จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 822 คนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง!
ปืนสามสิบกว่ากระบอก ไม่มีกระบอกไหนที่ยิงโดนฟางเหยียนเลย เขาเหมือนกับว่ามีดวงตาอยู่รอบตัว ที่สามารถคาดเดาทิศทางของกระสุนได้!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
การคาดเดาเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ได้มาจากประสบการณ์การสู้รบมากมาย ฟางเหยียนเขาไม่ได้ใช้กำลังทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อจะเล่นเกมซ่อนหา เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อยคนสารเลวพวกนี้ไป!
แม้ว่าจะเป็นนินจา เผชิญหน้ากับสไนเปอร์มากมายขนาดนี้ ก็คงจะไม่ถึงขั้นที่ไม่บาดเจ็บสักนิดหรอกมั้ง?
หลิวเฟินเขาตัดสินว่าไม่สามารถทำได้เด็ดขาด!
จางไห่เฟิงยิ้มอ่อน “ถ้าตัวเขาสามารถในสายตาของคนทั่วไปมามอง เบื้องบนก็คงไม่จำเป็นต้องจัดมอบนินจาระดับต้าชี่มาให้ฉันมากขนาดนี้หรอก นายอย่าได้ลืมไปละ ว่ามันฆ่าหลินซิง!”
หลิวเฟินเงียบกริบไม่กล้าพูดจา!
หลินซิง นินจาระดับต้าชี่ ระดับสูงของสาขาดิน!
“พี่เฟิงครับ งั้นพวกเรา……”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว ดูอยู่เงียบๆก็พอ อยากจะฆ่าคนๆนี้ ไม่ง่ายขนาดนั้น”
หลิวเฟิน “…..”
เขาสังเกตเห็นแล้ว ตั้งแต่ที่ฟางเหยียนมาปรากฏตัว จางไห่เฟิงก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนไปเป็นไม่มั่นใจ นี่มันตรงกันข้ามกับจางไห่เฟิงในก่อนหน้านี้ เหมือนกับว่าเปลี่ยนเป็นคนละคนกัน หลิวเฟินเขาไม่กล้าถาม และก็ไม่กล้าพูด!
เสียงปืนเบาลงแล้ว ความเร็วของฟางเหยียนเองก็ลดลง
“พี่เฟิงครับ มือปืนตายหมดแล้วครับ” หลิวเฟินพูดเสียงทุ้ม
“มัดเย่ชิงหยู่ไว้ซะ จากนั้นก็ห้อยไว้ ใช่ แล้วก็เอาเชือกมาให้ฉัน”
จางไห่เฟิงจับเชือกไว้ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฟางเหยียน ดูด้านบน!”
ฟางเหยียนหยุดฝีเท้าทันที เงยหน้ามองขึ้นไปด้านบน วินาทีนั้น ความโกรธพุ่งสูงขึ้น!
บนชั้นหก มีหญิงสาวที่ผมยาวสยายดูหน้าตาไม่ออก กำลังถูกมัดไว้และห้อยกลางอากาศ โงนเงนไปมาและสามารถตกลงพื้นได้ตลอดเวลา!
“จางไห่เฟิง!” ฟางเหยียนโมโหถลึงตาโต น้ำเสียงเย็นชาอย่างที่สุด
จางไห่เฟิงไม่สนใจความโมโหของฟางเหยียน “ฟางเหยียน ไม่เจอกันนานเลย! ของขวัญชิ้นใหญ่นี้ที่ฉันมอบให้นาย เป็นยังไงบ้าง?”
“ตอนนี้ต่อให้นายมีเก้าชีวิตก็ไม่เพียงพอ!”
“ตาย?” จางไห่เฟิงหัวเราะเสียงดัง “ฟางเหยียน คิดว่าตอนนี้นายเป็นจอมพลผู้รุ่งโรจน์ที่สูงศักดิ์อยู่จริงๆงั้นหรอ? ตื่นซะเถอะ แม้ทหารนับล้านจะมาปรากฏตัว นายคิดว่านายจะช่วยผู้หญิงคนนี้ได้จริงๆงั้นหรอ? แม้แต่ผู้หญิงของตัวเองยังช่วยไม่ได้ นายจะช่วยเหลือประเทศหวาที่ไม่ปกตินี่งั้นหรอ? หืม? ฉันจะบอกนายให้นะ ตอนนี้นายก็เป็นเพียงหมาตัวหนึ่งของฉันก็เท่านั้น คนที่พ่ายแพ้คนหนึ่งก็เท่านั้น”
“เทพสงคราม! ก็แค่เท่านี้เอง!”
“ตอนนี้ การตัดสินใจอยู่ในมือฉัน นายก็เป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งของฉัน ทหารนับล้านแล้วยังไง? อย่างมากก็แค่ตายกันไปข้าง แต่ว่าก่อนจะถึงตอนนั้น ฉันจะให้นายเห็นด้วยตาตัวเองว่าผู้หญิงของนายตายยังไง!”
ดวงตาของฟางเหยียนที่นิ่งสงบ ปรากฏความตื่นตระหนกออกมาเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาร้อนรนขนาดนี้ เย่ชิงหยู่เป็นผู้หญิงของเขา เขาไม่สามารถที่จะทำเป็นไม่สนใจได้ โดยเฉพาะตอนนี้ ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของจางไห่เฟิง
“ดูท่าทางของนายแล้ว เหมือนว่าจะยอมรับชะตากรรมแล้ว? พูดจริงนะ นายทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ นายทำแบบนี้ ทำเอาฉันลำบากใจมากเลย!” พูดอยู่แล้วจางไห่เฟิงก็ปล่อยเชือกเล็กน้อย เย่ชิงหยู่โงนเงนรุนแรงหนักกว่าเดิม สามารถตกหล่นได้ตลอดเวลา
“จางไห่เฟิง ถ้าหากว่าแกเป็นลูกผู้ชาย ก็มาลงที่ฉัน!”
“ลูกผู้ชาย? เหอะๆ….” จางไห่เฟิงหัวเราะ “ตั้งแต่ที่สองขาของฉันถูกตัด ฉันก็ไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว และก็ในเวลานั้นเอง ความแค้นสามารถให้ความหวังในการมีชีวิตอยู่กับคนที่เกือบจะตายได้มากแค่ไหน ทุกอย่างนี้ก็เพราะนาย เพราะงั้นฉันจะคิดบัญชีอย่างดีเลย!”
“ตอนนี้ คุกเข่าลงซะ!”
คุกเข่า?
ให้เทพสงครามคุกเข่าให้แก ช่างกล้าพูดจริงๆ!
พรึ่บ!
ฟางเหยียนคุกเข่าลง!
วินาทีนั้นเอง ท้องฟ้าที่เดิมทีสดใสสุดลูกหูลูกตา จู่ๆก็มืดครึ้ม เกิดฟ้าผ่า ท้องฟ้าพลิกผัน!
จางไห่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย มันคุกเข่าลง กลับทำให้ท้องฟ้าแผ่นดินพลิกผัน?
คนธรรมดาอย่างมัน จะมีผลกระทบหนักขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
ในขณะนี้เอง หลิวเฟินเก็บโทรศัพท์ พูดด้วยสีหน้าเอาใจ “พี่เฟิงครับ อย่าถูกมันขู่ได้นะครับ เขาคุกเข่าลงจะทำให้ท้องฟ้าพลิกผันได้ยังไงกัน? เมื่อกี้ผมค้นดูแล้วครับ วันนี้จะมีฝนฟ้าผ่าครับ แล้วยังหนักด้วยครับ ตกยาวถึงตอนกลางคืนเลยครับ!”
จางไห่เฟิงยิ้ม “ไม่เลวนี่ มีความคิดดีนะ ในที่สุดก็ฉลาดสักที”
“แน่นอนสิครับ ไม่ดูละครับว่าผมอยู่กับใคร ใช่มั้ยครับ พี่เฟิง”
วิชาการประจบประแจงนี้ หลิวเฟินถือว่าเป็นอาจารย์ได้แล้ว!
ฝนห่าใหญ่มาตามกำหนด
จางไห่เฟิงพอใจมาก และพูดต่อไปว่า “นายต่อสู้เก่งไม่ใช่รึไง มือปืนเมื่อกี้ก็แค่อาหารเรียกน้ำย่อย ตอนนี้ถึงจะเป็นของจริง”
เพิ่งพูดจบ ก็มีชายชุดดำวิ่งออกมาจากในโรงพยาบาลล้อมตัวฟางเหยียนไว้
“จำไว้ นายทำได้แค่คุกเข่าเท่านั้น ถ้าหากว่ากล้าลุกขึ้นมา มือของฉันมันชอบสั่น เพราะยังไงซะก็ไม่มีขาแล้ว กำลังก็ลดลงไปมาก ใช่มั้ย!”
ฟางเหยียนชนสังเกตเห็นแล้วว่าคนที่วิ่งออกมามีเจ็ดสิบกว่าคน ล้วนเป็นนินจาระดับต้าชี่ ในใจของเขาก็ยิ่งมั่นใจสิ่งหนึ่งมากขึ้น คนพวกนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับองค์กรสัตว์เพลิงแน่นอน เพราะคนที่สามารถมีพื้นหลังขนาดนี้ได้ นอกจากองค์กรสัตว์เพลิงแล้วจะยังมีใครอีก?
“จางไห่เฟิง แกคิดว่าขยะพวกนี้สามารถฆ่าฉันได้จริงๆงั้นหรอ? อ่อนข้อให้พวกมันสองขาแล้วยังไง?”
“สมแล้วที่เป็นเทพสงครามผู้รุ่งโรจน์ คำพูดที่อวดเก่งแบบนี้ ทำเอาฉันอดไม่ได้ที่จะตกใจเลยละ? ในเมื่อนายชอบ งั้นก็เพลิดเพลินกับมันดีๆละ” พูดจบ เขาก็พูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายว่า “ฆ่ามันซะ แล้วฉันจะให้ตำแหน่งสูงขึ้นอีกระดับ!”
ชายชุดดำพุ่งเข้าใส่ฟางเหยียนอย่างกับท่อน้ำแตก มีมากมายนับไม่ถ้วน
พวกเขาไม่หวาดกลัวเลยสักนิด นินจาที่ไม่มีสองขา กำลังก็จะลดลงอย่างมาก นี่มันเป็นโอกาสที่จะให้เลื่อนตำแหน่งอย่างง่ายดายชัดๆ!
การต่อสู้รอบแรก คนที่เข้าใกล้ฟางเหยียนกระเด็นลอยออกไป!
ไม่มีคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขารู้เพียงแค่ว่า กำลังภายในมหาศาลอย่างหนึ่งฟาดเข้าที่ตัวพวกเขาอย่างหนัก เหมือนกับว่าเนื้อหนังจะฉีกขาด ทำให้พวกเขาไม่สามารถทนได้ และกำลังภายในนั้นก็รุนแรงอย่างมาก ไม่มีท่าทีว่าจะหายไป และพุ่งกระจายเข้าใส่ทุกคน
ในตอนนี้ ฟางเหยียนกลับเก็บสองขาไว้แน่น สองมือพนมไว้ นอกจากนี้แล้ว ก็ไม่ได้ทำอะไรอีก!
เขาเหมือนดั่งพระที่นั่งเงียบสงบ เหมือนกับว่าสิ่งรอบด้านนั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขา และยิ่งไม่มีความตื่นตกใจอะไรเลยสักนิด
แปลกประหลาดเกินไปแล้ว!
ชั้นดาดฟ้า ปากของหลิวเฟินที่ตกใจอ้ากว้างแทบจะยัดไข่ได้ทั้งใบแล้ว ปล่อยกำลังภายใน ไม่ขยับกาย นี่มันเป็นนินจาระดับปรมาจารย์นี่นา!
“พี่เฟิงครับ นินจาระดับปรมาจารย์ครับ พวกเราคำนวณอะไรผิดไปรึเปล่าครับ?”
สำหรับฟางเหยียนที่เป็นนินจาระดับปรมาจารย์ จางไห่ฟางกลับคาดคิดไว้แล้ว คนที่สามารถฆ่าหลินซิงได้ จะเป็นคนธรรมดางั้นหรอ?
ตั้งแต่ที่เขาหายตัวไปจากโรงพยาบาล ทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น นินจา เก่งกว่าเหนือกว่าคนธรรมดา และมีผลกระทบที่มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นกำลังหรือทักษะ ล้วนไม่สามารถใช้สายตาของคนทั่วไปมอง พวกเขาถึงจะเป็นผู้มีอำนาจที่ครองทุกสิ่งอย่างแท้จริง ถ้าไม่ใช่เพราะคนเบื้องบนเปิดทางให้กับจางไห่เฟิง จนตอนนี้เขาจะรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?
แต่สำหรับฟางเหยียนแล้ว เขาก็มีความตกใจอยู่นิดหน่อย นี่ถึงจะเป็นผู้มีอำนาจอย่างแท้จริงที่สุด!
เขาคือนินจาระดับปรมาจารย์ แล้วทำไมจะต้องมาแทรกแซงเรื่องทั้งหมดในบ้านตระกูลจาง? นินจาระดับปรมาจารย์มีไม่เกินสี่คนในประเทศหวา เป็นบุคคลระดับสูงที่สุดของประเทศหวา บวกกับตัวตนที่เป็นเทพสงครามของเขา เพียงพอที่จะให้ชีวิตที่ดีมากกับเย่ชิงหยู่แล้ว แล้วทำไมยังต้องแสร้งทำเป็นคนอ่อนหัดด้วย? แล้วทำไมยังต้องมาโลภอยากได้ตงข่ายกรุ๊ป? ทำไมจะต้องทำลายทั้งหมดที่ควรเป็นของเขาด้วย? เพราะอะไร?
เมื่อนึกถึงว่าเป็นคนตระกูลจางเหมือนกัน แต่ทำไมเย่ชิหยู่ถึงได้มีทุกอย่าง? ยิ่งคิดความไม่พอใจและความโกรธในใจของเขาก็ยิ่งหนักมากขึ้น และความแค้นเองก็ยิ่งมากขึ้น!
“เย่ชิงหยู่ เธอรู้ตัวตนของฟางเหยียนมาตั้งแต่แรก ทำไมยังต้องมาอยากได้ตงข่ายกรุ๊ปของตระกูลจาง เพราะอะไร!”
เย่ชิงหยู่ฟังไม่เข้าหูด้วยซ้ำ ตอนนี้ร่างกายของเธอร้อนรุ่มไปหมด ใจไม่สงบนิ่ง ขยับร่างกายไม่หยุด สีหน้าเจ็บปวดอย่างมาก ฤทธิ์ยาออกฤทธิ์จนที่สุดแล้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่เธอรู้สึกไม่ดีมากที่สุด เธอจะฟังคำพูดของจางไห่เฟิงชัดเจนได้ยังไงกัน
“นินจาระดับปรมาจารย์แล้วยังไง? ตัดขาทั้งสองข้างของมัน ไม่มีสองขา ก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์คนหนึ่งเท่านั้น!”
จางไห่เฟิงไม่เคยคิดที่จะให้ความตายกับฟางเหยียนในทีเดียว ความเจ็บปวดที่ขาขาด จะให้ปล่อยฟางเหยียนไปอย่างง่ายดายได้ยังไงกัน เย่ชิงหยู่เป็นตัวการหลักที่ทำให้ฟางเหยียนไม่มีการป้องกัน เขาไม่อยากให้ทั้งสองคนนี้อยู่อย่างสุขสบาย!
เขาจะหยอกล้อทั้งสองคนเล่นช้าๆ ดีที่สุดคือให้ทั้งสองคนทรมานทั้งเป็น เจ็บปวดอย่างที่สุด!