จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 825 ล่อเสือออกจากถ้ำ
จากที่เทียนขุยไล่ฆ่าไปทั่ว ทุกคนที่เดิมทีคิดว่าชัยชนะอยู่ในกำมือ ต่างก็แตกกระจาย หลบหนีกันอย่างน่าอนาถ!
ฟางเหยียนไม่สู้กลับ ไม่ต่อต้าน ไม่ได้หมายความว่าเทียนกางจะทำตามกฎนี้ ความโมโหที่อดกลั้นไว้ เขาทนไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว!
เป็นนินจาระดับต้าชี่เหมือนกัน แต่ความแตกต่างจะมากเกินไปแล้ว! ความน่ากลัวที่เทียนกางปล่อยออกมา ทำเอาสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว ในใจกระสับกระส่าย ไม่มีความคิดที่จะต่อสู้ด้วย คิดเพียงแค่ว่าไม่อยากโดนทำร้ายไปด้วย หนีได้ไกลมากเท่าไหร่ก็หนีไปมากเท่านั้น!
เทียนกางถีบคนตรงหน้าออก แล้วพูดเสียงดังว่า “พี่ใหญ่ครับ ความดูถูกเหยียดหยามที่คุณได้รับ เทียนกางคนนี้จะต้องนำกลับมาให้คุณ คุณอย่าได้โทษเทียนฝู่ ผมหนีออกมาเองครับ ผมทนเห็นพี่ใหญ่ถูกเหยียดหยามไม่ได้ อีกอย่าง พี่ใหญ่ครับ ผมคิดว่าคุณนายน่าจะไม่ไหวแล้ว เทียนซิงและเทียนฝู่พูดว่าคุณนายไม่ขยับแล้ว รู้สึกว่ามีจุดไหนแปลกๆครับ”
ฟางเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย เทียนฝู่เรียกได้ว่ามีตัวตนเป็นที่ปรึกษาทางการทหารของสำนักเจ็ดพิฆาต แม้แต่เขายังสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ดูแล้วน่าจะมีปัญหาจริงๆ แต่ปัญหามันคือจุดไหนกันละ?
เทียนฝู่ดูอะไรก็แม่นมาเสมอ ดังนั้นจึงได้จัดส่งเขาไปอยู่ที่เมืองหลวงเพื่อรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยของเมืองหลวง ดำรงตำแหน่งมานานขนาดนี้ ไม่เคยมีข้อผิดพลาดเกินขึ้นเลย เขาสุขุมรอบคอบ ระมัดระวังและละเอียดมาเสมอ เป็นทหารที่ทุ่มเทมาก นอกจากทุ่มเทแล้ว การวางแผนของเขาก็อยู่ในระดับสูงสูดของสำนักเจ็ดพิฆาต รองจากฟางเหยียนเพียงเท่านั้น
เย่ชิงหยู่ก็ยังเป็นเย่ชิงหยู่คนนั้น การที่ไม่ขยับอาจจะเป็นเพราะว่าเหนื่อยล้า ไม่มีแรงแล้ว จากความหมายในคำพูดของหลัวเทียนเยว่แล้ว เย่ชิงหยู่หายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืน ทรมานมาทั้งคืน แม้จะเป็นผู้ชายก็คงไม่ไหว แล้วนับประสาอะไรกับผู้หญิงคนหนึ่งละ?
จากนั้น ฟางเหยียนก็มองไปที่เย่ชิงหยู่อีกครั้ง ที่ไหนผิดปกติกันแน่นะ?
คำพูดประโยคนั้นของเทียนกางที่ว่าไม่ขยับแล้ว เป็นเหมือนกับแมวน้อย ที่ข่วนใจของฟางเหยียนอยู่ตลอดเวลา
เวลาเพียงไม่นาน เดิมทีสถานการณ์ที่ได้เปรียบอยู่ฝ่ายเดียว ถูกเทียนกางเพียงคนเดียวพลิกสถานการณ์!
พวกเขาต่างก็รีบหนี ไม่กล้าต่อสู้ด้วย!
สีหน้าของจางไห่เฟิงไม่พอใจอย่างที่สุด ตัวเองกลับมาอย่างราชา เปลี่ยนตัวเองอย่างสง่า แต่ก็ยังสู้ลูกน้องของฟางเหยียนไม่ได้ ความรู้สึกแตกต่างผุดขึ้นมา “ฟางเหยียน นายอยากจะให้เย่ชิงหยู่ตายเร็วหน่อยใช่มั้ย”
พูดไปแล้วก็ไม่ได้สนใจว่าฟางเหยียนจะได้ยินมั้ย แล้วก็ยิงไปที่แขนของเย่ชิงหยู่หนึ่งนัด!
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้น ทั้งโรงพยาบาลร้างต่างก็เงียบสงบลง เหมือนกับว่าเวลาได้หยุดนิ่งลง!
เทียนกางหยุดต่อสู้ ก้มหัวไว้เหมือนกับเด็กที่ทำเรื่องผิดมา
ฟางเหยียนใจกระตุก ร่างกายสั่นไหวขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ โมโหอย่างมาก “จางไห่เฟิง!”
“นายโทษอะไรฉันได้? จะโทษก็โทษตัวนายเองเถอะ เหมือนว่าฉันจะบอกกับนายแล้วว่า นายมาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น แล้วตอนนี้ละ? ฆ่าคนของฉันมากมายขนาดนี้ หรือฉันไม่ควรจะโมโหสักหน่อย? เหมือนฉันจะเคยบอกกับนายแล้ว มือของฉันมันสั่นง่าย นี่ก็….ฮ่าๆๆ….”
และกระสุนนัดนี้เอง ที่ทำลายความอดทนสุดท้ายของฟางเหยียนจนหมดสิ้น!
และก็กระสุนนัดนี้เอง ได้ทำลายความไร้สติในใจของฟางเหยียน!
“ฆ่า!”
เสียงคำรามคำหนึ่งดังออกมาจากปากเขา เทียนกางคิดว่าตัวเองฟังผิดไป แต่เมื่อมองดูร่างกายของฟางเหยียนที่ขยับเคลื่อนไหวอย่างกับวิญญาณแล้ว เขาก็รีบเข้าร่วมการเข่นฆ่านี้ด้วย เขาอยากจะถามมากว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในตอนนี้ สามารถลงมือได้ก็อย่าได้ถามมากเลย!
ฟางเหยียนเห็นใครก็ฆ่าอย่างกับเป็นบ้าไปแล้ว กำลังอันทรงพลังได้ทำให้ทุกคนหวาดกลัว แม้แต่ใจของจางไห่เฟิงเองก็สะดุ้ง สมองก็ยิ่งอื้ออึงไปหมด!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่!
หรือว่าเรื่องที่สลับตัวจะถูกจับได้แล้ว?
เป็นไปไม่ได้!
แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง ก็อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆสักที!
ไม่มีเรื่องอะไรแล้วจะยิงทำไมกัน!
ยิงออกไปแล้วไม่มีแม้แต่เลือด นี่มันเป็นการแฉตัวเองชัดๆไม่ใช่รึไง?
จางไห่เฟิงเรียกได้ว่าทดสอบอย่างบ้าคลั่งในจุดที่หาเรื่องตาย
เหตุผลที่ฟางเหยียนลุกขึ้นมาต่อสู้ก็เพราะว่า เขาเองก็สังเกตเห็นแล้วว่า ‘เย่ชิงหยู่’ ตายไปแล้ว! นี่ก็เป็นชนวนที่ทำให้ฟางเหยียนลุกขึ้นมาต่อสู้อย่างสุดกำลัง!
ภายใต้ความมั่นใจของตัวเอง ก็คือความหยิ่งยโสอย่างหนัก!
จางไห่เฟิงเขาวางแผนกลยุทธ์จับตัวเย่ชิงหยู่มา แม้แต่แผนการใส่ร้ายโยนความผิดก็คิดวิเคราะห์มาอย่างดี โดยเฉพาะหลังจากที่เขากลับมาอย่างราชาแล้ว ตัวเขาก็ไม่ใช่คนโง่ในอดีตอีกแล้ว แม้แต่การสลับตัวในตอนสุดท้าย ก็มากพอที่จุดูออกแล้วว่าเขาไม่ใช่ไอ้โง่คนนั้นในอดีตอีกแล้ว
แต่ก็คือคนที่หยิ่งยโสอย่างนี้ เมื่อแผนของเขาล่ม ทุกสิ่งนี้ก็ล้วนเป็นผลลัพธ์จากความหยิ่งยโสโอหังของเขาเอง!
และตอนนี้ ฟางเหยียนที่เสียการควบคุมสติ เหมือนกับเทวดาที่ลงมาสู่พื้นดิน เข้าๆออกๆในกลุ่มผู้คน ฆ่าไปทั่ว เหมือนกับเทวดาไล่ฆ่า ไม่ว่าใครมาขวางก็ฆ่าทิ้งจนหมด ไม่มีใครสามารถจะขัดขวางได้ นอกจากฟางเหยียนที่โมโหแล้ว เทียนกางที่เข้าสู่สนามรบด้วยก็ไม่อ่อนข้อให้ และก็ทำการแข่งขัน!
นี่มันเป็นการเข่นฆ่าที่ไหนกัน นี่มันคือการสังหารหมู่ชัดๆ!
เป็นการสังหารหมู่สำหรับทั้งสองคน!
จางไห่เฟิงที่เห็นภาพนี้ก็ตกใจกลัวทันที ความนิ่งสงบก่อนหน้านี้ ความมั่นใจไม่หวาดกลัวตอนนี้ก็ได้หายไปจนหมด ไม่มีที่ให้หนีรอด!
เขารู้ดี แม้ว่าตัวเองจะกลับมาอย่างราชา กลายเป็นนินจาที่สูงกว่าคนทั่วไปสักระดับ แต่ยังไงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางเหยียน ตอนนี้เขาถึงได้ดูออกอย่างชัดเจน ว่าความแตกต่างของทั้งสองนั้นมีมากแค่ไหน! การอยากจะทำลายเขาเพื่อยกระดับตัวเองถือเป็นการเพ้อฝันจริงๆ!
คิดๆไปแล้วก็จริง จางไห่เฟิงในอดีตจะถูกฟางเหยียนอยู่เหนือกว่าเสมอ ตอนนี้กว่าจะกลับมาได้ แล้วยังกลับมาด้วยตัวตนของนินจา เขาจะพลาดโอกาสในการแก้แค้นนี้ได้ยังไงกัน? แต่ว่าคิดไม่ถึงเลย ว่าความแข็งแกร่งของฟางเหยียนจะมากมายเกินกว่าที่เขารู้!
เดิมทีเขาคิดว่าฟางเหยียนก็เป็นแค่คนธรรมดาที่แค่รู้จักประจบก็เท่านั้น แต่ไม่คิดเลยว่าตั้งแต่ที่ฟางเหยียนเขากลับมา เขาก็ได้กลายเป็นมังกรที่แท้จริงนั่น มังกรแท้จริงที่ถ่อมตนจนทำให้ผู้คนอยากจะเหยียบย่ำ และนี่ก็เป็นสิ่งที่ทั้งชีวิตนี้เขาก็ไม่สามารถจะไล่ตามได้!
เมื่อเข้าใจอย่างชัดเจนแล้ว มันก็สายเกินไป!
เสียงคร่ำครวญค่อยๆเงียบลง ศพที่พื้นกองพะเนิน กำลังบอกกล่าวอย่างไร้เสียงว่า เขาแพ้แล้ว แพ้อย่างเละเทะ
ถ้าหากว่ามีโอกาสอีกครั้ง เขาจะไม่มีทางหาเรื่องฟางเหยียน!
เพราะว่าคนแบบนี้ไม่ใช่คนที่เขาจะสามารถมีเรื่องด้วย!
แต่เรื่องแบบนี้มันจะมีโอกาสอีกครั้งได้ยังไงกัน?
ความคิดและความรู้สึกผิดพวกนี้ของเขา มันสายเกินไปแล้ว!
ฟางเหยียนสีหน้าโหดร้าย โมโหจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เทียนกางที่อยู่ข้างกายเองก็ทำแค่ก้มหน้าไม่กล้าพูดจา ตามติดฟางเหยียนมานานขนาดนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่เขาเห็นสีหน้าที่น่ากลัว แม้แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับพวกสารเลวมากมาย เขาก็ไม่เคยโมโหมากขนาดนี้มาก่อน แต่ในตอนนี้ เขารู้ว่าฟางเหยียนนั้นโกรธจริงๆ!
แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร แต่เทียนกางรู้ ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับคุณนาย!
ทั้งสองมองตากัน แม้ว่าจะห่างกันถึงหกชั้น จางไห่เฟิงก็ยังไม่กล้าจะมองตา ดวงตารีบหลบหนี ดวงตาคู่นั้นเหมือนกับว่ามาจากนรก ทำให้ผู้คนเห็นแล้วเกิดความหวาดกลัวอย่างหนัก ไม่กล้าที่จะจ้องตาด้วย เหมือนกับว่าเพียงแค่เหลือบมองก็ทำให้ใจของเขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก
นี่คือดวงตาที่ไม่คู่ควรกับเขา อย่าว่าแต่เขาเลย ไม่ใช่คนที่จะสามารถมีได้ด้วยซ้ำ ดวงตาคู่นั้นเหมือนกับว่ามีแรงเจาะลึกที่มากมายอยู่ สามารถเจาะลึกถึงใจคน สามารถเจาะวิญญาณ ทำให้ผู้คนหวาดกลัวไม่สบายใจ
นี่มันคนที่ไหนกัน เป็นเทวดาไล่ฆ่าชัดๆ!
เขายังเป็นคนมั้ย?
เขาแพ้แล้ว!
“จางไห่เฟิง คิดไว้รึยังว่าจะตายยังไง?” ฟางเหยียนพูดออกมาประโยคหนึ่งอย่างเย็นชา บรรยากาศรอบข้างก็เย็นเฉียบไปหมด แม้แต่เทียนกางเองก็ยังอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นมา
จางไห่เฟิงยิ้ม “ตาย? จางไห่เฟิงเมื่อหลายเดือนก่อนก็ได้ตายไปแล้ว ฉันยอมรับว่าฉันแพ้ แต่ว่าฉันเองก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้อะไรมาเลย อย่างน้อยฉันก็จะทำให้แกเจ็บปวดไปทั้งชีวิต นี่มันทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขและตื่นเต้นมากกว่าฆ่านายซะอีก ใช่ ฉันยอมรับว่าตัวเองไม่ระวังที่ทำแผนล่มเอง แต่แล้วยังไง? ยังไงนายก็แพ้แล้ว!”
เทียนหลังและเทียนขุยปรากฏตัวเงียบๆ จับตัวจางไห่เฟิงไว้ จางไห่เฟิงยิ้มออกมา “เพิ่งจะมาเอาตอนนี้งั้นหรอ? ไร้ประโยชน์จริงๆ!”
เทียนขุยพูดอย่างร้ายกาจว่า “แกกล้าพูดมากอีกแค่ประโยคเดียว ฉันจะฆ่าแกทิ้งซะ!”
“เจ้านายไม่พูดอะไร หมาก็อย่าได้มาเห่ามั่ว!” จางไห่เฟิงมองข้ามคอที่ถูกบีบไว้ พูดเสียงเย็นชาว่า “ฟางเหยียน ฆ่าฉันทิ้งซะ ขอร้องนายละ ฮ่าๆๆ….”
เสียงหัวเราะของเขาหยุดลงกะทันหัน จู่ๆเทียนขุยก็ออกแรงเพิ่มขึ้น ทำให้เขาหายใจไม่ออก
“เทียนขุย เก็บมันไว้ให้ฉัน!”
“ฟางเหยียน ฆ่าฉันแล้วยังไง? นายดูให้ดีๆว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร!”
เทียนหลังปัดผมของผู้หญิงออก คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย “จอมพลโผ้จวินครับ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คุณนายครับ!”