว่าราชการมณฑลและหยางจิ่งเซียนแล้ว คนอื่นๆต่างก็มองหน้ากัน สีหน้าแย่มาก ครั้งนี้จอมพลเปิดเผยขนาดนี้ หมายความว่ายังไงไม่ต้องบอกก็เข้าใจ ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงไม่ได้ข่าวสารมา
ผู้ว่าราชการมณฑลดื่มชาในแก้วจนหมด สีหน้าที่น่าเกรงขามมีความหวาดกลัวเพิ่มเข้ามา ไม่ได้กลัวว่านั่นจะปลอม ในอาณาเขตของเขามีร่องรอยขององค์กรสัตว์เพลิง บวกกับการที่จอมพลทำอะไรเปิดเผยขนาดนี้ ไม่ดีตำแหน่งก็คงจะรักษาไว้ไม่ได้แล้ว
“ทุกท่านพูดตามสบายเถอะ บอกความคิดเห็นของตัวเองให้ฟังกัน”
ทันใดนั้นผู้อาวุโสที่นั่งอยู่ด้านขวาของหยางจิ่งเซียนพูดขึ้น “เรื่องที่ดินแดนตะวันตกจะต้องพลิกผันเป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็ว ตามคำกล่าวว่า จับได้หนึ่งสาวทอดมาถึงอีกหนึ่ง คาดว่าพวกเราเองก็ลำบากแล้วละ ตระกูลโจวเป็นหนึ่งสิ่งที่มีชื่อเสียงของดินแดนตะวันตกของพวกเรา แต่ตอนนี้กลับเกิดเรื่องขึ้น จอมพลจะต้องถามหาความรับผิดชอบแน่นอน”
“ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่ถามหาความรับผิดชอบ ตอนนี้การกระทำของตระกูลโจวสำคัญมาก ถ้าหากว่าเป็นไปตามข่าวที่จอมพลปล่อยออกมา แสดงว่าเขาได้รับรู้การกระทำของตระกูลโจวมาแต่แรกแล้ว เขานอกจากจะทำให้ตระกูลโจวหวาดกลัวแล้ว ก็ยิ่งจะดูท่าทางของพวกเราแต่ละฝ่าย มีประโยคหนึ่งที่พูดไว้ดี ก็คือเจอปัญหาก็จัดการเอง!
“ใช่แล้ว ตามที่ฉันรู้มา ตระกูลโจวไม่ได้เริ่มต้นก็จะไม่ถึงจุดจบ ตั้งแต่ที่จอมพลโจมตีกลับองค์กรสัตว์เพลิงที่หนานหลิง โดยจัดการกับท่านปรมาจารย์สำนักไร้หน้าก่อน จากนั้นก็เป็นสำนักฉิวหลง ตอนนี้ก็เป็นตระกูลโจว จอมพลทำไปทีละขั้น ก็เพื่อทำให้ผู้มีอำนาจทุกคนหวาดกลัว ให้พวกเขารู้ว่า ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”
“ผมเห็นด้วย ทุกท่าน อำนาจและตำแหน่งและแม้กระทั่งเงินทองล้วนเป็นสิ่งโดดเด่น ไม่ปิดบังเลยว่า ผมเองก็เคยได้รับคำเชิญจากองค์กรสัตว์เพลิงเช่นกัน!”
เมื่อคำพูดนี้พูดออกไป ทั้งห้องโถงก็เสียงดังวุ่นวายขึ้น
ผู้อาวุโสที่พูดควบคุมดูแลเหมืองทองทั้งหมดในดินแดนตะวันตกไว้ เรียกได้ว่าเป็นผู้มีอำนาจที่มีเหมืองอย่างแท้จริง!