จอมนักรบทรงเกียรติยศ - บทที่ 828 ภูเขาเก้ามังกร
หลังจากที่จัดการเรื่องของบ้านตระกูลจางเรียบร้อยแล้ว ผ่านมาอีกสามวัน
สามวันนี้ ฟางเหยียนรู้สึกราวกับว่าตนเองใช้ชีวิตอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ! เย่ชิงหยู่ถูกลักพาตัวไปแล้ว ผู้หญิงที่เขารักที่สุดถูกลักพาตัวไปแล้ว ตอนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้!
เพลิงเสวน เขาไม่มีทางที่จะปล่อยเพลิงเสวนไปแน่!
ปีนั้น หากไม่ใช่เย่ชิงหยู่เป็นผู้ทำให้เขาออกจากความยากลำบากได้ ทำให้เขาออกจากความมืดมนที่อยู่ในใจได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะเป็นอย่างไร!
เขาเคยรับปากลุงเย่เอาไว้แล้ว ว่าจะปกป้องเย่ชิงหยู่อย่างดี ทว่าตอนนี้! เขากลืนคำพูดตัวเอง!
ในฐานะจอมพลโผ้จวินแห่งประเทศหวา ไม่นึกเลยว่าจะปกป้องไม่ได้แม้แต่ผู้หญิงของตัวเอง! นี่ถือว่าเป็นอะไร? นอกจากการโทษตัวเองอย่างสุดซึ้งแล้วนั้น ก็ยังมีความคะนึงหาอย่างหาที่สุดไม่ได้!
ภายในหัวของเขาฉายภาพที่อยู่กับเย่ชิงหยู่ในเมื่อก่อนขึ้นมา ภายในใจก็ราวกับถูกฉีกขาดเป็นแผล!
ผู้หญิงคนนี้ได้ยึดครองทั้งหัวสมองของเขาไปตั้งนานแล้ว และกลายเป็นทุกสิ่งอย่างในชีวิตเขาตั้งนานแล้วเช่นกัน เขาจะขาดผู้หญิงคนนี้ไปไม่ได้! และยิ่งรับไม่ได้ที่จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนนี้แม้แต่นิดเดียว!
เขาจำเป็นต้องเร่งรีบ ขจัดเพลิงเสวนโดยเร็ว! และช่วยเหลือเย่ชิงหยู่ให้ได้!
ทว่า เขากลับไม่ได้แสดงอารมณ์ที่อยู่ในใจของตนออกมา ครั้นยังคงมองจางเจียวเจียวอยู่เช่นเดิมอย่างนั้น!
วันนี้ ขณะที่เขาออกไปทิ้งขยะ พบว่ามีคนเดินวนเวียนอยู่ภายนอกห้องของเขา ทั้งยังมองไปรอบทิศท่าทางลับๆ ล่อๆ บอกว่าเป็นขอทาน เพียงแค่ร่างกายสกปรกเท่านั้น ทว่าแตกต่างจากขอทานคนอื่น ที่ไม่รื้อขยะหาสิ่งของ สองสามวันผ่านไป ขอทานคนนี้ก็ยังอยู่ละแวกบ้านของเขาตลอด เพียงแค่มองมาดูแวบหนึ่ง จากนั้นก็จากไปเท่านั้น ราวกับจงใจที่จะมาสำรวจเฉยๆ
พวกถ้ำมอง?
น่าสนใจขึ้นมาแล้ว พวกถ้ำมองที่โจ่งแจ้งเช่นนี้ ใช้วิธีตรงข้ามกับฝ่ายศัตรูในการจัดการ!
ครั้งนี้ ฟางเหยียนขวางทางขอทานผู้นั้นเอาไว้ ฝ่ายนั้นมีความตื่นตระหนกเล็กน้อย ก้มหน้าเตรียมจะอ้อมฟางเหยียนไป ทว่าไม่ว่าเขาจะอ้อมไปอย่างไร ฟางเหยียนก็ขวางอยู่เบื้องหน้าเขาตลอด
“นายเป็นใคร?”
ขอทานก้มหน้าไม่เอ่ยอันใด พร้อมเคลื่อนย้ายร่างกายตนเอง หมายจะออกไปจากตรงนี้ ทว่าเขาจะสมใจหวังได้อย่างไร
เขาหมดหนทาง จึงก้มหน้าแล้วเอ่ยสอบถาม: “คุณคือฟางเหยียนเหรอ?”
“นายเป็นใคร”
“มีคนบอกให้คุณไปที่ภูเขาเก้ามังกร ผม ผมก็คือคนที่มาบอกข่าวเฉยๆ ”
ภูเขาเก้ามังกร?
ภูเขาเก้ามังกรฟางเหยียนเคยได้ยินมาบ้าง เป็นกลุ่มเขาลูกหนึ่งที่เชื่อมระหว่างจินโจวกับหนานหลิง เป็นสวนป่าไม้ธรรมชาติที่ทั้งสองเมืองร่วมกันพัฒนาขึ้นมา ด้านในมีระบบป่าไม้ที่กว้างขวางอยู่ ระดับการเป็นเชิงพาณิชย์ค่อนข้างน้อย เป็นสวนป่าไม้ที่ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว
“คนนั้นยังบอกอะไรอีก?”
ขอทานครุ่นคิดแล้วจึงเอ่ยขึ้น: “เขาบอกให้ผมระวังตัวหน่อย ห้ามให้คนอื่นรู้จะดีที่สุด ผมนี่งงเลย แค่ส่งต่อข่าวสารเท่านั้น ไม่ได้มาลักขโมยสักหน่อย ทำไมต้องทำให้ดูลับๆ ล่อๆ ด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะให้เงินเยอะ เมื่อสามวันก่อนผมคงบอกคุณไปแล้ว ทำให้ผมนั่งยองยองเสียเปล่าตั้งสามวัน คนนั้นยังบอกอีกว่า คุณจะต้องไปแน่นอน ที่นั่นมีสิ่งที่คุณต้องการ และสิ่งนี้เหมือนจะรักษาโรคได้!”
รักษาโรค?
ฟางเหยียนอึ้งไป ทว่าขอทานไปจากไปตั้งนานแล้ว
ไม่ใช่การใช้วิธีตรงข้ามกับฝ่ายศัตรูในการจัดการ แต่มีคนจงใจให้ขอทานปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมส่งข่าวให้เขา คนผู้นี้ชัดเจนว่าฟางเหยียนต้องการอะไร อีกทั้งกลัวก็แต่ผู้ที่มานั้นมีเจตนาร้าย!
ค่ำคืนมาเยือนอย่างเร็วไว หลังรับประทานอาหารแล้ว ฟางเหยียนจึงได้ออกจากบ้านไป
เทียนขุยได้รอเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว เมื่อเห็นฟางเหยียนออกมา เขาก็รีบบึ่งเข้าไปหา “โผ้จวิน คุณให้ผมไปสืบเรื่องภูเขาเก้ามังกร ไม่ได้มีสิ่งที่ผิดปกติเลยแม้แต่น้อย ที่นั่นก็เป็นแค่สวนป่าไม้ธรรมดาเท่านั้น! อีกทั้งยังเป็นสวนป่าไม้ที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของจินโจวอีกด้วย ไม่ได้มีส่วนไหนที่ผิดปกติเลย ผมสงสัยว่าใช่กับดักที่คนของเพลิงเสวนวางไว้หรือเปล่า?”
ฟางเหยียนครุ่นคิด จากนั้นค่อยเอ่ยขึ้น: “อาจจะเป็นไปได้ เงียบหายไปสามวัน บางทีเพลิงเสวนอาจจะอยู่นิ่งไม่ได้แล้ว คนนั้นนั่งยองยองอยู่บ้านฉันได้ จะต้องไม่ง่าย อีกอย่างคนคนนั้นยังให้ขอทานระมัดระวังโดยเฉพาะอีกด้วย ห้ามให้คนอื่นเห็น น่าจะไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน สำหรับภูเขาเก้ามังกร บางทีอาจเป็นแค่ร่องรอยที่เผยออกมาของเพลิงเสวนเฉยๆ !”
ขณะที่พูดอยู่นั้น ฟางเหยียนก็ขึ้นรถ
เทียนขุยขับรถไป พูดไป: “โผ้จวิน พวกเราระวังไว้หน่อยจะดีกว่านะ ถ้านี่เป็นกับดักที่เพลิงเสวนวางไว้จริงๆ พวกเราอาจจะติดกับดักได้นะ”
ฟางเหยียนเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ: “ต่อให้เป็นพื้นที่อันตรายที่สุด ฉันก็ไม่หวั่น!”
ณ สวนป่าไม้ภูเขาเก้ามังกร นี่คือสวนป่าไม้ที่ถูกรักษาไว้อย่างสมบูรณ์แบบแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่เขตแดนระหว่างจินโจวและหนานหลิง ถือเป็นป่าไม้ดั้งเดิม ความสูงจากระดับน้ำทะเลมีความแตกต่างอย่างมาก ต้นไม้ชุกชุม ภูเขาสูงหนาแน่นไปด้วยต้นไม้ ภูเขายิ่งใหญ่ตระการตา สูงชะลูดท่ามกลางหมู่เมฆ
อีกทั้งเมื่อรถมาหยุดจอดที่โรงจอดรถ ที่ตีนเขาของภูเขาเก้ามังกรแล้วนั้น ทั้งสองคนก็ลงรถไป
ขึ้นไปข้างบนนั้นต้องเดินด้วยเท้า ทั้งหมดเต็มไปด้วยบันไดที่ทำจากหินกองกัน
ภูเขาเก้ามังกรยามค่ำคืนยังมีนักท่องเที่ยวมาวิ่งกันอยู่ ภายในป่าไม้เล็กๆ ก็ยังมีคู่รักนั่งกระหนุงกระหนิงกันอยู่ นักท่องเที่ยวที่มาราวกับไม่เร่งรีบตามสีท้องฟ้าที่เปลี่ยนไปเลย ต่างก็พากันเดินเล่นอย่างเชื่องช้า
ยิ่งขึ้นไปข้างบน นักท่องเที่ยวก็ยิ่งน้อยลง เทียนขุยไม่มีอะไรทำ จึงคุยโวขึ้นมา: “โผ้จวิน ภูเขาเก้ามังกรยังมีตำนานเล่าขานกันด้วยนะ อยากฟังหรือเปล่า?”
ฟางเหยียนกำลังคิดอยู่ว่าคนผู้นั้นคือใครกันแน่ ยังต้องหาคนมาบอกต่อ ทำไมไม่กล้าออกมาเจอกันซึ่งๆ หน้า? เมื่อได้ยินเทียนขุยเอ่ยมาเช่นนี้ ก็ถือเสียว่าเป็นการฆ่าเวลาและเพื่อความบันเทิง
เมื่อสมัยโบราณ ที่นี่คือมหาสมุทรผืนหนึ่ง อีกทั้งองค์ชายน้อยของราชันมังกรแม่น้ำจิ้ง ได้ทำผิดกฎของสวรรค์ ทำร้ายอีกฝั่ง ครอบครองมหาสมุทรทั้งหมดและก่อเรื่องเลวร้าย ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ล้มตาย สุดท้ายถูกสวรรค์รู้เรื่องเข้า จึงได้ลงโทษองค์ชายน้อยเป็นการพิเศษ และจึงได้ส่งนักรบสวรรค์ทั้งหลายมาทำลาย
ทว่าองค์ชายน้อยมีวิชาแกร่งกล้า นักรบสวรรค์ที่มานั้นจึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ สุดท้ายถูกองค์ชายน้อยสังหารทิ้งทั้งหมด ศพกองกันกลายเป็นภูเขา จากที่องค์ชายน้อยสร้างเรื่องจนเรื่องใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ ทางสวรรค์รู้สึกได้รับการละลาบละล้วง จึงไม่เสียดายที่จะส่งนักรบสวรรค์เพิ่มมากขึ้นเพื่อตามจับองค์ชายน้อย ถือเป็นเรื่องใหญ่สะท้านโลกทั้งสาม
ผู้ที่ถูกทำร้ายก่อน แน่นอนว่าเป็นราชันมังกรแม่น้ำจิ้ง ทว่าในตอนนั้น องค์ชายน้อยตาต่อตาฟันต่อฟัน เสมือนดินแดนไร้คน แม้กระทั่งท้าวโลกบาลหลี่ผู้ถือเจดีย์ก็ยังจนปัญญา จากนั้นนักรบสวรรค์ก็ล้มตายก็มากขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่ทะเลเริ่มกลายเป็นเทือกเขาเรื่อยๆ
ภูเขาเก้ามังกรเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้ายเง็กเซียนฮ่องเต้โมโหมาก จึงส่งราชันมังกรทะเลไปตามไล่ฆ่าองค์ชายน้อย มังกรแปดตัวพุ่งเข้าสู่พื้นทะเล สู้รบกับองค์ชายน้อย การปะทะสู้รบทั้งสองฝ่ายชุลมุนจนแยกฝ่ายที่จะแพ้ชนะไม่ออก และราชันมังกรแม่น้ำจิ้งไม่เสียดายจัดการกับญาติพี่น้องที่กระทำผิดกฎหมาย สุดท้ายเสียสละชีพตนเอง และเข้าจับกุมองค์ชายน้อยได้สำเร็จ
ทว่าเง็กเซียนฮ่องเต้ เพื่อที่จะตักเตือนโลกทั้งสาม จึงได้แบ่งร่างขององค์ชายน้อยออกเป็นแปดท่อน ร่างกายเสกให้กลายเป็นภูเขา กลายเป็นเทือกเขาแปดแห่ง สุดท้ายใช้หัวมังกรของราชันมังกรแม่น้ำจิ้งกลายเป็นของสะกดไอชั่วร้ายเอาไว้ สุดท้ายก็กลายเป็นภูเขาเก้ามังกร!
และในวันนั้นเอง อยู่ๆ ก็มีฟ้าผ่าเสียงดังสนั่น เสียงฟ้าร้องดังลั่น มีฟ้าผ่าเก้าสายพุ่งขึ้นท้องฟ้า ทำลายล้างผืนแผ่นดินนี้อย่างไร้ความปรานี
ฟ้าผ่าดำเนินต่อเนื่องครึ่งเดือน ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หลังจากครึ่งเดือนผ่านไป ฟ้าผ่านั้นก็หายไป อีกทั้งทั้งผืนแผ่นดินอยู่ๆ ก็นูนขึ้นมา กลายเป็นเทือกเขาเก้าลูก เทือกเขาอยู่ไกลๆ เชื่อมต่อกัน หัวท้ายเชื่อมกัน เมื่อมองจากไกลๆ ก็ราวกับเป็นมังกรยักษ์เก้าตัว
ได้ยินถึงตอนจบ เทียนขุยก็ฉีกยิ้มขึ้นมา: “เป็นอย่างไร? โผ้จวิน ตอนนี้ผมเหมือนเป็นผู้ใฝ่รู้แล้วสินะ ไม่เป็นหนุ่มกำยำไร้สมองอีกต่อไปแล้ว”
ฟางเหยียน: “……”
ฟางเหยียนแทบจะอดไม่ได้ที่จะแทงใจดำเขา พี่ใหญ่ ครั้งหน้าก่อนที่จะเสิร์จไป๋ตู้ ให้ความสำคัญกับรายละเอียดหน่อยได้หรือไม่ อย่าให้คนอื่นเห็นโทรศัพท์ตัวเอง!
เมื่อฟางเหยียนมองมาที่เขา เทียนขุยก็หัวเราะแห้ง รีบเก็บโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แสร้งทำเป็นสีหน้าสงบนิ่ง: “โผ้จวิน อย่าไปใส่ใจรายละเอียดพวกนี้เลย ผมจะไปจำได้ชัดเจนขนาดนั้นได้ยังไง ถึงยังไงภูเขาเก้ามังกรก็มีที่มาที่ไปอย่างนี้แหละ”
“ไม่พูดไม่ได้ว่า องค์ชายน้อยคนนี้เก่งกาจจริงๆ ไม่นึกเลยว่าจะอยากเลียนแบบซุนหงอคงป่วนสวรรค์ แต่จะว่าไปตายได้น่าเวทนาเกินไปนะ ถูกแบ่งร่างเป็นแปดส่วน สุดท้ายยังถูกสะกดด้วยหัวมังกรของราชันมังกรแม่น้ำจิ้งอีก นี่มันช่างน่าน้อยเนื้อต่ำใจเกินไปแล้ว!”
“น้อยเนื้อต่ำใจเหรอ?” ฟางเหยียนไม่คิดเช่นนั้น: “ถ้ามันสามารถบำเพ็ญเพียรอย่างสงบได้ จะกลายเป็นจุดจบที่ถูกแบ่งท่อนเป็นแปดส่วนได้อย่างไร? แสดงสว่างของทางธรรม จะขจัดไฟมืดไปทั้งหมด แต่โบราณมาความชั่วไม่เคยกดทับทางธรรม!”
เทียนขุยพยักหน้า “จริงสิโผ้จวิน คุณว่าคุณนายจะกลายเป็นเหยื่อล่อของเพลิงเสวนในคืนนี้หรือเปล่า?”
“เหยื่อล่อของเพลิงเสวนงั้นเหรอ?” ฟางเหยียนมองไปยังภูเขาเก้ามังกร และเงียบไป