จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 794 ฟางไห่เฟิงก็ร้ายกาจมาก
ปีศาจ!
ฟางเหยียนได้แต่ใช้คำนี้มาบรรยายพ่อตน เป็นอัจฉริยะที่สวรรค์เลือกมาจริงๆ ตั้งแต่เกิดก็พกพาสิ่งมหัศจรรย์มาด้วย ทำให้ทุกคนล้วนแต่ไม่อยากเชื่อ มันน่าตกใจมาก!
“ที่จำได้แม่นคือ ตอนเขาเจ็ดขวบ ตอนนั้นตระกูลฟางโดนคนนอกมารุกราน พวกที่มาเป็นนินจาระดับสูงแน่นอนอยู่แล้ว ประมาทฝีมือไม่ได้เลย และเป็นอัจฉริยะของบางตระกูล นินจาระดับสูงในตอนนั้นถือเป็นคนที่อยู่บนมุมยอดสุดของสามเหลี่ยม ได้มาเพียงคนเดียวก็สามารถสั่งการคนจำนวนหนึ่งได้ เรียกตนเองเป็นราชาได้เลย”
“เพราะปู่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ขวังซือเลยไม่ได้ปรากฏตัว วันนั้นตระกูลฟางได้รับบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก คนรับใช้และครอบครัวจำนวนไม่น้อยเลยที่ล้มตายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น จนทำให้ตระกูลฟางในตอนนี้ไม่ได้มีเครือญาติมากมาย ธุรกิจใหญ่โตเหมือนตระกูลอื่น และในตอนที่ตระกูลฟางกำลังจะโดนทำลายล้างตระกูล ไห่เฟิงก้าวออกมา!”
“เขาหมัดเดียวสั่นสะท้าน ฝ่าเท้าเคลื่อนตัวไวจนเกิดลม ออกหมัดจนทำให้ผู้รุกรานจำนวนไม่น้อยพากันครั่นคร้าม อาศัยกำลังของตนคนเดียวฆ่าฟันผู้รุกรานทั้งหมด มันดูมีอำนาจยิ่งใหญ่ราวกับหนึ่งเดียวนำทัพปราบดะทุกคนเลยทีเดียว พริบตาเดียวก็ฆ่าพวกมันตายสิ้น และครั้งนั้นก็เป็นเวลาที่ไห่เฟิงมีชื่อดังอย่างเด็ดขาด”
“ปีนั้น เขาพึ่งจะเจ็ดขวบ เจ็ดขวบก็สามารถฆ่านินจาระดับสูงได้แล้ว เรียกได้ว่าเป็นโชคดีของตระกูลฟางเรา”
ฟางเหยียนฟังมึนแล้ว เจ็ดขวบฆ่านินจาระดับสูงได้ พ่อเก่งเกินไปไหมเนี่ย!
“ตระกูลฟางรบครั้งเดียวโด่งดัง เหมือนกับได้นั่งรถไฟความเร็วสูงเลย พริบตาเดียวเปลี่ยนร่างจากตระกูลอันดับสามตระกูลหนึ่งเข้าไปในกลุ่มตระกูลอันดับหนึ่งของเจียงตู ตอนนั้นตระกูลฟางรุ่งโรจน์ไร้ที่สิ้นสุด เรียกได้ว่าต่อให้ไม่ออกไปไหนก็มีคนเข้ามาขอทำธุรกิจด้วย พัฒนาอย่างรวดเร็ว จนทำให้ตระกูลฟางได้ติดอยู่ในอันดับตระกูลอันดับต้นของประเทศหวา”
“และเป็นตอนนั้นเองที่ตระกูลฟางกลายเป็นตระกูลดังมีชื่อเสียง แต่ก็เป็นตอนนั้นเองตระกูลฟางได้กลายเป็นหนามยอกอกในสายตาตระกูลทั้งหมดด้วย แต่ตระกูลฟางมีทั้งขวังซือและยังมีฟางไห่เฟิง ทำให้ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง เพราะแบบนี้ชื่อเสียงของตระกูลฟางพัฒนาแบบก้าวกระโดดและปลอดภัยภายใต้การนำทัพของฟางไห่เฟิง”
“แต่มันจะมีอะไรราบรื่นตลอดรอดฝั่งกันล่ะ จนถึงเมื่อสิบหกปีก่อน คนของอสูรเพลิงมาตามชื่อเสียง ไม่ต้องพูดก็รู้แล้ว คือหวังว่าตระกูลฟางจะเข้าร่วมกับพวกเขา โดยเฉพาะฟางไห่เฟิง”
พูดถึงตรงนี้ ดวงตาคู่อิดโรยของฟางจินหยวนมีน้ำตาไหลพราก ท่าทางเจ็บปวดใจนัก
“คนของอสูรเพลิงเร็วมาก มากันพร้อมพรั่ง ปู่เองก็พึ่งมารู้ตอนหลังว่า สิบกว่าคนที่มาวันนั้นเป็นนินจาระดับต้าชี่กันหมด แถมฝีมือไม่ด้อยเลย ขวังซือเข้าร่วมด้วย แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ ขวังซือกับไห่เฟิงแพ้แล้ว อัจฉริยะหนึ่งคนโดนสิบกว่าคนล้อมกรอบจนพ่ายแพ้!”
ฟางไห่อิงฟังอย่างงุนงง เธอไม่คิดเลยว่าพี่รองของตนจะเก่งขนาดนี้ เธอรู้แต่เพียงผิวเผินเท่านั้น ตอนนี้ถึงพึ่งจะได้รู้ว่าตอนนั้นพี่รองแข็งแกร่งแค่ไหน
“พ่อคะ ถ้าอย่างนั้นพี่รองโดนองค์กรสัตว์เพลิงฆ่าหรอคะ?”
ฟางจินหยวนพยักหน้าและส่ายหน้า “ถึงไห่เฟิงจะแพ้ แต่ไม่ได้แพ้หมดรูป บรรยากาศตึงเครียดอยู่นาน คนขององค์กรสัตว์เพลิงเริ่มเลือกการเจรจา แต่ตอนนั้นตระกูลฟางกลายเป็นตระกูลระดับต้นของประเทศหวา ยืนอยู่บนมุมสูงสุดของสามเหลี่ยม จะยังต้องการอะไรอีก?”
“แต่จุดสำคัญจุดนี้ องค์กรสัตว์เพลิงทำเรื่องที่ทุกคนไม่คาดคิด พวกเขาลักพาตัวครอบครัวเครือญาติใกล้ชิดของตระกูลฟาง ซึ่งเป็นเด็กชายหญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบ เพื่อจะฝึกฝนพวกเขาเป็นนินจา ภายใต้การอบรมของพวกเขา คนพวกนี้กลายเป็นนินจาในระยะเวลาอันรวดเร็ว หลายปีหลังจากนั้นกลับมาถึงตระกูลฟาง กลับเปิดฉากฆ่าล้างบาง!”
ฟางไห่อิงตะลึง ช่วงนั้นเธอเคยได้ยินเหมือนกัน ตอนนั้นเธอไปเรียนมหาลัยที่ด้านนอก ตอนรีบกลับมา ทุกอย่างก็จบลงแล้ว แต่เธอกลับรู้ว่าตระกูลฟางโดนทำร้ายอีกครั้ง
ฟางเหยียนนิ่งเงียบตลอด ความตกใจที่ฟางไห่เฟิงให้เขา ทำให้เขาเลื่อมใสพ่อตัวเองอย่างราบคาบ ถ้าไม่มีเรื่องมากมายขนาดนี้ บางทีคงไม่มีเรื่องอะไรของเขาแล้ว
แต่มองอีกด้านหนึ่ง ก่อนนี้เนิ่นนานมาแล้ว องค์กรสัตว์เพลิงได้หมายตาตระกูลฟางไว้แล้ว ดูท่าองค์กรสัตว์เพลิงจะวางหมากกระดานใหญ่มากเอาไว้ กระดานหมากนี้ปรากฏขึ้นตั้งแต่สมัยฟางไห่เฟิงพ่อของเขาแล้ว ตอนนี้เรื่องเล็งเป้ามาที่ตัวฟางเหยียน ดูท่าจะวางแผนมานานแล้ว
เพียงแต่เขาไม่รู้ว่า องค์กรสัตว์เพลิงทำแบบนี้เพื่ออะไรกัน?
หรือเพียงเพราะจะขยายอิทธิพล เพิ่มพูนฝีมือตัวเองอย่างเงียบๆหรอ?
ทฤษฎีมันดูไม่เข้ากันเลย!
จากที่ได้ยินมาจากเสวียนเย่ ตัวเสวียนเย่เองก็พึ่งจะยี่สิบปี น้องชายเขาเมื่อสิบหกปีก่อนก็พึ่งจะแค่สี่ขวบ จะวางหมากกระดานนี้ได้ยังไงกัน? ถ้าเป็นฟางไห่เฟิงล่ะก็ เขาเชื่อ เด็กอายุสี่ขวบจะมีวิธีการคุ้นชินอย่างนี้ได้ยังงไ? จะพัฒนาขยายอำนาจตลอดแบบนี้ได้ยังไง?
สิ่งเดียวที่ดูจะเข้าทีคือ เบื้องหลังนายน้อยคนนั้นมีมือดีคอยจัดการทั้งหมดนี้อย่างเงียบๆอยู่
ตอนนี้มาคิดดูแล้ว การตายของเทียนหม่ากับพี่น้องสำนำเจ็ดพิฆาตพันกว่าคนนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เป็นผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้แล้ว ตั้งแต่เมื่อสิบหกปีก่อน องค์กรสัตว์เพลิงก็เริ่มวางหมากกระดานก้าวใหญ่นี้เอาไว้แล้ว จากการกระทำของพวกเขาแล้วดูออกเลยว่า พวกเขาคิดการใหญ่มาก ไม่ว่าจะเป็นตระกูลดังหรือสำนักต่างๆ พวกเขาล้วนอยากกินทั้งนั้น!
ความอยากไม่น้อยเลยนี่ !
ฟางจินหยวนสูดออกซิเจนเข้าปอด พูดต่อว่า “คืนนั้น ทั้งตัวไห่เฟิงเต็มไปด้วยเลือดมายืนต่อหน้าปู่ ใช่ ยืนตรงที่หลานยืนอยู่ตรงนี้แหละ และด้วยท่าทีโกรธแค้นแบบนี้ด้วย พวกเธอพ่อลูกมีจุดที่คล้ายกันอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นสีหน้าหรือฝีมือ ล้วนเป็นระดับอัจฉริยะทั้งนั้น”
“ปู่ไม่เคยลืมเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นได้เลย…”
ระหว่างพูด ฟางจินหยวนหลับตาทั้งคู่ลง น้ำตาไหลพรากอย่างเงียบๆ ความคิดคำนึงลอยไปที่คืนนั้น…
ฟางไห่เฟิงเช็ดเลือดสดบนตัวออกพลางว่า “พ่อครับ ตระกูลฟางเราท่าจะรักษาไว้ไม่ได้แล้ว อำนาจเกิดใหม่ล้วนถูกควบคุมในมืออสูรเพลิง เติบโตขึ้นราวกับต้นหญ้า พวกเขาจะกลายเป็นสิ่งกีดขวางตระกูลฟางที่ใหญ่ที่สุด”
“แผ่นดินกลบหน้าผู้ภักดี กระดูกขาวโพลนผู้บริสุทธิ์ต้องโดนกลบฝัง การกระทำของอสูรเพลิงผิดกฎฟ้าดินแล้ว เรียกได้ว่า ทำผิดมหันต์ ทำคนขนลุกขนพอง โดยเฉพาะฆ่าฟันผู้ชายตระกูลฟางอย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ ทำให้เจ็บปวดถึงขีดสุด!”
“พ่อ เป็นแบบนี้ต่อไป ตระกูลฟางคงจะ…”
“ไม่เป็นไร ไห่เฟิง ต่อให้ตระกูลฟางต้องสู้จนเหลือคนสุดท้าย ก็ยังคงไม่ยอมแพ้ ความเย่อหยิ่งทระนงตนนั้นจะละทิ้งไม่ได้ พวกเขาจะฆ่าล้าง พวกเราตระกูลฟางก็จะสู้ ถึงที่สุดเหลือคนสุดท้าย”
ฟางไห่เฟิงส่ายหัวบอก “พ่อครับ ผมเข้าใจความหมายของพ่อ ผมได้ไหว้วานให้เย่เทียนเพื่อนรักของผมพาเสี่ยวเหยียนไปแล้ว ขออภัยให้กับความเห็นแก่ตัวของผม ผมเชื่อว่าเย่เทียนจะดูแลเสี่ยวเหยียนอย่างดี เขาพึ่งจะสิบหกปี กว่าจะมีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้มันไม่ง่ายเลย ดังนั้นผมจึงไม่อยากเห็นตระกูลฟางไร้ลูกหลานสืบทอด!”
ฟางจินหยวนอึ้งไป นี่มันเหนือความคาดหมายของเขาจริงๆ!
ผู้ชายตระกูลฟางร่วมมือกันแก้แค้นศัตรูคู่แค้นน ร่วมใจกันต้านทานการรุกรานจากศัตรูภายนอก ฟางไห่เฟิงกลับส่งลูกหลานตระกูลฟางออกไป จะไม่ให้เขาโมโหได้ยังไงกัน?
เขาโพล่งด่าออกไปเลยว่า “ฟางไห่เฟิง มีแต่แกฉลาดใช่ไหม? แกรู้ไหมว่า แกทำแบบนี้มันเห็นแก่ตัวมาก ระหว่างที่ผู้ชายตระกูลฟางกำลังฆ่าฟันศัตรูกันเลือดพล่าน แกกลับทำแบบนี้ คนอื่นรู้เข้า จิตใจเขาจะหนาวเหน็บแค่ไหน! ชีวิตลูกชายแกเป็นชีวิต เด็กคนอื่นไม่ใช่ชีวิตหรือไง? ทำไมแกสิ้นคิดแบบนี้หะ!”
ฟางไห่เฟิงพลันคุกเข่าลงต่อหน้าฟางจินหยวน เขาโขกหัวคำนับดังปึ้กๆ จนหน้าผากมีเลือดไหลออกมา เขาก็ไม่แคร์พลางว่า “พ่อครับ เสี่ยวเหยียนน่ะมีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ฉลาดลึกล้ำมาก จนถึงตอนนี้เขายังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นคนตระกูลฟาง พ่อเข้าใจความหมายของผมไหม? เขาโดนผมปิดบังฐานะคุณชายใหญ่ตระกูลฟางเอาไว้ตั้งแต่เด็ก เพื่อจะเลี้ยงดูเสี่ยวเหยียนอย่างคนจน ให้เขาฝึกฝนให้มาก ตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้เรื่องทั้งหมด ทำไมต้องดึงเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะ?”
“ครับ ผมยอมรับว่าผมเห็นแก่ตัว แต่ลูกหลานของเหล่าพี่น้องใครบ้างไม่อยู่อย่างสุขสบาย ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาตั้งแต่เด็ก ใช่ครับมันเป็นสิทธิพิเศษที่พวกเขาควรจะมี ผมไม่คัดค้าน แต่เสี่ยวเหยียนเป็นผู้บริสุทธิ์นะ จนถึงตอนนี้เขายังคิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา พ่อเข้าใจความหมายของผมไหม?”
ฟางจินหยวนอึ้ง ฟางไห่เฟิงทำแบบนี้มันโหดไปไหมเนี่ย!