จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 776 เอาชนะ
เผด็จการที่สุด!
เด็ดขาดไม่ลังเล!
นี่คือวิธีการที่นายน้อยแสดงให้ทุกคนได้เห็น!
ยังมีใครกล้าไม่เห็นด้วยอีก?
ต่างก็รู้กันดีว่านายน้อยเชือดไก่ให้ลิงดู หากจะโทษต้องโทษที่หลินซิงพูดมากเกินไป ทำเรื่องเฉียดตายครั้งแล้วครั้งเล่า ท้าทายเกียรติยศศักดิ์ศรีของนายน้อยครั้งแล้วครั้งเล่า พูดได้ว่าหาเรื่องใส่ตัว จนทำให้ตัวเองต้องตาย!
ตายแบบถูกเข้าใจผิด!
จะว่าไปแล้ว หากหลินซิงไม่อวดดีเกินไป เขาอาจจะไม่ตายเร็วขนาดนี้!
คิด ๆ แล้วก็น่าเศร้า ตอนแรกเจ็บปวดด้วยความผิดหวัง ตอนนี้ก็ต้องมาเสียชีวิตไป!
ได้ไม่คุ้มเสียเลย!
ความจริงใจของหลินซิงก็เห็น ๆ กันอยู่ แต่เขากลับเป็นตาเฒ่าหัวแข็งเลอะเลือนคนหนึ่ง สนใจแต่ผลประโยชน์และสิ่งที่เสียไปเพียงเล็กน้อยตรงหน้า ทำให้สูญเสียโอกาสที่ใหญ่กว่านั้นไป ถ้าเขาไม่ตาย แล้วใครจะตาย?
การกระทำเช่นนี้ของนายน้อย ทำให้ทุกคนโกรธเคืองไหม?
ตอนนี้ ใครจะกล้าเอ่ยปากพูด?
“ในเมื่อไม่มีใครไม่เห็นด้วย ก็จัดการเรื่องของตัวเองกันให้ดี ฉันไม่อยากได้ยินเสียงต่อต้านอีกแล้ว เข้าใจไหม?”
ทั้งสิบเจ็ดคนที่เหลือพยักหน้าพร้อมกัน แล้วยืนเรียงสองฝั่ง เพื่อรอให้ฟางเหยียนเข้าไปในตำหนักด้วยความเคารพยำเกรง ตอนนี้ ทุกคนต่างก็ทุกข์ใจแต่พูดอะไรไม่ออก โมโหแต่ไม่กล้าปริปาก!
“ไอ้หนุ่ม ตาแก่นั่นควรฆ่าตายไปตั้งนานแล้ว พูดมากจริง ๆ เรื่องนี้ต้องบอกเลยว่า แกทำได้ดีมาก เพราะจอมพลโผ้จวินไม่ชอบเสียงจ๊อกแจ๊ก เขาชอบความสงบ!”
“ขอบคุณพี่ชายมากครับที่เตือน รบกวนเข้าไปพูดคุยกันในตำหนักด้วยเถอะครับ”
ฟางเหยียนเดินก้าวยาว ๆ เข้าไปในห้องโถงจงรักภักดีอย่างรวดเร็ว เดินตรงไปยังเก้าอี้ผู้นำ แล้วนั่งลง!
เมื่อเขานั่งลงไป ทั้งสิบเจ็ดคนมีสีหน้าบึ้งตึงทันที ทันใดนั้นอารมณ์โกรธยิ่งปะทุมากขึ้น!
ที่นั่งนั่นไม่ใช่ใครจะนั่งก็ได้!
ที่นั่งนั่นนอกจากเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกตำแหน่งฐานะแล้ว มันยังเกี่ยวข้องกับหน้าตาของเพลิงเสวนทั้งหมดอีกด้วย แต่ตอนนี้ ที่นั่งตรงนั้นกลับถูกจอมมารฆ่าคนลงไปนั่ง นี่ไม่ใช่เป็นการทำให้เพลิงเสวนสูญเสียเกียรติเหรอ?
ทันใดนั้นมีคนพุ่งออกมาเอ่ยพูดอย่างไม่พอใจ : “นายน้อยครับ เชิญมันเข้ามาในตำหนัก เดิมทีก็ถือว่าคุณใจดีมีเมตตามากพอแล้ว แต่มีบางคนกลับเอาความใจดีมีเมตตาของคุณมาเหยียบย่ำเล่น!”
นายน้อยปรายตามองเขาอย่างเย็นชา “อยากตายเหรอ?”
คนคนนั้นใจสั่นทันที จากนั้นได้ก้มหัวลงกะทันหัน สีหน้าดูไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
ทันใดนั้นชิงตี้ได้นำน้ำและชามาเสิร์ฟ เหมือนสาวรับใช้ไม่มีผิด คอยยืนปรนนิบัติอยู่ข้าง ๆ
นายน้อยยืนอยู่ด้านล่างที่นั่งผู้นำ มองแวบเดียวก็รู้ว่าถ่อมตัวแค่ไหน และเขาไม่ได้เลือกที่จะนั่งลง ไม่อยากทำให้ฟางเหยียนขุ่นเคืองใจเพราะเหตุนี้ เพราะได้ไม่คุ้มเสีย ส่วนเทียนขุยนั่งลงทางด้านขวาของที่นั่งผู้นำ ซึ่งเป็นที่นั่งที่หลินซิงนั่งในเมื่อก่อนนั่นเอง
เมื่อนั่งลงดีแล้ว เทียนขุยได้มองไปยังนายน้อย แล้วแสยะยิ้มพลางเอ่ยพูด : “ไอ้หนุ่ม แกค่อนข้างจัดการเรื่องต่าง ๆ ได้ดีนี่ ค่อนข้างมีการศึกษารู้กาลเทศะดี รู้ว่าฐานะของใครเป็นที่เคารพนับถือ ต้องบอกเลยว่า แกนี่มันรู้งานดีจริง ๆ เพียงแต่ลูกน้องพวกนี้ของแก……”
ขณะที่พูด เทียนขุยได้ส่ายหน้าไปมา สีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์
นายน้อยยิ้มเล็กน้อย น้อมรับความวิจารณ์ของเทียนขุยด้วยความยินดี “พี่ชายพูดถูกต้องแล้วครับ โทษผมเองที่ดูแลสั่งสอนไม่เข้มงวดพอ เลยทำให้พี่ชายต้องมาเห็นเรื่องตลกอย่างนี้ วางใจเถอะครับ จะไม่มีพวกสายตาสั้น มองการณ์ไม่ไกลอีกเด็ดขาด”
ใช่ได้นี่!
เทียนขุยพบว่า นายน้อยอดทนดีจริง ๆ ไอ้หมอนี่วางท่าซะจนเขาโจมตีต่อไปไม่ได้แล้ว!
ช่างเสแสร้งเก่งเหลือเกิน!
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอคนที่หน้าด้านหน้าทนอย่างนี้!
เทียนขุยส่ายหน้าเล็กน้อย : “เป็นอย่างที่คนโบราณกล่าวไว้ไม่มีผิด คนหน้าด้านมักสามารถทำเรื่องต่าง ๆ ได้มากมาย!”
“หน้าตาไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นมอบให้ แต่ต้องหามาด้วยตัวเอง ถ้าหากสามารถร่วมมือกับจอมพลโผ้จวินได้ อย่าว่าแต่ใบหน้านี้เลย ต่อให้ต้องถลกหนังของผมแล้วยังไงล่ะ? พี่ชายคิดว่าไงครับ?”
เทียนขุย : “……”
แกคิดว่าไงล่ะ?
คำพูดนี้ทำไมฟังแล้วรู้สึกแทงใจจัง!
นายน้อยนี่คิดจะประจบประแจงไปไกลเลยนะ!
ทันใดนั้นเทียนขุยไม่รู้จะหาคำพูดไหน มาบรรยายความรู้สึกตอนนี้ได้อีก สำหรับการพูดเสียดสีนายน้อย เขาได้น้อมรับไว้ทั้งหมด ไม่เพียงเท่านี้ เขายังมาประจบเอาใจยกย่องอีกด้วย การปะทะฝีปากสำหรับเขา เหมือนการสวมใส่เสื้อเกราะ ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แถมยังดื่มด่ำกับมัน เหมือนกำลังถูกชื่นชมยังไงยังงั้น
แน่นอนว่า
พฤติกรรมเลียแข้งเลียขาของไอ้หมอนี่ สร้างขึ้นจากความแข็งแกร่งอย่างแน่นอน!
ยังไงการที่เขาฆ่าคนที่ชื่อหลินซิง ก็เรียกได้ว่าบ้าบิ่นมาก โดยเฉพาะความเผด็จการของนายน้อย เปิดเผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน สำหรับคนแบบนี้ ต้องฆ่าทิ้งโดยทันที ปล่อยเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด ต่อไปต้องกลายเป็นศัตรูที่น่าปวดหัวแน่นอน!
ผู้กระทำการใหญ่ทุกคน ล้วนเริ่มต้นมาจากตัวเล็ก ๆ อย่างนี้แหละ เป็นที่เห็นพ้องต้องกัน ว่ายังพอมีดีอยู่บ้าง!
และนายน้อยที่เด็ดขาดไม่ลังเลคนนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป อย่างน้อยในบรรดาคนที่เทียนขุยเคยฆ่ามา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเจอคนที่ขี้ขลาดอย่างนี้ แล้วจะให้เขาฆ่าทิ้งให้หมด ยืดเส้นยืดสายให้เลือดสูบฉีดได้ยังไงกันล่ะ?
นายน้อยทำให้เทียนขุยรู้สึกห่อเหี่ยวใจมาก การกระทำของนายน้อย ตรงกับคำกล่าวที่ว่า ทุบตีก็ไม่สู้กลับ ต่อว่าก็ไม่ด่ากลับ หน้าด้านหน้าทนเหมือนหมูตายที่ไม่กลัวน้ำร้อนลวก ปล่อยให้คุณทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ!
ประโยคเดียว!
ใช้อารมณ์ถือว่าฉันแพ้! แกตามสบายเลย!
ความอวดดีนี้ ใกล้จะเทียบกับเทียนขุยได้แล้ว!
“จอมพลครับ อนุญาตให้ผมพูดแผนการก่อนได้ไหมครับ จากนั้นคุณค่อยตัดสินใจ”
ฟางเหยียนยังคงไม่พูดพร่ำทำเพลงเหมือนอย่างที่ผ่านมา “พูดมา!”
“เหตุผลที่ผมเชิญคุณมานั้นไม่ซับซ้อนเลย นั่นคือล้อมโจมตีทั้งด้านนอกด้านในพร้อมกันเพื่อกำจัดตัวอันตรายให้หมดสิ้นไป แน่นอนว่า พูดง่ายแต่ทำได้ยากมาก”
“เดี๋ยวก่อน!” ฟางเหยียนพูดขัดนายน้อยขึ้นมา แล้วเอ่ยถาม : “แกมั่นใจขนาดนี้เลยเหรอว่าฉันจะทำตามที่แกบอก?”
“ไม่ครับไม่ใช่” นายน้อยพูดอย่างตื่นตระหนกตกใจ : “กระผมไม่ได้คิดจะก้าวก่ายจอมพลเลยครับ”
“จอมพลครับ คุณเองก็เห็นสภาพตอนนี้ของผมแล้ว ผมเป็นนายน้อยแห่งเพลิงเสวนจริง ๆ แต่ชื่อเสียงที่ถูกเรียกขานกลับไม่ได้ตรงกับความเป็นจริง ตำแหน่งนายน้อยนี้ เป็นเพียงแค่คนในเพลิงเสวนจำนวนหนึ่งไม่อยากทรยศต่อบรรพบุรุษเท่านั้น เลยเลือกคนที่มีอุดมการณ์และความทะเยอทะยานซึ่งขัดต่อกฎระเบียบของโลกนี้ พวกเราไม่อยากเห็นพวกมันทำลายเพลิงเสวนให้เลวร้ายไปมากกว่านี้ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกผมให้เป็นนายน้อย”
พูดถึงตรงนี้ จู่ ๆ นายน้อยก็โค้งตัวลงเก้าสิบองศา แล้วเอ่ยขอโทษ : “จอมพลครับ ผมต้องขอโทษคุณด้วย เกี่ยวกับเรื่องเฒ่าประหลาดของตระกูลโจวที่ดินแดนตะวันตก พวกมันจงใจยืมมือคนอื่นไปฆ่าคน จนเกือบทำให้จอมพลฆ่าคนที่จงรักภักดีไป สำหรับเรื่องนี้ ผมไม่อาจปัดความรับผิดชอบไปได้ เชิญจอมพลลงโทษได้เลยครับ”
“แค่ขอโทษคำเดียวก็สามารถปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้งั้นเหรอ? คำขอโทษนี้ดูจะเกินไปหน่อยมั้ง!”
นายน้อยฝืนยิ้ม : “จอมพลครับ เพราะพวกมันเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว และเพราะเรื่องนี้ ผมจึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านจอมพล ล้อมโจมตีทั้งด้านนอกด้านในพร้อมกัน ทำลายตัวอันตรายกลุ่มนี้ให้สิ้นซาก”
ฟางเหยียนมองหน้านายน้อย มุมปากแสยะยิ้มออกมา!
ว่าไงนะ?
เข้าร่วมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านจอมพล!
ผู้อาวุโสเสวียนกู่ทั้งสิบเจ็ดคนหมดอาลัยตายอยากทันที!
พวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมนายน้อยถึงฆ่าคนมากมายขนาดนั้นโดยไม่เสียดายเพียงเพื่อเอาใจจอมพลโผ้จวิน!
ที่แท้ตั้งแต่แรกเริ่ม นายน้อยก็มีแผนการนี้อยู่แล้ว!
มิน่าล่ะเขาถึงได้ฆ่าหลินซิงตายอย่างฉับพลัน เพราะต้องการเชือดไก่ให้ลิงดู แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือต้องการทำให้คนอื่นไม่สงสัยในตัวเขา นอกจากสร้างอำนาจให้ตัวเองแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือแสดงความจงรักภักดีต่อจอมพลโผ้จวิน ทำเพื่อให้ได้รับรองการเป็นสมาชิก!
ชิงตี้เองก็รู้สึกคาดไม่ถึงเช่นกัน ดวงตาเบิกโพลง จ้องมองนายน้อยอย่างเหม่อลอย
ทันใดนั้นมีคนกระโดดออกมาโต้แย้ง
“นายน้อยครับ ผมไม่เห็นด้วยกับการพึ่งพาอาศัยคนอื่น คบค้าสมาคมกับปีศาจเช่นนี้ พวกเรายังจะมีโอกาสรอดชีวิตหรือไง? เขาเพิ่งฆ่าคนของพวกเราไปสองร้อยกว่าคนอย่างโหดเหี้ยม ให้ร่วมมือกับเพชฌฆาตคนนี้ ผมยอมตาย!”
“ใช่ครับ นายน้อย พิจารณาให้ดีเถอะครับ โชคชะตาของพวกเราจะให้อยู่ในกำมือของเขาไม่ได้เด็ดขาด นี่เป็นการสวามิภักดิ์ต่อศัตรู หากอยู่ในสนามรบ ก็เหมือนเป็นการหนีศึกสงคราม อีกอย่างคนพวกนี้ของเราล้วนแต่ทิ้งลูกทิ้งเมียมาตามคุณนะครับ เดิมทีก็ทำเรื่องผิดบาปอย่างใหญ่หลวงอยู่แล้ว ตอนนี้ยังจะสวามิภักดิ์ต่อศัตรูอีก? ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ รบกวนนายน้อยทบทวนดูใหม่เถอะครับ”
“นายน้อยครับ นี่มันไม่ใช่แค่ชักศึกเข้าบ้านแล้ว แต่เป็นการขุดหลุมฝังศพตัวเองชัด ๆ ตอนแรกก็ฆ่าคนของพวกเราอย่างโหดเหี้ยมโดยไม่แยกแยะถูกผิด อีกอย่างคนคนนี้ ก็ไม่เคารพคุณเลย เดิมทีควรฆ่าทิ้งไปซะ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ทำให้คนทั้งโลกได้รู้ ว่าพวกเราไม่ได้ขี้ขลาดเลยสักนิด มีแต่ยอมตายทั้งยืน ดีกว่าต้องคุกเข่าเพื่อมีชีวิตอยู่! ฉะนั้นนายน้อยครับ รบกวนทบทวนดูอีกครั้งเถอะ!”
นายน้อยยังไม่ทันเอ่ยปากพูด คนที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ตอบโต้กลับไปทันที
“จำเป็นต้องให้แกเห็นด้วยงั้นเหรอ? แกคิดว่าตัวเองทำได้เหรอ งั้นแกก็จัดการสิ มัวแต่อ้าปากพูดจ๊อกแจ๊ก ๆ อยู่ที่นี่อยู่ได้ ได้แต่ปากดีอวดเก่งอยู่ในบ้าน เหมือนหมาบ้าตัวเองที่กัดคนไปทั่ว!”
หมาบ้าสองคำนี้ เรียกได้ว่ากระตุ้นความโกรธของทุกคนอย่างถึงที่สุด ก่อนหน้านี้ทะเลาะกันยังไม่ถึงขั้นลงไม้ลงมือ แต่ตอนนี้ได้ทำให้ไฟแค้นของทุกคนปะทุขึ้นมาหมดแล้ว!